บทที่ 6 ข่มใจไม่ไหว

1341 Words
“ทำไมต้องคัดด้วยเล่า? เจ้าไม่คิดจะเอาแม่นางคนอื่นๆ มาให้ข้าเลือกบ้างเลยหรือ?” กังเฉินเลิกคิ้วเล็กน้อยพลางมองสำรวจห้องจันทราที่แม่เล้าเรียกขาน ห้องนี้กว้างขวางโอ่อ่าตกแต่งด้วยม่านและมุ้งสีฟ้าอ่อนดูงดงามสบายตา ด้านนอกหน้าต่างมองเห็นตรอกเล็กๆ ที่กังเฉินเดินเข้ามา เสียงพ่อค้าแม่ค้าร้องเรียกลูกค้ากันขรมไปหมด เสียงดนตรีจากด้านหน้าตรอกทั้งเครื่องสายและเครื่องเป่าดังลอยมาไม่ขาดระยะ เสี่ยวเอ้อเดินถือถาดที่มีสุราในเหยือกกระเบื้องเคลือบสีขาวงดงาม พร้อมทั้งจานกับแกล้มวางไว้บนโต๊ะกลมกลางห้อง “ท่านไม่ชอบหญิงงามบริสุทธิ์ผุดผ่องหรือเจ้าคะ?” “หืม!นางยังไม่เคยรับแขกหรอกหรือ?” กังเฉินรู้สึกว่าแม่นางที่นอนหลับใหลผู้นี้ผิวพรรณผุดผาด ใบหน้านวลเนียนก็ดูงดงามไม่น้อย องครักษ์หนุ่มนึกสงสัยว่าในยามที่นางลืมตาจะขึ้นมาจะสวยกว่ายามนอนหรือไม่? “ยังเจ้าค่ะ นางเป็นทาสที่ข้าเพิ่งซื้อมาเมื่อวานนี่เอง” “เอ๋?” กังเฉินแทบไม่เชื่อว่าหญิงสาวที่นอนอยู่ตรงหน้าเป็นเพียงทาสที่ถูกขายมา “นี่เจ้าค่ะ ข้ามีสัญญาซื้อขายอย่างถูกต้อง นายท่านตรวจดูได้เลย” กังเฉินอ่านสัญญาซื้อขายทาสก็พบว่ามีความถูกต้องแต่เมื่อหันไปดูนางอย่างไรก็ ไม่เหมือนกับสตรีที่ฐานะยากจน นิ้วมือของนางเรียวขาวผุดผ่อง ผิวเนียนเช่นนี้น่ะหรือจะเป็นทาส? ชายหนุ่มหันไปตกลงราคากับแม่เล้าสุยเรียบร้อย ดีว่าที่นี่เป็นหอคณิกาเถื่อนเปิดใหม่ นางจึงยินดีขายสตรีที่นอนอยู่ตรงหน้าเขาในราคาเพียงสองพันตำลึง เดิมทีกังเฉินไม่คิดจะจ่ายเงินจำนวนมากถึงเพียงนั้น ที่เขาวางแผนเอาไว้กับเหล่าองครักษ์เสื้อแพรก็คือเขาจะเข้ามาดูลาดเลากับจงเหยียน เมื่อสำรวจดูคร่าวๆ ว่าที่นี่น่าจะขังสตรีที่จับมาไว้ที่ใดจึงค่อยเรียกคนบุกเข้ามาจับกุม สำนักมือปราบเมืองหลวงในวันนี้ก็รอฟังสัญญาณอยู่หน้าตรอกหลายคน เพียงแต่ยังมิให้กองกำลังมาป้วนเปี้ยนให้เอิกเกริกเท่านั้น เมื่อหญิงมากจริตผู้นั้นออกจากห้องจันทราไปแล้ว กังเฉินจึงเดินไปนั่งยังโต๊ะกลมรินสุราลงดื่มหมายจะรอให้นางตื่นขึ้นเพื่อสอบถามความเป็นมาของนางให้ชัดเจน ครั้นดื่มไปสองจอกกังเฉินรู้สึกว่ากลิ่นสุรานี้ดูจะผิดปกติ เขาจึงหยุดดื่ม ขณะนั้นร่างอรชรที่นอนอยู่บนเตียงก็ผุดลุกขึ้นนั่งทั้งที่ยังลืมตาแทบไม่ขึ้น นางยันกายลุกขึ้นนั่ง ร่างกายของซุนลี่มี่ยังคงรู้สึกปวดเมื่อยอยู่บ้างทว่าความรู้สึกร้อนภายในที่นางไม่คุ้นเคยดูเหมือนจะแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ‘โอ๊ย! ทำให้ข้าร้อนเช่นนี้!’ นางปลดเปลื้องอาภรณ์ที่ไม่คุ้นเคยออกจนหมดเหลือเพียงเอี๊ยมตัวน้อยกับกางเกงสีขาวบาง “อิ๋งอิ๋ง ข้าหิวน้ำ!” นางร้องเรียกสาวใช้ด้วยความเคยชิน กังเฉินที่นั่งหันข้างให้เตียงใหญ่หันขวับไปก็ตกใจยิ่งนัก สตรีที่เขารอให้ตื่นยามนี้นางแทบจะเปลือยกายล่อนจ้อนนั่งหลับตาร้องเรียกให้คนหาน้ำดื่มไปให้ มือข้างหนึ่งก็นางยื่นมาข้างหน้า กังเฉินมองซ้ายมองขวามีกาน้ำชาวางอยู่บนโต๊ะเล็กที่วางชิดผนัง ชายหนุ่มจึงลุกไปรินน้ำชาใส่จอกเล็กถือเข้าไปใส่มือให้นาง เขาตกตะลึงเมื่อได้เห็นว่าเอี๊ยมสีขาวที่นางใส่แม้จะมีลายปักรูปดอกบัวอยู่บ้างแต่ตัวผ้านั้นโปร่งบางจนมองเห็นสองเต้างามตั้งอวดสายตา เม็ดยอดสีชมพูอ่อนดันผ้าเสียจนแทบทะลุออกมา ส่วนกางเกงตัวจิ๋วนั้นก็บางจนมองเห็นเนินน้อยที่มีแพรไหมปกคลุมอย่างชัดเจน กังเฉินกลืนน้ำลายลงคอหนึ่งอึก เขาเองก็มิใช่พระอิฐพระปูน ยามนี้สตรีอวบอิ่มเย้ายวนมาเปลือยกายอยู่ตรงหน้า อยากจะท่องคาถาข่มใจบทใดก็คงจะเลอะเลือนเสียแล้ว “แม่นาง เจ้าสวมเสื้อผ้าก่อนดีหรือไม่?” นางดื่มน้ำไปจนหมดจอกแล้วลืมตาขึ้น ร่างกายที่รุ่มร้อนจนใบหน้าและลำคอ แดงก่ำเรียกร้องให้นางต้องการผู้ปลดเปลื้องสักคน นางผวาเข้าหาบุรุษตรงหน้าทันที “ท่าน ท่านมานั่งตรงนี้ที” ซุนลี่มี่ดึงข้อมือของกังเฉินให้เข้าไปใกล้ กังเฉินที่มัวแต่เบือนหน้าไปอีกทางเพราะเกรงนางจะอายจึงมิได้ระวัง ตัวเขาเซถลาไปนั่งบนขอบเตียงปลายเท้าแทบจะลอยขึ้นทั้งสองข้าง ร่างกำยำแนบชิดกับทาสสาวผู้นั้นโดยมิได้ตั้งใจ ต้นแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามชนกับทรวงอกนุ่มของนางจนรู้สึกถึงแรงเด้งดึ๋งได้ เอื๊อก! เสียงกลื้นน้ำลายของกังเฉินมิได้ทำให้นางได้สติ ร่างของนางพยายามจะเบียดเข้าหาชายหนุ่ม สองแขนของนางยกขึ้นกอดคอเขาไว้ “ท่านมาช่วยข้าใช่หรือไม่?” น้ำเสียงของนางกระเส่า “ข้าร้อนมากท่านดูสิ! ร้อนจนอยากจะถอดเสื้อผ้าออกให้หมดเลยเทียว” กังเฉินที่อยู่ในท่าเอียงกะเท่เร่ มือหนึ่งค้ำบนฟูกนอน พยายามจะยันตัวออกห่าง เขาดูอาการของนางแล้วรู้สึกว่านางคงจะถูกวางยาปลุกกำหนัดเป็นแน่ “แม่นาง เจ้าตั้งสติไว้ หากว่าเจ้าถูกวางยาข้าจะช่วยเจ้าออกไปจากที่นี่” องครักษ์หนุ่มพยายามคว้าเสื้อที่นางถอดทิ้งมาช่วยห่มคลุมร่างนางไว้ ทว่านางกลับไม่ยินยอมอยู่นิ่งริมฝีปากของนางทาบเข้าที่ซอกคอของชายหนุ่ม “ท่านอุ่นเหลือเกิน! ชะ ช่วยกอดข้าที” กังเฉินรู้สึกร่างกายส่วนล่างของเขาตอบสนองต่อความรู้สึกที่มีต่อนางในทันที ท่อนเนื้อของเขายืดตรงแข็งขึง ตัวเขาเริ่มรู้สึกปวดช่วงล่าง ร่างกายร้อนผ่าว “แย่แล้ว! ข้าก็ถูกวางยาเช่นเดียวกัน” ชายหนุ่มพยายามสกัดกั้นร่างกายทว่ายิ่งพยายามข่มกลั้นก็ยิ่งปวดร้าว ขณะที่เขาพยายามต่อสู้กับความปรารถนาเร้นลับที่ขยายตัว พลันพบว่านางทึ้งเอาเสื้อตัวนอกกับเสื้อตัวในของเขาหลุดลุ่ยจนส่วนหน้าอกเปลือยเปล่า ริมฝีปากของนางพรมจูบเปะปะไปทั่วตั้งแต่ซอกคอไปจนถึงช่วงอกและช่องท้อง “มะ มะ แม่นาง เจ้าตั้งสติหน่อยเถิด เจ้าทำเช่นนี้ข้าเองก็จะทนไม่ไหว!” สายไปเสียแล้ว! ซุนลี่มี่ก้มลงมองเห็นส่วนที่ตุงกางเกงขึ้นมา กังเฉินเห็นสายตาของนางจ้องส่วนสำคัญของตนเองก็ปล่อยแขนข้างที่ค้ำพื้นขึ้น พลิกร่างนอนหงายใช้สองมือกุมส่วนนั้นเอาไว้ ใบหน้าของเขาร้อนผ่าวจนแดงก่ำไปหมด ซุนลี่มี่โถมร่างมาทับอยู่ข้างบนหน้าขาจนกังเฉินร้องเสียงหลง “โอ๊ะ! แม่นางเจ้าลงไปก่อน อย่ามาขี่ข้า!” ซุนลี่มี่ในยามนี้ไม่ฟังสิ่งใดทั้งนั้น นางโน้มลงแนบร่างกอดชายหนุ่มแล้วทาบทับริมฝีปากกับเขาทันที กังเฉินที่ระอุไปทั่วร่างถูกจุดไฟพิศวาสขึ้นจนไม่อาจจะดับลงได้ เขาปล่อยมือที่กุมเจ้างูใหญ่หว่างขาของตนออกแล้วลูบไล้หลังไหล่เปลือยเปล่าของนาง ร่างแข็งแรงพลิกนางกลับไปข้างใต้ เขาดันลิ้นแทรกผ่านริมฝีปากนางเข้าไปชิมความหวานของหญิงงามที่เบียดร่างเข้าหาเขาไม่ลดละ *************** ไรท์แนะนำ...อีบุ๊กเรื่องนี้มีให้โหลดทาง mebmarket.com นะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD