Ep. 21 : จดทะเบียนสมรส Nc+

2794 Words
มาริสา Say:: ทำไมมันมาถึงขั้นที่เราต้องมานั่งด้วยกันในเขต และมีเจ้าหน้าที่นายทะเบียนมาเป็นพยานให้ได้ล่ะ ฉันหันมองหน้าพี่ชลอีกครั้ง แล้วก็มองใบทะเบียนสมรสที่เราจะต้องเซ็น มาไกลมากเลยนะ เราเนี่ย "เราจะหย่ากันยังไงคะ" "จบงาน" คำตอบที่ได้ทำให้ฉันเซ็นลงไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะมันเป็นงาน รึเปล่านะ ทำไมรู้สึกว่าหลวมตัว กว่าฉันจะเซ็นยังนั่งคิดตั้งนาน แต่พอถึงทีพี่ชลเขาเซ็นเลยไม่ได้คิดอะไร พวกนักธุรกิจไม่คิดถึงผลได้ผลเสียหรอกเหรอ เมื่อเราจดทะเบียนสมรสเสร็จ เราก็ต่างแยกย้ายกันไปทำงานเลย มันเป็นความรู้สึกมีผัวแบบ งง ๆ วันนี้เมื่อฉันมาถึงที่ออฟฟิศ ทุกคนก็ต้องต่างมองฉันแปลก ๆ ฉันไม่สนใจหรอกว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาไม่ชอบฉันนั่นเป็นปัญหาของพวกเขา ส่วนปัญหาของฉัน ฉันต้องหาตังจ่ายค่าเทอมลูกรอบหน้าแล้ว เพราะลูกใกล้จะสอบแล้ว ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องทำงาน กับคนที่ชะโงกตัวเข้ามา มองฉันอย่างลอยหน้าลอยตา อะไร คนนี้ชื่ออะไรนะ ทำงานมา 4 เดือนแล้ว ยังจำไม่ได้เลย "คุณมาริสา บอสเชิญให้ไปพบ" เสียงกระแทกกระทั้นเหมือนไม่พอใจอะไรฉันอยู่เอ่ยขึ้น "จะไปเดี๋ยวนี้" ฉันถูกเรียกเข้าในห้องของบอส พอเปิดเข้าไปก็มีคนอยู่เพียบเลย แล้วภาพมากมายถูกกางเต็มโต๊ะของบอสเลย ภาพของฉัน ภาพรถของฉันที่โดนพ่นสี ภาพของฉันกับพี่ชล "นี่มันอะไรกันคะ" ฉันถาม แต่ไม่มีใครสนใจจะตอบ "บอสคะ มันคือชื่อเสียงของบริษัทนะคะ เราจะสนับสนุนเมียน้อยของเจ้าของบริษัทคนอื่นไม่ได้" ฉันกำลังถูกโจมตีจากคนในบริษัทตัวเอง ทั้งที่ฉันทำเพื่อบริษัทมาตลอดเนี่ยนะ "ฉันทำทุกอย่าง เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของบริษัท แล้วพวกคุณทำอะไร จับผิดฉัน แล้วรู้เอาไว้ด้วย ฉันไม่ใช่เมียน้อย!!! ปึง!!!" ฉันทุบโต๊ะบอสดังปึง และแน่นอนว่าทุกคนไม่พอใจ และรุมโหมฉันมากขึ้นอีก "ถ้าอย่างงั้นมาทำงานที่นี่ทำไม ทำไมไม่ทำที่ Me Tour หรือเข้ามาเป็นสปายหะ!!" "จะบ้าเหรอ ฉันเข้ามาทำงานที่นี่ จุดมุ่งหมายคือชนะ Me Tour ทำไม!!!!!" "พอแล้ว!!! โปรเจ็คโรงแรมเอวา ผมจะปลดมาริสาออก พวกคุณทุกคนไปทำงานได้แล้ว!!!" บอสโมโหประกาศลั่น แต่..แต่..นั่นมันชัยชนะของฉัน ทำไมถึงถูกปล้นไปให้คนอื่น ฉันผิดหวังกับการตัดสินใจของบอสอย่างแรง ฉันทำให้ได้โอกาสนี้มา แต่ฉันถูกปลดออกด้วยเหตุผลที่โคตรไร้สาระเลย ฉันไม่คิดเลยว่าจะต้องเจออะไรแบบนี้ ฉันถูกทีมงานปฏิเสธ แต่เพราะอะไร เราก็ทำงานได้ดีมาตลอด ดีมากด้วย ยอดขายของเราดีขึ้นทุกเดือนแบบก้าวกระโดด ฉันจะเดินไปถามป้าศรีให้รู้เรื่อง ว่าเขาทำแบบนี้ทำไม เมื่อฉันจะเดินไปคุยกับพวกป้าศรีก็ได้ยินพวกเขาจับกลุ่มกันอยู่ที่ห้องพักพนักงาน พวกเขากำลังชงกาแฟกัน เอาวะ เข้าไปคุยให้รู้เรื่อง แต่ยังไม่ทันจะก้าวขาเข้าไปก็ต้องชะงัก "ป้า สุดยอดไปเลย อีมั่นนั่น มันโดนถอดไปเลย" เสียงของพี่วิ "เออ ฉันเนี่ยเกลียดมันมานานแล้ว เก่งมาจากไหนวะ ไหนจะเรื่องที่มันเลิกงานบ่าย 3 ครึ่งทุกวันอีก คิดว่าตัวเองเป็นใคร แค่สวยเอาไว้อ่อยบอส ไม่เห็นจะเก่งอะไรเลย" บทสนทนาจากเพื่อนร่วมงาน ที่เราทำงานกันมาตั้งนาน พวกเขาคิดกับฉันแบบนี้เองเหรอ ที่ผ่านมาที่ยิ้ม ที่ร่วมมือกัน ที่แท้พวกเขาคิดกับฉันแบบนี้เหรอเนี่ย พวกเขาเป็นทีมของฉันนะ เป็นคนที่เราทำงานด้วยกัน ฉันควรจะเข้าไปคุยไหม หรือไม่ควร ฉันเดินก้าวออกมาเงียบ ๆ แล้วเดินกลับไปที่ห้องทำงาน แล้วทรุดตัวนั่งลงเงียบ ๆ [ สายชล Calling.... ] หรือฉันไม่ควรโทร ฉันกดโทรไม่นานก็กดวางเพราะเกรงใจ แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกอ่อนแอจัง ฉันเจอคนนอกด่าว่านินทายังไง ฉันไม่เคยแคร์ แต่นี่คือคนในทีม คนที่ทำงานร่วมกันมาตลอด [ สายชล Called.... ] คนที่ฉันกดโทรออกไป เขาโทรกลับเข้ามา ฉันก็เลือกที่จะไม่รับแล้ว ฉันไม่ควรเอาปัญหาตัวเองไปให้ใคร ฉันจะต้องผ่านไปได้ แค่นี้เอง แค่นี้เองงงงงงงง "แต่งานนั้น ฉันได้มานะ!!!!" เจ็บใจนัก เจ็บใจจริง ๆ ถ้าการช่วยพี่ชล จะทำให้ฉันเองเสียตัวตน ฉันควรจะเลิกแผนการช่วยเหลือเขาทั้งหมดไหม มันควรจะยุติสัญญา เพื่อให้ฉันได้มีชีวิตไหม วันนี้ทั้งวันการทำงานของฉันมันโคตรน่าเบื่อเลย บอสเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่บอสก็รู้ว่าฉันเป็นคนได้งานนี้มา ทำไมถึงยังปลดฉันออก จะน่าโกรธที่สุด ก็คงจะบอสเนี่ยแหละ ตอนนี้ฉันเหมือนตัวตลกให้คนทั้งบริษัทหัวเราะ แล้วก็ซุบซิบนินทา จากความที่ฉันหมดความมั่นใจ มันก็ทำให้ฉันรู้ว่า ฉันอ่อนแอแค่ไหน นี่ฉันเองก็ต้องเลิกงานเร็วกว่าคนอื่น เพื่อไปรับลูกงั้นเหรอ จะทำงานร่วมกับคนอื่น หรือ จะไปรับลูกเหมือนทุกวัน หลังจากการทำงานที่หนักหนา ฉันไปรับลูก กลับบ้าน อย่างคนที่หมดอารมณ์จะทำอะไรหลาย ๆ อย่าง มันเฟลหนัก ๆ ตลอดทั้งวัน ฉันคิดแต่เรื่องจะทำยังไงจะแก้ปัญหานี้ได้ "หม่าม้าขาาา หม่าม้าไม่ชาหนุกเหรอ" เสียงใสถามฉันในขณะที่ตัวเอง เล่าเรื่องเรียนวันนี้อย่างสนุกสนาน "สนุกค่ะลูก" คนเป็นแม่ ต่อให้เหนื่อยแค่ไหน ก็ไม่อยากจะทำลายรอยยิ้มลูกเลย "หึ!! ม้าดูไม่ชาหนุก ของขวัญบอกว่า ของขวัญจะสอบ คุงครูให้ทำกิจกรรมเล่านิทาน เก็บคะแนน ของขวัญได้เป็งหมาป่าใจร้ายยย" ตายจริง ลูกฉันเป็นหมาป่าเหรอเนี่ย ตัวเล็กแค่นี้ ใครเขาจะกลัวหนูลูก แต่ฉันควรจะตอบลูกยังไงดี "หมาป่า ที่ไหนตัวเล็กแค่นี้ แบบพี่อัณณ์สิหมาป่า" "เด็ก ๆ คุยกันเยอะแล้วไปนอนดีกว่า 3 ทุ่มแล้วลูก" พี่ชลเรียกเด็กช่างจ้อไป ก่อนจะเดินมาดันไหล่ฉัน แล้วบอกให้ฉันไปอาบน้ำก่อนจะได้หายเครียด แล้วเราจะเอาลูกนอนด้วยกัน ฉันได้แต่พยักหน้าเพราะฉันเครียดจริง ๆ ฉันควรจะไปอาบน้ำให้หัวมันโล่งสักหน่อย ฉันเลยปล่อยให้พี่ชลพาเด็ก ๆ ไป หลังจากอาบน้ำเสร็จ ฉันก็มาส่งเด็ก ๆ เข้านอน แต่พี่ชลกลับเอาเด็ก ๆ นอนเรียบร้อยแล้ว พอเห็นฉันเปิดประตู เข้าก็เดินออกมาจากห้องนอนลูกทันที อ้อมแขนใหญ่กอดฉันเข้าไว้แนบอกแทบจะทันที ฉันเลยพยายามจะดันเขาออกแต่ไม่ขยับเลย "เครียดอะไรเล่าให้พี่ฟังที พี่จะช่วยเอง" "พี่จะมาช่วยอะไรได้ พี่นั่นแหละทำให้ฉันเครียด" คำตอบของฉันทำให้มือใหญ่ลากแขนฉันลงไปชั้นล่างแล้วตรงไปที่ห้องครัว เบียร์ถูกดึงออกมาจากในตู้เย็น ตู้เย็นของเราหรอ หึ ตู้เย็นคนงาน ซึ่งมันมีเบียร์พี่เสืออยู่เต็มตู้ เจ้าของบ้านเลยถือวิสาสะ เอามันจากตู้แล้วลากแขนฉันกลับเข้ามาในบ้าน "กินเบียร์กัน แล้วเล่ามา เราไม่ได้ทำงานด้วยกัน พี่ช่วยเธอไม่ได้ แต่พี่ให้คำปรึกษาได้" พี่ชลมองฉันด้วยรอยยิ้มอ่อน ๆ "อืม" ด้วยความเครียด ฉันเลยยอมรับความหวังดีนี้ ด้วยการรับขวดเบียร์ที่เปิดแล้วจากพี่ชลแล้วกระดกมันลงคอทันที ฉันก็เลยเริ่มเล่าเลย เล่าตั้งแต่ฉันถูกปลดจากหน้าที่คุมทีมทำยอดขายแข่งกับ Me Tour จนไปถึงทีมงานของฉันเองคิดกับฉันยังไง "เซียงเซียง การเป็นหัวหน้าคน ทำงานเก่งอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องเลี้ยงใจลูกน้องด้วย เธอยังเด็ก เคยฉายเดี่ยวมาตลอด แต่วันนี้ในการทำงานจริง คือ เธอทำงานร่วมกับคนอื่นได้ไม่ดี พี่ไม่ได้ว่านะ พี่แค่บอก อยู่ร่วมกันในบ้าน ทุกคนยังเกร็งเลย เมื่ออยู่ใกล้เธอ นอกจากเด็ก ๆ เท่านั้น ที่จะรู้ว่าเธอใจดีแค่ไหน" พี่ชลบอกถึงสิ่งที่ฉันก็รู้ตัวเองว่าเป็น ฉันกระดกเบียร์เฮือก ๆ ใหญ่ ๆ จนเกือบจะหมดขวด "จะให้ทำยังไงฉันเป็นคนแบบนี้ไปแล้ว ฉันกลัว กลัวว่าถ้าฉันแคร์คนอื่นมากเกินไปฉันจะเจ็บ ถ้าฉันให้ใจใคร ฉันจะเจ็บอีก" คำตอบของฉันทำให้พี่ชลมีสีหน้าเศร้าลง "เพราะพี่ใช่ไหม พี่ไม่รู้ว่าเธอผ่านอะไรมา แต่อยากให้รู้ว่าพี่เสียใจ เธอเรียนรู้ที่จะเริ่มไว้ใจคนใหม่ได้ไหม เริ่มจากพี่ก็ได้" มือใหญ่ประคองเข้าที่หน้าของฉันอย่างเข้าใจ แต่จะให้เริ่มไว้ใจใหม่ได้ยังไง "น่าจะทำไม่ได้" "ได้สิ เพราะต่อจากนี้ไป พี่จะไม่หักหลังเธออีกแล้ว พี่สัญญา" คำสัญญาที่ถูกลั่นวาจา มันเหมือนฆ้อนใหญ่ที่ทุบกำแพงอ่อน ๆ เข้ามา น้ำตาที่มันแทบจะไม่เคยไหล ก็ค่อย ๆ ซึมออกมา ฉันจะปล่อยให้เขา มาทำลายกำแพงที่ฉันสร้างมาตลอด 5 ปีได้ยังไง ฉันกระดกเบียร์จนหมดขวด แล้วดึงของเขามากระดกต่อ "ไม่ต้องมาพูดเลย วันนี้ฉันคิดเป็นพัน ๆ ครั้ง ว่าฉันอยากจะเลิกเล่น ยกเลิกสัญญาบ้า ๆ นี่กับพี่ซะ แล้วกลับไปทำงาน บอกกับทุกคน ว่าฉันไม่ใช่สปาย ฉันไม่ใช่คนของ Me Tour" ฉันขึ้นเสียงใส่คนที่กำลังปลอบ "มันก็แค่ข้ออ้างเซียงเซียง ต่อให้เธอคบกับไอ้อชิ พวกคนอื่นก็จะเอาประเด็นนี้มาเล่นงานเธออยู่ดี เธอเข้าใจไหม ว่าพวกเขาต้องการจะเขี่ยเธอให้พ้นทาง!!!! เพราะเธอเป็นเหมือนภูเขาที่ตั้งตรงเกินไป" พี่ชลเลยขึ้นเสียงบ้าง ตอนนี้ฉันเองถึงกลับปล่อยโฮออกมาเลย "แล้วแบบนี้ฉันควรจะทำยังไง นั่นมันงานฉัน ฉันเสียใจไหม ไม่!!! แต่ฉันเจ็บใจ ฉันเจ็บใจ!!! พี่เข้าใจมะ" ฉันทุบเข้าที่อกของพี่ชลอย่างแรง มือก็ยังกระดกขวดเบียร์เพื่อย้อมใจ คนที่โดนฉันทุบได้แต่กอดฉันเอาไว้แนบอก แล้วลูบหลังฉันเบา ๆ ฉันไม่เสียใจเลยถ้างานนี้ไม่ใช่ว่าได้โอกาสมาเพราะฉัน "ความพ่ายแพ้ของทีมเธอครั้งนี้ จะทำให้พวกนั้นเห็นค่าของตัวเธอ อย่าคิดที่จะเข้าไปช่วยคนที่ไม่เห็นค่า ปล่อยวางงานนี้ แล้วสู้ในงานใหม่ เรายังต้องเจอกันอีกหลายไฟลท์ ไม่ใช่แค่งานนี้งานเดียว เธอเก่ง ไม่ได้ทำงานนี้ ก็ยังมีงานอื่นรออยู่ มองพี่ แล้วบอกพี่ว่าเธอจะสู้" มือใหญ่ทั้งสองข้างล็อกหน้าฉันเอาไว้ ให้มองไปที่เขา "ค่ะ ฉันจะสู้ ฉันนึกว่าพี่จะบอกให้ฉันไปทำงานกับพี่ซะอีก" "ทำงานกับพี่ พี่อยากอยู่แล้ว แต่พี่ไม่อยากให้เธอหนีปัญหา ถ้าจะมาอยู่ด้วยกัน เธอจะต้องสง่างาม เมียมาทำงานด้วย พี่ยินดีจะอ้าแขนรับ แต่ถ้ามาเพราะหนีปัญหา พี่ไม่เอา กลับไปสู้ ไปเป็นมาริสาตัวแสบ ให้พวกนั้นได้รู้ว่า พวกนั้นไม่สามารถฆ่าเธอได้" "อื้มมม" ฉันรีบปาดน้ำตาออก แล้วมองแววตาคู่ตรงหน้าอย่างคนที่ฮึดสู้เต็มเปี่ยม ใช่ เราจะทำให้พวกนั้นรู้ ว่าฉันมันยิ่งกว่าแมลงสาบ ฆ่าได้ แต่ฉันจะไม่ตาย ฉันยิ้มให้พี่ชลที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ที่โซฟา แววตาที่สอดประสานกันมันทำให้ฉันต้องหลับตาลง เพื่อรับริมฝีปากที่ค่อย ๆ เข้ามา ถือว่าเป็นรางวัลที่ช่วยปลุกใจก็แล้วกัน ริมฝีปากที่เต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ประกบลงมาอย่างแผ่วเบา ให้ฉันได้รับริมฝีปากนั้น ก่อนจะค่อย ๆ คลายออก พี่ชลกระดกเบียร์ขวดของตัวเองแล้วค่อย ๆ ป้อนให้ฉันทางปากช้า ๆ มันกลับหวานขึ้นหรือเปล่านะ เมื่อถูกป้อนทางนี้ "หน้าแดง ๆ แบบนี้น่ารักจังเลย" "พี่ก็น่ารัก" ฉันกระดกเบียร์เข้าปากแล้วดึงเขาลงมาจูบซ้ำ คนที่จากแค่นั่งเฉย ๆ เริ่มเปลี่ยนมาเป็นคร่อมร่างฉันเอาไว้กับโซฟาไม้บุนวมแทน เบียร์ถูกป้อนทางปากให้ฉันอย่างต่อเนื่อง สติที่มีเริ่มมึนเมาและเริ่มทำงานช้าลง "น่ารักยังไงบอกหน่อยสิ" "เพราะพี่บอกจะไม่หักหลังฉันแล้ว พี่พูดจริงใช่ไหม" "พี่สาบานเลย ต่อจากนี้ไป พี่จะอยู่ข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะถูกหรือผิด จะไม่หักหลัง จะจับมือเธอแล้วก้าวเดินไปพร้อมกัน จะเป็นคนช่วยรับเมื่อเธอรู้สึกว่าเจ็บ" "เหมือนคำขอแต่งงานเลย รับค่ะ" "หือออ เมาแล้วโคตรแรดเลย อยากเป็นเมียพี่ไหมคะ" คำถามที่มันเหมือนจะถามสถานะแบบแปลก ๆ คืออะไร หรือคนที่ไม่ปกติคือฉันเอง "ไม่ใช่ว่าจดทะเบียนแล้ว เป็นเมียแล้วเหรอ" ฉันกระซิบถามด้วยความสงสัย "ยัง ต้องได้กันก่อนรู้ไหม พี่ขอเอาคืนครั้งที่แล้วนะ" คนตรงหน้าไม่ได้รอคำตอบหรือคำปฏิเสธปิดปากฉันแทบจะทันที สายชล Say :: คนอะไรเมาแล้วโคตรแรด ผมมองหน้าหญิงสาวที่ดึงผมมาจูบไม่หยุดเหมือนหิวโหยอ่า ตอนปกติด่าผมเหมือนกับขี้ วันนี้มีชมน่ารักด้วย ผมค่อย ๆ ถอดเสื้อยืดแขนสั้นที่เธอใส่ เผยชุดชั้นในลูกไม้สีชมพูนู๊ด ผิวขาวที่ตัดกับสีชุดชั้นในมันทำให้ผมนั้น อยากจะเห็นข้างล่างด้วย แต่!!!! "เซียงเซียงขา เดี๋ยวคนมาเห็น บนห้องไหม พี่อุ้มไป" "แบบนี้ก็ตื่นเต้นดี" นั่นนนนนน!!!! ผมถามแล้วนะ ผมถามแล้ว ผมคว้านหน้าอกของเธอออกมาเหยชุดชั้นใน ก่อนจะฝากรอยรักไว้บนเนินอกขาว ๆ แต่พอเธอเห็นมัน เธอก็ทำหน้าไม่พอใจแล้วกระชากเสื้อชุดนอนของผมจนกระดุมหลุดดังแควก "อย่ามาเขียนชื่อบนตัวฉัน เพราะฉันต้องเขียนชื่อบนตัวพี่" ริมฝีเล็ก ๆ ดูเข้าที่หน้าอกของผม แล้วไล่ลามจนไปถึงคอ ดูท่าแล้วน่าจะเป็นคนหวงมากนะเนี่ย รอยรักสีกุหลายรอยแล้วรอยเล่าถูกทำจนเต็มแผงอกและลำคอ เธออ่าเป็นเมียฉันทั้งทางพฤตินัยและนิตินัย โดนหลอกมาเป็นเมียแล้วยังไม่รู้ตัวอีก เด็กจริง ๆ เลย ต่อให้เธอเก่ง แต่สิ่งที่เธอขาดคือประสบการณ์ ผมปล่อยให้เธอดูดจนพอใจ ถึงได้เปลี่ยนกลับไปดูดเธอบ้าง ดูดนมนะ เสียงครางหวานดังกระเส่าไปทั่วห้องรับแขก "ซี้ดดดดดด อื้อออออ คือดี อืมมมมม" "ดีมากไหม อยากดีกว่านี้ปะ" คำถามของผมทำให้เธอพยักหน้ารับ ผมเลยเปลี่ยนจากดูนมมาดูอย่างอื่นที่อยู่ต่ำกว่าแทน เธอเนี่ยเลี้ยงสิงห์ให้อดอยาก ผมจับเธอนอนราบไปกับโซฟาตัวยาว ส่วนตัวเองก็พรมจูบต่ำลงมาเรื่อย ผ่านหน้าท้องที่แบนราบเหมือนไม่มีไส้ ยาวลงมาถึงข้างล่างที่แทบจะไม่มีขนเลย มีแค่พอสวยงาม "อ๊า!!!!" "ร้องทำไม ยังไม่ได้เลียเลย" "เกร็งไว้ก่อนอะ ฮ่ะ ๆ แค่นิดเดียวหนูก็รู้สึก ต่อสิคะ" "โคตรแรดเลย บอกเลยแบบนี้พี่ชอบ"

Read on the App

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD