สามสิบนาทีผ่านไป…
“ไหนว่าจะมาปาร์ตี้กับเราไง แล้วนี่อะไร นัดเพื่อนมาดื่มกันเสียอย่างนั้น ตกลงที่กลับมาเนี่ยเพราะเราหรือเพราะเพื่อนกันแน่นะพี่อิท”
ชนิกานต์ยืนบ่นกับตัวเองอย่างหงุดหงิดในมุมหนึ่งของห้องรับแขก เมื่อเห็นว่าคนที่เธอตั้งหน้าตั้งตารอคอย กลับนัดเพื่อนสนิทมาสังสรรค์กันเสียอย่างนั้น
บุรุษหนุ่มร่างสูงโปร่งผิวขาวกว่าทุกคนในกลุ่ม เจ้าของนัยน์ตาหวานแฝงคมที่นั่งเอนหลังกับโซฟาในท่าสบายๆ คือนายแพทย์หนุ่มรูปหล่อ เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนหรูที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วทุกจังหวัดในประเทศไทย ส่วนคนที่นั่งตรงข้ามกัน กำลังยกแก้วเหล้ากระดกเข้าปากเป็นพักๆ คือลูกชายเจ้าสัวที่รวยติดอันดับของประเทศไทย แต่ไม่รู้ทำไมชอบใช้ชีวิตลำบากอยู่กลางป่าดงพงพี เพราะเลือกที่จะเป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า อยู่หน่วยปฏิบัติการพิเศษเสือไฟ ที่ต้องลุยกับไฟป่าที่แสนจะอันตรายและน่ากลัวโดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนทางตอนเหนือของประเทศไทย และอีกคนที่ขาดไม่ได้คือนายอำเภอหนุ่มหล่อแห่งผาตะวันที่นานๆทีจะได้กลับมากรุงเทพฯสักครั้งเนื่องจากงานยุ่งตลอดเวลานั่นเอง
“ไชยา นายว่าพี่อิทเขามีแฟนหรือยัง”ชนิกานร์หันมาถามเด็กหนุ่มวัยมัธยมปลายที่มีอายุห่างกับเธอเพียงปีเดียว
ไชยาเป็นลูกชายแม่บ้านในคฤหาสน์หลังโตนี้ และยังเป็นคู่หูของคุณหนูเล็กของบ้าน ทั้งสองมักจะมีเรื่องสนุกๆทำด้วยกันพร้อมหาเรื่องชวนปวดหัวให้ผู้ใหญ่ในบ้านอยู่บ่อยๆ จนได้ฉายาจอบแสบประจำบ้านไปครอบครอง
“น่าจะยังนะครับ เท่าที่เห็นผู้กองก็ไม่เคยเอาสาวมาบ้านสักครั้งเลยนะครับ”
เด็กหนุ่มตอบ ขณะที่มองตามสายตาของคู่หูที่แอบยืนหลบมุม มองสี่หนุ่มซึ่งกำลังนั่งดื่มกันในห้องรับแขก
“ระหว่างที่ฉันไปเรียนต่อเมืองนอกนายต้องช่วยเป็นหูเป็นตา และส่งข่าวมาให้ฉันเป็นระยะๆแลกกับค่าแต่งรถของนาย”
เจอข้อแลกเปลี่ยนแบบนี้มีหรือเด็กหนุ่มที่ชอบท้าความเร็วกับเพื่อนเป็นชีวิตจิตใจ แต่ได้เงินไปเรียนแค่วันละไม่กี่บาทจะปฏิเสธลง
“ครับคุณหนู”
ไชยารีบรับข้อเสนอพลางระบายยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เพราะสำหรับเขาแล้วคุณหนูเล็กของบ้านเปรียบเสมือนนางฟ้าที่น่าทะนุถนอมทว่าในเวลาเดียวกันเธอก็เป็นนางมารร้ายตัวน้อยๆที่น่ากลัวที่สุด ถ้าไม่อยากให้นางฟ้ากลายร่างเป็นนางมารร้าย ก็ต้องห้ามขัดใจอย่างเด็ดขาด! ซึ่งข้อนี้คู่หูอย่างเขารู้ดีที่สุด
“ขอบใจมากไชยา”
สาวน้อยหันมาตบไหล่ของเด็กหนุ่มด้วยความพอใจ แล้วก็เดินออกจากมุมห้องตรงไปหาหนุ่มๆทั้งสี่คน
“สวัสดีค่ะพี่หมอ สวัสดีค่ะหัวหน้า สวัสดีค่ะนายอำเภอ”
เสียงใสกังวานของชนิกานต์ดังแทรกขึ้นมาขัดจังหวะการสนทนาของหนุ่มๆ ที่กำลังนั่งคุยกันอย่างออกรส จนไม่ทันรู้ว่าสาวน้อยมายืนอยู่ตรงหน้านานแล้ว และนั่นก็ทำให้แขกหนุ่มทั้งสามคนต้องรีบวางแก้วแล้วหันมาทักทายตอบ
“อ้าว…น้องแพท สวัสดีครับ”
ทั้งสามเอ่ยทักกลับแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน พร้อมหันมาทางร่างอรชรของผู้เข้ามาใหม่
“แพทจะมาทวงของขวัญจากพวกพี่ๆเนื่องในโอกาสที่แพทเรียนจบและสอบติดมหาวิทยาลัยดังของอเมริกาค่ะ”
สาวน้อยว่าพลางถือวิสาสะทรุดนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับพี่ชายบุญธรรมระหว่างรอของขวัญจากหนุ่มๆ และแน่นอนว่าเธอไม่ผิดหวัง เพราะสามหนุ่มได้เตรียมของขวัญมาให้กับเธอตามคาดจริง
“นี่เป็นของขวัญจากพี่ ยินดีด้วยนะครับน้องแพท”
“ขอบคุณค่ะ หัวหน้า”
“อันนี้ของพี่ ยินดีด้วยที่น้องสาวของพี่เรียนจบมัธยมและกำลังจะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย ขอให้น้องแพทตั้งใจเรียนนะครับ”
นายแพทย์หนุ่มยื่นของขวัญมาให้พลางเอื้อมมืออีกข้างมาขยี้ผมสาวน้อยด้วยความเอ็นดู
“ขอบคุณค่ะ พี่หมอ”
“ส่วนอันนี้ของขวัญจากพี่ครับ”
“ขอบคุณค่ะนายอำเภอ”
ชนิกานต์รับของขวัญมาจากสามหนุ่มพร้อมกล่าวขอบคุณเสียงใส แต่เมื่อเห็นอีกคนยังนิ่งไม่ยอมมอบอะไรให้กับเธอ สาวน้อยเลยต้องเอ่ยทวง
“หัวหน้า พี่หมอ และนายอำเภอให้ของขวัญแพทแล้ว แล้วไหนละคะของขวัญจากพี่อิท”
“พี่ไม่รู้จะให้อะไร แพทอยากได้อะไรก็บอกมาเถอะ เดี๋ยวพี่จะหามาให้”
“แน่ใจนะคะว่าถ้าแพทขอแล้วพี่จะให้จริงๆ”
ชนิการต์เชิดใบหน้างดงามขึ้นเล็กน้อย พลางแอบเก็บซ่อนรอยยิ้มแห่งความตื่นเต้นไว้แทบไม่มิด
‘เอาแล้วยายแพท มีโอกาสก็ต้องรีบคว้าไว้’
“แล้วเคยมีอะไรที่แพทขอแล้วพี่ไม่ให้บ้างล่ะ”
อิทธิฤทธิ์เลิกคิ้วสูงย้อนถาม เพราะเท่าที่ได้รู้จักกับเธอมา ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาจะปฏิเสธความต้องการของเธอได้เลยสักครั้งเดียว ไหนจะของขวัญเนื่องในโอกาสต่างๆ ไหนจะให้พาไปโน้นนี่ทุกครั้งที่มีโอกาส และล่าสุดก็ขอให้เขากลับมาร่วมงานเลี้ยงส่งเธอไปเรียนต่อเมืองนอกนี้ด้วย ทั้งที่เขาติดภารกิจสำคัญแต่ก็ต้องรีบเคลียร์แล้วกลับมาให้ทัน เพราะเกรงจะได้ตามไปง้อเธอถึงต่างแดน
“แต่ของที่แพทจะขอพี่อิท…พี่อาจจะให้แพทไม่ได้ก็ได้นะ”
“ไหนลองว่ามาสิ”
อิทธิฤทธิ์ว่าแล้วก็กรอกเหล้าเข้าปากไปพลางๆระหว่างรอฟังสิ่งที่เธออยากได้
“แพทอยากได้ตัวและหัวใจของพี่อิทค่ะ”
เมื่อได้ยินคำตอบ เหล้าที่เพิ่งเข้าปากไปแทบจะหลุดพรวดพราดออกมา ยังดีที่เขากลืนมันได้ทัน ไม่งั้นคงพุ่งใส่หน้าเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเป็นแน่
“แพท!”
อิทธิฤทธิ์เรียกชื่อคนตัวเล็กเสียงดุ แต่ดูเหมือนคนถูกดุจะไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด หนำซ้ำยังเชิดหน้าถามอย่างท้าทาย
“ก็ไหนบอกให้ได้ทุกอย่างไงละคะ”
“เป็นเด็กเป็นเล็กใครสั่งใครสอนให้พูดจาแบบนี้”
“ไม่มีใครสอนแพททั้งนั้นแหละ แพทพูดจากใจและแพทก็อยากให้พี่อิทรักษาตัวเองไว้ให้ดี เพราะหลังจากเรียนจบแพทจะกลับมาทวงของขวัญจากพี่อิท”
พูดจบสาวน้อยก็ลุกขึ้นยืน พร้อมสะบัดตูดเดินหนีไปดื้อๆ ปล่อยให้นัยน์ตาคมกริบดุจพญาเหยี่ยวมองตามพร้อมกับส่งเสียงลอดไรฟันตามหลัง
“เด็กแสบ!”
เมื่อสาวน้อยเดินออกไปแล้ว สามหนุ่มที่นั่งฟังบทสนทนาของสองพี่น้องอยู่เงียบๆด้วยความเอ็นดูก็เอ่ยถาม
“ไงไอ้อิท ตกลงจะรักษาเนื้อรักษาตัวเพื่อน้องแพทหรือเปล่าวะ!”
“หยุดเลยไอ้หมอ หยุดแซวฉันเลย”
น้ำเสียงขุนๆของเขาไม่ต่างจากแววตาที่หันมามองเพื่อนทั้งสามตอนนี้สักเท่าไหร่
“นายก็เหมือนกันไอ้ภู! อย่ามามองหน้าฉันแบบนี้ ฉันไม่ชอบ!”
“ทำไมวะ! น้องแพทก็ออกจะสวยแถมยังน่ารัก ไม่หวั่นไหวบ้างเลยหรือไงวะเพื่อน”
“พวกนายก็รู้ว่าฉันยึดคติสมภารไม่กินไก่วัด”
“แล้วอย่าคืนคำทีหลังแล้วกันนะไอ้อิท ไม่งั้นพวกฉันสามคนจะอาสามาเป็นเฒ่าแก่ขอเมียให้นายเอง”
นายอำเภอศรัณเสริมขึ้นอีกคน พร้อมเสียงสนับสนุนจากกลุ่มเพื่อน
“พอๆเลย ดื่มต่อได้แล้ว”
อิทธิฤทธิ์รีบตัดบทสนทนาที่เริ่มออกรสของเพื่อนทั้งสามโดยการรินเหล้ายกขึ้นมาชนตัดรำคาญที่ถูกแซวไม่เลิก ก่อนที่จะรีบเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นเรื่องอื่นอย่างรวดเร็ว