มาร์คที่กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานเปิดแฟ้มเอกสารอ่านรายละเอียดไปพลางๆ ระหว่างรอเข้าประชุมในช่วงบ่าย และก่อนที่จะได้ทำอะไรก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเสียก่อน เป็นเบอร์ของคนรักที่โทรเข้ามาและโดยปกติเด็กสาวจะไม่โทรมาในเวลานี้ แสดงว่าอาจจะมีธุระด่วน ชายหนุ่มรีบวางทุกอย่างตรงหน้าลงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดรับสายในทันที
"ว่าไงคะคนเก่งโทรหาพี่เวลานี้มีธุระด่วนอะไรหรือเปล่า"
(พี่มาร์คว่างหรือเปล่าคะ ตุ้ยนุ้ยมีข่าวดีจะมาบอกค่ะ)
เด็กสาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นอย่างเก็บอาการไม่อยู่ ซึ่งชายหนุ่มพอจะเดาออกเมื่อคืนเรื่องอะไรเพราะวันนี้เป็นกำหนดที่จะประกาศผลการสอบชิงทุนของมหาวิทยาลัยดัง แต่ถ้าเธอบอกว่ามันคือข่าวดีแสดงว่าสอบได้แน่นอน
"สอบติดใช่ไหมล่ะ"
(ทำไมรู้คะหรือว่าพี่มาร์คแอบไปดูผลก่อนตุ้ยนุ้ย)
เด็กสาวเอ่ยทักท้วงชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงงอแง อุตส่าห์รีบโทรศัพท์มาบอกข่าวดีกับเขาเป็นคนแรก แต่กลับดูไม่ตื่นเต้นอะไรเลย
"ก็หนูบอกว่ามันคือข่าวดีและวันนี้ก็เป็นกำหนดประกาศผลเดาได้ไม่ยากหรอก พี่คงต้องให้รางวัลซะแล้วล่ะ"
(รางวัลอะไรคะ ถ้าต้องเสียเงินเยอะไม่ต้องซื้อมาเลยนะคะแต่ว่าถ้าเป็นหอมแก้มตุ้ยนุ้ยจะรับไว้ค่ะ)
พูดไปก็เขินไปในความใจกล้าหยอดผู้ชายของตัวเอง และแน่นอนว่าหญิงสาวไม่ได้เขินเพียงคนเดียวเพราะอีกฝ่ายก็แสดงอาการออกทางสีหน้าไม่น้อยกว่ากัน
"อยากให้มากกว่านี้อีกแต่ติดที่หนูยังเด็กอายุยังไม่ถึง 18ปี เพราะฉะนั้นติดไว้ก่อนถ้าถึงเวลาเดี๋ยวให้"
ใบหน้าเล็กเลิกคิ้วด้วยความสงสัยในประโยคคำพูดของชายหนุ่ม คำพูดกำกวมนั้นทำให้หญิงสาวเตลิดคิดไปไกล
(พี่มาร์คกำลังลามกใส่ตุ้ยนุ้ยหรือเปล่าเนี่ย ระวังคุกเด้อพรากผู้เยาว์นะ)
ตุ้ยนุ้ยเตือนสติชายหนุ่มและทำให้เขาถึงกับสำลักน้ำที่กำลังยกขึ้นดื่ม
"หนูอ่ะช็อตฟีลพี่ตลอด น้อยใจแล้วนะ"
เสียงหัวเราะสนุกสนานจากเธอทำให้ชายหนุ่มเผลอยิ้มออกมา หลังจากนี้คงต้องเตรียมตัวหลายอย่าง เพราะว่าเขาเองก็โกหกไว้ไม่ใช่น้อย และเขาจะไม่ยอมให้ความลับแตกในเร็ว ๆนี้แน่นอน รอให้ทุกอย่างพร้อมก่อนเขาถึงจะบอกความจริงกับคนรักทุก ๆอย่าง
(อีก 2 เดือนน่าจะได้ไปเรียนแล้วค่ะ นี่ก็สอบเสร็จแล้วเหลือเคลียร์งานนิดหน่อยยื่นจบได้เลยค่ะ)
"อย่างนั้นเหรอ ว่าแต่วันเกิดหนูวันไหนนะ"
ชายหนุ่มเอ่ยถามอยากแกล้งหยอก ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเด็กสาวจะอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ในวันไหน ก็แค่อยากเตือนความจำเธอสักเล็กน้อยก็เท่านั้น
(จำไม่ได้เหรอคะน้อยใจนะ)
เธอรู้ว่าเขาเองจดจำได้เพราะว่าวันเกิดเขาก็ยังอวยพรวันเกิดให้ในทุกปี แต่ปีนี้น่าจะพิเศษกว่าปีอื่น ๆเพราะว่าเขาจะไม่โดนข้อหาพรากผู้เยาว์เหมือนเช่นที่เธอชอบพูดแซวเขาในเวลาที่ผ่านมา
"ไม่มีทางที่พี่จะจำไม่ได้ รอรับของขวัญจากพี่ได้เลยค่ะรับรองว่าหนูจะจำจนวันตายเลย"
(ขอปฏิเสธไม่รับนะคะ ดูท่าทางไม่น่าไว้ใจเลย)
หญิงสาวเริ่มระแวงในประโยคจำจนวันตายของชายหนุ่ม เพราะเริ่มรู้สึกว่ามันมีอะไรอยู่ในประโยคนั้น
"ฮ่าๆ งั้นพี่ทำงานต่อนะคะ แล้วก็ขอแสดงความยินดีด้วยที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ แถมยังได้ทุนเรียนฟรีอีก ตุ้ยนุ้ยของพี่เก่งที่สุดเลยค่ะ"
(ขอบคุณนะคะที่อยู่เป็นกำลังใจให้กันมาตลอด อีก 2 เดือนเจอกันค่ะพี่มาร์ค พาตุ้ยนุ้ยไปกินของอร่อยด้วยนะคะ)
และเมื่อเจอประโยคออดอ้อนจากคนรักทำให้เขาไม่อยากวางสายจากเธอเลย อยากจะคุยให้นานที่สุดแต่ก็ต้องอดทนเพราะว่างานที่อยู่ตรงหน้ากองเป็นเนินภูเขา
"คืนนี้โทรหาพี่ด้วยนะคะวิดีโอคุยกัน"
(ได้ค่ะงั้นตุ้ยนุ้ยว่างนะคะจะรีบไปบอกข่าวดีกับคุณพ่อคุณแม่ก่อน จะได้คุยกันเรื่องที่ต้องย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพฯด้วย)
"ถึงบ้านแล้วส่งข้อความมาบอกพี่ด้วยนะคะ"
(ได้ค่ะวางแล้วนะคะจุ๊บๆ)
เด็กสาวกดวางสายก่อนจะวางโทรศัพท์ทิ้งไว้ที่โต๊ะ จากนั้นรีบเดินลงไปชั้นล่างเพื่อแจ้งข่าวดีกับคุณพ่อคุณแม่ให้ทราบเกี่ยวกับการสอบชิงทุนของเธอ
และเมื่อลงมาถึงก็เจอคุณพ่อกับคุณแม่กำลังนั่งคุยกันอยู่ในห้องรับแขก ใบหน้าร่าเริงแจ่มใสยิ้มแย้มออกมาทำให้คนเป็นพ่อแม่อดแปลกใจไม่ได้
"ยิ้มอารมณ์ดีอะไรลูกสาวของแม่ มีข่าวดีอะไรหรือเปล่า"
"ตุ้ยนุ้ยสอบชิงทุนได้ค่ะ พ่อกับแม่ดีใจไหมคะหนูทำสำเร็จแล้วค่ะ"
ผู้ใหญ่ทั้งสองคนหันมามองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ตุ้ยนุ้ยคือลูกสาวคนเดียวและเป็นความภูมิใจของครอบครัวมาตลอด ไม่เคยทำให้พ่อแม่ผิดหวังแม้แต่สักครั้งในชีวิตนี้
"ไหนมาให้พ่อก่อนหน่อยซิคนเก่ง"
เด็กสาวรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดคุณพ่อหอมแก้มฟอดใหญ่อยากเอาอกเอาใจ และที่เธอพยายามทุกอย่างก็เพื่อให้ครอบครัวภูมิใจในตัวของเธอ ยิ่งเห็นรอยยิ้มของคุณพ่อกับคุณแม่ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขมากที่สุด
"ตุ้ยนุ้ยทำเพื่อพ่อกับแม่เลยนะคะ"
"เก่งมากเลยลูก เดี๋ยวหนูดูคอนโดใกล้ๆมหาวิทยาลัยนะเลือกที่มันปลอดภัยหน่อยแล้วก็เดินทางสะดวกจะได้ไม่ลำบากในการเดินทาง"
"เราต้องไปรายงานตัววันไหนพ่อกับแม่จะได้เตรียมตัวแล้วก็เตรียมเงิน"
ทั้ง 3 คนเริ่มวางแผนในการให้ลูกสาวเดินทางไปเรียนมหาวิทยาลัยในอีก 2 เดือนข้างหน้า ไหนจะเรื่องที่อยู่ อาหารการกิน และการเดินทางไปเรียนในแต่ละวัน ถ้าจะให้ใช้รถก็เกรงว่าจะอันตรายสำหรับเด็กที่ไม่เคยออกไปไหนเพียงลำพัง
"อีก 2 เดือนค่ะเดี๋ยวเขาจะส่งกำหนดการมาอีกที มีค่ารายงานตัว 5,000 บาทค่ะส่วนค่าเทอมมหาวิทยาลัยจ่ายให้เรียบร้อยแล้ว"
"ถูกลงเยอะมากเลย ถ้าเกิดหนูไม่ได้ทุนเรียนฟรีจะต้องจ่ายค่าเทอมแพงขนาดไหนกัน"
"ที่หนูเห็นนะคะเทอมละ 80,000 บาทค่ะ แพงมาก ๆเลยค่ะโชคดีที่เขามีสอบชิงทุนเรียนดีจึงมีโอกาสให้คนที่เรียนเก่งแต่ขาดทุนทรัพย์ได้เรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยดีๆเหมือนกับคนอื่น"
และพอพูดมาถึงตรงนี้คนเป็นพ่อก็รู้สึกผิดที่ทำให้ลูกสาวและภรรยาต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก ทั้งที่เขาเองมีสมบัติมากมายแต่เสียรู้ให้กับเพื่อนทรยศเพียงคนเดียว ต้องมานั่งใช้หนี้เป็นจำนวนเงินหลาย 10 ล้านบาท ทำให้ครอบครัวลำบากไปด้วย
"พ่อขอโทษนะที่ทำให้หนูกับแม่ลำบาก ถ้าเกิดว่าพ่อไม่..."
"ไม่ต้องพูดถึงมันอีกค่ะมันผ่านไปแล้วและหนูเองก็ไม่ได้ลำบากอะไรเลย เป็นว่าวันนี้เรามาฉลองด้วยการกินหมูกระทะกันดีไหมคะตุ้ยนุ้ยอยากกิน"
"ได้เลยค่ะเดี๋ยวแม่กับพ่อจะออกไปซื้อและทำให้กินเย็นนี้นะ"
เย้ ๆน่ารักที่สุดเลยค่ะขอบคุณนะคะ"
"ก็หนูน่ารักแบบนี้พ่อกับแม่ให้ได้ทุกอย่างแหละ"
ทั้ง 3 คนสวมกอดกันแน่น ครอบครัวสุขสันต์กับข่าวดีที่ได้รับในเวลานี้ ความภูมิใจของคนเป็นพ่อแม่ไม่มีอะไรมากเพียงแค่เห็นลูกประสบความสำเร็จในทุกช่วงชีวิตของตัวเอง ได้ทำในสิ่งที่คาดหวังและสำเร็จเพียงแค่นี้คนเป็นพ่อแม่ก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
"ถ้างั้นหนูไปนอนก่อนนะคะ อ่านหนังสือสอบทุกคืนเลยเหนื๊อยเหนื่อยค่ะ ขอพักสมองหน่อย"
"ไปเถอะลูกรีบไปแล้วเดี๋ยวพ่อกับแม่จะรีบออกไปซื้อหมูกระทะมาทำกินกันเย็นนี้นะ"
"ขอบคุณค่ะรักพ่อกับแม่ที่สุดเลย"