บทที่ 1 : อยากได้ตัวและหัวใจ (1)

1366 Words
ณ คฤหาสน์หรูของนายทหารยศใหญ่ หรือที่ทุกคนต่างเรียกขานกันว่าพลเอกภูวดล ในค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยว่าที่นักศึกษาป้ายแดงที่เพิ่งสอบติดมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ และต่างประเทศ ตามที่แต่ละคนได้ใฝ่ฝันเอาไว้ ทุกคนในงานต่างดื่มกินและส่งเสียงเฮฮา เนื่องจากคืนนี้มีงานเลี้ยงส่งลูกสาวคนเล็กของบ้านที่กำลังจะไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกันอยู่ในสนามหญ้าหน้าบ้านซึ่งเป็นลานจัดงานอยู่นั้น สาวน้อยที่มีนามว่าชนิกานต์ เจ้าของร่างอรชรอ้อนแอ้น ใบหน้าสะสวย ลูกสาวคนเล็กของบ้านกำลังนั่งเอนหลังอยู่บนเก้าอี้ด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย ในใจอยากจะลุกเดินหนีไปจากเสียงดังอึกทึกนี้เต็มแก่ ทั้งจากเสียงเพลงจังหวะเร้าใจ และเสียงจากกลุ่มเพื่อนชายหญิงที่สนุกสุดเหวี่ยงอยู่รอบข้าง ถ้าหากงานนี้เธอไม่ใช่เจ้าภาพก็คงทำอย่างที่ใจหมายไว้แล้ว และอีกอย่างงานนี้ก็เป็นงานที่พ่อแม่ของเธอได้จัดขึ้นมาให้กับเธอโดยเฉพาะเลยจำใจต้องอดทนนั่งเงียบๆและปล่อยเวลาให้ล่วงเลยผ่านไปแบบนั้น วันนี้เธอตั้งใจเลือกสวมชุดเดรสตัวโปรดสีหวาน และจ้างช่างแต่งหน้ามืออาชีพมาถึงคฤหาสน์ เป้าหมายเพื่อรอใครบางคนกลับมา แต่เมื่อการรอคอยที่แสนจะยาวนานดูท่าจะเป็นหมันเธอจึงไม่จำเป็นต้องปั้นหน้ายิ้ม และฝืนแสดงท่าทางร่าเริงได้อีกต่อไป สาวน้อยอดทนนั่งอยู่แบบนั้นจนเวลาล่วงเลยผ่านมาถึงสามทุ่มตรง และในที่สุดความอดทนก็สิ้นสุดลง ชนิกานต์ลุกขึ้นยืนก่อนจะพาร่างอวบอิ่มที่เพิ่งแตกเนื้อสาวได้ไม่กี่ปี เดินเข้ามาในคฤหาสน์ ตั้งใจจะตรงไปที่ห้องน้ำที่อยู่ชั้นล่างเพื่อสงบสติอารมณ์สักพัก แล้วออกมานั่งในงานต่อจนกว่าเพื่อนๆจะขอตัวแยกย้ายกันกลับบ้านไปจนหมด ขณะที่เดินเข้ามาภายในคฤหาสน์ก็อดที่จะคิดถึง อิทธิฤทธิ์ นายทหารหนุ่มหล่ออนาคตไกล พี่ชายบุญธรรมที่บิดาของเธอรับมาเลี้ยงเมื่อสิบปีก่อนไม่ได้ หากแต่ความคิดถึงนั้นไม่ใช่ในฐานะน้องสาวอย่างที่ควรจะเป็น แต่เป็นความรู้สึกที่พิเศษกว่าพี่น้อง ซึ่งชนิกานต์ลงความเห็นว่ามันคือความรักใคร่ชอบพออย่างที่หนุ่มสาวทั่วไปมีต่อกัน ที่เธอลงความเห็นไปแบบนั้น ก็เพราะเธอมีพี่ชายแท้ๆที่เป็นสายเลือดเดียวกัน วัยไล่เลี่ยกับพี่ชายบุญธรรม ซึ่งความรู้สึกที่มีต่อพี่ชายแท้ๆแตกต่างจากที่มีกับอีกคนอย่างสิ้นเชิง และก็ยิ่งมั่นใจเมื่อเธอได้ศึกษาเปรียบเทียบความรู้สึกนั้นผ่านตำราความรักในโลกอินเตอร์เน็ตที่เธอมักจะค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับความรักอยู่บ่ายๆ หรือแม้กระทั่งคำบอกเล่าจากกลุ่มเพื่อนสาววัยมัธยมปลายด้วยกันเอง ชยากร พี่ชายคนโต ได้เลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองหลังเรียนจบมหาวิทยาลัยจากเมืองนอก โดยปฏิเสธที่จะรับราชการทหารตามรอยบิดา เพราะเขามีความฝันอยากจะเป็นนักธุรกิจมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งพลเอกภูวดลก็ไม่ได้ห้ามปรามแต่อย่างใด เพราะเขาอยากจะให้ลูกๆได้ทำตามความฝันของตัวเองมากกว่าจะมาทำตามใจของเขาเอง จะมีก็แต่อิทธิฤทธิ์ พี่ชายบุญธรรมที่เลือกเรียนวิชาทหารมาตั้งแต่ต้น เขาฝึกหนักและใช้ชีวิตอยู่ในค่ายทหารเสียส่วนใหญ่ตามรอยบิดาที่เสียชีวิตจากหน้าที่ไปก่อนหน้านั้น โดยมีพลเอกภูวดลที่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ถึงแม้ว่าอิทธิฤทธิ์จะไม่ใช่ลูกชายแท้ๆ แต่ท่านก็รักและเอ็นดูชายหนุ่มไม่ต่างจากสายเลือดแท้ๆอีกคน เนื่องจากอิทธิฤทธิ์เป็นลูกชายของเพื่อนสนิทที่พลีชีพเพื่อเขาในสนามรบ อีกทั้งยังสูญเสียมารดาไปตั้งแต่เล็กๆ ซึ่งเรื่องนี้ท่านไม่เคยคิดจะปิดบังลูกชายบุญธรรม มีแต่จะพร่ำบอกเสมอว่าเขาติดหนี้บุญคุณชีวิตของอีกฝ่าย แต่อิทธิฤทธิ์กลับไม่คิดจะเรียกร้องอะไรจากพ่อบุญธรรม มีแต่จะก้มหน้ารับชะตากรรม และปล่อยเรื่องราวในอดีตให้เลยผ่านไปกับกาลเวลา เพราะเขาเชื่อว่าหากคนที่อยู่ในสนามรบวันนั้นเป็นเขา เขาก็พร้อมจะพลีชีพเพื่อคนอื่นเหมือนกัน นี่เลยเป็นเหตุให้พลเอกภูวดลรักใคร่และเอ็นดูชายหนุ่มเทียบเท่ากับลูกๆทั้งสองคนของท่านนั่นเอง สำหรับชนิกานต์แล้ว เขาคือผู้ชายที่มีรูปร่างสูงใหญ่ สง่าตามแบบฉบับชายชาติทหาร แถมยังมีหน้าตาหล่อเหลาเต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม จะมีก็แต่ใบหน้าเคร่งขรึมและท่าทางเย็นชาราวกับหินผาไม่มีชีวิต ที่เธอแอบตั้งฉายายกให้เขาเป็นมนุษย์หินในใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รู้จักกัน และด้วยภาระหน้าที่ของอิทธิฤทธิ์ต้องรับผิดชอบนั้น จำเป็นต้องไปประจำการอยู่ห่างไกลถึงขอบชายแดนระหว่างประเทศ ทำให้ชายหนุ่มไม่ค่อยได้กลับมาบ้าน นานทีปีหนจะกลับมาให้เห็นหน้าสักครา แต่กระนั้นก็ดีต่อใจมากแล้วสำหรับคนที่เฝ้ารออย่างชนิกานต์ หากแต่ครั้งนี้การเฝ้ารอดูจะมีความหวังมากกว่าครั้งไหนๆ เพราะเธอได้ส่งข่าวไปบอกเขาแล้วว่าอีกสองวันเธอจะต้องเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ดูเหมือนว่าอิทธิฤทธิ์จะไม่รับรู้ เพราะกระทั่งถึงป่านนี้ก็ยังไร้เงาของเขาอยู่ดี คิดแล้วก็น่าน้อยใจนัก แม้ว่าจากการกระทำของเขาที่ผ่านมา อิทธิฤทธิ์จะรักและเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง แต่ชนิกานต์ก็เฝ้าฝันว่าสักวันหนึ่งความรู้สึกของอิทธิฤทธิ์จะเปลี่ยนมาเป็นรักเธอในฐานะอื่นบ้าง แม้ว่าวันนี้จะเป็นความฝันที่เลือนลาง แต่สาวน้อยก็ไม่คิดที่จะหยุดฝัน มีแต่จะทวีเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านพ้นไป “แพท” เสียงเรียกจากทางด้านหลังปลุกสาวน้อยให้หลุดจากห้วงภวังค์ความคิด เท้าเรียวยาวหยุดเดินก่อนจะหันมาทางต้นเสียงแล้วก็เห็นว่าเป็นเพื่อนชายคนหนึ่งในกลุ่มกำลังเดินตรงมาหา และมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ “ว่าไง นัทมีอะไรหรือเปล่า” สาวน้อยเลิกคิ้วขึ้นสูงถามเพื่อนหนุ่ม เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายออกจากงานเพื่อตรงดิ่งมาหาเธอโดยเฉพาะ สังเกตจากสีหน้าและท่าทางของอีกฝ่ายเหมือนมีเรื่องที่ต้องการจะบอกกับเธอ “เอ่อ… คือว่า…” เมื่อเผชิญหน้ากันตรงๆแบบนี้ ความตั้งใจแรกที่จะบอกกับเธอกลับจุกอยู่ที่ลำคอ ไม่สามารถพูดออกมาได้ “หรือว่านัทต้องการอะไรเพิ่ม บอกแพทมาเถอะ เดี๋ยวแพทจะให้เด็กในบ้านเอาไปให้” เมื่อเห็นท่าทางอึกอักของเพื่อน ชนิกานต์ก็เลยเอ่ยถามอีกครั้งเพราะเข้าใจว่าเพื่อนหนุ่มอาจจะต้องการเครื่องดื่ม หรืออาหารเพิ่มเติม แต่ไม่กล้าบอกเพราะเกรงใจ “ปะ…เปล่า นัทไม่ได้ต้องการอะไรเพิ่มหรอก แต่มีเรื่องจะคุยกับแพทเท่านั้นเอง” “มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ” สาวน้อยถามพลางจ้องใบหน้าขาวใสของเพื่อนหนุ่มวัยเดียวกันด้วยความสงสัย “คือ…” “นัทพูดมาเถอะ แพทรอฟังอยู่” ชนิกานต์บอกพร้อมกับระบายยิ้มอ่อนส่งให้อย่างเป็นมิตร ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายลงได้บ้าง “คือ…นัทอยากจะบอกว่านัทชอบแพท” ในที่สุดหนุ่มน้อยก็กลั้นใจพูดในสิ่งที่อยู่ในใจมานาน เพราะรู้ดีว่าหากพลาดโอกาสนี้ไปก็จะไม่ได้บอกกับเธออีก เขาจะต้องรีบบอกก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป “ชอบมานานแล้ว แต่ไม่กล้าบอก เพราะกลัวว่าแพทจะเกลียดนัทแล้วเลิกเป็นเพื่อนกับนัท”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD