Stage 5
ท้องฟ้ารอบกายเปลี่ยนจากสีรุ้งสลับเป็นสีแดงส้ม เมื่อผ่านด่านก่อนหน้าเข้าสู่สเตจใหม่ ครั้งนี้กลับให้ความรู้สึกแตกต่างจากครั้งก่อนอย่างยิ่ง
ร่างของผินอินบังเกิดแสงสีรุ้งสลับหมุนไปมารอบกาย จากด้านบนของร่างกายผ่านลงไปถึงปลายเท้า เปลี่ยนจากชุดซอมซ่อที่สวมกลายเป็นชุดของนางข้าหลวงระดับล่าง
เมื่อร่างของผินอินถูกประคองให้ลงเหยียบพื้นอย่างนุ่มนวล ด้วยความแตกต่างนี้ ถึงกับทำให้เจ้าตัวนึกค้อนจนต้องหลุดปาก
“แหม... ผลของการทำได้สกอร์สวยงามใช่ไหม ไหนจะยังสามารถผ่านด่านได้อย่างทันเวลาที่กำหนดอีก พามาส่งเหมือนนั่งเครื่องเชียวนะ” ผินอินยิ้มกริ่ม หน้าตาสดใส
เธอหันซ้ายหันขวา ปรากฏว่า รอบกายเป็นอาคารสิ่งปลูกสร้างขนาดกลางสามหลัง มีคนมากมายซึ่งแต่งตัวคล้ายคลึงกันยืนเรียงแถวเป็นจำนวนมาก ส่วนมากเป็นสตรี มีเป็นส่วนน้อยที่เป็นชายแต่งกายคล้ายทหาร
“เฮ... ที่นี่ คือในวังหลวงงั้นเหรอ?” ดวงตาสงสัย มันแตกต่างจากการที่อยู่ข้างนอกเกม และหลุดมาอยู่ข้างใน ทุกอย่างเสมือนจริง
ท้องฟ้าคล้ายกับหยุดนิ่ง เสียงจอแจรอบกาย แม้แต่นกที่กำลังโผบินกลางอากาศยังหยุดค้าง ผินอินนิ่วคิ้ว เธอแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
ตุ๊กตาหน้าจีนแก้มแดงโผล่ขึ้นมาเช่นเคย
[ ขอต้อนรับท่านผู้เข้าแข่งขัน สเตจนี้ มีชื่อว่าร้อยบุปผา ]
“ร้อยบุปผา ชื่อนี่นะ ถ้าไม่ตีความเป็นอย่างอื่นก็คงไม่ต้องแปลให้ยาก บุปผาก็แปลว่าดอกไม้ ร้อยบุปผา คงไม่ใช่ให้ร้อยดอกไม้หรอกนะ”
[ สเตจนี้ มีกติกาอยู่ว่า ต้องตามหาดอกไม้ให้ได้ทั้งหมดตามที่โจทย์กำหนด ในระยะเวลาที่กำหนด ]
“กะแล้วเชียว ไม่ร้อยดอกไม้ ก็ต้องมีอะไรที่เกี่ยวกับดอกไม้แน่ ๆ แล้วหลังจากนั้นล่ะ แค่หาดอกไม้มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นละมั่ง”
[ กติกาหลักมีเพียงที่แจ้ง ส่วนกติกาเสริมกรรมการผู้ควบคุมจะเป็นผู้แจ้งอีกครั้ง และเช่นเคยสเตจนี้ มีปุ่มตัวช่วย แต่จะมีเพียงปุ่มเดียวเท่านั้น ]
“มีปุ่มเดียว งั้นก็คงไม่ได้ยุ่งยากมากเท่าด่านก่อน ๆ ถ้าแบบนั้นก็ค่อยยังชั่ว” ความรู้สึกคือโล่งอก เธอหายใจพ่นออกมาเบา ๆ
[ ข้อควรระวัง อย่าทำผิดกติกา เพราะไม่เช่นนั้นจากคะแนนเดิมที่มีอยู่อาจถูกหัก เนื่องจากพิจารณาผลคะแนนตามกรรมการเสริมทักท้วง ]
“ว่าแล้วไง ไม่มีหรอกที่ไม่ยาก ถ้าวุ่นวายแบบนี้ แถมยังมีแค่ปุ่มช่วยตัวเดียว ท่าทางจะวุ่นวายน่าดู” เริ่มคิดหนักอีกครั้ง เกมก่อนหน้าที่ผ่านมา ผินอินก็สะบักสะบมกว่าจะรอดและผ่านด่าน
[ ในสเตจนี้กำหนดไอเทมช่วยชีวิตไว้สองประเภท
1 หยกขาวเพิ่มพลังชีวิตจาก 10 - 50 มีค่าเท่ากับ100 หยวน
2 หยกเขียวเพิ่มพลังชีวิตจาก 50 - 100 มีค่าเท่ากับ 1000 หยวน
3 หยกแดงเพิ่มพลังชีวิตจาก 100 - 500 มีค่าเท่ากับ 100 ตำลึงทอง ]
“เดี๋ยวนะ ๆ ทำไมรอบนี้ไอเทมช่วยชีวิตถึงได้เพิ่มพลังมากถึงระดับนั้น นี่คงไม่ได้แปลว่า ให้ไปเก็บดอกไม้ในเมืองบาดาลหรอกใช่ไหม?”
[ กติกาย่อม กรรมการจะเป็นผู้แจ้งอีกครั้ง ]
ตุ๊กตาแก้มแดงกำลังทำท่าจะเลือนหายไป ท่ามกลางความสับสน เพราะเค้าลางเรื่องราววุ่นวายเกี่ยวกับไอเทมกำลังทำให้ผินอินกังวล
“เดี๋ยวสิ เดี๋ยวสิ จะไปทั้งแบบนี้ไม่ได้นะ ไอเทมมากขนาดนี้ ไม่ใช่ด่านนี้ ฉันต้องไปชิงดอกไม้กับเง้กเซียนฮ่องเต้รึไงกันน่ะ ปัดโธ่! ไปเสียแล้ว!” ผินอินหัวเสีย และกังวลกับด่านที่จะต้องไปเจอ
แสงรอบกายเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เสียงจอแจและผู้คนเริ่มขยับกายเคลื่อนไหวตามปกติ
เสียงจากกรรมการ คือ ขันทีผู้คุมนางกำนัลประกาศขึ้น
“เหล่านางกำนัลใหม่ เข้าแถวมายืนด้านหน้า เรียงแถวจากเขียวไปขาว
เขียว คือ ผ่านการคัดเลือกคะแนนสูงสุด
เหลือง คือ ระดับกลาง
ส่วนขาว คือ ต่ำสุด”
ผินอินก้มลงมองเสื้อผ้าของตนเป็นอาภรณ์สีเขียวก็นึกกระหยิ่ม ที่แท้ผลจากการชนะแบบขาดลอยเข้ามาเมื่อด่านที่แล้ว ทำให้คะแนนของตนนำมาเป็นอันดับต้น ๆ
หากไม่นับรวมถึงเหล่าโปรแกรมของเกม ที่สร้างผู้เข้าแข่งขันร่วม ดีไม่ดีอาจจะมีแค่ตนเท่านั้นที่สามารถมาเป็นอันดับหนึ่ง
“แถวที่หนึ่ง สีเขียว”
ผินอินกำลังจะเดินไปเข้าแถว แต่กลับถูกขาของใครบางคนยื่นออกมาหวังจะขัดให้ล้มกลิ้ง
แต่ผินอินตาไวกว่ากระโดดข้ามขา พร้อมกับเหยียบลงไปบนหน้าแข้งข้างนั้น
“โอ้ย เจ้า... กล้าเหยียบขาของข้าเชียวรึ นางแพศยา!”
“นี่เจ้าเองหรอกหรือ?” ตาโตมองค้าง นางตามติดเป็นเจ้ากรรมนายเวร
ที่แท้คือบุตรสาวร้านถังเนี้ย นางเข้าประตูวังเข้ามาอีกคนหนึ่ง ทว่ากลับเป็นเพียงสายรอง เพราะชุดที่สวมเป็นสีเหลือง ซึ่งต่างจากที่ผินอินสวมสีเขียว ผินอินจึงได้มองแบบดูถูก
“ที่แท้เป็นเจ้า หน้าด้านเหลือทน ยังสู้อุตส่าห์ตามข้ามาถึงที่นี่อีก กัดไม่ปล่อยจริงเชียว!”
“ข้าตามมาเพื่อขัดขวางไม่ให้ชีวิตเจ้ามีความสุข เจ้าทำร้ายข้า ทำลายชื่อเสียงร้านของข้า ข้าจะตามจองล้างจองผลาญเจ้า”
“ถึงจะพูดเช่นนั้น ก็ต้องลองดูกันหน่อยล่ะ ว่าจะทำได้อย่างที่ปากพูดหรือไม่?”
ขันทีเฒ่าใช้ไม้ขนาดใหญ่ฟาดลงบนโต๊ะ เพื่อให้ทุกอย่างอยู่ในความสงบ
“การแข่งขันจะเริ่มนับจากบัดนี้ กติกาการคัดเลือกนางกำนัลระดับล่างเพื่อคัดตัวเข้าถวายงานยังตำหนักใน มีดังนี้”
ผินอินและบุตรสาวร้านถังเนี้ยเงี่ยหูฟัง
“กติกาคือ การเก็บดอกไม้หายากเพื่อถวายทำเครื่องหอมให้แก่พระพันปี”
“กติกาง่ายปานนี้เชียว ข้าเกิดและเติบโตที่นี่ มีหรือจะไม่รู้จักสถานที่หาดอกไม้ป่าหายาก ที่ขันทีเฒ่าพูดถึง” บุตรสาวร้านถังเนี้ยเอ่ยอย่างฮึกเหิม
ผินอินผู้ซึ่งรู้กติกาจากเกมมาสเตอร์ก่อนหน้ามาบ้างแล้ว ย่อมมิอาจลังเลใจจึงตั้งใจฟังกติกาเสริม
“กติกามีอยู่ว่า จะต้องเป็นเพียงดอกบัวหิมะสีแดงเท่านั้น”
“บัวหิมะสีแดง!”
“ผู้ใดสามารถเก็บบัวหิมะแดงมาทำเป็นเครื่องบำรุงผิวและเครื่องหอมให้แก่พระพันปีได้ครบจำนวนร้อยดอก จะได้รับเลื่อนขั้นเป็นนางกำนัลขั้นที่หนึ่ง”
“แล้วกำหนดเวลาเล่า?”
“ก่อนตะวันตกดิน หรือไม่ก็”
ขันทีเฒ่าหันหมุนกายกลับไป พร้อมกับคว้าเอาดอกธูปขนาดใหญ่ยักษ์ลงมาปักกลางกระถางที่เตรียมรอเอาไว้ก่อนหน้า
“หรือไม่ก็จนกว่าธูปก้านนี้จะไหม้หมดดอก”
“โอ้โห! นี่มันธูปหรือเสาวัดนะนั่น” ดวงตากลมโตแทบถล่นออกมา
“เมื่อทราบกติกาแล้ว เตรียมตัว ยืนแถวเรียงหน้ากระดาน จะเริ่มปล่อยตัวออกจากประตูวัง ณ บัดนี้”
[ Game Ready… Go! ]
---------------------------
เป็นกำลังใจให้ หลิวอี๋เหวิน ด้วยนะคะ
ฝากกดไลค์ กดแชร์ และให้หัวใจกันแบบรัว ๆ ด้วยนะ
กราบรอบทิศ สาธุ ภารกิจนี้ เพื่อพิชิตอันดับหนึ่งของ #ดรีม
#การประกวดนิยายภาษาไทยครั้งแรก