ตอนที่ 9

1139 Words
นิโคไลไม่เข้าใจตัวเองนักว่าทำไมจะต้องรู้สึกกระวนกระวายแบบนี้ด้วย ก็แค่สาวใช้มารายงานว่าอิงบุญไม่ยอมทานอาหารเช้าในห้องครัวนั้นตามที่เขาสั่ง เขาพยายามจะบอกตัวเองว่าก็ช่างหล่อนสิ หล่อนจะเป็นลม จะตายไปมันก็เรื่องของหล่อน แต่ไหง... ทำไมถึงได้รู้สึกหงุดหงิดแบบนี้นะ “บ้าชิบ!” ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืน คว้าโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกง และกำลังจะเดินดุ่มๆ ออกไปจากบ้านสวนเพื่อไปขึ้นรถคันงามของตัวเอง แต่เสียงกรีดร้องของโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมาเสียก่อน ชายหนุ่มหยุดเดิน หยิบขึ้นมากดรับ “ครับคุณพ่อ” “ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือเปล่าเจ้านิค” เสียงของบิดาที่ดังมาตามสายยิ่งทำให้นิโคไลหงุดหงิด เพราะคิดไปไกลว่าบิดาของตนคงเป็นห่วงอิงบุญถึงได้โทรข้ามโลกมาหาแบบนี้ “ก็ดีนี่ครับ ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ ผมก็กินข้าวได้ นอนหลับดี เพอร์เฟคครับ” ชายหนุ่มประชดประชันแต่บิดาไม่สนใจ “ฉันไม่ได้หมายถึงแก แต่ฉันหมายถึงหนูอิง” นั่นไงเขาคิดเอาไว้มีผิดที่ไหน ที่แท้ก็เป็นห่วงอีหนูของตัวเอง บ้าชะมัดนี่ถ้าแม่ของเขารู้เรื่องนี้เข้าไม่เสียใจแย่หรือ นิโคไลคิดอย่างแค้นเคือง “แล้วคุณพ่อจะมาสนใจว่าที่เมียผมทำไมกันครับ” เกรกอรี่กัดฟันเสียงดังกรอดมาตามสาย “ฉันก็คงไม่ต้องห่วงแบบนี้ ถ้าแกไม่อาละวาดใส่หนูอิงซะจนห้องอาหารแทบแตก” “แม่นั่นคงรีบโทรไปรายงานคุณพ่อสินะครับ ผู้หญิงร้ายกาจ” นิโคไลโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ มืออีกข้างที่ตกอยู่ข้างตัวกำเป็นหมัดแน่น ให้ตายเถอะ แม่นี่มันอสรพิษดีๆ นี่เอง “อย่าไปโทษคนอื่นเลยเจ้านิค แกนั่นแหละที่ผิด” “ผมไม่ผิดครับ ผมไม่ต้องการเห็นหน้าแม่นั่นตอนกินข้าว คุณพ่อได้ยินชัดเจนแล้วนะครับ” “ฉันได้ยินชัดเจน แต่ฉันขอสั่งให้แกเลิกความคิดบ้าบอนี้ไปซะ แกจะต้องไปขอโทษหนูอิงเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันกลับไปเมื่อไหร่ แกเจอดีแน่เจ้านิค” พ่อของเขากำลังหัวเสีย ซึ่งเขาเองก็กำลังอยู่ในอารมณ์นั้นเช่นกัน “ให้ฟ้าลงมาอยู่ใต้เท้าก่อนเถอะครับ ผมถึงจะไปขอโทษแม่นั่น” “แต่แกต้องทำ” “ผมไม่ทำครับ ขอตัวนะครับ” นิโคไลตัดสายการสนทนาทันที ดวงตาคมกริบสีเขียวมรกตลุกเป็นไฟ กรามแกร่งขบกันแน่นจนขึ้นสันนูนเป่ง “นังแม่มด เธอมันร้ายกาจกว่าที่ฉันคิดเอาไว้อีกนะ” ชายหนุ่มคำรามลั่นด้วยโทสะร้าย ก่อนจะหันไปตะโกนถามสาวใช้ “ไปตามแม่อิงบุญมาพบฉัน” “เอ่อ... คือคุณอิงเดินออกไปนอกบ้านค่ะ หนูไม่รู้ว่า...” สาวใช้ตอบเสียงสั่นเทา เพราะท่าทางของนิโคไลตอนนี้น่ากลัวยิ่งกว่ามัจจุราชในขุมนรกหรือจอมมารร้ายผู้แสนยิ่งใหญ่เสียอีก “ไม่ว่าแม่นั่นจะไปมุดหัวอยู่ที่ไหน เธอก็ต้องไปลากแม่นั่นมาหาฉันให้ได้ เร็วสิ ไป!” “ค่ะ ค่ะคุณนิค” สาวใช้รีบวิ่งหายไปทำตามคำสั่งด้วยความตื่นตระหนก ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่อิงบุญกลับเข้ามาในบ้านพอดี หล่อนเห็นนิโคไลยืนหน้าดำหน้าแดงอยู่ก็จะเดินหนี แต่เขาก็คว้าข้อมือบางเอาไว้เสียก่อน จากนั้นก็เริ่มสงครามทันที “ถูกไล่ให้ไปกินข้าวในครัวแค่นี้ ถึงขั้นต้องโทรไปฟ้องพ่อของฉันเชียวหรือ” หล่อนไม่เข้าใจที่เขาพูด แต่รู้ดีว่าคนตัวโตกำลังพาลอย่างสุดกำลังเลยทีเดียว “ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณกำลังหมายถึงอะไร แต่ฉันเหนื่อย ฉันขอตัว...” อิงบุญบิดข้อมือ แต่คนตัวโตไม่ยอมปล่อย “จะรีบไปไหนล่ะ แม่งูเห่า ร้ายกาจกว่าที่ฉันคิดเอาไว้ซะจริงๆ คนในซ่องคงสอนมารยาสาไถยแบบนี้ให้เยอะสิท่า” คนถูกประณามหน้าร้อนผ่าวด้วยความอับอาย แต่ก็จำต้องตีหน้าเรียบเช่นเดิม “ฉันไม่สนหรอกนะว่าคุณจะคิดอะไร ยังไง เพราะฉันเบื่อมากที่จะต้องทะเลาะกับคุณเหมือนเด็กปัญญาอ่อน กรุณาปล่อยมือฉันด้วยค่ะ” “นี่เธอว่าใครปัญญาอ่อนไม่ทราบ” “ฉันไม่ได้ว่าใครทั้งนั้นค่ะ แต่ถ้าใครปัญญาอ่อนจริงแล้วอยากรับไปก็เชิญตามสบาย ปล่อยค่ะ” หญิงสาวบิดข้อมือของตัวเองอีกครั้งอย่างสุดความสามารถ แต่อุ้งมือของนิโคไลแข็งแกร่งยิ่งกว่าคีมเหล็กเสียอีก มันจึงไม่หลุดออกง่ายๆ “ฉันไม่อยากแตะต้องเนื้อตัวสกปรกของเธอนักหรอก แต่ที่ยังไม่ปล่อยก็เพราะต้องการให้เธอฟังคำสั่งของฉัน ฟังและก็จำเอาไว้ให้ขึ้นสมอง” อิงบุญน้ำตาซึมกับความเจ็บปวดที่เกิดจากแรงกดของอุ้งมือแกร่ง “จำใส่กะโหลกหนาๆ ของเธอเอาไว้ด้วยนะยายแม่มด เธอน่ะมันเป็นยิ่งกว่ากิ้งกือในสายตาของฉัน ดังนั้นแค่ฉันยอมตกปากรับคำจะแต่งงานด้วยก็ถือว่ามากเกินพอแล้ว ดังนั้นอย่าพยายามมาตีตัวเสมอฉันอีก เพราะไม่อย่างนั้นสิ่งที่เธอฝันเอาไว้จะพังพินาศไปในพริบตา และเธอก็จะไม่มีโอกาสได้ฉันเป็นผัวอย่างที่ตั้งใจเอาไว้” “โอ๊ย...!” หญิงสาวร้องอุทานออกมาด้วยความเจ็บร้าวที่สะโพกและบั้นท้ายเมื่อเขาผลักหล่อนให้ล้มลงไปกองกับพื้นอย่างไม่ปรานี “และที่สำคัญ... อย่าก้าวก่ายชีวิตของฉันอีก จำเอาไว้!” แล้วคนตัวโตจอมอำมหิตก็หมุนตัวเดินจากไปทันที ไม่นานเสียงเครื่องยนต์รถของเขาก็กระหึ่มขึ้นก่อนจะจางหายไปเมื่อเขาพามันห่างไกลออกไปแล้ว หญิงสาวน้ำตาไหลพรากออกมาอาบแก้ม หัวใจทุกข์ทรมานจนไม่สามารถจะหยุดร้องไห้ได้อีก นิโคไลทำไมถึงได้ร้ายกาจแบบนี้นะ ทำไมเขาถึงได้อำมหิตกับผู้หญิงที่รักเขาหมดหัวใจอย่างเช่นหล่อนมากมายเหลือเกิน เขามองไม่เห็นความรักที่หล่อนมีให้เขาเลยหรือไง มองไม่เห็นหรือไงว่าสายตาของหล่อนมีแต่คำว่ารักเขา รักเขาเท่านั้น หญิงสาวสะอื้นไห้ปานจะขาดใจ ก่อนจะพยุงตัวเองเดินโซซัดโซเซขึ้นไปหลบเลียแผลใจอยู่บนห้องนอนของตัวเอง และตลอดเวลาน้ำตาก็ยังคงไหลเป็นทาง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD