Intro

1962 Words
“อั้ก!” เสียงร้องโหยหวนแห่งความเจ็บปวดครั้งสุดท้ายจบสิ้นลง พร้อมกับร่างที่โดนต่อยเข้าจัง ๆ ที่บริเวณลิ้นปี่จะล้มลงก่อนที่เขาจะหมดลมหายใจไปในที่สุด ร่างสูงในเสื้อผ้าขาดรุ่ยเหม่อมองไปบนพื้นที่มีซากศพกว่าสิบชีวิตเรียงรายกันอยู่ ก่อนที่เขาจะหันหน้าหนีภาพเหล่านั้นด้วยแววตาว่างเปล่าที่ไร้ซึ่งความรู้สึก ขายาว ๆ เดินจากออกมาในทันทีโดยไม่ได้ใส่ใจว่าชีวิตของตัวเองต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร หรือชีวิตของคนที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขาเหล่านี้จะเศร้าเสียใจมากน้อยขนาดไหน ดวงหน้าอ่อนแรงกับสภาพร่างกายที่ไม่สู้ดียังคงเดินหน้าต่อไปท่ามกลางสายฝนที่กำลังจะโหมกระหน่ำลงมาอีกในไม่ช้า ไม่ช้าก็เร็วเธอจะต้องจบชีวิตลงโดยฝีมือของนายที่เธอภักดีอยู่เสมอ แต่เขากลับหักหลังเธออย่างเจ็บแสบทั้งยังทิ้งเธอเอาไว้ที่กลางทางและหนำซ้ำยังส่งคนมาทำร้ายให้ถึงแก่ชีวิต แต่ก็นับว่าตัวเองยังพอมีวิชาอยู่บ้าง ไม่ให้เสียเปล่าที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมือขวาของหัวหน้ามาเฟียแก๊งใหญ่ เธอสามารถจัดการเจ้าลูกกระจ๊อกนั้นได้ภายในเวลาเพียงไม่นาน แต่มันก็แลกมากับที่ตอนนี้สภาพของเธออ่อนล้าและคงจะสู้ต่อไปไม่ไหว เธอเชื่อว่าอีกไม่นานหากเขารู้ข่าวว่ายังจัดการเธอไม่สำเร็จ อีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้เขาจะต้องส่งคนมาเก็บเธออีกแน่ ๆ และทางเดียวที่เธอจะทำได้ต่อจากนี้… ก็คือชิงตายไปเองเสียก่อน...ก่อนที่เขาจะส่งคนตามมาเก็บเธออีก ร่างสูงขยับร่างกายขึ้นไปนั่งอยู่ที่ราวสะพานด้วยสภาพที่ยังชุ่มไปด้วยเลือด ทั้งเสื้อผ้าของตัวเองก็ยังขาดรุ่ยและมีบาดแผลฟกช้ำเต็มร่ายกายและอาจจะใช้เวลานานหากจะต้องรักษา เธอใช้มือเรียวยาวของตัวเองล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบซองบุหรี่ขึ้นมา เธอจุดสูบมันอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะปล่อยกลุ่มควันสีเทาออกมาจนฟุ้งไม่สนใจรถราที่กำลังขับผ่านไปผ่านมาและอาจจะมองเห็นเธอในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก “สูบบุหรี่ก่อนตายมันก็ไม่แย่...” เธอหัวเราะให้กับตัวเองอย่างน่าสมเพชทั้งยังเจ็บใจเหลือทนที่ยอมให้เขาหลอกใช้เธอมาเป็นสิบ ๆ ปี โดยที่ในความเป็นจริงเขาวางแผนจะฆ่าเธอมาแล้วหลายครั้งหลายครา แต่เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจเนื่องจากว่าเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก เธอกลับไม่เคยเอะใจเลยจนกระทั่งเรื่องมันแดงขึ้นมาเขาถึงส่งคนตามมาเก็บเธอจัง ๆ แบบที่ตอนนี้เธอกำลังเผชิญอยู่ ไม่นานนักฟ้าฝนก็ราวกับเป็นใจในวันตายของเธอเพราะฝนมันกำลังตกลงมาอย่างหนักหน่วงราวกับฟ้าดินจะถล่ม เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางของเธอที่ยังชุ่มไปด้วยสีแดงของเลือดราวกับได้ถูกชำระล้างแล้ว แต่มันน่าเสียดายจริง ๆ ที่บุหรี่มวนนี้ของเธอมันจะต้องดับก่อนที่มันควรจะเป็น แต่แล้วอยู่ ๆ ฝนที่เธอรับรู้ได้ว่ามันกำลังตกกระทบตัวเองอยู่นั้นมันกลับไม่เป็นอย่างเคย ร่างสูงที่สวมแว่นทรงสี่เหลี่ยมและกำลังขึ้นฝ้าทำให้การมองเห็นของเธอมันยากกว่าที่ควรจะเป็น แต่เธอก็รับรู้ได้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ในร่มกับใครบางคน และเจ้าหล่อนคนนั้นก็เป็นผู้หญิง เดาได้จากสีเสื้อผ้าฉูดฉาดและส่วนเว้าโค้งที่เธอมองเห็นได้เพียงจาง ๆ ผ่านแว่นที่กำลังสวมใส่ “ไม่ธรรมดานี่...” เสียงหวานทรงอำนาจของใครบางคนดังขึ้นมาให้เธอรับรู้ได้ว่าเจ้าหล่อนคนนี้เป็นใคร เจ้าหล่อนคนนี้เป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียอีกกลุ่มที่ไม่ค่อยลงรอยกับแก๊งของเธอมากนัก แต่เราทั้งสองก็ต่างอยู่กันในที่ของตัวเอง และแน่นอนว่าไม่มีฝ่ายไหนกล้ามีปัญหากับใคร เพราะถ้าพลาดท่าขึ้นมาจะกลายเป็นรองอีกฝ่ายไปโดยปริยายซึ่งไม่มีฝั่งใดกล้าเสี่ยง “ดูเหมือนว่าเธอจะต้องการสิ่งนี้...” เจ้าหล่อนยื่นอะไรบางอย่างมาตรงหน้าให้เธอพยายามเพ่งมองดู แต่มันก็ไม่เป็นผลเพราะแว่นตาของเธอมันทำให้การมองเห็นของเธอมันแย่มากถึงขีดสุด เธอแอบได้ยินเสียงขัดใจของเจ้าหล่อนที่เธอไม่ยอมรับมันไปเสียที ก่อนที่ตัวเองจะรับรู้ได้ถึงมือนุ่มของเจ้าหล่อนที่ขยับเข้ามาจับที่ปลายคางของเธอเอาไว้ ก่อนที่เจ้าหล่อนจะช้อนมันขึ้นและบรรจงใช้ผ้าที่ยื่นมาให้ก่อนหน้าเช็ดมันให้กับเธอจนตอนนี้เธอมองเห็นหน้าเจ้าหล่อนชัดเต็มทั้งสองตา ใบหน้าสวยดุรับกับริมฝีปากสีแดงสดจากลิปสติกช่วยขับสีผิวที่ขาวของเจ้าหล่อนอยู่แล้วให้ยิ่งปรากฎออร่าเสียจนเจิดจรัส เจ้าหล่อนกำลังสบมองมาที่เธอด้วยแววตาที่เธอก็อ่านไม่ออก แต่มุมปากกลับยกยิ้มออกมาอย่างชอบอกชอบใจที่เห็นเธอจ้องหน้าของเจ้าหล่อนไม่วางตา เธอไม่เคยได้พบเจอกับเจ้าหล่อนในระยะที่ใกล้ขนาดนี้มาก่อน ส่วนมากได้เจอตามงานสังคมใหญ่ ๆ เจ้าหล่อนคนนี้น่ะเข้าถึงยากยิ่งกว่าราชินีของประเทศนี้เสียอีก จนได้ฉายาที่ใครก็ไม่กล้าหืออือและต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมาะสมอย่างเช่น...ควีน “ควีน...” “ไม่ต้องตกใจ...ฉันไม่ได้ตามมาเก็บเธอ” เจ้าหล่อนพูดออกมาติดตลก และเธอพึ่งสังเกตว่าเจ้าหล่อนมีการ์ดตามหลังมาด้วย แต่ก็มาเพียงแค่คนเดียว “เธอบอกฉันสิ...ว่าเธอภักดีต่อหัวหน้าของเธอ” เธอเงยหน้าสบมองเจ้าหล่อนอย่างไม่เข้าใจว่าจะให้พูดทำไม แต่มันก็เป็นอย่างนั้นเสมอมา ในสมองของเธอไม่เคยมีคำว่าทรยศหักหลัง แต่เพราะอะไรทำไมเรื่องมันถึงได้กลายเป็นอย่างนี้เธอก็ยังไม่เข้าใจมากนัก เพราะแม้แต่โอกาสจะถามไถ่...เธอยังไม่มีโอกาสที่จะได้รับมัน “ฉันไม่เคยคิดที่จะทรยศหักหลังต่อเขา” เธอพูดออกมาเสียงเรียบ และชะโงกหน้าไปหาการ์ดด้านหลังของเขาที่ยืนมองอย่างเจียมตัวอยู่ “มีบุหรี่ไหม?” “เธอนี่มัน...หึ!” เจ้าหล่อนหัวเราะออกมาในลำคอ แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะอีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้เธอก็จะตายแล้ว หากเจ้าหล่อนจะสงเคราะห์กันเธอก็ยินดี บุหรี่ถูกยื่นส่งมาให้หลังจากที่เขาได้รับการอนุญาตจากควีนที่ยังยืนมองเธออยู่ไม่ได้จากไปไหน มือเรียวของเธอนำไฟแช็คขึ้นมาจุด และปล่อยกลุ่มควันสีขาวออกมาอีกครั้งพร้อมทั้งเหม่อมองออกไปแสนไกล “…” แต่แล้วเธอก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่มาจ่ออยู่บริเวณขมับของตัวเอง ก่อนที่เธอจะหันกลับไปสบมอง...และก็พบเห็นว่าเจ้าหล่อนกำลังเอาปืนจ่อที่หัวของเธออยู่ด้วยแววตาที่เธอก็อ่านไม่ออก แต่เธอกลับไม่ได้มีความเกรงกลัวใด ๆ กลับกัน...เธอยังคงสูบบุหรี่และปล่อยกลุ่มควันอยู่อย่างนั้น พร้อมกับเริ่มรู้สึกเจ็บปวดตามร่างกายขึ้นมาเสียแล้วหลังจากที่การต่อสู้นั้นจบสิ้นลง “ทำให้ฉันเห็นสิ...ว่าเธอภักดี” เจ้าหล่อนยังคงพูดต่อไป แต่เธอก็ยังคงไม่ได้ใส่ใจ ควีนลดกระบอกปืนออกจากขมับของเธอ ก่อนที่จะนำมันมายื่นอยู่ตรงหน้าให้การ์ดของหล่อนมีทีท่าเลิ่กลั่กเพราะกลัวว่าเธอจะหยิบปืนออกไปลั่นไกลใส่ควีนเสียก่อนแทนที่จะลั่นไกลตัวเอง “ฆ่าตัวตายด้วยปืนของฉัน...แทนที่จะกระโดดลงไปตายในน้ำเย็น ๆ แบบนั้น” เจ้าหล่อนเหยียดยิ้มและสบมองใบหน้าของเธออย่างท้าทาย “ฉันจะถือว่าคุณเป็นห่วงกลัวว่าฉันจะหนาวก็แล้วกัน...” เธอตอบติดตลกก่อนที่จะรับปืนของเจ้าหล่อนมาถือเอาไว้ในมือ มวนบุหรี่ถูกขว้างลงที่พื้นพร้อมกับเธอที่ยืดตัวขึ้นจนเต็มความสูง แต่การ์ดของเขายังนำปืนมาจ่อที่ทางตัวของเธอเอาไว้อยู่ไม่ห่าง เพราะกลัวว่าเธอจะเปลี่ยนเป้าหมายลั่นไกลไปเป็นควีนที่ยังสบมองอยู่อย่างไม่ได้มีทีท่าเกรงกลัวแต่อย่างใด “หากขออะไรก็ได้อย่างหนึ่งก่อนตาย...” เธอหันมายกยิ้มให้กับเจ้าหล่อนที่ยังคงสบมองใบหน้าของเธออย่างวางมาดความน่าเกรงขามเอาไว้ “ฉันจะขอมีอะไรกับคุณ...และจะทำให้ค่ำคืนนั้นเป็นคืนที่น่าจดจำที่สุด” ก็นะ...หล่อนสวยขนาดนี้ใครล่ะจะอดใจไหว ร่างสูงยกยิ้มอีกครั้งก่อนจะนำปืนมาจ่อเอาไว้ที่ขมับของตัวเอง เธอเห็นไกล ๆ แล้วว่าคนของหัวหน้าหรือเพื่อน (เก่าที่เคย) สนิทของเธอนั้นกำลังวิ่งหน้าตั้งขึ้นมาบนสะพาน และกำลังจะวิ่งกรู่กันเข้ามาเพื่อหวังจะฆ่าเธอเพื่อเป็นผลงานไปอวดเจ้านายก่อนที่เธอจะตัดสินใจลั่นไกลด้วยมือของตัวเอง แป๊ก! แต่แล้วปืนที่เธอลั่นไกลนั้นมันดันไม่เป็นไปอย่างที่ใจของเธอหวัง เพราะดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้มีกระสุนบรรจุเอาไว้ตั้งแต่ทีแรก  เธอสบมองใบหน้าเจ้าเล่ห์ของหล่อนอีกครั้งซึ่งเจ้าหล่อนก็ยังคงยกมือกอดอกอย่างวางมาดทั้งยังยกยิ้มให้กับเธอ และเธอเดาได้เลยว่ามันไม่ใช่รอยยิ้มที่เป็นมิตรของเจ้าหล่อนอย่างแน่นอน “สมแล้วที่เป็นคนของตระกูลพัค...” เจ้าหล่อนพูดออกมาอีกครั้งก่อนจะหันหน้ากลับไปหาพวกสมุนที่กำลังจะวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาเธอ และพวกเขาเหล่านั้นก็ต่างหยุดชะงักเมื่อมองเห็นว่าคนที่ยืนกับเธอนั้นไม่ใช่ใครอื่น...แต่เป็นควีนที่ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่อาจจะกล้ามีเรื่องด้วยกันทั้งนั้น “ใครเข้ามาอีกเพียงแค่ก้าวเดียวฉันจะจับมันเป็นอาหารให้กับเจ้าตัวเล็กของฉัน!” เสียงประกาศกร้าวอย่างน่าหวาดหวั่นลั่นวาจาออกไปจนพวกลูกกระจ๊อกได้แต่ยืนก้มหัวหดอย่างหวั่นเกรง “แต่ว่าไอไลมันเป็นคนของแก๊งเรานะครับ!” หัวโจกที่อยู่หน้าสุดพูดออกมาอย่างหวาดหวั่น และมันคือหนึ่งในคนที่เป่าหูบอสว่าเธอเป็นคนทรยศ “แต่ตอนนี้เจ้าลูกหมาตัวนี้เป็นของฉัน...” แต่เสียงหวานกลับประกาศกร้าวออกไปอีกครั้งอย่างไม่นึกหวั่นเกรง และมันทำให้เธอต้องชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ ๆ กับเจ้าหล่อนอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเธอนั้นฟังไม่ผิด... “นี่ควีน เมื่อกี้คุณว่า...” “ใครริอาจคิดที่จะแตะต้องเจ้าลูกหมาของฉัน...ก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน!” ลูกหมา...เจ้าหล่อนหมายถึงเธออย่างนั้นหรือ?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD