Ep.17 : ไม่ใช้ของร่วมกับใคร

3490 Words
"เดินดี ๆ สิคะ เดี๋ยวก็ตกเรือ" "ฉันไม่จำเป็นต้องให้คนขาเดี้ยงเป็นห่วงหรอกหน่า ไปลูก ค่อย ๆ เดินกันนะเด็ก ๆ" ฉันใช้มือป้องเด็ก ๆ ที่เดินลงบันไดของเรือ ที่สำคัญ พยายามจะหนีการพูดคุยกับคนที่เดินตามฉันมา ฉันพลาดเพราะเมา ไม่ได้หายเกลียดเขา ไม่ต้องมาทำดี ไม่ต้องรับผิดชอบ ฉันจำไม่ค่อยจะได้ด้วยซ้ำ ฉันไม่ได้ต้องการต้องการความรับผิดชอบใดใด ฉันโตมากพอ ที่จะตัดสินใจเอง ว่าต้องการอะไร ไม่ต้องการอะไร ไม่ต้องยัดเยียดการรับผิดชอบอะไร "เซียงเซียง โกรธอะไร ไหนบอกไม่รู้สึกอะไร แล้วทำไมไม่คุยกับพี่" โอ้ยยยย นี่ก็ไม่ยอมเข้าใจสักที "เพราะฉันรำคาญไง!!!" ฉันหันไปตวาดใส่คุณชลอย่างเผลอเลอ ลืมไปว่าเด็ก ๆ มองดูอยู่ ฉันจะทำยังไงกับผู้ชายคนนี้ดี ฉันมองหน้าพี่ชลที่ตอนนี้ทำหน้าหงอย ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้น ฉันไม่รู้สึกผิดหรอกนะ ฉันเบะปากแล้วเชิ่ดหน้าขึ้นเพราะไม่สนใจ ต่อให้เขาร้องไห้ ฉันก็ไม่สนใจ "พี่ไม่ได้ใส่ถุง" ประโยคที่ทำเอาตัวฉันชาวาบ ตวัดหันไปหาคนที่พูดสิ่งที่ทุเรศที่สุดออกมา แต่เขาดันยิ้มแบบมีความสุข "พี่ชล ทำไมทำแบบนี้" คราวนี้เป็นฉันที่วิ่งตามเขา ตามด่าไง แต่เขาไม่ตอบฉัน ไม่คุยกับฉันด้วย ปล่อยให้ฉันวิ่งถามอยู่นั่นอย่างคนสติแตก แล้วฉันจะทำยังไง พี่ชล!!!! แต่บทสนทนาของเราต้องจบ เมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนรอเราอยู่ที่ทางลงของเรือ ผู้หญิงที่แต่งตัวแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้า และของที่เธอใส่ คือของที่พี่ชลซื้อให้ฉัน ฉันไม่เคยใช้ของพวกนั้น แต่ฉันก็ไม่อยากใช้ของร่วมกับใคร และไม่ชอบให้ใครมายุ่งของฉัน เธอไปรื้อของฉันที่อยู่บ้านเรือนไทยงั้นเหรอ "ชล อัณณ์ แม่มารอรับลูก คิดถึงจังเลย" ครีมอ้าแขน จะเข้ามากอดอัณณ์ แต่โดนคนเป็นพ่อดึงอัณณ์กลับมาก่อน "ของพวกนี้ ฉันซื้อให้น้อง ไม่ได้ซื้อให้ครีม บางที ฉันก็สงสัย ว่าครีมจะสอนลูกยังไง" คุณชลพูดขึ้นมา แต่ไม่ได้กิริยาไม่ดีต่อหน้าลูก มันทำให้ฉันประทับใจ ประทับใจมาก ไม่ใช่เพราะเขาต่อว่าผู้หญิงคนนั้น แต่เพราะว่าเขาปกป้องสิทธิ์ที่เป็นของฉัน แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้ครีมร้องไห้ แล้วเดินมากอดอัณณ์เอาไว้ ใจบางจังนะแม่คุณ ฉันมองของขวัญที่ตอนนี้ จะเดินเข้าไปกอดคุณครีมด้วย มันคงเป็นอารมณ์ที่เด็ก ๆ อยากจะปลอบ แต่ฉันไม่ใช่เด็ก ๆ ที่ใจดี ฉันอาจจะเป็นคนไม่ดี แต่คนที่เอาของฉันมาใช้ แล้วโดนว่าก็มาบีบน้ำตาต้องเป็นยังไง ฉันต้องแบ่งปันใช่ไหม "แม่อัณณ์จะไปกับพ่อ แม่ไปด้วยกันใช่ไหม พ่อให้แม่ไปได้ใช่ไหมครับ" สายตาอ้อนวอนของเด็กชาย ทำให้เราไม่อาจจะปฏิเสธได้ เราต้องยอมให้คุณครีมไปกับเราด้วย เธอพยายามจะนั่งข้างพี่ชลในรถตู้ จะแย่งทำไม รถตู้คนเยอะแยะ ฉันไม่ได้สนใจเดินผ่านทั้งสองคนเพื่อไปนั่งด้านหลังกับลูก แต่แน่นอนพออัณณ์นั่งเบาะหน้า ลูกสาวฉันก็อยากจะนั่งกับพี่ของเธอ ทำหน้าเบะเหมือนจะร้องไห้ "ไม่ร้องนะ นั่งกับม้าก็พอแล้ว" "หนูอยากนั่งกับพี่อัณณ์ หนู หนู ก็ได้ค่ะ หนูก็อยากนั่งกับหม่าม้าเหมือนกัน หนูแค่ไม่ชอบคนที่ผิดสังญา" ของขวัญ เดินไปนั่งเบาะหลัง ทำให้ฉันต้องเดินตามไปนั่งด้วย แต่ไม่นาน คนเป็นพ่อ ก็ลุกจากเบาะด้านหน้ามานั่งกับของขวัญ ลูกสาวฉันดีใจมาก กอดป๊าของตัวเองเอาไว้แน่น ทำให้ฉันต้องมองการกระทำของพ่อลูกที่น่าหมั่นไส้เหลือเกิน แต่ก็ ขอบคุณนะ ที่แคร์ความรู้สึกของลูก มือใหญ่เอื้อมมากุมมือฉันเอาไว้ มาจับทำไม ใครอนุญาต แต่ก็ คุณครีมอยู่นี่หน่า ยอมให้จับนิดนึงก็ได้ "ยิ้มมมม ชอบอะดี้" "อืม" หลังจากที่เรามาถึงคฤหาสน์ของพี่ชล เด็ก ๆ ก็วิ่งเข้าไปกอดคุณย่าที่มาต้อนรับ ฉันเองก็ยกมือไหว้ตามมารยาท คุณสายธารน่ารักมาก ต้อนรับเราเป็นอย่างดี ก่อนจะรับเด็ก ๆ ไปกินขนมหวานในบ้าน เมื่อเด็ก ๆ และคนอื่น ๆ ลับสายตา ฉันก็เดินเข้าไปหาคุณครีมทันที สิ่งแรกที่ฉันจะทำ เหมือนพวกพี่ใจร้ายของนางซิน "กระเป๋านี่ของฉัน" ฉันกระชากของฉันคืน "คุณเองก็มีตั้งเยอะ ทำไมใจแคบแบบนี้" "ต่อให้ฉันไม่ใช้ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ เพราะตอนนี้มันเป็นของฉัน ฉันไม่ใช้ของร่วมกับใคร" ฉันเทของของคุณครีมออกจากกระเป๋า แบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมอะไรทั้งนั้น "หึ เชิดคอไปเถอะ ฉันจำเธอได้แล้ว นังเด็กผมเปียที่เคยคบกับชล ตอนนั้นเพียงแค่ฉันกลับมา เขาก็ทิ้งเธอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน โอ้ยยยย เพี๊ยะ!!! น้องเซียงเซียง พี่ขอโทษ พี่ พี่" แล้วคุณครีมก็ตบตัวเองจนเป็นรอยมือ นั่งกองอยู่กับข้าวของที่ฉันเททิ้ง เสียงร้องของเธอ ทำให้ทุกคนวิ่งออกมาดู คุณนาย คุณศรุต คุณชล เด็ก ๆ และพี่ ๆ แม่บ้าน ทุกคน ออกมาดูกันหมด ตอนนี้ภาพที่ทุกคนเห็น คือฉันกำลังทำร้ายคุณครีมอย่างชัดเจน และแน่นอนว่า โดนจับได้คาหนังคาเขาแบบนี้ ต่อให้แก้ตัว.... "น้องเซียงเซียง อย่าโกรธพี่เลยนะ" คำโกหกที่ทำให้ฉันสูดหายใจเข้าเต็มปอด ฉันยืนมองดูคุณครีมบีบน้ำตาเรียกความสงสาร ทำให้พี่ชลรีบเดินไปดึงให้เธอลุกขึ้นมา "ลุกขึ้นมาเถอะครีม ลูกดูอยู่" คุณชลดึงร่างบางขึ้นมาจากพื้น เธอก็กอดพี่ชลเข้าทันที "ฉันไม่ได้ตั้งใจ ให้มันเป็นแบบนี้ น้องใจร้ายกับฉันจัง" คุณครีมอ้อนพี่ชลเต็มที่ "ครีมก็ไม่ควรยุ่งกับของคนอื่น" พี่ชลดันคุณครีมออกเลย พร้อมกับเดินมาหาฉันเพื่อสำรวจความเสียหาย ฉันเลยได้แต่ส่ายหน้าน้อย ๆ ว่าไม่เป็นอะไร "ของขวัญของพี่ ฉันก็มีสิทธิ์ที่จะโกรธ พี่ให้ฉัน ฉันไม่สนใจหรอกว่ามันคืออะไร ต่อให้มันเป็นก้อนหิน ฉันก็มีสิทธิ์ที่จะหวง ถ้าพี่คิดว่าฉันผิด ฉันก็ผิด แต่ฉันไม่รู้สึกผิดหรอกนะ แล้วกระเป๋าใบเนี้ย ฉันให้เธอ ไม่อยากได้แล้ว" ฉันยัดกระเป๋าใบเล็ก ๆ ที่สร้างปัญหาให่พี่ชล ฉันผิดก็ได้ ฉันไปยกมือไหว้ขอโทษผู้ใหญ่ แต่ไม่ขอโทษผู้หญิงคนนั้นหรอกนะ "ครีม น้องไม่อยากได้แล้ว เฮ้ออออ เราไม่ควรจะยุ่งของคนอื่นนะ เพราะมันทำลายความทรงจำของเจ้าของ กลับบ้านดี ๆ นะครีม ฉันจะให้คนขับรถไปส่ง" พี่ชลพูดกับหญิงสาวดี ๆ ดีจนฉันหมั้นไส้ ระหว่างที่ฉันไหว้ขอโทษผู้ใหญ่ที่กำกริยาไม่ดี หญิงสาวคนหนึ่งก็เดินลงมาจากบันไดชั้นสอง เธอมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะมองของขวัญที่รีบมายืนหลังฉันด้วยความกล้ว "หม่าม้าดื้อ อ่า หม่าม้าต้องโดนก้างมะยมแน่ ๆ" ของขวัญพูดเบา ๆ บอกฉัน แต่หญิงสาวสิ มองลูกสาวฉันไม่วางตาเลย "นะ...น่ารัก น่ารักจริง ๆ ด้วย แม่ค้า!!! นี่เหรอ ลูกสาวพี่ชล น่ารักจังเลย!!!!!" เสียงตะโกนดัง ๆ ของหญิงสาวเปลี่ยนบรรยากาศของบ้าน ให้คนทั้งบ้านมาสนใจที่ของขวัญ เธอรีบวิ่งขึ้นไปชั้นบน แล้วลงมาพร้อมกับ อมยิ้ม ขนม และตุ๊กตา พี่ชลเลยต้องรีบเดินมาหาฉัน พร้อมกับน้องอัณณ์ที่วิ่งไปกอดหญิงสาวคนนั้นด้วย แล้วผู้หญิงคนนั้น ใครล่ะ ฉันจำเป็นต้องรู้จักใช่ไหม น้องสาวเหรอ หรือพี่สาว "มายา น้องสาว ไม่ใช่เมียอีกคน ไม่ต้องทำหน้านิ่ง" พี่ชลลากฉันออกมาจากผู้คนเล็กน้อย "ใครจะไปรู้เมียเยอะนัก" "เมียคนเดียว เมื่อกี้ครีมไม่ได้ทำอะไรใช่ไหม เราเนี่ยร้ายใช้ได้เลยนะ กระเป๋าอยากได้คืนหรือเปล่า พี่ซื้อให้ใหม่" "ไม่หรอก ไม่อยากได้ ของนอกกาย ฉันแค่ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับของของฉัน ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าเขาจะแย่งพี่ไป ฉันเองควรจะถอยเหมือนกัน" มันเป็นความหงุดหงิดที่ไม่เข้าใจ จะบอกว่าหึงหวงก็ไม่ถึงขั้นนั้น แค่อารมณ์อยากแขวะ อยากด่า และอยากทุบ "หึงเขาเหรอ" "ไม่ใช่สักหน่อย หลงตัวเองชะมัด" ฉันหลบสายตามองไปทางอื่นอย่างไม่พอใจ แต่โดนมือใหญ่ล็อกคอเอาไว้ ให้มองแค่ที่เขา "พี่ไม่มีทางกลับไปหาครีมแล้ว อย่างอนเลยนะ ง้อเธอคนเดียวพี่ก็เหนื่อยจะแล้ว" "ไม่ต้องง้อค่ะ จะได้ไม่เหนื่อย ขอบคุณนะ ที่เข้าข้างฉัน" แล้วนี่ทำไมฉันต้องหลบตาเขาอีกแล้ว แต่ดีใจนะ ที่เขา ไม่ได้เชื่อที่คุณครีมบอก แล้วนี่มาเขินอะไร แล้วเขาจะยิ้มให้ฉันอีกนานไหม "คิดว่าในบ้านมีแค่ 2 คนเหรอ" คุณศรุตเดินมาหาเรา ทำให้เราต้องรีบผละออกจากกันเลย "พวกแก!!! ดูถูกฉันกันเกินไปแล้ว ฉันจะฟ้อง ขอเลี้ยงดูลูกแค่คนเดียว!!!!" เสียงตะโกนลั่นของคนที่ไม่ได้รับความสนใจ ทำให้คนอื่น ๆ ก็ยิ่งเมิน แล้วพาเด็ก ๆ เข้าบ้าน ไปหากินขนม แล้วให้พวกพี่แม่บ้านไล่คุณครีมออกมา คนบ้านนี้เย็นชาจังเลย ไม่ไล่เอง ให้พี่แม่บ้านไล่ไม่ต่างจากแมลงสาบเลย สายชล Say :: กลางดึกคืนนั้นเอง ผมที่นอนอยู่ที่ห้อง ดูงานที่ตัวเองทำค้างเอาไว้ ภาพรวมทุกอย่างของบริษัท จนมีสาวน้อยยกแก้วนมเดินมาให้ผม แน่นอน เธอไม่ได้ยกขึ้นมา แม่เธอยกขึ้นมา เธอแค่ถือแก้วมาให้ผมเท่านั้น "ป๊าขา นงค่ะ กินเยอะ ๆ จะได้โตไว ๆ ฮ้าวววววว" รอยยิ้มแฉ่งของคนที่ตาปรือ เหมือนจะง่วงนอน แต่โดนบังคับมา "ขอบคุณนะคะ หนูควรจะไปนอนได้แล้วนะคะ" "หนูไม่ง่วงค่ะ หนูจะทำงางค่ะ ให้หนูช่วยไหม คุงครูบอกว่า หนูเรียงกระดาษ สวยที่ฉุด" "ไม่ดีกว่าค่ะ หนูแค่อยากเล่นกระดาษของป๊าค่ะ ป๊าดูออก ไปนอนได้แล้ว ป๊าฝากดูพี่อัณณ์ด้วยได้ไหมคะ ว่าพี่อัณณ์เศร้าหรือเปล่า" "งอนค่ะ ของขวัญงอนพี่อัณณ์ พี่อัณณ์ผิดสังญา จะไม่ยอมนอนด้วยหรอก" "แต่คุณย่าซื้อเตียงเจ้าหญิงให้หนูนะ ถ้าไม่ไปดู แล้ว...." "ไป ไปค่ะ ป๊าพาของขวัญไปนอนได้ไหม ของขวัญอยากนอนกับป๊า ได้ไหมคะ" เด็กหญิงกอดตักผมเอาไว้แน่น อ้อนเบอร์นี้เลยเหรอลูกผู้หญิง มีเหรอที่ผมจะทนได้ ผมเลยต้องไปส่งของขวัญที่ห้องนอน ก็เจอมายาที่มายืนดักรออยู่แล้ว "ขอเอาลูกนอนก่อน แล้วค่อยคุย" ผมเปิดประตูให้ของขวัญเข้าไปในห้องนอน เธอดูตื่นเต้นกับเตียงใหม่น่ารัก ๆ สีชมพูหวานสไตล์เจ้าหญิง ที่อยู่ข้าง ๆ เตียงของอัณณ์พี่ชายเธอ "อูววว้าววววว สวยจังงงงง อู้วววววว พี่อัณณ์ เจ้าหญิง เจ้าหญิง เห็นไหม" "เห็นแล้ว ซื้อทำไม สุดท้าย ของขวัญก็นอนกับพี่อยู่ดี มาเร็ว พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแล้วนะ" ลูกชายผมดูมีความเป็นผู้นำขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ผมยืนดูพี่น้องนอนกอดกัน มันโคตรเป็นภาพที่สวยงามเลย ผมเดินเข้าไปลูบหัวลูก ๆ แล้วส่งพวกเข้าเข้านอน ผมเป็นพ่อที่ดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ตั้งแต่เซียงเซียงก้าวเข้ามาละมั้ง หลังจากที่ลูก ๆ หลับแล้ว ผมก็เดินออกมาหาน้องสาว ที่ยืนรออยู่แล้ว ผมรู้ว่าน้องผมจะพูดเรื่องอะไร "พี่ควรจะบอกอัณณ์ ลูกพี่ต้องรู้ พี่มีลูกแล้ว พี่ไม่ต้องมีอัณณ์ก็ได้" "เงียบเสียงหน่อยมายา พี่เลี้ยงอัณณ์มา มากกว่าแม่เขาเลี้ยงอีก พี่จะไม่ยอมให้ใครมาเอาอัณณ์ไป" "แต่อัณณ์ไม่มีเลือดของพี่ด้วยซ้ำ เด็กของขวัญสิ คือคนที่พี่ต้องแคร์" มายา กดเสียงในลำคอ บอกสิ่งถึงผมไม่อยากจะฟังเลย ผมจะไม่ยอมให้อัณณ์ไปไหนทั้งนั้น "ไม่อยากจะพูดแล้ว พี่จะไปนอนกับเมียแล้ว เธอเองก็ควรจะไปนอน" "ผู้หญิงที่พี่คบแต่ละคน ไม่เคยดี คนนี้ก็กระเป๋าแบรนด์เนมเหรอ ชิ คอยดูต่อไปเถอะ มันก็จะทิ้งพี่ไปหาคนที่รวยกว่า" "พี่ขี้เกียจเถียง ไปนอนแล้วนะ" ผมเดินกลับมาที่ห้อง ด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดี เจอเซียงเซียงนอนอ่านหนังสือกฏหมายของผม เฮ้ออออ กับเมียก็ไปได้ไม่ค่อยสวย ครอบครัวก็ยังจะมาต่อต้านอีก ผมนอนลงบนเตียงซบลงที่ไหล่ของเธอด้วยความเหนื่อยล้า "อย่ามาเนียน พี่ต้องไปนอนที่อื่น" "ขออยู่แบบนี้แป๊บนึงนะ พี่เพิ่งจะทะเลาะกับมายาเรื่องลูกมา น้องสาวพี่อาจจะเป็นคนแรง ๆ แต่เธอไม่ใช่คนไม่ดีหรอก เธอแค่ไม่ยอมเข้าใจ ว่าพี่รักอัณณ์ไปแล้ว พี่เลี้ยงเขามา พี่คิดมาตลอด ว่าเขาเป็นลูก แค่มารู้ว่าเขาไม่ใช่ ไม่ได้เปลี่ยนความรู้สึกข้างในไปมากนัก" ผมซบลงที่ไหล่ของเซียงเซียงที่นอนอยู่บนเตียง เธอก็น่ารักไม่ได้หนีอะไร "ฉันเข้าใจนะ เราจะผ่านมันไปด้วยกัน ฉันอ่านหนังสือของพี่แล้ว ฉันกำลังอ่านเรื่องรับรองบุตรบุญธรรม ฉันกำลังคิดว่าถ้าเราโกหกศาลว่า เราไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่าอัณณ์ไม่ใช่ทายาททางสายเลือดได้ไหม แต่พอมาคิดดูแล้ว ถ้าเราจะรับเป็นบุตรบุญธรรมก็ได้นะ" "พี่อ่านมาแล้ว ไม่ได้เลย อัณณ์เป็นผู้เยาว์ ต้องได้รับการยินยอมจากแม่ ยังไงบุพการีก็ยังมีสิทธิ์อยู่ดี" ผมบอกเซียงเซียง ที่กฏหมายไม่ได้ครอบคุมจุดนี้ "งั้นเราก็ต้องทำให้ครีม ไม่มีคุณสมบัติที่จะเลี้ยงดูสิคะ" "นี่แหละ ที่ต้องมีเธอ ต้องมีความพร้อมให้มากกว่า เราจะใช้ประเด็นโดนหลอกว่าเป็นลูกมาตั้งแต่แรก จนไม่นานมานี้ เพิ่งจะรู้ความจริง ความผูกอาจจะทำให้เราชนะคดี แต่เหนือสิ่งอื่นใด อัณณ์ต้องเลือกที่จะอยู่กับพี่ด้วย ถ้าลูกเราจะมีอัณณ์เพิ่มมาอีกคน เธอโอเคไหม" ผมเนียนถามคนที่กำลังตั้งใจฟัง "โอเคค่ะ เพราะของขวัญติดพี่อัณณ์มากเลย ฉันไม่เคยเห็นลูกฉันมีความสุขเท่าตอนนี้ ลูกฉันดูมีอะไรมากกว่าเด็กขี้ฟ้องหาไม้เรียว เธอเรียนรู้ที่จะปกป้องคนอื่น" เธอเองก็เคลิ้มไปกับผมด้วยแฮะ ผมได้แต่มองหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ มันไม่ใช่ความรู้สึกว่าตกหลุมรักเธออีกครั้ง แต่มันคือความรู้สึก อยากจะเป็นคนที่ดีขึ้น เพื่อให้ดีพอสำหรับเธอ "รถเธอเอามาจอดที่บ้านนี้ก่อนไหม ฉันจะเอาไปให้เด็กเอาให้ จอดไว้ที่ทำงานไม่มีคนดูแล" ผมถามถึงรถเปิดประทุนคันหรูของเธอ ค่าผ่อนคงจะแพงน่าดู ซื้อมาทำไม ตัวเองขับรถน่าหวาดเสียวแค่ไหน ไม่รู้ตัวเลยหรือไง "เอาค่ะ แต่จะให้ดี เลิกส่งบอดี้การ์ดไปตามฉัน แล้วให้ฉันขับรถไปกลับที่ทำงานเอง" "มันไม่ใช่การจับผิด มันคือความสะดวกสบาย เวลาที่เธอมีอันตรายพี่ไม่ได้อยู่ตรงนั้น เวลาที่เธอทำงานเหนื่อยเกินกว่าจะขับรถ เวลาที่เธอไปสังสรรค์แล้วเมาจนไม่ได้สติ ถ้าเธอไม่มองพี่ในแง่ร้าย เธอก็จะมองเห็นมันเซียงเซียง พี่อยากขอโทษ อยากดูแลเธอทดแทนเวลาที่ผ่านมา 5 ปีนะ" ผมมองเข้าไปในตาของหญิงสาวตัวเล็ก ที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ข้างกัน ความเงียบสงัดของห้องที่มีอยู่แค่เรา "ไม่ต้องดูแลดี ฉันไม่ชิน ฉัน....." ผมไม่ได้พูดต่อ ทำเพียงป้อนจูบลงบนปากเล็ก ๆ ที่ส่วนมากจะด่าผมมากกว่าชม ตอนนี้ก็อย่าให้ด่าได้อีก น้ำหยดลงหิน หินมันยังกร่อน ง้อทุกวัน จูบทุกวัน ยังไงก็ต้องใจอ่อน เวลาอยากจะหวาน ๆ ทีไรเธอก็ด่ากวนอารมณ์ ก็ทำให้ด่าไม่ได้ก็จบ แล้วคิดว่าเธอจะให้ผมจูบดี ๆ หวาน ๆ งั้นเหรอไม่มีทาง ทุบตุบตับ จนไอ้ผมเนี่ย น่วมไปหมดผมเลยต้องจับมือของเธอรวบเอาไว้ แนบอยู่ที่อก ผมเองก็มีความไม่ยอมแพ้หรอกนะ ผมปล่อยแขนทั้งสองข้างของเธอออก เธอก็ผลักผมทันที "อย่าด่ามาก คนเขาหาว่ากลัวเมียหมดแล้วเนี่ย" "เมียที่ไหน จำไม่ได้ด้วยซ้ำ ว่าบนเรือเกิดอะไร" "พี่หมายถึงแม่ของลูก ไม่ได้หมายเรื่องบนเรือ แล้วอีกอย่าง ขาพี่เดี้ยงแบบนี้จะทำเธอยังไง เธอนั่นแหละ ทำเองจนเสร็จ" ผมกระซิบข้างหูของเธอ จนเธอหน้าแดงแป๊ด ผมรู้ได้ว่าเธอไม่ได้เจนจัด เพราะเซ็กซ์ของเธอ มันโคตรจะเด็กเลย แต่แบบนี้ผมสอนได้ "พี่ชล ไม่คุยด้วยแล้วนะ ออกไปนอนห้องอื่นเลย" "นอนนี่แหละ ขาเดี้ยง ปล้ำไม่ได้หรอกหน่า" ผมตีเนียนนอนลงบนเตียงห่มผ้าเรียบร้อย แม้เธอจะไล่ผม ยังไงผมก็ไม่ยอมไป "หน้ามึนโคตร ขาพี่เจ็บก็เพราะฉัน ยอมก็ได้แค่คืนเดียวนะ" เธอสอดตัวลงมานอนดี ๆ แต่ก็ไม่วายเอาหมอนข้างมากั้นเราเอาไว้ อยากนอนกับเธอไม่ได้อยากนอนกับหมอนข้าง "พี่ชลคะ" "ว่า" "ถ้าขาพี่หาย เราพาลูก ไปหากิจกรรมทำดีไหมคะ เดินตลาด เล่นกีฬา ฉันอยากจะปลูกฝังกิจกรรม ความกล้าแสดงออก อยากให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ และรู้ว่าเขาชอบอะไร เก่งอะไร" "เอาสิ อยากให้ทำอะไรอีกไหม พี่จะเคลียร์งานวันหยุดให้" ผมนอนตะแคงมาหาเธอแล้วดันหมอนข้างลง จนเห็นใบหน้าหวานในความมืด พอเป็นเรื่องลูกทีไร ก็จะมีรอยยิ้มแบบนี้ตลอดเลย "ไม่เป็นไร แค่นี้พอ" เธอเลื่อนหมอกลับมาปิดหน้าผมเอาไว้ หวั่นไหวละซี้ "ปิดทำไมเล่า คนจะมองหน้า" "ไม่คุยด้วยแล้ว จะนอนก็นอนไป อย่ามาล้ำเส้นหมอนข้างนะ พรุ่งนี้ฉันต้องตื่นไปจัดการเรื่องลูกแต่เช้า ไม่สนใจพี่แล้ว คนอะไรประสาทมองอยู่ได้" นั่น นั่น เขิน เขิน ปากด่าแต่หันหลังหลบตา นี่มันยังไงกัน สงสัยก็ยังต้องง้อกันอีกยาวววววว กลางดึกคืนนั้นเอง "คุณพระ!!!!" เสียงของคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ อยู่ข้างผม สะดุ้งตื่นขึ้นมา ทำให้ผมตกใจจนต้องลุกขึ้นมาดู คุณพระอะไรอ่า "คุณพระที่ไหนเซียงเซียง" "ไม่รู้สิ ช่างเถอะ ฉันอาจจะแค่ฝัน ฉันอาจจะฟังป้าส้มเล่ามากไป แต่ทำไมในฝัน ฉันถึงได้ใส่ชุดเหมือนชุดไทย ช่างเถอะ นอนเถอะค่ะ ฉันเพ้อเจ้อไปเอง" "อาจจะฟังเรื่องป้ามาแล้วฝันไปจริง ๆ ก็ได้ นอนนะเด็กดี" ผมกดหัวเซียงเซียงให้ลงไปนอนต่อ เพราะผมเองนั้นก็ง่วงเหลือเกิน "แต่คุณพระ หน้าเหมือนพี่เลยนะ ช่างเถอะ นอน!!!!" อ้าววว อะไรของยัยนี่ เป็นคนทำให้ผมตื่นแท้ ๆ มาดุให้ผมนอนอีก ===========
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD