"พวกมึงออกไปก่อน" เขาหันไปสั่งการ์ดเสียงเรียบ ทำให้ตอนนี้มีแค่ฉันกับเขาสองคน ในแววตาของเขาฉันไม่สามารถอ่านมันได้เลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ "ไปหาหมอมาหรือยัง" คงหมายถึงที่เขาผลักฉันเมื่อวันก่อนสินะ
"แผลแค่นี้ไม่ถึงตายหรอกค่ะ"
"อวดเก่ง!"
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วลิขอตัวนะคะ"
หมับ!
"ทีกับคนอื่นหนูอย่างนั้นหนูอย่างนี้ ชอบล่ะสิแบบนั้นน่ะ ฉันเรียกมาให้เธอใช้บริการได้นะ"
"มันจะมากไปแล้วนะคะ!!" ฉันเหวเสียงใส่เขาอย่างไม่พอใจ เขาพ่นประโยคแย่ ๆ ใส่หูฉันไม่หยุดหย่อน หลายครั้งที่อยากพาตัวเองออกไปจากตรงนี้ แต่เมื่อคิดถึงพ่อแล้วฉันต้องทนให้ได้สินะ ไม่ว่าสิ่งที่กำลังเจอมันจะโหดร้ายมากแค่ไหนก็ตาม
"ทำไม? ฉันพูดอะไรผิด"
"..."
"เงียบทำไมล่ะ เป็นใบ้ไปแล้วเหรอ"
"คนอย่างคุณมันไร้หัวใจ พูดไปก็ไม่เข้าใจอยู่ดีนั่นแหละ"
"มะลิ!"
"ทนเกลียดกันไปสักพักแล้วกันนะคะ อีกไม่นานก็ครบหนึ่งปีแล้ว ลิจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีกเลย คุณไม่ต้องห่วง"
"งั้นเธอคงต้องทำหน้าที่ภรรยาให้สมบูรณ์แบบก่อนนะ เพราะฉันจ่ายไปหลายบาทคิด ๆ ดูแล้วมันไม่คุ้มด้วยซ้ำไป" จบประโยคก็ฉุดรั้งฉันให้เข้าไปในห้องโดยไม่สนใจสายตาของคนอื่นเลยสักนิด
"ปล่อยนะ! คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ"
"อยากเป็นเมียฉันมากไม่ใช่หรือไง"
"คุณมันบ้าไปแล้ว"
"หุบปาก!"
ตุ้บ!
คุณเธียร์เหวี่ยงฉันลงที่นอนเต็มแรงก่อนจะพาตัวเองขึ้นค่อมร่างกายฉันไว้ เสื้อยืดตัวโปรดถูกเขาฉีกขาดจนเห็นเรือนร่างของฉัน มันรู้สึกแย่มากฉันไม่ได้อยากให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
"ฮึก! ยะ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันกลัวแล้ว"
"อย่าสำออยไปหน่อยเลย ผู้หญิงอย่างเธอจะมีดีแค่ไหนกันเชียว"
"คุณเธียร์ ฉันกลัวแล้ว ฮึก!" ฉันอ้อนวอนเขาเท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำได้ แต่มันก็ไม่สำเร็จ เรียวลิ้นร้ายไล่โลมเลียตั้งแต่ลำคอตลอดจนถึงเนินอก เขามันบ้า! ป่าเถื่อนที่สุด "ปะ ปล่อยฉันเถอะนะ กรี๊ด!!"
ชายหนุ่มตกใจเป็นอย่างมากที่เห็นหญิงสาวกรีดร้องเสียงดังลั่นก่อนจะหมดสติไป ทั้งที่เขายังไม่ได้สอดใส่เธอเลยด้วยซ้ำ
"บ้าฉิบ!" เขาสบถออกมาก่อนจะรีบโทรเรียกหมอประจำตระกูลให้มาดูอาการของหญิงสาวโดยเร็วที่สุด หัวใจที่ไร้ความรู้สึกกลับตื่นตัวขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ทำไมถึงรู้สึกเป็นห่วงเธอนะ...
"สาวน้อยอย่าร้องไปเลยนะ มาอยู่กับลุงดีกว่ารับรองเธอจะสุขสบายไปตลอดชีวิต"
"ฮึก! หนูอยากหาพ่อค่ะ"
"ยิ่งเธอร้องมากเท่าไหร่ ฉันยิ่งอยากทำเธอแรง ๆ มากเท่านั้น เปลี่ยนจากร้องไห้มาครางชื่อลุงดีกว่านะ"
"นะ...หนูกลัวแล้ว อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ"
"เด็ก ๆ มันดีแบบนี้นี่เอง"
"ไม่! กรี๊ด!!"
"ไม่!! ฮึก...”
"มะลิ!"
ลืมตาขึ้นมาก็พบกับคนใจร้ายที่นั่งอยู่ข้างฉัน ฝันร้ายนั่นมันคอยหลอกหลอนฉันเสมอ แม้ว่ามันจะผ่านมาสิบปีแล้วก็ตาม
"ออกไป" ความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เขาเปรียบเสหมือนมีดแหลมคมที่คอยสะกิดแผลเป็นของฉันให้เลือดซึมออกมาทีละช้า ๆ
"ใจเย็น ๆ นะครับคุณมะลิ หายใจเข้าออกลึก ๆ คุณได้ยินที่หมอพูดไหมครับ"
"ฮึก..."
หญิงสาวเอาแต่ร้องไห้เหมือนคนขาดสติ ภายในห้องกว้างเต็มไปด้วยเสียงสะอึกสะอื้นของเธอ เธียร์ถึงกับลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เขาสัมผัสได้ว่าเธอกำลังเจ็บปวดกับอะไรบางอย่าง
"คุณแต่งงานกันมานานแค่ไหนแล้วครับ"
"ประมาณหกเดือนแล้วครับ"
"อาการเหม่อลอยแบบนี้จากเคสอื่นที่หมอเคยเจอมาส่วนมากคนไข้จะมีเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจหรือผิดหวังในชีวิต ถึงภายนอกจะยิ้มแย้มแต่ภายในหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด"
"อาหมอกำลังจะบอกอะไรครับ"
"หมอยังให้คำตอบไม่ได้เหมือนกัน แต่อยากให้คุณดูแลเอาใจใส่เธออย่างใกล้ชิดนะครับ บาดแผลทางจิตใจต้องใช้ใจรักษา"
"..." ฉันฟังคุณเธียร์กับคุณหมอคุยกันอยู่นานสองนาน ได้ยินทุกคำพูดทุกคำถาม แต่สมองมันสั่งการให้ไม่สนใจใคร ไม่อยากพูดคุยกับใครทั้งนั้น ความรู้สึกตอนนี้น้ำตามันคงอธิบายออกมาได้ดีที่สุด
ชายหนุ่มมองภรรยาตามกฎหมายของเขาด้วยความรู้สึกมากมาย เธอก็แค่ผู้หญิงที่เห็นแก่เงินถึงยอมแต่งงานกับเขาเท่านั้นเอง ผู้หญิงแบบนี้เหรอจะมีค่าให้เขารัก
"ดูแลเธอด้วยนะผมมีงานสำคัญ" คุณเธียร์หันไปสั่งแม่บ้านก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันแล้วพูดต่อ "ฉันมีธุระ เสร็จแล้วจะรีบกลับบ้านแล้วกันนะ"
"..." เมื่อเห็นฉันไม่ตอบเขาจึงออกจากบ้านไปทันทีพร้อมกับการ์ดอีกนับสิบชีวิตเช่นเคย
"เดี๋ยวป้าเช็ดตัวให้นะคะ"
น้ำเสียงนุ่มนวลเอ่ยพลางมองหญิงสาวด้วยความเวทนาและเห็นใจเธอเป็นอย่างมาก เขาใกล้ชิดสนิทสนมกับเธอมากกว่าใคร เขารักและเอ็นดูหญิงสาวเป็นไหน ๆ
"เอ๊ะ... คุณมะลิมีแผลเป็นด้วยเหรอคะ เหมือนรอยกระสุนเลย"
"..." ฉันเหลือบมองแผลเป็นบริเวณเนินอกข้างซ้ายของตัวเอง ตอกย้ำความรู้สึกเดิม ๆ ถึงมันจะไม่เจ็บแต่มันก็ทำให้รู้ว่าฉันผ่านอะไรมาบ้าง รวมไปถึงรอยจ้ำแดง ๆ ตามลำคอจนถึงเนินอกที่คุณเธียร์ทำไว้ก็ด้วย "ไม่ใช่หรอกค่ะ แค่อุบัติเหตุตอนเด็ก ๆ น่ะ"
"คุณพูดกับป้าแล้ว ดีจังเลยค่ะ ทำใจให้สบายนะคะอะไรก็ตามที่มันผ่านไปแล้วมันก็คืออดีตทั้งนั้น อย่าเก็บมันไว้ในหัวใจอีกเลยนะคะ"
"ค่ะ หนูจะจำไว้"
"ส่วนเรื่องพ่อของคุณ นายจัดการให้เรียบร้อยแล้วนะคะอีกสองอาทิตย์จะผ่าตัด คุณมะลิต้องหายเร็ว ๆ นะคะจะได้ไปเป็นกำลังใจให้คุณพ่อด้วย"
"ค่ะ หนูจะรีบหายเดี๋ยวนี้แหละ"
ร่างบางดีใจที่พ่อของเธอกำลังจะได้รับการรักษาแล้ว อีกนัยหนึ่งก็รู้สึกดีใจด้วยเช่นกันที่เธอจะได้ไปจากชีวิตของเขาเสียที ครึ่งปีที่ผ่านมาเธอทำหน้าที่ภรรยามาโดยตลอดแต่ชายหนุ่มต่างหากที่มองข้าม ถึงแม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้รักกันแต่เขาก็ควรตระหนักเอาไว้บ้างว่ามีเธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ เขาควรให้เกียรติเธอมากกว่านี้ไม่ใช่พาคนอื่นมาอยู่ในบ้านข้ามหน้าข้ามตาหนำซ้ำยังมาทำให้เจ็บช้ำน้ำใจอีก