ปึง!
“ปิดประมูลที่ 247 ล้านวอนจากควีนค่า!”
เสียงประมือดังสนั่นขึ้นมา ให้หญิงสาวที่นั่งท้าวคางอย่างสบายอารมณ์อยู่หันไปยกยิ้มแจกจ่ายให้กับบรรดาแขกเหรื่อที่มาร่วมงานประมูลในวันนี้
“นี่ขนาดเป็นแค่เซตเล็ก ๆ จากทางเรานะคะ ควีนเหมาไปคนเดียวก็เกือบจะทุกเซต แถมยังบิทราคาสูงลิ่วจนไม่มีใครกล้าสู้ เพราะฉะนั้นตั้งหน้าตั้งตารอฟินาเล่ในค่ำคืนนี้กันให้ดี ๆ เลยนะคะทุกคน ว่าเจ้าเครื่องเพชรเม็ดงามนั้นจะหยุดอยู่ที่ราคาเท่าไร!” และเสียงปรบมือก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง แต่เธอก็ยังยกยิ้มอยู่อย่างนั้นและพิธีกรก็เริ่มการประมูลต่อไป
ควีนหุบยิ้มลงก่อนจะหันหน้าไปสบมองที่เก้าอี้ด้านข้างตัวซึ่งเป็นส่วนที่เจ้าชิบะของเธอกำลังนั่งอยู่ แต่ตาของเธอก็ต้องเบิกโพล้งขึ้นมาทันใดเมื่อมองเห็นว่าอาการของเขายังไม่ได้ดีขึ้นไปจากเดิมเลย แถมดูแล้วยังหนักกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
ตัดกลับไปประมาณเมื่อไม่กี่นาทีก่อน...
ก่อนที่งานประมูลจะเริ่มต้นขึ้น เธอสังเกตมาได้สักพักแล้วว่าไลอ้อนดูหน้าซีดและเหงื่อไคลก็ผุดขึ้นมาที่หน้าผากของเขาทั้ง ๆ ที่แอร์ในงานก็เย็นฉ่ำค่อนไปทางหนาวจัด
ครั้นพอเธอถามไถ่ถึงอาการที่เขากำลังเป็นอยู่ เจ้าตัวก็บอกว่าตัวเองเป็นคนที่ค่อนข้างขี้ร้อน ถ้าหากได้นั่งเฉย ๆ สักพักก็น่าจะดีขึ้น ซึ่งเธอก็ไม่ได้สาวท้าวความอะไรต่อ และเข้ามาร่วมงานประมูลที่ถูกจัดแยกอยู่อีกห้องหนึ่งของทางห้องจัดเลี้ยง
แต่ตอนนี้หน้าเขาดูซีดยิ่งกว่าเก่า แถมเหงื่อยังไหลออกมามากกว่าเดิมจนตอนนี้ไทด์ของเขาก็เริ่มบิดเบี้ยวเพราะเขาคงขยับมันไปมาจากอาการร้อนที่ออกมาจากร่างกาย แถมหน้าเขาตอนนี้ยังดูเหมือนกับคนกำลังอดทนอะไรสักอย่างนั่นอีก...
แต่มันกลับดูเซ็กซี่ไม่หยอกเลยบ้าจริง!
“นี่เธอ! เป็นอะไรมากไหม?” เธอรีบจับแขนของเขาในทันทีอย่างนึกเป็นห่วง
“มะ ไม่เป็นไร...” เสียงของเขาแผ่วลงจนเธอรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังครางอยู่อย่างไรอย่างนั้น
“ไม่โอเคน่ะสิ! หน้าแดงขนาดนี้จะไปโอเคได้ยังไง?” เธอรีบหันไปหันมาเพื่อหาทางที่จะหลีกหนีเพราะคิดว่าอาการของเขาขืนปล่อยไว้คงไม่ดีแน่ “เรารีบกลับกันก่อนดีกว่า”
“แต่งานประมูล...” ไลอ้อนรีบเบรคเอาไว้เพราะควีนได้บอกกับเธอก่อนแล้วว่าอยากจะได้เครื่องเพชรจากชุดฟินาเล่ ซึ่งเจ้าหล่อนตั้งใจมาประมูลชุดนั้นโดยเฉพาะ
“ช่างงานประมูลนั่นไปก่อนเถอะ ตอนนี้เธอสำคัญกว่านั้น!” เพราะความเป็นห่วงเธอจึงพูดออกไปโดยไม่ได้ไตร่ตรองก่อนว่าประโยคของตัวเองอาจจะทำให้ใครอีกคนนั้นคิดไปไกลได้
ตึกตัก ตึกตัก
ไลอ้อนเงยหน้าสบมองเจ้าหล่อนในทันทีเพราะหัวใจของตัวเองกำลังคำรามอย่างหนักขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ ควีนดูลุกลี้ลุกลนมากกับอาการของเธอ ทั้งยังพยายามจะเข้ามาช่วยพยุงจนเธอเริ่มจะไม่เข้าใจตัวเองแล้วว่าอาการแบบนี้มันคืออะไรกันแน่
เธอยอมรับตามตรงเลยว่าเธอต้องการร่างกายของควีนเพราะเจ้าหล่อนเป็นคนสวย ใบหน้าคมคายฉบับสาวลูกครึ่งมีใครบ้างหรือที่ไม่อยากจะย่างกราย แต่เธอไม่ได้คิดอะไรกับควีนมากเกินไปกว่าเรื่องเซ็กซ์เลยในตอนนั้น
แล้วที่ตัวของเธอกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ล่ะ...มันเรียกว่าอะไรกันแน่?
“รีบลุกเร็วเข้า!”
“จะไปไหนกันครับ?” แต่แล้วกลับมีเสียงของใครบางคนดังขึ้นมาที่ด้านหลังให้เราทั้งสองต้องหันกลับไปสบมอง
“คุณณคิน...”
“ครับ ผมเอง...” ชายตรงหน้าที่มาพร้อมกับมือขวาของเขายกเครื่องดื่มขึ้นจิบ พร้อมกับที่ชะโงกหน้าไปมองไลอ้อนซึ่งนั่งอยู่อีกทาง “แล้วนั่นเป็นอะไรล่ะ? มีอะไรอยากให้ช่วยไหม?” เขายกยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจจนไลอ้อนได้แต่กำมือแน่น
แต่มือขวาของเขาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กันกลับส่งสายตาเยาะเย้ยเขาออกมาอย่างไม่มีปิดบัง และสูทของเขาเธอจำมันได้ดีว่าเป็นชายคนเดียวกับที่เดินออกไปหลังจากที่เธอแย่งเครื่องดื่มในมือของควีนมาดื่มเอง
เป็นคนของพัคจริง ๆ ด้วย...
“หน้าแดง เหงื่อไหลขนาดนี้...คงรู้แล้วสินะว่าโดนอะไร?”
“นี่พวกคุณทำอะไรกับคนของฉัน!” ควีนกระแทกเสียงออกมาแต่ไม่ได้ดังมากให้คนในงานแตกตื่น
เผลอ ๆ คนที่มองดูอยู่อาจจะคิดว่าเป็นการทักทายกันตามปกติของสองตระกูลใหญ่เท่านั้นไม่มีอะไรแอบแฝง
“เปล่านี่ครับ...”
“คุณ...รีบไปเถอะ” ไลอ้อนพูดออกมาเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงเพราะถ้าให้เธอสู้ตอนนี้มันคงไม่ดีแน่
เธอรู้แล้วว่าตัวเองกำลังโดนอะไรอยู่ เพราะครั้งหนึ่งเธอก็เคยโดนณคินสั่งให้ไปทำแบบนี้กับผู้หญิงที่ณคินเองก็อยากได้เหมือนกัน และไม่น่าเชื่อว่าตอนนั้นตัวเองจะหลงศรัทธาเขาจนมัวเมา และยอมทำอะไรทุเรศ ๆ แบบนั้นโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้เต็มใจ
“เอ๊ะ! เป็นแค่ขี้ข้ามีสิทธิ์อะไรมาสั่งเจ้านายวะ!” ณคินเดินไปขวางเอาไว้ไม่ให้เธอได้พาควีนออกไปจากตรงนี้ และเขาก็เริ่มพูดขึ้นมาเสียงดังจนคนกำลังหันมาสบมองแล้ว
“นี่คุณ!”
“ฉันขอร้อง อย่าพึ่งมีปัญหาตอนนี้” ไลอ้อนกระซิบที่ข้างหูของเจ้าหล่อนให้ใจเย็น ๆ “มีเรื่องตอนนี้คุณก็มีแต่จะเสียเปรียบ ฉันไม่สามารถดูแลคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ” เธอพยายามเกลี่ยกล่อม และเหมือนว่าควีนเองก็จะยอมอ่อนลงตามที่เธอได้บอกกล่าว
ควีนจับร่างของไลอ้อนและเดินจากออกมาในทันทีโดยไม่สนใจชายหนุ่มที่ยังคงยืนหน้าเสียอยู่กับที่ เพราะเขาตั้งใจว่าจะมายั่วโมโหเสียหน่อยที่ยานั้นไม่ได้โดนควีนอย่างที่ใจของตนเองนั้นคาดหวัง แต่มันกลับผิดคาดไม่เป็นท่าเพราะดูเหมือนควีนจะเชื่อทุกอย่างที่ไอทรยศนั่นเป็นคนบอก
แม้ใบหน้าของเขาจะนิ่งเฉย แต่มือของเขากลับบีบแน่นจนแก้วมันแตกละเอียดคามือ ให้มือขวาของเขาต้องรีบเข้ามาดูเจ้านายของตัวเองในทันใดด้วยความห่วงใย
“นาย...”
ปั๊ก!
“ไอไลอ้อน!” ชายผู้เป็นมือขวาหันหน้าไปตามแรงต่อยของชายที่มีศักดิ์เป็นถึงเจ้านายเพราะความโมโหของเขา และผู้คนก็หันมาสบมองกันเต็มไปหมดจนเขาเริ่มที่จะหน้าเสียขึ้นมา
มือของเขากำแน่นเอาไว้และพยายามกดอารมณ์ของตัวเองให้อยู่ลึกที่สุดในหัวใจของตัวเอง ตอนนี้เขายังทำอะไรผลีผลามไม่ได้เพราะมันจะไม่เป็นไปตามแผนที่เขานั้นวางเอาไว้ แต่ถ้าเมื่อไรที่แผนของเขาสมบูรณ์เสร็จสิ้นเมื่อไร...
เขาขอสาบานกับตัวเองตรงนี้เลยว่าจะทรมานไอณคินก่อนที่จะฆ่าให้ตายอย่างเลือดเย็น และลั่นปืนใส่หัวของไอไลอ้อนในทันทีไม่ให้มันมีโอกาสแม้แต่จะได้ร้องขอชีวิต!
“ค่อย ๆ เดินสิไอลูกหมา!” ควีนบ่นอุบมาตลอดทั้งทางเดินขึ้นมาบนห้องโรมแรม หลังจากที่เธอประเมินแล้วว่าตอนนี้ไอเจ้าชิบะของเธอนั้นคงไม่มีทางที่จะรอซงคังมารับได้
ใบหน้าของเขาแดงจัดลามไปจนถึงใบหู แต่ริมฝีปากกลับซีดและแห้งผาด แถมเหงื่อของเขายังชุ่มไปหมดจนเธอเริ่มจะรู้สึกร้อนไปด้วยเมื่อสัมผัสกับร่างกายของเขา
ควีนเปิดประตูเข้าไปในห้องโรงแรมหรูและทิ้งตัวของคนร่างสูงลงบนเตียงในทันใดแม้ว่าเขาจะตัวใหญ่กว่าเธอมากและมันช่างทุลักทุเล
“ให้ตายสิ! นี่ฉันเป็นเจ้านายของเธอนะ!” เธอยังคงบ่นต่อเมื่อมองเห็นเขาอยู่บนเตียงนอนแล้ว
เกิดมาทั้งชีวิตเธอไม่เคยจะต้องมาทำอะไรแบบนี้เลยให้ตายเถอะ!
“อื้อ...” แต่ร่างของเขากลับบิดไปบิดมา มือของเขาก็พยายามจะถอดอาภรณ์ออกจากร่างกายเพราะเขาเอาแต่บ่นว่าร้อนมาตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว
“งั้นเธอก็อยู่ในนี้ไปก่อนแล้วกันนะ ฉันจะโทรไปตามหมอมาให้...”
“ได้โปรด...” มือของเธอถูกเขาจับเอาไว้ ก่อนที่เขาจะออกแรงกระชากเธอให้เข้าไปชิดใกล้จนควีนร้องลั่นอย่างตกใจออกมาในทันที
“อะไรของเธอ! ปล่อยเดี๋ยวนี้...” เธอกำลังพยายามประติดประต่อเรื่องราวกับอาการของเขาอยู่
ดวงตาของเขาหวานฉ่ำ ไหนจะตัวร้อนจนบางทีเธอคิดว่าเขาอาจจะกำลังโดนยาอยู่ มันพอดีกับเรื่องราวที่หลุดออกมาจากปากของณคินด้วย
“อย่าบอกนะว่าเธอ...”
“ฉันโดนพวกเขาวางยาปลุกเซ็กซ์...” เขาพยายามจะควบคุมสติ แต่มือไม้ของเขากำลังเลื้อยไปเลื้อยมาให้เธอคอยปัดป่ายอยู่เสมอ “จากไวน์แก้วนั้นที่ฉันแย่งมาจากมือของคุณ...”
“ว่าไงนะ?” เธอคิดไปถึงเรื่องในตอนนั้น
ก่อนที่ภาพของเขาจะฉายย้อนกลับมาอีกครั้งราวกับฉายหนังเรื่องเก่า และเธอจำมันได้ดีว่าเขาดื่มไปจนหมดแก้ว และหลังจากนั้นก็เริ่มมีอาการตามที่เธอได้เห็นในตอนนี้
“คนพวกนั้นจงใจวางยาคุณ...แต่ฉันสังเกตมาได้สักพักแล้วว่ามันแปลก ๆ”
“ยังไง?”
“ฮ่า...ฉันจะคุมตัวเองไม่ไหวแล้ว” เสียงของเขาพร่าเบลอ สติของเขาก็ใกล้จะเลือนรางเต็มที “ได้โปรด ฉันต้องการมัน...” แววตาของเขาหวานฉ่ำแต่เต็มไปด้วยความเว้าวอน
และตอนนี้สายตาของเขากำลังสบมองเธออย่างไม่มียอมแพ้ และมันมีความต้องการอยู่ในนั้นจนจะล้นออกมาจากดวงตาของเขาอยู่แล้ว
ตึกตัก ตึกตัก
แววตาของเขาแสดงออกมาถึงความต้องการมันก็จริงอยู่ แต่ทำไมลึก ๆ เธอมองเห็นว่าเขากำลังเสน่หาในตัวของเธอด้วยล่ะ? หรือเป็นเพราะเขาพร่ำบอกมาเสมอว่าต้องการที่จะนอนกับเธอ...
“คุณ...” แต่แล้วอยู่ ๆ เขาก็ผินหน้าหนี และปล่อยมือออกจากร่างกายของเธอ “ถ้าอย่างนั้นช่วยออกไปรอข้างนอกก่อนได้ไหม ไว้ฉันจัดการตัวเองเมื่อไรแล้วจะ...”
“ทำสิ...”
“อะไรนะ?” ไลอ้อนถามออกมาอีกครั้งเพราะคิดว่าตัวเองน่าจะฟังผิดไป
ควีนที่ตอนแรกนั่งอยู่ขอบ ๆ เตียงเจ้าหล่อนก็ลุกและเดินเข่าเข้ามาชิดใกล้กับเธอ ควีนย้ายสะโพกของตัวเองที่เคยนั่งอยู่บนเตียงให้ตอนนี้มันดันมาอยู่บนตักของเธอแล้ว และเจ้าหล่อนกำลังใช้นิ้วกรีดกรายที่ใบหน้าของเธอไปมาจนอารมณ์ในกายมันยิ่งฟุ้งซ่านจนจะห้ามตัวเองแทบไม่ไหว
“ในเมื่อเจ้าลูกหมาของฉันต้องการ...เจ้านายอย่างฉันก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะ” เธอยิ้มร้าย และนึกขบขันกับใบหน้าเหลอหลาของเขาเต็มที “มาดูกันเสียหน่อยก็ดีเหมือนกัน...”
“ดู?” ไลอ้อนเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ พร้อมกับที่เธอใช้ริมฝีปากของตัวเองขยับเข้าไปขบเม้มที่ลำคอของคนตรงหน้า...
“ลูกหมาอย่างเธอ...มันจะเลียเก่งเหมือนปากหรือเปล่า?”