CHAPTER 7

2020 Words
ปึง! “ปิดประมูลที่ 247 ล้านวอนจากควีนค่า!” เสียงประมือดังสนั่นขึ้นมา ให้หญิงสาวที่นั่งท้าวคางอย่างสบายอารมณ์อยู่หันไปยกยิ้มแจกจ่ายให้กับบรรดาแขกเหรื่อที่มาร่วมงานประมูลในวันนี้ “นี่ขนาดเป็นแค่เซตเล็ก ๆ จากทางเรานะคะ ควีนเหมาไปคนเดียวก็เกือบจะทุกเซต แถมยังบิทราคาสูงลิ่วจนไม่มีใครกล้าสู้ เพราะฉะนั้นตั้งหน้าตั้งตารอฟินาเล่ในค่ำคืนนี้กันให้ดี ๆ เลยนะคะทุกคน ว่าเจ้าเครื่องเพชรเม็ดงามนั้นจะหยุดอยู่ที่ราคาเท่าไร!” และเสียงปรบมือก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง แต่เธอก็ยังยกยิ้มอยู่อย่างนั้นและพิธีกรก็เริ่มการประมูลต่อไป ควีนหุบยิ้มลงก่อนจะหันหน้าไปสบมองที่เก้าอี้ด้านข้างตัวซึ่งเป็นส่วนที่เจ้าชิบะของเธอกำลังนั่งอยู่ แต่ตาของเธอก็ต้องเบิกโพล้งขึ้นมาทันใดเมื่อมองเห็นว่าอาการของเขายังไม่ได้ดีขึ้นไปจากเดิมเลย แถมดูแล้วยังหนักกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ ตัดกลับไปประมาณเมื่อไม่กี่นาทีก่อน... ก่อนที่งานประมูลจะเริ่มต้นขึ้น เธอสังเกตมาได้สักพักแล้วว่าไลอ้อนดูหน้าซีดและเหงื่อไคลก็ผุดขึ้นมาที่หน้าผากของเขาทั้ง ๆ ที่แอร์ในงานก็เย็นฉ่ำค่อนไปทางหนาวจัด ครั้นพอเธอถามไถ่ถึงอาการที่เขากำลังเป็นอยู่ เจ้าตัวก็บอกว่าตัวเองเป็นคนที่ค่อนข้างขี้ร้อน ถ้าหากได้นั่งเฉย ๆ สักพักก็น่าจะดีขึ้น ซึ่งเธอก็ไม่ได้สาวท้าวความอะไรต่อ และเข้ามาร่วมงานประมูลที่ถูกจัดแยกอยู่อีกห้องหนึ่งของทางห้องจัดเลี้ยง แต่ตอนนี้หน้าเขาดูซีดยิ่งกว่าเก่า แถมเหงื่อยังไหลออกมามากกว่าเดิมจนตอนนี้ไทด์ของเขาก็เริ่มบิดเบี้ยวเพราะเขาคงขยับมันไปมาจากอาการร้อนที่ออกมาจากร่างกาย แถมหน้าเขาตอนนี้ยังดูเหมือนกับคนกำลังอดทนอะไรสักอย่างนั่นอีก... แต่มันกลับดูเซ็กซี่ไม่หยอกเลยบ้าจริง! “นี่เธอ! เป็นอะไรมากไหม?” เธอรีบจับแขนของเขาในทันทีอย่างนึกเป็นห่วง “มะ ไม่เป็นไร...” เสียงของเขาแผ่วลงจนเธอรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังครางอยู่อย่างไรอย่างนั้น “ไม่โอเคน่ะสิ! หน้าแดงขนาดนี้จะไปโอเคได้ยังไง?” เธอรีบหันไปหันมาเพื่อหาทางที่จะหลีกหนีเพราะคิดว่าอาการของเขาขืนปล่อยไว้คงไม่ดีแน่ “เรารีบกลับกันก่อนดีกว่า” “แต่งานประมูล...” ไลอ้อนรีบเบรคเอาไว้เพราะควีนได้บอกกับเธอก่อนแล้วว่าอยากจะได้เครื่องเพชรจากชุดฟินาเล่ ซึ่งเจ้าหล่อนตั้งใจมาประมูลชุดนั้นโดยเฉพาะ “ช่างงานประมูลนั่นไปก่อนเถอะ ตอนนี้เธอสำคัญกว่านั้น!” เพราะความเป็นห่วงเธอจึงพูดออกไปโดยไม่ได้ไตร่ตรองก่อนว่าประโยคของตัวเองอาจจะทำให้ใครอีกคนนั้นคิดไปไกลได้ ตึกตัก ตึกตัก ไลอ้อนเงยหน้าสบมองเจ้าหล่อนในทันทีเพราะหัวใจของตัวเองกำลังคำรามอย่างหนักขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ ควีนดูลุกลี้ลุกลนมากกับอาการของเธอ ทั้งยังพยายามจะเข้ามาช่วยพยุงจนเธอเริ่มจะไม่เข้าใจตัวเองแล้วว่าอาการแบบนี้มันคืออะไรกันแน่ เธอยอมรับตามตรงเลยว่าเธอต้องการร่างกายของควีนเพราะเจ้าหล่อนเป็นคนสวย ใบหน้าคมคายฉบับสาวลูกครึ่งมีใครบ้างหรือที่ไม่อยากจะย่างกราย แต่เธอไม่ได้คิดอะไรกับควีนมากเกินไปกว่าเรื่องเซ็กซ์เลยในตอนนั้น แล้วที่ตัวของเธอกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ล่ะ...มันเรียกว่าอะไรกันแน่? “รีบลุกเร็วเข้า!” “จะไปไหนกันครับ?” แต่แล้วกลับมีเสียงของใครบางคนดังขึ้นมาที่ด้านหลังให้เราทั้งสองต้องหันกลับไปสบมอง “คุณณคิน...” “ครับ ผมเอง...” ชายตรงหน้าที่มาพร้อมกับมือขวาของเขายกเครื่องดื่มขึ้นจิบ พร้อมกับที่ชะโงกหน้าไปมองไลอ้อนซึ่งนั่งอยู่อีกทาง “แล้วนั่นเป็นอะไรล่ะ? มีอะไรอยากให้ช่วยไหม?” เขายกยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจจนไลอ้อนได้แต่กำมือแน่น แต่มือขวาของเขาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กันกลับส่งสายตาเยาะเย้ยเขาออกมาอย่างไม่มีปิดบัง และสูทของเขาเธอจำมันได้ดีว่าเป็นชายคนเดียวกับที่เดินออกไปหลังจากที่เธอแย่งเครื่องดื่มในมือของควีนมาดื่มเอง เป็นคนของพัคจริง ๆ ด้วย... “หน้าแดง เหงื่อไหลขนาดนี้...คงรู้แล้วสินะว่าโดนอะไร?” “นี่พวกคุณทำอะไรกับคนของฉัน!” ควีนกระแทกเสียงออกมาแต่ไม่ได้ดังมากให้คนในงานแตกตื่น เผลอ ๆ คนที่มองดูอยู่อาจจะคิดว่าเป็นการทักทายกันตามปกติของสองตระกูลใหญ่เท่านั้นไม่มีอะไรแอบแฝง “เปล่านี่ครับ...” “คุณ...รีบไปเถอะ” ไลอ้อนพูดออกมาเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงเพราะถ้าให้เธอสู้ตอนนี้มันคงไม่ดีแน่ เธอรู้แล้วว่าตัวเองกำลังโดนอะไรอยู่ เพราะครั้งหนึ่งเธอก็เคยโดนณคินสั่งให้ไปทำแบบนี้กับผู้หญิงที่ณคินเองก็อยากได้เหมือนกัน และไม่น่าเชื่อว่าตอนนั้นตัวเองจะหลงศรัทธาเขาจนมัวเมา และยอมทำอะไรทุเรศ ๆ แบบนั้นโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้เต็มใจ “เอ๊ะ! เป็นแค่ขี้ข้ามีสิทธิ์อะไรมาสั่งเจ้านายวะ!” ณคินเดินไปขวางเอาไว้ไม่ให้เธอได้พาควีนออกไปจากตรงนี้ และเขาก็เริ่มพูดขึ้นมาเสียงดังจนคนกำลังหันมาสบมองแล้ว “นี่คุณ!” “ฉันขอร้อง อย่าพึ่งมีปัญหาตอนนี้” ไลอ้อนกระซิบที่ข้างหูของเจ้าหล่อนให้ใจเย็น ๆ “มีเรื่องตอนนี้คุณก็มีแต่จะเสียเปรียบ ฉันไม่สามารถดูแลคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ” เธอพยายามเกลี่ยกล่อม และเหมือนว่าควีนเองก็จะยอมอ่อนลงตามที่เธอได้บอกกล่าว ควีนจับร่างของไลอ้อนและเดินจากออกมาในทันทีโดยไม่สนใจชายหนุ่มที่ยังคงยืนหน้าเสียอยู่กับที่ เพราะเขาตั้งใจว่าจะมายั่วโมโหเสียหน่อยที่ยานั้นไม่ได้โดนควีนอย่างที่ใจของตนเองนั้นคาดหวัง แต่มันกลับผิดคาดไม่เป็นท่าเพราะดูเหมือนควีนจะเชื่อทุกอย่างที่ไอทรยศนั่นเป็นคนบอก แม้ใบหน้าของเขาจะนิ่งเฉย แต่มือของเขากลับบีบแน่นจนแก้วมันแตกละเอียดคามือ ให้มือขวาของเขาต้องรีบเข้ามาดูเจ้านายของตัวเองในทันใดด้วยความห่วงใย “นาย...” ปั๊ก! “ไอไลอ้อน!” ชายผู้เป็นมือขวาหันหน้าไปตามแรงต่อยของชายที่มีศักดิ์เป็นถึงเจ้านายเพราะความโมโหของเขา และผู้คนก็หันมาสบมองกันเต็มไปหมดจนเขาเริ่มที่จะหน้าเสียขึ้นมา มือของเขากำแน่นเอาไว้และพยายามกดอารมณ์ของตัวเองให้อยู่ลึกที่สุดในหัวใจของตัวเอง ตอนนี้เขายังทำอะไรผลีผลามไม่ได้เพราะมันจะไม่เป็นไปตามแผนที่เขานั้นวางเอาไว้ แต่ถ้าเมื่อไรที่แผนของเขาสมบูรณ์เสร็จสิ้นเมื่อไร... เขาขอสาบานกับตัวเองตรงนี้เลยว่าจะทรมานไอณคินก่อนที่จะฆ่าให้ตายอย่างเลือดเย็น และลั่นปืนใส่หัวของไอไลอ้อนในทันทีไม่ให้มันมีโอกาสแม้แต่จะได้ร้องขอชีวิต! “ค่อย ๆ เดินสิไอลูกหมา!” ควีนบ่นอุบมาตลอดทั้งทางเดินขึ้นมาบนห้องโรมแรม หลังจากที่เธอประเมินแล้วว่าตอนนี้ไอเจ้าชิบะของเธอนั้นคงไม่มีทางที่จะรอซงคังมารับได้ ใบหน้าของเขาแดงจัดลามไปจนถึงใบหู แต่ริมฝีปากกลับซีดและแห้งผาด แถมเหงื่อของเขายังชุ่มไปหมดจนเธอเริ่มจะรู้สึกร้อนไปด้วยเมื่อสัมผัสกับร่างกายของเขา ควีนเปิดประตูเข้าไปในห้องโรงแรมหรูและทิ้งตัวของคนร่างสูงลงบนเตียงในทันใดแม้ว่าเขาจะตัวใหญ่กว่าเธอมากและมันช่างทุลักทุเล “ให้ตายสิ! นี่ฉันเป็นเจ้านายของเธอนะ!” เธอยังคงบ่นต่อเมื่อมองเห็นเขาอยู่บนเตียงนอนแล้ว เกิดมาทั้งชีวิตเธอไม่เคยจะต้องมาทำอะไรแบบนี้เลยให้ตายเถอะ! “อื้อ...” แต่ร่างของเขากลับบิดไปบิดมา มือของเขาก็พยายามจะถอดอาภรณ์ออกจากร่างกายเพราะเขาเอาแต่บ่นว่าร้อนมาตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว “งั้นเธอก็อยู่ในนี้ไปก่อนแล้วกันนะ ฉันจะโทรไปตามหมอมาให้...” “ได้โปรด...” มือของเธอถูกเขาจับเอาไว้ ก่อนที่เขาจะออกแรงกระชากเธอให้เข้าไปชิดใกล้จนควีนร้องลั่นอย่างตกใจออกมาในทันที “อะไรของเธอ! ปล่อยเดี๋ยวนี้...” เธอกำลังพยายามประติดประต่อเรื่องราวกับอาการของเขาอยู่ ดวงตาของเขาหวานฉ่ำ ไหนจะตัวร้อนจนบางทีเธอคิดว่าเขาอาจจะกำลังโดนยาอยู่ มันพอดีกับเรื่องราวที่หลุดออกมาจากปากของณคินด้วย “อย่าบอกนะว่าเธอ...” “ฉันโดนพวกเขาวางยาปลุกเซ็กซ์...” เขาพยายามจะควบคุมสติ แต่มือไม้ของเขากำลังเลื้อยไปเลื้อยมาให้เธอคอยปัดป่ายอยู่เสมอ “จากไวน์แก้วนั้นที่ฉันแย่งมาจากมือของคุณ...” “ว่าไงนะ?” เธอคิดไปถึงเรื่องในตอนนั้น ก่อนที่ภาพของเขาจะฉายย้อนกลับมาอีกครั้งราวกับฉายหนังเรื่องเก่า และเธอจำมันได้ดีว่าเขาดื่มไปจนหมดแก้ว และหลังจากนั้นก็เริ่มมีอาการตามที่เธอได้เห็นในตอนนี้ “คนพวกนั้นจงใจวางยาคุณ...แต่ฉันสังเกตมาได้สักพักแล้วว่ามันแปลก ๆ” “ยังไง?” “ฮ่า...ฉันจะคุมตัวเองไม่ไหวแล้ว” เสียงของเขาพร่าเบลอ สติของเขาก็ใกล้จะเลือนรางเต็มที “ได้โปรด ฉันต้องการมัน...” แววตาของเขาหวานฉ่ำแต่เต็มไปด้วยความเว้าวอน และตอนนี้สายตาของเขากำลังสบมองเธออย่างไม่มียอมแพ้ และมันมีความต้องการอยู่ในนั้นจนจะล้นออกมาจากดวงตาของเขาอยู่แล้ว ตึกตัก ตึกตัก แววตาของเขาแสดงออกมาถึงความต้องการมันก็จริงอยู่ แต่ทำไมลึก ๆ เธอมองเห็นว่าเขากำลังเสน่หาในตัวของเธอด้วยล่ะ? หรือเป็นเพราะเขาพร่ำบอกมาเสมอว่าต้องการที่จะนอนกับเธอ... “คุณ...” แต่แล้วอยู่ ๆ เขาก็ผินหน้าหนี และปล่อยมือออกจากร่างกายของเธอ “ถ้าอย่างนั้นช่วยออกไปรอข้างนอกก่อนได้ไหม ไว้ฉันจัดการตัวเองเมื่อไรแล้วจะ...” “ทำสิ...” “อะไรนะ?” ไลอ้อนถามออกมาอีกครั้งเพราะคิดว่าตัวเองน่าจะฟังผิดไป ควีนที่ตอนแรกนั่งอยู่ขอบ ๆ เตียงเจ้าหล่อนก็ลุกและเดินเข่าเข้ามาชิดใกล้กับเธอ ควีนย้ายสะโพกของตัวเองที่เคยนั่งอยู่บนเตียงให้ตอนนี้มันดันมาอยู่บนตักของเธอแล้ว และเจ้าหล่อนกำลังใช้นิ้วกรีดกรายที่ใบหน้าของเธอไปมาจนอารมณ์ในกายมันยิ่งฟุ้งซ่านจนจะห้ามตัวเองแทบไม่ไหว “ในเมื่อเจ้าลูกหมาของฉันต้องการ...เจ้านายอย่างฉันก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะ” เธอยิ้มร้าย และนึกขบขันกับใบหน้าเหลอหลาของเขาเต็มที “มาดูกันเสียหน่อยก็ดีเหมือนกัน...” “ดู?” ไลอ้อนเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ พร้อมกับที่เธอใช้ริมฝีปากของตัวเองขยับเข้าไปขบเม้มที่ลำคอของคนตรงหน้า... “ลูกหมาอย่างเธอ...มันจะเลียเก่งเหมือนปากหรือเปล่า?”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD