หกปีก่อนหน้านั้น
ก๊อกก๊อกก๊อก
“ราฟ! นายอยู่หรือเปล่า เฮ้!”
ฉันเคาะประตูระเบียงพร้อมกับส่งเสียงเรียกหมอนั่นจนคอแทบแตก หมอนั่นที่ว่าก็คือ ‘ราฟ’ หรือชื่อเต็มๆ คือ ‘ราฟาเอล’ เพื่อนสมัยเด็กที่โตมาด้วยกัน เรียนห้องเดียวกันจนถึงปัจจุบัน แล้วยังอยู่บ้านข้างกันมาตลอดอีก ห้องนอนของหมอนี่ก็อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนของฉัน ระเบียงห้องของพวกเราติดกันชนิดที่ว่าขึ้นมายืนบนขอบระเบียงแล้วเดินข้ามหากันได้อย่างสบายๆ อย่างที่ฉันกำลังทำอยู่ในตอนนี้
‘ขอโทษนะซันนี่ พี่ฝากราฟด้วยนะ’
เพราะคำพูดนั้นของ ‘พี่น้ำหวาน’ พี่สาวบ้านตรงข้ามที่อายุมากกว่าฉันและราฟาเอลสามปี ทำให้ฉันต้องมายืนเคาะประตูจนเจ็บมืออยู่ในตอนนี้
ฉันกับหมอนั่นเรียนอยู่ ม.3 โรงเรียนเดียวกันและห้องเดียวกัน ส่วนพี่น้ำหวานเรียนอยู่โรงเรียนสตรีชื่อดังระดับจังหวัด สวย เรียนเก่ง เป็นที่รักของทุกๆ คน พี่น้ำหวานกับราฟาเอลคบกันมาได้ปีกว่าแล้ว ตาบ้านั่นแอบหลงรักพี่น้ำหวานมาตลอดและสารภาพรักไป น่าตกใจมากที่ผู้หญิงที่แสนเพียบพร้อมอย่างพี่น้ำหวานรับรักเขา แถมยังคบกันอย่างหวานชื่นมาตลอด และทั้งที่เป็นแบบนั้น จู่ๆ พี่น้ำหวานก็มาบอกเลิกหมอนี่เมื่อหนึ่งเดือนก่อน โดยให้เหตุผลว่าได้ทุนไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ประเทศอังกฤษ
พี่น้ำหวานไม่ต้องการมีรักทางไกล และทนไม่ไหวกับพฤติกรรมหึงเรี่ยราดของราฟาเอลอีกต่อไปแล้ว ก็เลยตัดสินใจขอจบความสัมพันธ์ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฉันก็เห็นหมอนี่ควงผู้หญิงเป็นว่าเล่น แถมยังไม่ซ้ำหน้ากันอีกต่างหาก เวลาแค่เดือนเดียว ตาบ้านั่นเชยชมผู้หญิงไปแล้วไม่ต่ำกว่าสิบคน!
นายเพิ่งอายุแค่สิบห้าปีเองนะยะ จะกร้านโลกอะไรเบอร์นั้น
“ถ้านายไม่เปิดฉันจะเข้าไปแล้วนะ”
พูดออกไปอีกครั้ง ก่อนจะยืนรอนิ่งๆ รอการตอบกลับจากเจ้าของห้องอีกสักพัก พรุ่งนี้จะเป็นวันเดินทางของพี่น้ำหวาน พวกเราจะไม่ได้เจอเธอไปอีกตั้งหกปีเชียวนะ! ถึงจะจบกันไม่สวยยังไง อย่างน้อยก็รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เล่นด้วยกันมาก็เยอะ ฉันอยากให้ทั้งสองคนได้ร่ำลากันดีๆ
ครืด...
ฉันถือวิสาสะเปิดประตูระเบียงเข้าไป ภายในห้องว่างเปล่าไร้เงาเจ้าของห้อง บนพื้นเต็มไปด้วยรูปถ่ายของพี่น้ำหวานที่ถูกฉีก แล้วนี่ไอ้ตัวคนฉีกไปอยู่ไหนซะแล้วล่ะ? ฉันเดินออกจากห้องไปเดินตามหาดูตามจุดอื่นๆ ของบ้าน ลืมบอกไปว่าหมอนี่อยู่บ้านคนเดียว เพราะคุณแม่เสียไปตั้งแต่ยังเล็ก ส่วนคุณพ่อก็ถูกย้ายให้ไปรับตำแหน่งหัวหน้างานอยู่สาขาที่ต่างจังหวัดตั้งแต่ปีก่อน ทุกวันนี้ราฟาเอลเลยอาศัยกินข้าวบ้านฉัน แม้ว่าคุณพ่อของหมอนี่จะเสนอช่วยเรื่อค่ากินกับทางพ่อแม่ของฉันแต่พวกท่านก็ไม่รับ เพราะพ่อกับแม่เองก็เห็นราฟาเอลเป็นเหมือนลูกชายคนนึงเหมือนกัน
ฉันเดินลงมาที่ชั้นล่าง มันเงียบและวังเวงเสียจนน่ากังวล เดินมาจนกระทั่งถึงห้องรับแขกที่ฉันมักจะมานั่งเล่นเกมจนหลับไปอยู่เป็นประจำ ทว่าสิ่งที่สายตามองเห็นกลับทำให้ตกใจจนแทบเป็นลม เมื่อมีดสีเงินวาววับกระทบกับแสงไฟในห้องถูกง้างขึ้น
“ราฟ!!!”
ราฟาเอลในสภาพเหมือนซอมบี้กำลังจะใช้มีดปักลงที่กลางอกของตัวเอง ฉันรีบวิ่งเข้าไปห้ามหมอนั่นเอาไว้ด้วยการใช้สองมือของตัวเองรั้งแขนข้างที่ง้างมีดแบบสุดแรงเกิด
“อย่านะ! นายจะทำบ้าอะไร!”
“ปล่อยฉัน! ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว ถ้าไม่มีน้ำหวานฉันอยู่ไม่ได้!”
เขาตะโกนกลับมาทั้งน้ำตา ฉันเบิกตากว้างอย่างตกใจ คิดไม่ถึงเลยว่าพี่น้ำหวานจะมีอิทธิพลในชีวิตของราฟาเอลถึงขนาดนี้ หนึ่งเดือนที่ผ่านมา...ที่เขาเปลี่ยนผู้หญิงนับไม่ถ้วนไม่ใช่เพราะทำใจได้แล้วหรอกเหรอ ที่แท้นั่นก็ทำเพื่อหลอกตัวเองว่าลืมพี่น้ำหวานได้แล้วอย่างนั้นสินะ
“ไอ้บ้า! นายนี่มันบ้าจริงๆ! บ้าชะมัด บ้ามากๆ คิดว่าตัวเองทำบ้าอะไรอยู่กันฮะ”
“เออ! ฉันมันบ้า แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไง ยัยนั่นจะไปแล้ว... น้ำหวานจะไปพรุ่งนี้แล้วได้ยินไหม!”
สายตาเจ็บปวดและขอบตาที่แดงก่ำบ่งบอกได้ชัดเจนว่าหมอนี่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วงขนาดไหน
ให้ตายสิ ฉันไม่เคยรู้เลยว่าความรู้สึกที่ราฟาเอลมีให้พี่น้ำหวานจะมากมายขนาดนี้ เพราะแบบนั้นก็เลยไม่ได้ใส่ใจตอนที่เขาถูกบอกเลิก และคิดเอาเองว่าคงทำใจได้แล้ว ฉันนี่มัน...แย่เป็นบ้า
ปล่อยให้เพื่อนสมัยเด็กต้องเจ็บปวดอยู่คนเดียวมานานเท่าไหร่แล้วนะ
“นายใจเย็นๆ แล้ววางมีดลงก่อนเถอะนะ ทำแบบนี้ไปพี่น้ำหวานก็ไม่กลับมาหรอก อย่าทำร้ายตัวเองเลย อีกอยาง ฉันมีบางอย่างจะให้ คือว่าพี่น้ำหวานฝาก...”
ยังพูดไม่ทันจบดี ไอ้คนแรงเยอะกว่าหลายเท่าก็เริ่มอาละวาดอีกครั้งพร้อมกับตวาดใส่ฉันเสียงดัง
“เธออย่ามายุ่ง กลับไปซะ!”
ราฟาเอลออกแรงกดแขนข้างที่ถือมีดอยู่อีกครั้ง อีตาบ้าเอ๊ย ตัวฉันเล็กเท่ามด จะเอาแรงที่ไหนมารั้งนายไว้ได้มากมายเล่า ได้สติสักทีได้ไหม!
“หยุดนะราฟ อย่าทำร้ายตัวเอง ราฟ!”
“ไปให้พ้น!”
“กรี๊ด!”
ฉึกกก!
เพียงเสี้ยววินาทีที่ราฟาเอลออกแรงผลักฉันให้พ้นทาง แต่ฉันก็ยื้อเอาไว้สุดแรงเกิดกอดแขนเขาและคว้าลงมาด้วยกัน ทำให้เราสองคนต่างล้มลงไปนอนกองกับพื้น ทว่ามีดที่เขาถืออยู่ กลับเฉือนแขนซ้ายของฉันตั้งแต่ข้อมือไปจนถึงข้อศอกเป็นทางยาว เนื้อเปิดเป็นแผลเหวอะและมีเลือดไหลนองออกมาอย่างน่าสยดสยอง
“ซันนี่!” ราฟาเอลร้องเรียกฉันเสียงดัง
“ให้ตายสิ หยุดบ้าได้แล้วใช่ไหม”
“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉัน...”
หมับ...
ราฟาเอลที่ร่างกายสั่นเทิ้มและกำลังลนลานตกใจทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นสภาพของฉันถูกฉันดึงเข้ามากอดไว้แน่น มือเล็กๆ ของฉันกดศีรษะเขาให้ซบลงกับหัวไหล่ ฉันรู้สึกได้ว่าสายตาของตัวเองเริ่มพร่าเลือนคล้ายจะเป็นลม แต่ว่านะ...ถ้าฉันเป็นอะไรไปอีกคนในตอนนี้ ผู้ชายคนนี้จะเป็นยังไง เขาจะต้อง...รู้สึกผิดและเสียใจมากแน่ๆ
มือข้างหนึ่งสอดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อนักเรียนเพื่อกำ ‘บางสิ่ง’ ที่พี่น้ำหวานฝากมาให้เขา รวมถึงข้อความบางอย่างที่เธอให้ฉันเอามาบอกก็เช่นกัน ฉันตัดสินใจที่จะปิดมันเอาไว้
“นายยังมีฉันนะราฟ”
“...”
“ถึงพี่น้ำหวานจะไม่อยู่แล้ว แต่นาย...ยังมีฉัน”
“...”
“ฉันจะอยู่กับนายตลอดไป จะอยู่เคียงข้างนายเสมอไม่ไปไหน”
“...”
“เพราะงั้น...นายก็อย่าทิ้งฉันไปเลยนะ ขอร้องล่ะ...”
หลังจากที่พูดประโยคนี้จบ หัวใจของฉันก็ค่อยๆ เต้นแรงขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง มันทำให้ฉันรู้ได้ในทันทีเลยว่า...
ฉันตกหลุมรักเขา
ฉันแอบรักเพื่อนสมัยเด็กของตัวเองเข้าซะแล้ว