“งานโครงการจิตอาสาของโรงพยาบาลที่จะไปสมทบกับทีมปฏิบัติการพิเศษควบคุมไฟป่าปีนี้พร้อมหรือยัง”
เจษฎาถามเลขาเสียงขรึม ถึงโครงการที่ทางโรงพยาบาลได้จัดขึ้นทุกปีในช่วงฤดูร้อนเพื่อส่งทีมแพทย์พร้อมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปช่วยสมทบกำลังอยู่ที่ฐานปฏิบัติการควบคุมไฟป่าทางตอนเหนือของประเทศไทย
“พร้อมครับผอ.”
เลขาคนสนิทตอบรับแล้วก็วางแฟ้มเอกสารลงตรงหน้าเจ้านายหนุ่มพร้อมเอ่ยต่อ
“นี่เป็นเอกสารโครงการที่รอให้ท่านเซ็นอนุมัติครับ”
เจษฎาเพียงพยักหน้าเบาๆก่อนจะลงนามในเอกสารโดยไม่อ่านทวนเหมือนครั้งที่ผ่านๆมา เพราะวันนี้เขาไม่มีกระจิตกระใจในการทำงานสักเท่าไหร่ ต้นเหตุก็คงหนีไม่พ้นนางเอกสาวคนสวยที่มารบกวนจิตใจของเขาวันนี้
“ปีนี้ฉันจะลงพื้นที่ด้วย ช่วงนี้นายจัดการเอกสารที่ค้างคามาให้ฉันเซ็นด้วย เพราะฉันอาจจะอยู่ที่ผาตะวันจนกว่าจะสิ้นสุดโครงการ”
คำบอกเล่าของเจ้านายหนุ่มทำให้มานพต้องขมวดคิ้วยุ่ง เพราะโครงการจิตอาสาที่ว่าไม่แค่วันสองวัน แต่ระยะเวลาของโครงการนั้นยาวนานถึงห้าเดือนเต็ม นับตั้งแต่ต้นปีกระทั่งเข้าสู่ฤดูฝน เรียกได้ว่านานเกือบครึ่งปีเลยทีเดียว
“แต่ผอ.ครับ ที่นั่นไม่มีทั้งไฟฟ้าและคลื่นโทรศัพท์ ถ้าหากมีงานด่วนขึ้นมาจะทำยังไงครับ”
“นายอยู่ดูแลงานทางนี้ก็แล้วกัน ถ้ามีเรื่องอะไรที่ตัดสินใจแทนได้ก็จักการเลย”
เจษฎาออกคำสั่งกับเลขาคนสนิทด้วยความไว้ใจ เพราะมานพทำงานกับเขามานานจึงไม่ต่างจากเป็นมือขวาของเขาเวลาที่เขาติดธุระไปที่อื่น
“รับทราบครับผอ.”
เลขาหนุ่มโค้งศีรษะรับคำอย่างหนักแน่น เพราะยังไงเสียเขาก็ไม่สามารถขัดใจเจ้านายได้นั่นเอง
……………………………………………
“พี่เชนทร์ทำหน้าเครียด มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะ”
พรชดาเอ่ยทักผู้จัดการหนุ่มหุ่นล่ำที่กำลังเดินหน้าเครียดเข้ามาหย่อนสะโพกนั่งลงข้างๆตนบนโซฟาตัวใหญ่ในห้องรับแขก ทว่าดูเหมือนคเชนทร์จะใจลอยเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เธอถามออกไป ทำให้นางเอกสาวต้องถามซ้ำอีกครั้ง
“พี่เชนทร์คะ พี่มีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า บอกชดาได้นะคะ เผื่อมีอะไรที่ชดาช่วยได้”
คราวนี้หญิงสาวพูดพร้อมกับวางมือลงบนมือใหญ่ของผู้จัดการพลางบีบให้กำลังใจเบาๆ ส่งผลให้คเชนทร์หลุดจากห้วงภวังค์ความคิด แล้วหันมามองใบหน้างดงามของดาราสาวพลางส่ายหน้าเบาๆเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับเธอยังไงดี
“ทำท่าแบบนี้…แสดงว่าคุณป้าอาการทรุดใช่ไหมคะ การผ่าตัดไม่ดีขึ้นเลยเหรอคะพี่เชนทร์”
“ไม่ดีขึ้นเลย ตอนนี้คุณแม่พี่อาการทรุดหนักกว่าก่อนผ่าตัดมาก พี่ไม่รู้จะทำยังไงแล้วครับน้องชดา”
พูดจบน้ำตาหนุ่มหุ่นล่ำก็ร่วงหล่นยากเกินกว่าจะควบคุมไว้ได้ ซึ่งพรชดาเข้าใจหัวอกของผู้จัดการหนุ่มที่ร่วมงานกันมานานเลยขยับเข้าไปกอดปลอดด้วยความสงสารปนเห็นใจ เธอทราบดีว่าที่คเชนทร์ทำงานหนักทุกวันนี้ก็เพื่อนำเงินไปรักษามารดาที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ และต้องผ่าตัดอยู่หลายครั้ง กระทั่งหลังๆมานี้อาการของท่านทรุดลงเรื่อยๆทำให้คเชนทร์เผลอแสดงความอ่อนแอให้เธอเห็นอยู่บ่อยๆ
“ไม่เป็นไรนะคะพี่เชนทร์ เราจะหาหมอที่ฝีมือดีที่สุดให้กับคุณป้า ถึงจะต้องย้ายโรงพยาบาลไปเป็นเอกชนเราก็จะทำค่ะ”
“แต่โรงพยาบาลเอกชนค่าใช้จ่ายสูงมากเลยนะครับน้องชดา”
คเชนทร์ผละออกจากร่างบางพลางมองใบหน้างดงามด้วยความรู้สึกกังวลใจอย่างปิดไม่มิด ที่ผ่านมาเงินเก็บและเงินที่เขาหามาได้ก็นำไปรักษามารดาเกือบจะหมดแล้ว ถ้าหากต้องย้ายโรงพยาบาลจากรัฐเป็นเอกชนเขาไม่รู้ว่าจะสู้ราคาไหวหรือเปล่า แต่ดูเหมือนพรชดาจะเข้าใจความกังวลนั้นเลยเอ่ยขึ้นเพื่อให้อีกฝ่ายคลายกังวล
“พี่เชนทร์ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายนะคะ เดี๋ยวชดาจะรับผิดชอบทั้งหมดให้เอง”
สำหรับคนอื่นที่ได้ร่วมงานกับนางเอกสาวจะเห็นเธอเป็นผู้หญิงแรงและร้าย แต่สำหรับคเชนทร์แล้วเธอนั้นมีเมตตาไม่ต่างจากนางฟ้า เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พรชดายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ หากแต่เธอมักจะช่วยโน้นนี่เป็นประจำ จนเขาเองรู้สึกเกรงใจ หลายๆครั้งเลยไม่อยากจะเล่าปัญหาส่วนตัวให้เธอฟัง เพราะหากเธอทราบเรื่องก็จะต้องช่วยหาวิธีแก้จนได้นั่นเอง
“ทำไมน้องชดาถึงต้องดีกับพี่ขนาดนี้ด้วยละครับ”
คเชนทร์ถามหญิงสาวด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ น้ำตาที่ร่วงหล่นเมื่อครู่นั้น ตอนนี้ไหล่เป็นสายด้วยความซาบซึ้งใจ
“ก็เพราะพี่เชนทร์ดูแลชดาเป็นอย่างดีมาตลอดยังไงละคะ พี่เชนทร์เป็นเหมือนพี่ชายที่แสนดีของชดา เพราะฉะนั้นแม่พี่ก็เหมือนแม่ชดา ถ้ามีอะไรช่วยได้ชดาก็ยินดีทำให้ทั้งนั้น”
หญิงสาวพูดพร้อมกับยกมือเล็กขึ้นมาเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มสากๆของผู้จัดการหนุ่มเบาๆ ความอ่อนโยนนี้คเชนทร์รู้ดีว่าตนจะไม่ได้รับจากใครที่ไหนอีกแล้ว นอกจากดาราสาวที่เขาเฝ้าดูแลเธอเหมือนน้องสาวที่น่ารักคนนี้
“ขอบคุณมากนะครับน้องชดา”
พรชดาส่งยิ้มให้กับอีกฝ่ายพลางบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มเป็นการเตือนสติ
“หยุดร้องได้แล้วนะคะพี่เชนทร์ เพราะวันนี้เราจะไปเยี่ยมคุณป้า แล้วทำเรื่องย้ายโรงพยาบาลให้ท่าน ถ้าพี่เชนทร์ร้องให้แบบนี้เกรงว่าคุณป้าท่านจะไม่สบายใจนะคะ”
“ครับน้องชดา”
แม้จะรับปากเธอไปแบบนั้น แต่ก็ยังไม่อาจควบคุมน้ำตาแห่งความดีใจและตื้นตันได้ จนพรชดาต้องดึงร่างหนาของผู้จัดการหนุ่มมาปลอบใจอีกครั้ง และรอจนกระทั่งเสียงสะอื้นของอีกฝ่ายสงบลงจึงผละออกห่าง
“พี่เชนทร์ไปล้างหน้าล้างตาก่อนนะคะ เสร็จแล้วเราค่อยเดินทางไปโรงพยาบาล”
“ครับน้องชดา”
คเชนทร์พยักหน้ารับคำ ก่อนจะลุกขึ้นเดินตรงไปยังห้องน้ำของคฤหาสน์หรูที่อยู่ไม่ไกลจากห้องรับแขก โดยมีสายตาคู่สวยมองตามพลางระบายยิ้มอ่อน
‘ชดาจะไม่ปล่อยให้พี่ต้องสู้ตามลำพัง ชดาจะอยู่เคียงข้างพี่เอง’
นั่นเป็นสิ่งที่พรชดาตั้งใจจะทำให้กับพี่ชายที่แสนดีคนนี้ สมกับที่อีกฝ่ายดูแลและปกป้องเธออย่างดีตลอดมา