19 : ไอหยา ! วันนี้ข้ามีเนื้อกินอีกแล้ว

2042 Words
เซี่ยซือซือเดินกลับมายังห้องครัวของบ้าน เห็นนางถานกำลังหิ้วเนื้อหมูหนึ่งก้อนขึ้นมา สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความสงสัย “นี่มันเนื้อหมูน้ำหนักสองจิน[1]ใช่ไหมซือซือ” “เจ้าค่ะท่านแม่ พวกข้าขาดเนื้อมาหลายปีแล้ว อยู่ที่บ้านหลังเก่าท่านย่าไม่เคยให้พวกข้ากินเนื้อเลยเจ้าค่ะ พอวันนี้มีเงินก็อยากซื้อเนื้อมาให้น้อง ๆ ได้กินบ้าง ท่านแม่ท่านอย่าหาว่าข้าใช้เงินเปลืองเลยนะเจ้าคะ น้อง ๆ ของข้าอยู่ในวัยกำลังโต พวกเขาควรได้กินของดี ๆ บ้าง” อย่าว่าแต่เนื้อเลยอาหารดี ๆ ยังหากินได้ยาก ส่วนใหญ่พวกนางสามพี่น้อง มักได้อาหารเหลือกินของทุกคนด้วยซ้ำ เพราะไม่มีบิดามารดาคอยหนุนหลัง ทุกคนจึงเอารัดเอาเปรียบอยู่ร่ำไป เจ้าของร่างเดิมเป็นคนไม่มีปากเสียง ถือเรื่องกตัญญูต่อผู้อาวุโสมาก่อน แม่เฒ่าเซี่ยบอกให้ไปซ้าย นางจะไม่มีวันไปทางขวาเด็ดขาด “ข้าจะไปว่าเจ้าได้อย่างไรซือซือ เงินนั้นเป็นของเจ้า ดีแล้วที่เจ้าคิดถึงเรื่องพวกนี้ น้องของเจ้ารวมถึงตัวเจ้าด้วยผ่ายผอมเกินไปจริง ๆ” นางถานวางเนื้อหมูที่เดิม นางเข้าใจความคิดของลูกสะใภ้เป็นอย่างดี เพียงแต่ว่าเมื่อเซี่ยซือซือทำอาหาร ย่อมแบ่งให้นางกับลูกชายกินด้วย นี่ไม่ถือว่าตนเอาเปรียบเด็กพวกนี้หรอกหรือ “ท่านแม่ท่านอย่าได้คิดมากเจ้าค่ะ ต่อไปข้าจะต้องหาเงินมาซื้อของดี ๆ ให้ทุกคนในบ้านกิน ท่านเมตตารับน้องของข้าเข้ามาอยู่ด้วย ข้าย่อมต้องตอบแทนบุญคุณท่านอยู่แล้ว” “ไหนเลยข้าจะดีเช่นนั้นเจ้าก็รู้” “เอาเถอะเจ้าค่ะ ท่านออกไปนั่งกินซาลาเปากับพวกเขาต่อเถอะ เดี๋ยวมื้อเย็นข้าจะเป็นคนลงมือทำเอง วันนี้ข้าซื้อเครื่องปรุงมาด้วย อาหารต้องรสชาติดีขึ้นแน่” “ตามใจเจ้า ข้าจะรอกินฝีมือเจ้าก็แล้วกัน” นางถานเดินกลับไปหาเด็ก ๆ ที่นั่งกินซาลาเปาอยู่ในห้องโถง “ท่านป้าถาน ข้าจะไปช่วยท่านพี่ทำอาหารเจ้าค่ะ” “เจ้าหยุดเลยซานซาน เจ้าเพิ่งฟื้นขึ้นมาอย่าเพิ่งขยับตัวให้มากนัก นั่งเล่นกับน้องชายของเจ้าตรงนี้แหละ” “เจ้าค่ะ” เซี่ยซานซานย่อมเชื่อฟังผู้ใหญ่ นางนั่งเล่นกินถังหูลู่กับน้องชายต่อ น้องชายของนางก็ช่างจ้อ สรรหาถ้อยคำมาพูดได้สารพัดเรื่อง ขนาดท่านป้าถานฟังไปยังอดหัวเราะตามไม่ได้ กลิ่นหอมของเนื้อที่ลอยมาแตะจมูกของคนในบ้าน เริ่มทำให้ทุกคนนั่งกันไม่นิ่ง กระทั่งถานจ้านที่อยู่ในห้องยังรู้สึกแปลกใจ เขาได้กินซาลาเปาสามลูกสามไส้เมื่อครู่ มีทั้งไส้หมูไส้เนื้อและไส้ผัก นี่ยังได้กลิ่นอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์ภายในบ้านอีก เขาอธิบายความรู้สึกความรู้สึกของตนเองในยามนี้ไม่ออกจริง ๆ เด็กจากบ้านสกุลเซี่ยเข้ามาอยู่ในบ้านเพียงไม่กี่วัน บ้านเขามีหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นเสียงเด็กเล็กวิ่งเล่น เสียงหัวเราะ กระทั่งเสียงพูดคุยของมารดากับลูกสะใภ้ของนาง ถานจ้านเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่ไม่เหมือนเดิม คือบรรยากาศภายในบ้าน มันไม่เงียบเหงาอีกต่อไป มื้อเย็นของวันนี้มีอาหารจานเนื้ออยู่สองจาน คือหมูตงพอกับผัดหน่อไม้ใส่เนื้อหมู ส่วนข้าวก็เป็นข้าวขาวฟูเต็มถ้วย “ไอหยา ! วันนี้ข้ามีเนื้อกินอีกแล้ว” เซี่ยซือหยางจ้องเนื้อหมูบนจานตาเป็นมัน น้ำลายทำท่าจะไหลตรงมุมปาก บ่งบอกว่าเจ้าตัวน้อย ไม่ได้เห็นเนื้อหมูบนจานมานานมากแล้ว แม้แต่เซี่ยซานซานนางก็ตาวาวเหมือนไม่เคยเจอ สองแม่ลูกสกุลถานเห็นท่าทางของเด็กทั้งสองคน อดรู้สึกเศร้าใจตามไปด้วย นางถานพลันเข้าใจว่าทำไมลูกสะใภ้ของนาง ถึงอยากพาน้องทั้งสองคนมาอยู่ที่นี่ด้วย อีกทั้งพอมีเงินก็ซื้อเนื้อหมูมาทำให้กินในวันนี้ “ข้าไม่เห็นรู้ว่าบ้านเรามีหน่อไม้ด้วย” นางถานมองผัดหน่อไม้ใส่เนื้อหมูตรงหน้า “ท่านแม่ข้าขึ้นเขาไปเมื่อวานอย่างไรเล่า ข้าเอาใบไม้มาซ้อนแล้ววางเห็ดเยื่อไผ่ไว้ด้านบน ท่านเลยไม่ทันเห็นเจ้าค่ะ” ความจริงนางเกือบจะลืมหน่อไม้ไว้ในมิติพิเศษแล้วเหมือนกัน ดีที่วันนี้เข้าไปหยิบเครื่องปรุงรสเลยเห็นเข้าพอดี “เจ้านี่เก่งไปเสียทุกอย่างเลยนะซือซือ ขึ้นเขาไปวันเดียวก็ได้ของกินกลับมามากมาย แถมยังขายได้เงินมาซื้อเนื้อหมูกินอีก” นางถานนึกทึ่งในความสามารถของลูกสะใภ้คนนี้ “ข้าคิดว่าจะขึ้นเขาไปหาของป่าบ่อย ๆ ภายภาคหน้าพวกเราทุกคน จะได้มีเนื้อกินกันทุกวัน” “อันตรายเกินไป เจ้าขึ้นเขาคนเดียวไม่ได้ ครั้งนี้โชคดีครั้งหน้าล่ะใครจะรับรอง ว่าเจ้าจะไม่เจอสัตว์ร้าย” ถานจ้านที่นั่งเงียบมานานเอ่ยขึ้นบ้าง “ข้าจะขึ้นเขาไปเป็นเพื่อนท่านพี่เอง พี่เขยท่านไม่ต้องเป็นห่วง” เซี่ยซานซานมองไปทางพี่สาวด้วยสายตาละห้อย นางอยากขึ้นเขาไปกับพี่สาวของนางใจจะขาด อยากช่วยพี่สาวหาของป่าให้ได้เยอะ ๆ “ท่านพี่กับพี่รองอย่าลืมข้าคนนี้เสียละ” เซี่ยซือหยางไม่ยินยอม เขาไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว กะพริบตาปริบ ๆ ขอร้อง “ไม่ได้เจ้ายังเด็กอันตรายเกินไป” คำพูดนี้นางถานเป็นคนเอ่ย “เจ้าอยู่บ้านกับข้านี่แหละ ช่วยข้าทำงานบ้านด้วย” “ขอรับท่านป้า” เจ้าตัวน้อยทำปากขมุบขมิบ นึกไม่ออกว่างานบ้านอะไรบ้าง ที่ร่างกายน้อย ๆ ของเขาสามารถทำได้ “เอาละ ๆ กินข้าวกันเถอะเดี๋ยวอาหารที่ซือซือทำเย็นชืดหมดเสียก่อน นางอุตส่าห์ลงมือทำอาหาร ต้อนรับการฟื้นของซานซานเชียวนะ” นางถานโบกมือให้ทุกคนกินข้าวได้แล้ว มื้อแห่งความสุขนี้ทำเอาทุกคนอิ่มหนำกันถ้วนหน้า รสชาติของอาหารนั้นสุดแสนจะวิเศษ เซี่ยซือหยางเอ่ยคำว่า “ท่านพี่ ! ท่านดีที่สุด !” นับครั้งไม่ถ้วน ส่วนสองแม่ลูกสกุลถานแม้ไม่ได้เอ่ยชมออกมาอีก แต่สีหน้าอิ่มเอมใจนั้น ปรากฏออกมาอย่างชัดเจน เซี่ยซือซือพลอยรู้สึกปลาบปลื้มใจตามไปด้วย อาหารรสชาติธรรมดาตรงหน้า กลายเป็นของสุดแสนจะอร่อยของทุกคนภายในบ้าน หลังกินข้าวอิ่มกันหมดแล้ว เซี่ยซานซานอาสาเป็นคนล้างจานเอง เซี่ยซือซือยังกังวลกับเรื่องน้ำที่ใช้กันอยู่ ปกตินางถานเป็นคนออกไปหาบน้ำที่ลำธารเข้ามาใช้ ลำพังอยู่กันสองคนน้ำในถังน่าจะพอใช้ แต่พอพวกนางเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ด้วย น้ำเลยดูไม่พอสำหรับการใช้อาบ “วันนี้พวกเราไม่ต้องอาบน้ำกันหรอกท่านพี่ ให้ท่านป้าถานกับพี่เขยใช้ไปเถอะ พรุ่งนี้ข้าจะเป็นคนไปหาบเอง” เซี่ยซานซานออกความเห็น “เอาอย่างที่เจ้าว่าไปก่อนก็แล้วกัน” ในความทรงจำของร่างเดิมนั้น คนในหมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่เคยพากันขุดบ่อน้ำ ภายในบริเวณบ้านของตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะขุดอย่างไรก็ไม่เจอตาน้ำสักที เซี่ยซือซือลองเดินออกไปนอกบ้าน แล้ววางฝ่ามือลงบนพื้น นางมองหาทางน้ำไหลใต้พื้น รอยยิ้มปรากฏขึ้นอย่างพึงพอใจ ด้านหลังบ้านของนางถาน มีทางน้ำไหลผ่านจริงด้วย เซี่ยซือซือกลับเข้าไปภายในบ้าน ตรงไปหานางถานที่ห้องนอน “ท่านแม่อยู่ในห้องหรือเปล่าเจ้าคะ” “อยู่สิเข้ามาได้เลย” “เจ้ามีอะไรหรือเปล่าซือซือ” “ท่านแม่ข้าอยากหารือท่านเรื่องขุดบ่อน้ำเจ้าค่ะ” “ขุดบ่อน้ำ ? เหตุใดถึงอยากขุดล่ะ พวกเจ้าหาบน้ำกันไม่ไหวหรือ” “ไม่ใช่เจ้าค่ะ อาซานหาบน้ำทุกวันอยู่แล้ว เพียงแต่ข้าเห็นว่าหลังบ้านของท่านแม่ มีความชุ่มชื้นของดินด้านล่างน่าจะมีทางน้ำไหลผ่าน ข้าเลยอยากจะลองขุดบ่อน้ำดูเจ้าค่ะ หากเจอน้ำจริงต่อไปพวกเราไม่ต้องลำบาก ออกไปหาบน้ำอีกแล้วนะเจ้าคะ” “แต่ว่า” “ข้าจะออกเงินเองเจ้าค่ะ” “เจ้ายังมีเงินเหลืออยู่อีกรึซือซือ” “ย่อมต้องมีเหลืออยู่ ข้าไม่โง่ใช้เงินหมดหรอกเจ้าค่ะ เดี๋ยวขุดบ่อน้ำเสร็จแล้ว ข้าจะขึ้นเขาไปหาของป่าลงมาขายอีก ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงไป” “เอาเถอะ ๆ เจ้าอยากทำอะไรก็ทำไป หากขุดไม่เจอน้ำเสียเงินเปล่าประโยชน์ เจ้าอย่ามาบ่นภายหลังก็แล้วกัน” “เจ้าค่ะท่านแม่ หากขุดแล้วไม่เจอน้ำ ข้าจะยอมรับในโชคชะตาแต่โดยดีเจ้าค่ะ” เซี่ยซือซือยิ้มทำหน้าทะเล้น ไม่อยากให้นางถานต้องเครียดไปกับเรื่องพวกนี้ “ซือซือน้ำขิงของเจ้าช่วยลดอาการไอของข้าได้ดีจริง ๆ วันนี้ทั้งวันข้าไอแค่สองครั้งเอง เจ้าพอจะต้มน้ำขิงให้ข้าได้อีกหรือไม่” “ได้เจ้าค่ะท่านแม่ เดี๋ยวก่อนนอนข้าเอาเข้าไปให้ท่านนะเจ้าคะ” เซี่ยซือซือตั้งใจหยดน้ำพุวิเศษ วันละสองหยดให้แม่สามี คิดว่าภายในครึ่งเดือนอาการป่วยของนางถาน ต้องหายขาดอย่างแน่นอน “ท่านแม่ท่านแน่ใจหรือ ว่าเป็นเพราะดื่มน้ำขิงของข้า ไม่ใช่เพราะยาของท่านหมอที่กิน” นางย่อมกันไว้ดีกว่าแก้ ไม่อาจยอมรับได้ว่า น้ำขิงของตนมีสรรพคุณดีเลิศปานนั้น “ข้ากินยาของท่านหมอในตำบลมาเป็นปี ๆ อาการไอไม่เคยหายมีแต่จะหนักขึ้น พอได้กินน้ำขิงของเจ้าครั้งเดียว ข้ารู้สึกว่าร่างกาย เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี เมื่อหมอช่วยไม่ได้ก็ใช้วิธีบ้าน ๆ ของเจ้านี่แหละ” บ้าน ๆ ที่ไหนท่านแม่ นี่มันผลของน้ำพุวิเศษเชียวนะ เซี่ยซือซือมองนางถานสลับกับนึกหน้าของลูกชายของนางไปด้วย ค่อย ๆ รักษาไปทีละคนแล้วกัน ขืนหายป่วยหายพิการพร้อมกัน คนที่จะสงสัยเรื่องนี้คนแรกคือท่านหมออวี่นั่นเอง ตกดึกเซี่ยซือซือกำลังหลับอย่างสบายใจ แต่เสียงดังเหมือนคนเดินชนอะไรบางอย่าง ทำให้นางลืมตาตื่นขึ้นมา รีบเดินไปจุดตะเกียงเพิ่มแสงสว่าง เห็นถานจ้านนั่งทำหน้าเคร่งเครียดอยู่บนเตียง เพราะไม่อยากปลุกนางเลยควานหาไม้ค้ำ แต่ดันพลาดชนโน่นนี่ไปทั่ว “พี่จ้านท่านอยากได้อะไร” “ข้า เอ่อ” ถานจ้านเม้มปากเข้าออกเบา ๆ อับอายเกินกว่าจะเอ่ยมันออกมา “พี่จ้านท่านบอกข้ามาตรง ๆ เถอะ อย่าได้อาย” เจ้ารู้อยู่แล้วยังจะทำเฉยอีก “หยิบกระโถนให้ข้าที” “นี่เจ้าค่ะเสร็จแล้วก็เรียกข้านะ” นางยื่นกระโถนให้เขาไป เปิดประตูออกไปยืนรออยู่ข้างนอก ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงน้ำที่ไหลออกมาเบา ๆ นั่น นี่มันเรื่องธรรมชาติของคนยุคนี้ แม้ว่าถานจ้านบอกให้นางเป็นคนใช้ แต่เขาไม่เคยเรียกใช้งานนางเลยสักครั้ง นี่นับว่าเป็นครั้งแรก “เข้ามาได้” เซี่ยซือซือรีบเปิดประตูกลับเข้าไป นางเห็นถานจ้านหันหน้าหนีไปทางอื่น ไม่กล้าสู้หน้านางด้วยซ้ำ เลยเดินไปหยิบกระโถน นำออกไปเททิ้งพร้อมล้างน้ำให้เรียบร้อย กลับเข้ามาอีกหนเห็นคนบนเตียง นอนนิ่งคล้ายว่าหลับไปแล้ว นางอมยิ้มเล็กน้อย ไม่เห็นต้องอายกันเลยเจ้าเด็กนี่ [1] หนึ่งจิน เท่ากับ 500 กรัม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD