-1-
@ผับ H2O
“มึง 9 นาฬิกางานดีงานละเอียด”
“พนันกับกูมั๊ยชะนีว่าเป็นเก้งชัวร์”
กาย่า(ชื่อพ่อแม่ตั้งให้ชื่อกายโตเป็นสาวกระเด๊ะจะชื่อกาย่า) ฟันธงด้วยหน้าตามั่นอกมั่นใจ
ส่งผลให้สาลี่หน้างอด้วยความผิดหวังก็วันนี้เรดาร์นางพังหรืออะไรไม่รู้ อิสาแมร่งมองเก้งเป็นผู้ชายหลายคนแล้ว
“มึงด้านหลัง มึงอย่าพึ่งหันไปมองนะ”
พรึบ!
พวกนี้มันไม่เข้าใจคำว่าอย่าพึ่งหันรึไงวะตอนนี้เลยกลายเป็นทั้งโต๊ะฉันหันมองผู้ชายที่พึ่งเดินเข้ามาใหม่อย่างพร้อมเพรียงกัน
“เหยด หล่อวะมิน”
“เออ พ่อเทพบุตร”
เอาเข้าไปมองเขายังไม่พอยังจะทำสายตาเคลิบเคลิ้มกันอีก
“พวกมึงเลิกมองเขาได้แล้ว”
ฉันรีบดึงเพื่อนให้หันกลับมา
“มึงๆเขาหันมาวะ”
เสียงกายทำให้ฉันเผลอเงยหน้ามองและเป็นจังหวะเดียวกับที่เขาหันมาพอดี
เขากระตุกยิ้มมุมปากนิดนึงก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ
“กูว่าอิมินได้”
“ไร้สาระน่าพวกมึงแดกๆกูชวนมาแดกเหล้าสัสไม่ใช่มามองผู้”
“มึงเป็นคนชี้ค่ะ”
เออจริง แหะๆฉันเป็นคนชี้นี่นาแต่ก็ช่างเถอะฉันไม่สนใจเอาคนหล่อในร้านเหล้าทำผัวหรอกเพราะฉันไม่อยากได้คนสันดานเดียวกัน สงสารสังคมฮ่าๆ
“อิมินเขามองมึงตลอดเลยอะ”
“ใครวะ”
สาลี่สะกิดฉันขณะกำลังชงเหล้าให้ดูผู้ชายคนเมื่อกี๋
พอฉันเงยหน้าขึ้นเขาทำให้สบตากับเขาพอดีดวงตาคมกริบนั่นเต็มไปด้วยความสงสัยจนฉันเดาไม่ออกเลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“เจ๊ครับโต๊ะนั้นเขาต้องการพบเจ้าของร้านครับ”
ตรีลูกน้องฉันเดินเข้ามาบอก อ๋อ ไม่ต้องแปลกใจผับนี้เป็นของฉันและพี่ชายฉันเอง
“พี่วิสกี้ไปไหน”
“เฮียไปอเมริกาไงครับ”
เออวะลืมไปเลย
“แล้วเขาจะพบเจ้าของทำซากอะไรบอกไปเจ้าของไม่อยู่”
“เอ่อ จะดีหรอครับเจ๊”
“เออดี”
ฉันตอบปัดลูกน้องด้วยความรำคาญ
“แต่นั่นคุณฌอณเลยนะเจ๊”
“จะฌอณจะแฌณก็ไม่สนใจทั้งนั้นแหละรอมันอยากเหมาร้านก่อนแล้วค่อยมาเรียก”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลยกูอยากเหมาอยู่พอดี”
ทั้งโต๊ะหันขวับอย่างรวดเร็วไปทางต้นเสียงรวมถึงฉันด้วย
นายหน้าหล่อคนที่เรามองกันตอนแรกยืนล้วงกระเป๋าอยู่ด้านหลังฉันพร้อมลูกน้องอีกสองคน
“คุณฌอนครับนี่แหละครับคุณมินิมาร์ทเจ้าของผับ”
“มินิมาร์ท?”
เขาทวนชื่อฉันด้วยหน้าตาสงสัยก่อนจะยิ้มออกมา
ทำไมวะชื่อมินิมาร์ทมันผิดตรงไหนแค่แม่คลอดฉันในมินิมาร์ทเอง
“ต้องการอะไร”
“ขอคุยเป็นการส่วนตัว”
“ไม่ได้”
ฉันตอบทันทีแทบไม่ต้องคิด คิ้วเขากระตุกถี่เหมือนพยายามข่มอารมณ์ตัวเองเพราะโดนปฏิเสธ
“กูอยากได้อะไรก็ต้องได้”
ฌอณดึงฉันยืนขึ้นก่อนจะกระซิบลงข้างหูด้วยน้ำเสียงเย็นๆ ยอมรับว่าแอบกลัวแต่นี่ถิ่นฉันจะกลัวทำไม
“กูบอกว่าไม่ก็คือไม่”
มึง กูมาฉันก็คงต้องภาษาพ่อขุนกลับไปเหมือนกัน
ฉันเเละเขายืนจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใครจนกาย่าต้องเข้ามาแยก
“อ่าคุยกันดีๆนะจ๊ะ สุดหล่อนั่งก่อน อิมินลูกค้านะมึงนั่งคุยดีๆ”
ประโยคแรกกาย่าหันไปยิ้มฉอเลาะกับฌอมส่วนประโยคหลังมันหันมาบอกฉันพลางดึงให้ฉันนั่งลง
“ไม่เป็นไร ขอบคุณ”
ฌอมพูดแค่นั้นก่อนจะเดินออกไปจากโต๊ะฉันพร้อมลูกน้อง
เขากลับไปนั่งโต๊ะเดิมคราวนี้เขาเอาแต่นั่งจ้องฉันตาเขม็งแต่มีหรอคนอย่างมินิมาร์ทจะสนใจก็แค่ผู้ชายกร่างคนนึงล่ะวะ
“มินมึงกลับคนเดียวได้แน่นะ”
สาลี่ถามด้วยสีหน้าเป็นห่วงคงเป็นเพราะวันนี้ฉันดื่มหนักไปหน่อยก็เพราะอิคุณฌอนอะไรนั่นแหละเห็นหน้าแล้วอารมณ์เสียฉันเลยดื่มย้อมใจ
“เออ มึงนอนที่ผับมั๊ยอิมิน”
ฉันโบกมือไปมาทำท่าโอเคเพื่อแสดงให้เพื่อนดูว่าไหว
“กูโอเคอันที่จริงกูลืมเอาคีย์การ์ดห้องที่ผับมาปกติใช้ของพี่วิสนี่หว่า”
“มึงนี่นะจริงๆเลยอิมิน มึงเป็นผู้หญิงนะโว้ยมึงควร บลาๆ”
ก่อนกระเทยจะกลายร่างเป็นพ่อฉันก็รีบดันให้มันขึ้นรถตัวเองเสียก่อนมันจะบ่นมากกว่านี้
“ถึงล่ะโทรบอกกูนะ”
ฉันพยักหน้ารับสาลี่ก่อนจะเดินไปยังรถตัวเอง อันที่จริงฉันไม่ได้เมาขนาดไม่มีสติขนาดนั้นคอนโดฉันอยู่ใกล้ผับแค่นี้เองขับไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง
~เพื่อนคนนึงแอบรักเธอเก็บงำรักนั้นอยู่ภายใน~
~ห่างแค่เพียงเอื้อมมือแต่มันก็แสนไกล ยิ่งเธอเป็นเหมือนเพื่อนสนิทยิ่งไม่มีสิทธิ์จะบอกไป~
วิทยุก็ช่างเปิดเพลงได้ตอกย้ำใจฉันในเวลานี้จริงๆ ฉันแอบรักเพื่อนสนิทตัวเองแหละ ไม่ใช่อิกาย่านะแต่เป็นพาสต้าต่างหาก
-กริ๊ง กริ๊ง-
นั่นไงพูดถึงก็โทรมาพอดีเลย
“ว่าไงต้า”
“ฮันนี่อยู่ไหนคะ”
นี่ไงเพราะมึงเป็นแบบนี้ไงกูถึงหลงรักมึงนี่เลิกทำกับกูแบบนี้สักทีได้มั้ย TT
“กำลังกลับคอนโดอะ”
“อ๋อโอเคนึกว่าอยู่คอนโดจะให้ลงมาเปิดประตูให้หน่อย”
“อ้าวต้าไปหามินที่คอนโดหรอ”
เห็นมั้ยบอกแล้วเพื่อนกันเขาไม่ทำกันแบบนี้หรอก ตีหนึ่งตีสองใครเขามาหากัน
“ป่าว พอดีต้าจะมาเซอร์ไพรส์น้องฟ้า”
เพล้ง!! ทั้งหมดคือกูคิดไปเองคนเดียวแหละ ใช่สิกูมันแค่เพื่อนนี่หว่าจะไปหวังอะไรวะ ไอมินิมาร์ท
“อ๋อๆอีกนานเลยอะกว่าจะถึงต้าบอกให้น้องลงมาเปิดประตูให้เถอะ”
คืออิน้องฟ้าอะไรนั่นฉันไม่รู้จักหรอกแต่นางอยู่คอนโดเดียวกับฉันคีย์การ์ดทางเข้าเลยใช้อันเดียวกันได้
“อืมต้าก็ว่างั้น ขับรถดีๆนะมินต้าเป็นห่วง”
ไปเป็นห่วงเมียมึงนู้นแค่นี้กูก็ทรมานจะตายอยู่แล้วอย่าเอากูไปอยู่ในห้วงนั้นเลย
“จ้ะ บาย”
~ขอให้ความรักมีแต่ความสุขใจ ไม่ว่าสิ่งไหนเข้ากันหมดทุกอย่าง~
เอาเข้าไป วิทยุเเมร่งเปิดเพลงตอกย้ำกูเข้าไป แง เศร้าแวะกินก๋วยเตี๋ยวหน้าซอยก่อนดีกว่าไม่อยากเข้าคอนโดตอนนี้เดี๋ยวเห็นภาพบาดตา
“ไงคุณเจ้าของผับ”
ฉันเงยหน้ามองเจ้าของเสียง เฮ้อ ทำไมเขาไม่เลิกราวีฉันสักทีวะคนกำลังเศร้าๆอยู่
“เลิกยุ่งกับฉันได้มะ”
“ไม่ได้ บอกแล้วกูอยากได้อะไรต้องได้”
“เออถ้าอย่างนั้นก็นั่งลง อยากได้อะไรก็บอกมา”
สุดท้ายฉันต้องบอกเขาออกไปอย่างจำใจ ตอนนี้กำลังเศร้าไม่มีอารมณ์ด่าคน
“อยากได้เมีย”
“แค่นี้เดี๋ยวหาให้”
“หมายถึงอยากได้เธอเป็นเมีย”
“ก็บอกว่าเดี๋ยวจัดการให้ไง ห๊าาา!!”
เมื่อประมวลคำพูดเขาได้ฉันแทบสำลักเส้นบะหมี่ออกมา เขาพูดว่าอะไรนะอยากได้ใครเป็นเมียนะ
“หึ เธอตกใจยังสวยเลย”
ฌอนกระตุกยิ้มพลางหยิบชิชชู่มาเช็ดปากให้พอได้สติฉันเลยปัดมือเขาออก
“ไม่ตลกเลยนะ”
“ก็ไม่ได้จะให้ตลกสักหน่อย เป็นแค่ไม่กี่เดือนเอง”
“เพื่อ?”
“เรื่องมันยาว”
“ไม่!! ยังไงคำตอบก็คือไม่แล้วไม่ต้องพูดอะไรอีกฉันหิวขอกินก่อน”
ฌอนเลิกคิ้วขึ้นนิดนึงเมื่อฉันพูดจบก่อนเขาจะดึงชามก๋วยเตี๋ยวออก ทำให้เส้นหมี่ห้อยต่องแต่งคาปาก
“สกปรก”
เขาพูดแค่นั้นก่อนจะยื่นหน้าเข้ามางับเส้นหมี่อีกด้านนึงเข้าปาก
ตอนนี้ฉันกับเขาเลยเหมือนกินเส้นหมี่เส้นเดียวกันแต่คนล่ะฝั่ง
“ฮันนี่!!”
เสียงเรียกที่คุ้นเคยทำให้ฉันรีบผละออกจากฌอน
“แค่กๆ อ้าวมาได้ไงต้า”
“ฮันนี่มากับใคร!”
“พี่ต้าคะฟ้าไม่อยากกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางแบบนี้”
ยัยเด็กฟ้าวิ่งดุ๊กๆเข้ามากอดแขนพาสต้าไว้แน่น แง เจ็บเหลือเกินเป็นภาพที่เจ็บปวดเหลือเกิน
“มินมากับผัวหนะ”
“ผัว?”
พาสต้ามองฉันกับฌอนสลับกัน สีหน้าบ่งบอกถึงความไม่เข้าใจ
“อืม นี่ฌอน ฌอนนี่พาสต้าที่เค้าชอบเล่าให้ที่รักฟังไงคะ”
ฌอนเบิกตากว้างมองฉัน ฉันเลยแอบเอื้อมมือไปหยิกเอวเขา
“อืมสวัสดี กลับเถอะกูเ****นแล้ว”
“ห๊ะ ง่วงแน่เลยที่รักหมายถึงที่รักง่วงใช่มั้ยคะ”
“หึหึ”
ไอบ้า ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก
“มินไปก่อนนะต้า”
พูดจบฉันก็รีบลากฌอนออกมาจากตรงนั้นทันทีไม่เปิดโอกาสให้พาสต้าได้ถามอะไรและไม่ลืมหยิบบะหมี่แห้งใส่ห่อมาด้วยดีนะที่สั่งใส่ห่อไว้นี่ยังไม่อิ่มเลย
——