ตอนที่ 1

1013 Words
‘DACHA’ บ้านพักนอกเมืองของตระกูลอิสไมนอฟ มาร์คิเดฟช่างงดงามและให้บรรยากาศน่าอภิรมย์เช่นเดิม ทิวแมกไม้ที่ปลูกเอาไว้ให้ความร่มรื่นได้อย่างสมบูรณ์ สวนดอกไม้นานาพันธุ์ด้านหลังบ้านไม้สองชั้นกำลังแข่งขันกันอวดความงดงามของตัวเองแบบไม่ยอมน้อยหน้ากัน ซึ่งภาพที่น่ามองเช่นนี้ก็ทำให้อิงบุญอดระบายยิ้มออกมาอย่างมีความสุขไม่ได้            “สวยจัง...”            “จะนั่งบื้ออยู่ทำไม ฉันไม่เปิดให้หรอกนะประตูรถน่ะ”            เสียงกระด้างที่ดังผ่านกระจกรถเข้ามาทำให้อิงบุญต้องรีบตื่นจากความฝัน หล่อนสลัดศีรษะน้อยๆ ก่อนจะเพื่อเรียกสติสตังของตัวเองให้กลับคืนร่างมาโดยเร็วที่สุด เพื่อสู้รบกับพ่อจอมมารร้ายอย่างนิโคไลอีกครั้ง            มือบางดันประตูรถให้เปิดออก และก้าวลงไปด้วยท่าทางมีจริตมารยา จากนั้นก็จิกตามองคนตัวโตที่ยืนหน้าบูดราวกับกินยาถ่ายเข้าไปด้วยตาหวานฉ่ำ            “อย่าทำเสียงดุแบบนี้สิคะ เดี๋ยวคุณลุงกับคุณป้าจะตกใจเอาได้”            “ดีสิ คุณพ่อกับคุณแม่จะได้รู้ว่าฉันเกลียดเธอแค่ไหน”            อิงบุญหน้าชา แต่ก็ยังฝืนยิ้ม ซ่อนความเจ็บเอาไว้แต่ในอก ขณะก้าวเท้าเดินตรงเข้าไปหาคนตัวโตที่ยืนกอดอกอยู่ตรงหน้าในระยะใกล้ชิด            “คุณนิคไม่ได้เกลียดอิงหรอก อิงรู้...”            นิ้วเรียวจิ้มลงบนแผงอกกว้างเบาๆ ยิ้มอย่างยั่วยวน            “สายตาที่คุณนิคมองอิง... เหมือนจะกลืนเข้าไปทั้งตัว”            นิโคไลผลักร่างอรชรออกห่างตัวอย่างไม่ปรานี            “ทุเรศ หลงตัวเองที่สุด ฉันไม่เคยมองว่าเธอดีไปกว่ากิ้งกือเลยอิงบุญจำเอาไว้!”            คนฟังหน้าชาแล้วชาอีก แต่บอกตัวเองให้ฝืนทน ต้องยิ้ม ยิ้มสู้เข้าไว้ ไม่อย่างนั้นความหวังอันแสนริบหรี่ของหล่อนจะต้องดับวูบลงในทันที            “อิงไม่เชื่อหรอกค่ะ...”            ยังอุตส่าห์ที่จะเดินกลับเข้าไปหาคนตัวโตอีกครั้ง ในขณะที่เขาถอยหลังหนีอย่างรังเกียจ            “อิงทั้งสวย... หุ่นก็ดี แถมอึ๋มอีกต่างหาก”            นิโคไลถอนใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย รำคาญแม่ผู้หญิงตรงหน้าเป็นที่สุด            “ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนร่านได้เท่าเธอเลยอิงบุญ อ้อ... ฉันลืมไป เธอมันอีตัวเก่านี่ ก็เลยร่านมากกว่าผู้หญิงคนอื่น”            คราวนี้เจ็บจนหน้าซีดเผือด หญิงสาวกัดปากแน่น น้ำตาซึม กลืนน้ำลายลงคอเบาๆ ก่อนจะฝืนยิ้มออกมา            “เอาเป็นว่าเราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ คุณลุงกับคุณป้าคงกำลังรออยู่”            “ไม่ต้องมาบอก เพราะที่นี่บ้านของพ่อแม่ฉัน ในขณะที่เธอเป็นแค่คนอาศัย”            หลังจากทิ้งถอยคำที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยามใส่หน้าของหล่อนแล้ว คนตัวโตก็ก้าวยาวๆ หายเข้าไปในบ้านไม้หลังงามเบื้องหน้าโดยไม่ใยดีหล่อนอีก น้ำตาไม่รักดีไหลออกมาทันทีที่อยู่ตามลำพัง เจ็บปวดกับวาจาร้ายกาจของนิโคไลยิ่งนัก รู้หรอกว่าเกลียด รู้หรอกว่าชิงชัง แต่หล่อนมีความจำเป็นที่จะต้องได้เขามาเป็นสามี มีความจำเป็นจริงๆ            มือบางยกขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง ก่อนจะฝืนยิ้ม และเดินตามคนใจดำเข้าไปในบ้านไม้หลังงามตรงหน้าด้วยหัวใจที่แสนจะกลัดหนอง            เข้ามาถึงห้องรับแขกก็พบว่ายูรินั่งอยู่บนโซฟา ในขณะที่เกรกอรี่ไม่ได้อยู่ด้วย หล่อนเดาว่ายูริคงไม่รู้เรื่องราวอะไรในอดีตของสามีตัวเองแน่ๆ ถึงยังคงยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับหล่อนแบบนี้ หล่อนเองก็จำต้องยิ้มตอบ ทั้งๆ ที่เห็นสายตาดุกระด้างของนิโคไลที่นั่งอยู่ข้างๆ กับยูริตวัดมองมา            “นั่งก่อนสิหนูอิง...”            “ขอบคุณค่ะคุณป้า”            อิงบุญเดินเข้าไปนั่งโซฟาที่ห่างไกลจากนิโคไลที่สุด แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่เลิกใช้สายตาเหยียดหยามมองหน้าหล่อน            “เอ่อ... แล้วคุณลุงไปไหนซะล่ะคะคุณป้า”            ยูริยังไม่ทันจะได้ตอบ นิโคไลก็ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน            “แหม... มาถึงก็ถามหาคุณพ่อของฉันเลยนะ คงจะคิดถึงกันมาก”            คนฟังหน้าชาเพราะรู้ดีว่านิโคไลกำลังคิดอะไรอยู่ในสมองฉลาดๆ ของเขา ในขณะที่ยูริไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นแม้แต่นิดเดียว            “ไปว่าน้องแบบนั้นทำไมล่ะนิค ปากเสียนะเราเดี๋ยวนี้”            “ก็ผมพูดเรื่องจริงนี่ครับคุณแม่ ระวังเถอะสักวันจะถูกแย่งคุณพ่อไป”            นิโคไลพูดออกมาอย่างเหลืออด ขณะที่อิงบุญก้มหน้านิ่งพยายามซ่อนความอัปยศอดสูเอาไว้ ไม่อยากจะเชื่อเลยนิโคไลจะคิดแบบนี้กับหล่อนได้            “ไม่เอาน่านิค อย่าพูดเป็นเล่นไป หนูอิงเสียหายนะ”            “แม่นี่มีอะไรให้เสียหายอีกล่ะครับ ผมว่าเสียมาทั้งตัวแล้ว”            นิโคไลผุดลุกขึ้นยืน ขณะจ้องหน้าหญิงสาวที่ทำเป็นนั่งนิ่งสงบเสงี่ยมอยู่ข้างมารดาของตัวเองอย่างหมั่นไส้            “ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจะต้องบังคับผมให้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ด้วย”            “ก็เพราะว่าพ่อมีเหตุผลยังไงล่ะ”            เสียงของเกรกอรี่ไม่ได้ทำให้นิโคไลมองไปยังร่างของชายสูงวัยเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่อิงบุญก็เช่นกัน ผู้ชายคนนี้ไงที่บีบคั้นให้หล่อนต้องขยี้ศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อแลกกับการได้พบหน้ากับน้องชายอีกครั้ง            “คุณพ่อ”            “อย่าโวยวาย พ่อเบื่อนิสัยเอาแต่ใจของแกเต็มทีแล้วเจ้านิค”            เกรกอรี่เดินมาทรุดตัวลงนั่งข้างๆ กับภรรยา ก็โซฟาตัวเดิมที่นิโคไลลุกไปนั่นแหละ            “ใจเย็นๆ ค่ะคุณพี่”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD