Stage 2 ขายไข่จ้า

1293 Words
Stage 2 ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนจากสีดำสนิทเหมือนกระดาษเป็นสีท้องฟ้าตามปกติ ผินอินกะพริบตาปริบ ๆ มองรอบกาย ในชุดมอซอสีขาวขุ่น ปรากฏตะกร้าไข่ไก่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ตัว “นี่มันอะไรกันอีก เรายังไม่ได้กลับไปโลกของเราอีกเหรอนี่ ด่านที่แล้วทำคะแนนไม่ถึงสินะ” ทำท่าไหล่ตกพร้อมถอนใจลั่น พลันรอบกายหมุนวนก่อนตุ๊กตาเด็กหน้าจีนแก้มแดงค่อย ๆ ชัดขึ้นกลางอากาศ [ สเตจนี้ คือด่านขายไข่ ผู้เข้าแข่งขันมีกติกาง่ายมาก เพียงแค่ขายไข่ให้ได้จำนวนเงินที่กำหนดไว้ ในเวลาที่กำหนด ] ปรากฏแถบสีเขียวขึ้นกลางอากาศอยู่บนศีรษะตนเอง พร้อมกันนั้นยังเห็นสกอร์คะแนน ซึ่งวัดเป็นค่าเงินอยู่ที่ศูนย์ “โอ้โห นี่ถึงกับมีสกอร์ปักหัวเลยเหรอ ไม่เกินไปหน่อยรึไง” [ เรียนท่านผู้เข้าแข่งขัน ไข่หนึ่งลูก มีราคาอยู่ที่สิบอีแปะ ต้องขายไข่ให้หมดภายในเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง ] “ไข่พวกนี้น่ะเหรอ?” หันไปมองตะกร้าไข่ที่วางบนโต๊ะ ทั้งหมดมีมากกว่าร้อยตะกร้า ผินอินตาโตมองค้างเช่นนั้น “มากมายเช่นนี้จะทำยังไงจึงจะขายได้ ต้องล้อเล่นแน่แล้ว” “นี่ เจ้าโปรแกรมเมอร์ ถ้าขายไม่หมดจะเป็นยังไงอีก” [ ท่านผู้เข้าร่วมแข่งขันจะสามารถ ใช้สกิลพิเศษ บนปุ่มสีน้ำเงินได้สามครั้ง แต่ละครั้งเป็นการใช้ไอเทม เพื่อสนับสนุนการขาย ] กลางอากาศปรากฏสมุดเล่มสีเงินมิลเลเนียมร่วงลงมา ผินอินรีบยื่นมือออกไปรับ หน้าเล่มเขียนไว้ชัดเจนอ่านง่าย “กติกาผู้เข้าแข่งขัน?” [ กติกาโดยรวม ระบุไว้โดยชัดเจนในเล่ม โปรดระมัดระวังการกระทำผิดกติกา เนื่องจากมีผลภาพรวมถึงคะแนน ] “อะไรกัน ขนาดลงมาเล่นเองยังต้องมีคู่มือกับกติกาอีก น่าเบื่อนัก” [ เกมจะเริ่มใน 5 4 3 2 ] “เดี๋ยวสิ เดี๋ยว อย่าเพิ่งยังไม่ได้เตรียมใจเลย” [ 1 ] Game Start! แสงสีส้มสลับสีรุ้งพุ่งขึ้นพร้อมเสียงเพลงเป็นจังหวะดนตรี เช่นสเตจที่แล้ว “โธ่! แล้วต้องไปขายยังไงละเนี้ย มีเป็นพันใบเลยละมั้ง?” ชาวบ้านเริ่มเดินเข้ามาขวักไขว่ในบริเวณ ไม่นานหน้าร้านในตลาดถูกเปิดเรียงตัวขึ้นนับสิบร้าน ผินอินแทบลมจับเพราะห้าในสิบร้านล้วนแต่เป็นร้านขายไข่ “อัยย่ะ แล้วแบบนี้จะขายแข่งได้ยังไง” นอกจากที่เห็นจำนวนร้านรวงมากมายยังได้เห็นกลเม็ดการชักชวนลูกค้า ผินอินยืนคล้องตะกร้าไข่นิ่งค้าง ก่อนหน้าชีวิตเป็นเพียงนักศึกษา ใช้ชีวิตไปวัน ๆ มีเพียงเกมในมือถือเป็นเป้าหมาย ถ้าเกมโอเวอร์ก็เพียงเริ่มใหม่ ทว่าตอนนี้กลับไม่ได้เป็นแค่เกม เดิมพันนี้คือชีวิตจริง ผินอินสะบัดหน้าไปมา “ไม่ได้ จะท้อไม่ได้ ถ้าอยากกลับไปมีชีวิตอีกครั้ง ต้องขายให้ครบตามจำนวน” หันซ้ายหันขวา แม้ไม่ทราบว่าตนต้องเริ่มต้นเช่นไร แต่สุดท้ายตัวเลขบอกเวลาที่ลดลงเรื่อย ๆ บนหัว นอกจากจะมองไม่เห็นทางอื่น คือการรีบขายให้หมด ตัดสินใจเริ่มเดินออกเร่ขาย “ไข่จ้า ไข่ ไข่สดใหม่ อร๊อย อร่อย” เดินเร่ไปจนอ้อมตลาดหนึ่งรอบ ตัวเลขบอกเวลาเริ่มลดลง “ไข่ในตะกร้ายังขายไม่ได้เลย เดินเร่ขายขนาดนี้ต้องทำยังไงนะ” ผินอินเริ่มท้อ เดินวนกลับมาจึงเห็นหน้าร้านของแต่ละร้านยังคงขายไข่ได้ เมื่อสังเกตเห็นว่าลูกค้าที่เดินแวะเวียนเข้าไป มักจะเป็นลูกค้าเก่า ลูกค้าขาประจำ อาจเป็นบอทภายในเกม เพื่อสร้างสถานการณ์ กดดันให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันรู้สึกตึงเครียด เอาเถอะ มันน้อยไปสิ งานโรงเรียนที่ผ่านมาผินอินเคยเป็นถึงตัวเต็งยืนหนึ่ง เรื่องเชียร์ขายของที่ระลึก เพื่อหาเงินเข้าทีม “เจ้าชุดสีซอมซ่อนี่ล่ะ ที่เป็นปัญหา เราต้องเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงให้สะดุดตา!” เริ่มจากการเดินเข้าไปในร้านขายผ้า “ท่านป้าข้าต้องการแลกชุดหนึ่งชุดกับไข่ไก่ทั้งตะกร้านี้ ท่านจะตกลงหรือไม่?” เถ้าแก่เนี้ยของร้านหันกลับมาพร้อมกับมองไข่ในตะกร้า “ตะกร้านั่น คู่ควรกับผ้าในร้านของข้างั้นรึ?” “ไม่คู่ควร” นางเลิกคิ้วสูง อ้าปากตวาดเสียงดัง “นางเด็กเหลือขอ เจ้าจงอย่าได้สามหาว ในเมื่อเจ้ารู้ทั้งรู้ว่าไข่ในตะกร้ามิคู่ควรผ้าในร้าน เจ้ายังมีหน้ามาบอกให้ข้าเอาผ้าในร้านของข้า กล้าต่อรองราคากับเจ้า” ผินอินจำเป็นต้องเล่นตามน้ำ เมื่อหลุดเข้ามาอยู่ในโลกเกมจีนโบราณ มันคงไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเข้ากับเนื้อหาของเกม กระแอมสองสามครั้ง จึงเริ่มพูด “ข้าเองก็มิได้คิดเช่นนั้น เพียงแต่ต้องการช่วยให้ท่านได้ลูกค้าเพิ่มก็เพียงเท่านั้น” “ร้านของข้าหาได้ซบเซา ข้างนอกร้านนั่นต่างหากที่ซบเซา” “หาเป็นเช่นนั้น เถ้าแก่เนี้ย ด้านนอกของร้านท่านที่ขายดีมีเพียงแผงเนื้อสัตว์ และไข่ไก่เท่านั้น หรือท่านมองเห็นว่าร้านรวงเหล่านั้นวางขายอาภรณ์เช่นท่าน” นางมิกล้าโต้แย้งแม้แต่คำเดียว “แล้วเจ้าจะบอกว่าร้านข้าขายไม่ดี เพราะมิมีคนเข้าร้านงั้นหรือ เพียงแค่มีคนสั่งซื้อผ้าจากข้าไปหลังร้าน ย่อมมีเงินมากมาย” “ถ้าเช่นนั้น หากข้าสามารถทำให้ร้านของท่านมีลูกค้าเพิ่มขึ้นได้ ท่านจะให้สิ่งใดตอบแทน” “นางเด็กเหลือขอ ลำพังเจ้าท่าทางซอมซ่อ จะเอาสิ่งใดมาล่อให้คนเข้าร้าน อีกอย่างร้านของข้ามิใช่ร้านกระจอกดังเช่นแผงลอยด้านนอก ข้าคือร้านผ้ามีชื่อที่สุดของเมืองหลวง” “ดีถ้าเช่นนั้น ท่านคงต้องเตรียมผ้าไว้เยอะหน่อย เพราะอีกไม่นานเมื่อใกล้ปีใหม่ ย่อมต้องมีคุณหนูจากตระกูลใหญ่มากมาย เข้าออกร้านผ้าทั่งเมืองหลวงเพื่อหาผ้าเนื้อดีไปตัดชุด” เถ้าแก่เนี้ยนางนั้นถึงกับเงียบไป “เจ้าจะทำเช่นไร?” “ขอเพียงข้าแลกไข่กับชุดของท่าน รับรองต้องมีลูกค้าเข้าร้านท่านมากมาย” “หากเจ้าทำไม่ได้ ข้าจะให้คนของข้าตีขาเจ้า” ชุดสีสันสดใสถูกนำมาวางภายในเวลาอันรวดเร็ว ผินอินรีบผลัดเปลี่ยนชุด ออกไปยืนหน้าร้านโดยใช้โต๊ะวางให้สูง ขึ้นไปยืนบนโต๊ะ แล้วร้องเพลงประกอบท่าเต้น เสียงร้องเพลงบวกท่าเต้นแปลกตาแบบงานเกา ทำให้คนที่เดินผ่านไปมารู้สึกแปลกตา อีกทั้งทำนองและท่าเต้นยังชวนสนุกครึกครื้น “ไข่จ้า ไข่ ไข่ของข้าคือ ไข่วิเศษ กินหนึ่งฟอง อายุยืนหนึ่งปี กินสิบฟองอายุยืนสิบปี!” “นางหนู มันจะเป็นไปได้ยังไง?” “ย่อมได้แน่นอน ข้าจะแสดงวิธีทำอาหาร เพื่ออายุยืนยาว ให้พวกท่านดูเป็นขวัญตา” ทั้งที่รู้ว่าหากต้องใช้สกิล คะแนนที่ได้จะไม่เต็มระดับ เวลากระชั้นชิดอีกทั้งจำนวนไข่มีมากนับร้อยตะกร้า เมื่อกดปุ่มสีน้ำเงินปุ่มแรกที่เป็นรูปทัพพีและตะหลิวไขว้กัน ปรากฏเครื่องมือพร้อมอุปกรณ์ทำอาหารจัดเซตขึ้นมาบนโต๊ะ ----------------------- เดี๋ยวมาต่อให้นะ เป็นกำลังใจให้ หลิวอี๋เหวิน ด้วยนะคะ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และให้หัวใจกันแบบรัว ๆ ด้วยนะ กราบรอบทิศ สาธุ ภารกิจนี้ เพื่อพิชิตอันดับหนึ่งของ #ดรีม #การประกวดนิยายภาษาไทยครั้งแรก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD