ตอนที่ 6

1171 Words
ดวงหน้างดงามที่อาบไปด้วยคราบน้ำตาซบลงกับสองมือเล็ก ร่ำไห้ปานจะขาดใจ ทั้งเจ็บปวดกับความพลัดพราก ทั้งเจ็บปวดกับสิ่งที่ต้องเผชิญหน้าอยู่ในทุกเมื่อเชื่อวัน แล้วนี่หล่อนจะทำยังไงดี จะเดินออกไปจากวังวนความแค้นนี้ยังไงดี น้ำตายังไม่ทันจะหยุดไหล แต่เสียงเหี้ยมเกรียมของมัจจุราชตัวร้ายก็ดังระเบิดขึ้นที่ด้านหลังเสียก่อน และนั่นก็ทำให้หญิงสาวต้องรีบป้ายน้ำตาทิ้ง ก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้า ซึ่งก็พบว่านิโคไลผู้ชายโคตรหล่อยืนอยู่ไม่ห่างนัก เขาอยู่ในชุดลำลองสีขาวสะอาด ตัดกับผิวสีแทนสวยสุขภาพดี ความสมบูรณ์แบบที่หาสิ่งใดเปรียบไม่ได้ส่องประกายเข้ามาหาจนหล่อนแสบตา เมื่อไหร่นะ เมื่อไหร่นิโคไลจะหล่อน้อยลงสักที อย่างน้อยๆ ก็แค่หล่อมากกว่าแบรดพิตต์สักเล็กน้อยก็พอ อย่าหล่อมากมายทะลุโลกแบบนี้เลย เพราะหล่อนอาจจะหัวใจวายไปเสียก่อน “คุณพ่อคงบอกกับเธอแล้วสินะว่าฉันตกลงยอมแต่งงานกับเธอ” “เอ่อ... ฉันยังไม่รู้เรื่อง” สติสตังยังไม่กลับมาดี จึงทำได้แค่ตอบอึกอักออกไป ขณะที่สายตาก็ยังคงมองผู้ชายตรงหน้าอย่างละเอียดลออเช่นเดิม มองเหมือนไม่เคยเห็นเทพบุตรอย่างนั้น “ตอแหล ถ้าเธอไม่รู้เรื่อง เธอจะมานั่งร้องไห้ด้วยความดีใจแบบนี้ทำไมกัน” อีตาบ้า! นี่หล่อนอยากจะด่าและตะกุยหน้าหล่อๆ ของเขาให้เป็นรอยเล็บนักเชียว หล่อนร้องไห้เพราะเสียใจ แต่พ่อเจ้าประคุณมองกลับด้านซะงั้น “ก็แล้วแต่คุณจะคิดเถอะ ฉันเบื่อที่จะคุยกับคุณเต็มทีแล้ว” “เบื่อหรือ” “ใช่ ฉันเบื่อที่จะต่อปากต่อคำกับคุณแล้ว ขอตัวไปพักผ่อนค่ะ” อิงบุญเหนื่อยเกินกว่าจะอยู่ต่อปากต่อคำด้วยได้อีก ดังนั้นหล่อนจึงคิดจะเดินจะหนี แต่ข้อมือบางก็ถูกคนตัวโตกระชากเอาไว้เสียก่อน และด้วยแรงของเขาก็ทำให้หล่อนเซถลาเข้าไปชนกับแผงอกกว้างอย่างไม่ได้ตั้งใจ หล่อนเห็นเขาผงะ ก่อนจะผลักหล่อนออกห่างทันที จากนั้นก็แสดงท่าทางแขยะแขยงออกมาจนหล่อนอดหมั่นไส้ไม่ได้ “ฉันไม่ได้มีความคิดจะถูกเนื้อต้องตัวเธอหรอกนะ“ “งั้นเมื่อกี้มาจับมือฉันทำไมคะ หรือว่าเปลี่ยนมาสนใจอดีตอีตัวอย่างฉันแล้วล่ะคะ” แม้จะไม่อยากสู้รบกับคนตัวโตในตอนนี้ แต่เพราะท่าทางรังเกียจที่เขาแสดงออกมานั้น มันทำให้หล่อนอดที่จะเอาคืนบ้างไม่ได้ “ฉันน่ะถึงจะไม่สวย... จะไม่อึ๋ม...” อิงบุญแสร้งปั้นหน้าและเดินตรงเข้ามาหาเขาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ “เท่ากับแม่คู่นอนคนอื่นๆ ของคุณ แต่รับรองว่าลีลาน่ะไม่เป็นรองแน่นอนค่ะ” “แพศยา!” เขาถอยหลังออกห่างก่อนที่หล่อนจะก้าวถึงตัวของเขาเสียอีก จากนั้นก็มองหล่อนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยกองไฟ “มันก็แน่อยู่แล้วล่ะไม่อย่างนั้นพ่อของฉันคงไม่ติดใจเธอหรอก” อิงบุญอึ้งไป เพราะรู้ว่าผู้ชายตรงหน้ากำลังเข้าใจผิด แต่เพราะหมั่นไส้เขาจึงไม่คิดจะอธิบายอะไรออกไป “คงงั้นมั้งคะ” “แพศยา” “อ๊ะ อ๊ะ อย่าทำเป็นเล่นไปนะคะ คุณเองก็ระวังจะหลงฉันจนโงหัวไม่ขึ้นเหมือนกัน” หล่อนแสร้งยิ้มยั่ว ยิ่งได้เห็นนิโคไลเดือดเป็นฟืนเป็นไฟหล่อนก็ยิ่งสะใจ คอยแต่หาเรื่องต่อว่าให้หล่อนเจ็บช้ำดีนัก สมน้ำหน้าโกรธจนอกแตกตายไปเลยยิ่งดี “ฝันไปเถอะ ผู้ชายอย่างฉันน่ะ ไม่มีทางหลงเสน่ห์อีตัวชั้นต่ำแบบเธอหรอก” ในอกเต็มไปด้วยความอดสู แต่ภายนอกนั้นจำต้องระบายยิ้มออกไป ก็หล่อนไม่มีทางเลือกนี่ หล่อนไม่ต้องการร้องไห้ต่อหน้านิโคไล หล่อนไม่ต้องการเห็นสายตาสมเพชเวทนาจากผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่ขโมยหัวใจของหล่อนไปแล้วทั้งดวง “แล้วเราจะได้เห็นกันค่ะ ขอตัวนะคะ ฉันเหนื่อยมาก” หล่อนไม่สนคำพูดไล่หลังใดๆ ของนิโคไลอีก หล่อนรีบจ้ำอ้าวมุ่งหน้ากลับห้องพักอย่างรวดเร็ว ในขณะที่นิโคไลมองตามไปด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเดือดดาล “ฉันจะขยี้เธอให้แหลกเป็นชิ้นๆ เลยคอยดูสิ ยายแม่มด!” นิโคไลตื่นขึ้นมาในเช้าของวันถัดมาก็พบว่าบิดาและมารดาของเขาได้ออกเดินทางไปที่สนามบินกันตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง ตอนนี้ที่บ้านสวนแห่งนี้หากไม่นับรวมแม่ครัวกับสาวใช้อีกสามคนก็เหลือแค่เขากับแม่อิงบุญตัวร้ายนั่นเพียงลำพังแค่นั้น บ้าชะมัด เขาเกลียดบรรยากาศน่าอึดอัดแบบนี้เป็นที่สุด ชายหนุ่มดีดกายลุกขึ้นจากที่นอน จากนั้นก็เดินไปเกาะที่ขอบหน้าต่างของห้อง ดวงตาคมกริบสีเขียวมรกตทอดลงไปยังสวนดอกไม้เบื้องล่าง ใช่... ดอกไม้ที่เห็นทำให้อารมณ์ของเขาเบิกบานขึ้น แต่มันก็แค่ชั่วขณะเดียวเท่านั้น เพราะวินาทีถัดมาเขาก็เห็นอิงบุญกำลังเดินตัดดอกกุหลาบอยู่ ให้ตายเถอะ นี่เจ้าหล่อนจะตามหลอกหลอนเขาทุกวินาทีเลยหรือไง เมื่อคืนก็ในฝันทีหนึ่งแล้ว แล้วยังจะตอนนี้อีก บ้าชะมัด มือหนากระชากผ้าม่านให้ปิดสนิทลง ก่อนจะเดินกลับไปกระแทกตัวนั่งที่เตียง เขาไม่มีทางยอมรับ ไม่มีทางยอมรับหรอกว่าหัวใจเต้นแรงเมื่อได้เห็นยายแม่มดนรกนั่น ไม่มีทาง นิโคไลขบกรามแน่นจนขึ้นสัน จากนั้นก็ผุดลุกขึ้นยืนอีกครั้ง และเดินหายเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ท้ายสุดของห้องด้วยความหงุดหงิดมหาศาล เกลียดอิงบุญที่ทำให้อารมณ์ของเขาบูดแต่เช้า และที่เกลียดที่สุดก็คือตัวเองนั่นแหละที่ปล่อยให้แม่นั่นมามีผลกระทบต่อระบบความนึกคิดอยู่ได้ บ้าที่สุดเลย! ชายหนุ่มกระแทกลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด เดือดดาลไปทั่วทุกอณูเนื้อ แม้แต่สายน้ำจากฝักบัวเย็นๆ ก็ยังไม่สามารถดับความขุ่นเคืองในหัวใจให้มอดสนิทลงได้ อิงบุญเป็นเหมือนเชื้อไฟ หล่อนยั่วยุให้เขาเจียนระเบิดได้ในทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้า มือหนาเอื้อมไปปิดฝักบัว และกระชากผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าเช็ดตัว ก่อนจะก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องน้ำ เดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้าบิวท์อินไม้ฉลุ ไม่นานชุดลำลองสีเขียวอ่อนก็ถูกสวมทับลงกับเรือนร่างอันแสนสมบูรณ์แบบที่ผู้ชายทั้งโลกต่างพากันอิจฉาจนเรียบร้อย นิโคไลมองสำรวจตัวเองในกระจกเงาซ้ำอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องนอน มุ่งหน้าสู่ห้องอาหาร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD