ตอนที่ 7 ข่าวร้าย

1336 Words
เวลาล่วงเลยผ่านไปนานหลายชั่วโมงจนท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้ว นิภากับพายุยังคงนั่งรอคุณหมอที่ยังคงไม่ออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยใจที่สั่นไปหมด จันทรากับพิทักษ์เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดในชีวิตของทั้งคู่เลยก็ว่าได้ สนับสนุนทุกอย่างที่พวกเขาทำแต่ทั้งคู่ไม่สามารถมีลูกได้เพราะจันทราร่างกายไม่แข็งแรงพอจึงไปรับเด็กจากบ้านเด็กกำพร้ามาเป็นลูกซึ่งก็คือตังเมและสายฟ้านั่นเอง ถึงแม้ทั้งสองจะเป็นเพียงลูกสาวบุญธรรมแต่ก็ทำให้ชีวิตคู่ของจันทรากับพิทักษ์มีความสุขมากจนสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน “คุณเป็นญาติของคนไข้ใช่ไหมครับ” ประตูห้องผ่าตัดถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของคุณหมอที่ทำการผ่าตัดออกมาหานิภาและพายุ “ดิฉันเป็นเพื่อนสนิทของทั้งสองคนค่ะ” “หมอขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ คุณจันทรากับคุณพิทักษ์ได้รับบาดแผลและอวัยวะภายในได้รับแรงกระแทกจนเสียหายหนักมากรวมถึงทั้งสองคนมาถึงโรงพยาบาลช้าเกินไป” “ฮึก ฮืออออ ละ แล้วลูกสาวของทั้งคู่ล่ะคะ” “ตอนนี้คุณสายฟ้าพ้นขีดอันตรายแล้วครับ แต่ว่าสมองกระทบกระเทือนขั้นรุนแรง หมอไม่สามารถบอกได้ว่าจะฟื้นเมื่อไหร่” นิภาแทบจะล้มทั้งยืนเมื่อได้ยินคำตอบจากคุณหมอ น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาอย่างไม่อาจกลั้นไว้ได้ ความเสียใจท่วมท้นจนเธอยืนแทบไม่ไหว พายุจึงเข้ามาช่วยประคองภรรยาของตนไว้ แม้ตอนนี้เขาจะเสียใจกับการจากไปของเพื่อนสนิททั้งสองคนไม่ต่างกัน เหนือน้ำที่นอนไม่หลับทั้งคืนได้รับข่าวร้ายจากพ่อของเขาที่โทรมาบอกแต่เช้า ตอนนี้เขากำลังนั่งรอให้ร่างบางที่นอนหลับอยู่บนเตียงตื่นก่อนจึงจะบอกข่าวร้าย ทั้งหมดให้เธอฟัง “นายมานั่งตรงนี้ทำไม” ตังเมเอ่ยถามด้วยความสงสัย เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นชายหนุ่มนั่งหน้าเครียดอยู่ที่โซฟาข้างเตียงราวกับกำลังรอเธอตื่นอย่างงั้นแหละ “ฉันมีเรื่องจะบอก ทำใจดีๆ นะ” “เรื่องอะไร ทำไมนายดูเครียดขนาดนั้น” “พ่อแม่ของเธอ... ท่านจากไปแล้ว” “นายพูดอะไรของนาย อย่ามาล้อกันเล่นแบบนี้นะ” ร่างบางมีสีหน้าตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาบอกพลางเอ่ยต่อว่าเพราะในใจของเธอในตอนนี้กำลังขอให้สิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องที่แกล้งเธอเล่นเท่านั้น “ฉันพูดความจริงคุณแม่โทรมาบอกฉันเมื่อคืนว่าพ่อแม่ของเธอและสายฟ้าประสบอุบัติเหตุแต่ไม่ให้ฉันบอกเธอ เพราะจะให้ฉันพาเธอไปเยี่ยมวันนี้ แต่เมื่อเช้าคุณพ่อโทรมาบอกว่าคุณแม่เป็นลมไป เพราะหมอบอกว่าท่านทั้งสองจากไปแล้ว” “อึก ฮึก ฮืออออ ไม่จริงอ่ะ” ร่างบางสั่นไหวไปทั้งตัว น้ำตาแห่งความเสียใจร่วงพล็อยลงมาบนแขนของเหนือน้ำที่เข้ามากอดปลอบเธอด้วยความห่วงใย “ส่วนน้องสาวของเธอพ้นขีดอันตรายแล้ว” ตังเมรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหน่อยที่อย่างน้อยก็ยังเหลือน้องสาวอยู่อีกคน ครอบครัวของเธอนั้นแม้จะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันเลยแต่ก็รักกันไม่ต่างจากสายเลือดเดียวกัน พ่อแม่ดูแลเธอกับสายฟ้าดีมาก ส่วนสายฟ้าก็รักและห่วงใยเธอมากเหมือนที่เธอก็ห่วงใยทุกคนเหมือนกัน เธอไม่เคยคิดเลยว่าพ่อแม่จะจากเธอไปเร็วขนาดนี้ ทั้งที่เมื่อวานท่านทั้งสองยังยิ้มและกอดเธออย่างมีความสุขแท้ๆ แต่วันนี้กลับต้องมาได้รับข่าวร้ายที่ไม่คาดคิดมาก่อนแบบนี้ “ไม่เป็นไรนะ ยังไงเธอก็ยังมีฉัน คุณพ่อคุณแม่ แล้วก็สายฟ้าไง” มือหนาลูบศีรษะของร่างบางที่กำลังซบอกของเขาอยู่ตอนนี้เป็นการปลอบโยน ร่างบางที่สะอื้นจนตัวโยนทำให้เขากังวลอยู่ไม่น้อยว่าเธอจะปวดหัวหลังจากที่ร้องไห้เสร็จ แล้วเธอจะต้องเศร้าไปอีกหลายวันแน่ ตอนนี้เขากำลังว้าวุ่นใจไปหมดเพราะห่วงความรู้สึกของตังเม เหนือน้ำพาตังเมที่หยุดร้องไห้แต่ก็ยังคงสะอื้นอยู่มาที่โรงพยาบาลซึ่งมีคุณพ่อคุณแม่ของเขา เฝ้าสายฟ้าอยู่ เขาจึงต้องพาหญิงสาวไปจัดการเรื่องร่างของพ่อแม่ของเธอ ทันทีที่ตังเมเห็นร่างของจันทราและพิทักษ์ น้ำตาก็เริ่มไหลออกมาอีกครั้ง จนเหนือน้ำต้องเป็นคนจัดการเอกสารทั้งหมดเองเพราะหญิงสาวแทบจะไม่รับรู้อะไรในตอนนี้เลยด้วยซ้ำ ภายในใจมีแต่ความเสียใจเต็มไปหมด “เรียบร้อยแล้ว ไปดูสายฟ้ากันเถอะ” ชายหนุ่มโอบไหล่ของตังเมพลางพาขึ้นไปที่ห้องพักของสายฟ้าที่อยู่ชั้นพิเศษเพราะที่นี่คือโรงพยาบาลที่เขาเป็นหุ้นส่วนนั่นเอง ตังเมเดินเข้ามาในห้องพักคนไข้ด้วยจิตใจที่ล่องลอยพลางมองร่างที่ไม่ได้สติของสายฟ้าที่มีร่องรอยการบาดเจ็บไปทั้งตัวโดยเฉพาะที่ศีรษะซึ่งมีผ้าพันแผลพันไว้รอบๆ และใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ “หนูตังเม แม่เสียใจด้วยนะ” “ค่ะ” “หนูไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องสายฟ้านะ แม่จะหาหมอที่เก่งที่สุดมารักษาน้องให้หายเอง” “ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์มาดูแลสายฟ้าให้รวมถึงเรื่องของคุณพ่อคุณแม่ด้วย” “ไม่เป็นไรเลย แม่เต็มใจ” นิภาที่เห็นสีหน้าอันเศร้าสร้อยของลูกสะใภ้ก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ “ไปกินข้าวกันก่อนเถอะ เธอยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าเลยนะ” “ไม่ล่ะ ฉันกินไม่ลงหรอก” ร่างบางปฏิเสธก่อนจะเดินไปยืนข้างๆ เตียงคนไข้พลางกุมมือของน้องสาวภาวนาให้สายฟ้าฟื้นขึ้นมาไวๆ แต่เธอก็กลัวว่าสายฟ้าจะต้องเสียใจไม่ต่างจากเธอในตอนนี้อย่างแน่นอน แล้วสายฟ้าจะรับได้ไหมนะ เธอได้แต่จินตนาการไปต่างๆ นาๆ ว่าน้องสาวของเธอจะเป็นอย่างไร หากรู้ว่าพ่อแม่จากไปแล้วแต่มีเพียงตัวของสายฟ้าเองที่รอดชีวิตมา จู่ๆ ตังเมก็รู้สึกมึนหัวขึ้นมา ก่อนที่ทุกอย่างรอบตัวจะเริ่มเบลอไปทีละน้อยและเธอก็ฝืนประคองตัวเองไว้ไม่ไ หวอีกต่อไปพร้อมกับเสียงเรียกชื่อของเธอดังลั่นก่อนที่ตาของเธอจะค่อยๆ ปิดไป เหนือน้ำรีบเข้ามารับร่างบางที่เป็นลมไปอย่างรวดเร็ว เขารีบพาร่างบางไปที่ห้องพักส่วนตัวของเขาที่อยู่ที่นี่ ก่อนจะเรียกพยาบาลให้เอาอุปกรณ์ปฐมพยาบาลและสั่งอาหารมาไว้ให้หญิงสาว หลังจากที่หญิงสาวอาการเริ่มดีขึ้น เหนือน้ำก็บังคับให้กินข้าวทันที “อ้าปาก ถ้าเธอไม่กินอะไรเลยเธอจะมีแรงได้ยังไง” “แต่ฉันไม่อยากกินอะไรเลยจริงๆ นะ” “ไม่ได้อ้าปากเดี๋ยวนี้” หญิงสาวที่ไม่อาจเลี่ยงการถูกบังคับของเหนือน้ำได้จึงต้องยอมอ้าปากตามที่เขาบอก เหนือน้ำตักอาหารป้อนร่างบางจนหมดแม้ระหว่างที่ป้อนเธอจะบอกเขาว่าอิ่มหลายรอบแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังดั้นด้นที่จะทำให้เธอทานอาหารที่เขาป้อนจนหมดถ้วย “เรื่องงานศพ คุณพ่อคุณแม่บอกว่าพรุ่งนี้จะเชิญบาทหลวงมาทำพิธี ส่วนวันนี้ให้กลับไปพักผ่อนกันก่อน” “แต่ว่าฉันอยากอยู่เฝ้าน้องนะ” “เธอต้องพักผ่อน ส่วนสายฟ้ามีพยาบาลพิเศษคอยดูแลแล้วก็คุณแม่จะเข้ามาดูแลให้ด้วย” ตอนนี้ชายหนุ่มดูจริงจังมากๆ จนเธอเองก็รู้ว่าคงคัดค้านเขาไม่ได้อย่างแน่นอนจึงได้แต่ยินยอมทำตามที่เขาบอกแต่โดยดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD