วิณณ์รู้สึกตกใจจึงรีบวางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นหมุนตัวออกจากห้องตนเองมาเคาะประตูห้องฝั่งตรงข้ามทันที
“ฟ้า เปิดประตูให้พี่หน่อย”
ฟ้าพราวที่ร้องไห้น้ำตาไหลพรากเพราะซาบซึ้งใจกับคำพูดของคู่หมั้นได้ยินเสียงนั้นก็ตัดสินใจขั้นเด็ดขาด
เธอต้องจัดการเจ้าบ้านี่ไปให้พ้นทาง คู่หมั้นของเธอแสนดีขนาดนั้น เธอไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่นอน
หญิงสาวปาดน้ำตาที่ไหลไม่หยุด เดินไปที่ประตูห้องแล้วเปิดออกอย่างแรงจนคนตัวสูงแทบพุ่งหลาวเข้ามา
เมื่อเห็นหน้าเนียนอมชมพูมีน้ำตาเปรอะเปื้อน วินณ์ก็รีบยกมือประคองแก้มนุ่ม “เป็นอะไร? ร้องไห้ทำไม?”
“ปล่อยนะ” ฟ้าพราวตะเบ็งเสียงอู้อี้ปากยื่นเหมือนเป็ดเพราะถูกฝ่ามือของวิณณ์บีบแก้มอยู่
“ปล่อยได้ไง เธอร้องไห้อยู่”
ถามพลางก้มจูบปากสีแดงทีหนึ่งอย่างต้องการปลอบใจ
“เงียบนะครับคนดี ไม่ร้องไห้นะ”
เจอไม้นี้เข้าไป ฟ้าพราวพลันเบิกตากลมจนโต ความอบอุ่นและอ่อนโยนในแบบที่ไม่เคยได้รับจากใครกำลังโอบล้อมรอบกาย
และเพราะอึ้งตะลึงอยู่เธอจึงเสียจุมพิตให้วิณณ์ไปอีกหนึ่งที
ครั้งนี้ออกจะดูดดื่มและเนิ่นนาน แผ่ซ่านความลึกซึ้งชวนใจสั่นหวั่นไหว อารมณ์ที่มีมากกว่าความวาบหวิวค่อยๆ ก่อตัวเป็นระลอกคลื่นปริศนาในหัวใจ พาให้สาวน้อยคนหนึ่งเริ่มรู้สึกแปลกๆ
ทั้งอุ่นวาบและตราตรึง
“อื้อ...” ฟ้าพราวรีบเรียกสติที่กำลังเตลิดไปไกลของตัวเองให้กลับมาแล้วเบี่ยงหน้าหนี “ปล่อยนะ”
วิณณ์ยอมถอนจูบโดยดี ก่อนจับมือเธอให้เดินมานั่งคุยกันตรงโซฟา เขาทำเหมือนห้องเธอเป็นห้องของเขาเอง
“เอาล่ะ บอกมา เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม?”
“ฉันจะร้องไห้ทำไมน่ะเหรอ ร้องทำไมน่ะเหรอ เป็นไรเหรอ ก็เพราะเธอไงล่ะ! เพราะนาย! ไอ้คนบ้าหื่นกาม!”
ว่าพลางขว้างหมอนอิงใส่หน้าคนหล่ออย่างแรง วิณณ์รับเอาไว้ได้ทัน ก่อนมองฟ้าพราวที่ทำท่าฮึดฮัดน้ำเสียงห้าวจัด ผิดกับตอนคุยโทรศัพท์อย่างสิ้นเชิง
สองมาตรฐานชัดๆ
“หงุดหงิดใส่แบบนี้แสดงว่าเมื่อกี้แอบคุยกับคู่หมั้นมาล่ะสิ”
วิณณ์ยังคงกลั่นแกล้งคู่หมั้นต่อไป เขาไม่บอกหรอกว่าจริงๆ แล้วตัวเองเป็นใคร สนุกดี
เมื่อถูกรู้ทัน ฟ้าพราวจึงไม่คิดปิดบัง “ใช่!”
เธอนั่งลงจ้องหน้าเขาตรงๆ “ฉันเพิ่งคุยแบบเปิดใจกับเขา นายเชื่อมั้ย เขาเป็นคนดีมากเลย ฉันกำลังทำร้ายเขาทั้งๆ ที่เรายังไม่เคยพบหน้ากันด้วยซ้ำ”
พูดแล้วน้ำตาก็พาลจะไหล เมื่อคืนเธอไม่น่าสติแตกพาตัวเองไปดื่มเหล้าจนเมาขนาดนั้น เมาดีๆ ไม่ว่า ดันพาเจ้าบ้านี่เข้าห้องมาเริงรักบนเตียง ซวยที่สุด!
เห็นคู่หมั้นหน้าดำคร่ำเครียด วิณณ์จึงเอ่ยเสียงทุ้มเบา “เธอไม่เคยพบหน้าเขาแล้วรู้ได้ยังไงว่าเขาดี”
ฟ้าพราวถอนหายใจ “ต่อให้เขาเป็นยังไง ฉันก็ไม่ใช่คนดี เพราะเมื่อคืนฉันมีอะไรกับนาย ฉันนอนกับนายไง”
“แต่เธอบอกว่าไม่อยากหมั้น เห็นชัดว่าเธอไม่ได้รักเขา”
ฟ้าพราวเริ่มเสียงสูง “เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับรักไม่รัก การที่ฉันไม่อยากหมั้น ไม่ได้หมายความว่าฉันสมควรหักหลังเขาแบบนี้ นายนี่เป็นคนชั่วช้ามาจากที่ไหนเนี่ย ฟังแค่นี้ก็ไม่เข้าใจ”
คนถูกด่านอกจากไม่โกรธวิณณ์กลับยิ้ม
เป็นยิ้มที่ไม่เคยมีให้ใคร
เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าฟ้าพราวจะน่ารักขนาดนี้
ชายหนุ่มยิ่งนึกสนุกคึกคัก “เอางี้ไหม ในเมื่อคู่หมั้นของเธอ เขาแสนดีขนาดนั้น และพี่ก็หล่อล่ำขนาดนี้ เธอก็ลองคบพร้อมกันสองคนไปเลยไง”
“บ้า!”
หมอนอิงถูกเหวี่ยงมาอีกใบ วิณณ์รับหมับอย่างแม่นยำ โซฟานี้มีหมอนอิงกี่ใบล่ะเนี่ย
ฟ้าพราวถอนหายใจจนปอดแทบกระดอนออกมานอกอก “ฉันถามนายจริงๆ เหอะ เวลามีสัมพันธ์สวาทกับสาวๆ นายปฏิเสธพวกหล่อนยังไงเพื่อให้จบความสัมพันธ์”
ชายหนุ่มเลิกคิ้วมองเธอคล้ายเจอคำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบ
อันที่จริงก็ไม่ต้องทำอะไร แค่พูดคุยให้ชัดเจนก่อนแก้ผ้า หลังจากคร่อมเสร็จก็ตัวใครตัวมันในคืนนั้นเลย ไม่มีนอนกอดกันแบบคู่รักจนฟ้าสว่าง ระหว่างทำธุระส่วนตัวแทบไม่คุยกันเลยสักคำ ไม่ให้เบอร์ไม่แลกไลน์ ไม่มีทางสานสายใยใดๆ ต่อกันทั้งนั้น
และที่สำคัญ เขาไม่เสียเวลามานั่งตรงหน้าแบบนี้กับใคร
แววตาดำจัดฉายแววซับซ้อนยามทอดมองคู่หมั้นของตน
ทว่าอีกคนกลับมีแววตาที่ชัดเจนเฉียบคมและเด็ดเดี่ยว สีหน้าเดียวของเธอประเดี๋ยวดำประเดี๋ยวแดง ท่าทางจะโกรธจัด เธอหัวฟัดหัวเหวี่ยงชวนขนลุกอย่างยิ่ง
“ฉันไม่เข้าใจจริงๆ คนหล่อสะดุดตาทั้งยังโดดเด่นขนาดนี้ จะมายุ่งกับคนมีคู่หมั้นทำไม”
วิณณ์ยังคงตีเนียน “พี่ชอบน้องนะครับ ชอบมากด้วย”
“ไม่มีทาง อย่ามาหว่านล้อมหลอกฟันซะให้ยาก”
“หลอกฟัน?” แววตาคมเข้มฉายแววขบขัน “พี่หลอกฟันเธอตอนไหนไม่ทราบครับ เห็นชัดๆ ว่าพี่ถูกเธอลากมาฟันฉับๆ ถึงในห้องของเธอเองเนี่ย”
คนถูกตราหน้าว่าลากผู้ชายโคตรหล่อมาฟันในห้องฉับๆ ใบหน้าแดงเถือก เถียงไม่ออกสักคำ
สุดท้ายฟ้าพราวก็ไม่ได้อะไรจากการเจรจาหมายยุติความสัมพันธ์ขั้นเด็ดขาด
เพราะคนหน้าหนาประกาศกร้าวอย่างท้าทายฟ้าดินว่าจะตามจีบเธอต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ ต่อให้มีคู่หมั้นอยู่แล้วเขาก็ไม่สน คนจะเอาใครจะทำไม
หลังจากไล่คนหล่อแต่หน้าด้านหน้าทนออกจากห้องไป หญิงสาวก็ได้แต่นั่งกุมขมับ พอเมื่อยก็เปลี่ยนจากท่านั่งกุมขมับเป็นนอนก่ายหน้าผาก ในชีวิตเธอไม่เคยมีแฟนเพราะไม่เคยเปิดโอกาสให้ใครมาจีบ แต่วันนี้กลับมีผู้ชายโผล่มาพร้อมกันถึงสองคน
คนหนึ่งบอกว่าจะรอจนกว่าเธอจะพร้อมแต่งงานกับเขา ส่วนอีกคนก็จะตามจีบเธอจนกว่าเธอจะใจอ่อนยอมรับเขา
นี่มันเรื่องราวบ้าบออะไรกัน?
ฟ้าพราวไม่ชอบการจับปลาสองมือแบบนี้ เธอจึงตัดสินใจส่งข้อความหาพี่เพนกวินของเธอ
‘เรื่องหมั้นของเรา พี่ลองคิดดูใหม่อีกรอบมั้ยคะ ส่วนเรื่องเงินที่บ้านพี่ช่วยป้านุ่นมา ฟ้าสัญญาว่าพอเรียนจบจะรีบทำงานแล้วเก็บเงินใช้คืนให้แน่นอนค่ะ ฟ้าไม่อยากหลอกลวงพี่เพนกวิน เราถอนหมั้นกันเถอะค่ะ’
พอตื่นเช้ามาก็เดินออกจากห้องของตนไปเคาะประตูห้องของอีกฝั่งอย่างมุ่งมั่น เมื่อเจ้าของใบหน้ามีเสน่ห์เปิดประตูออกมา เธอก็ประกาศกร้าวว่า
“ฉันอยากอยู่เป็นโสด ไม่คบใครทั้งนั้น เลิกยุ่งกับฉันซะ”
กล่าวจบก็เดินจากไปทันที เป้าหมายคือมหาวิทยาลัย
เธอจะตั้งใจเรียน แล้วทำงาน เก็บเงิน เพื่อใช้หนี้!