bc

Doctor. Love me love my dog.

book_age18+
426
FOLLOW
1.0K
READ
family
HE
blue collar
sweet
mystery
loser
like
intro-logo
Blurb

เมื่อกลับเข้ามาในบ้าน พ่อเลี้ยงเมืองรามได้หยิบไวน์ขึ้นไปบนห้อง เขาบอกกับป้านุ่นว่าไม่ค่อยสบาย ต้องการพักผ่อนห้ามให้ใครรบกวน สร้างความแปลกใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก

“แม่นุ่นพ่อเลี้ยงเป็นอะไร ไหนบอกว่าจะไปตามคุณหมอ ทำไมกลับมาคนเดียว” คุณนายแม้นเมืองเอ่ยถามออกไป พลางตักผัดผักรวมให้กับของขวัญ ซึ่งหนูน้อยชื่นชอบเมนูนี้เป็นพิเศษ อาจจะเป็นเพราะว่าผักที่ใช้ประกอบอาหาร พ่อเลี้ยงเมืองรามเป็นคนกำกับดูแล ห้ามคนงานใช้ยาฆ่าแมลง จึงมีความหวานกรอบอร่อยเต็มคำ

“พ่อเลี้ยงบอกว่าไม่ค่อยสบาย แต่ดิฉันเห็นถือขวดไวน์ขึ้นไปด้วย ส่วนคุณหมอคุยธุระกับแขกยังไม่เสร็จมั้งคะ เห็นรถยนต์ยังยอดอยู่เลย” ป้านุ่นรายงานคุณนายแม้นเมืองออกไปตามความเป็นจริง

“ไม่สบายเป็นอะไรมากหรือเปล่า แต่ก็ไม่น่าใช่นะ ถือขวดไวน์ขึ้นไปด้วยแบบนี้ ไข้ใจมากกว่า” หญิงสูงวัยเริ่มแน่ใจในตัวของพ่อเลี้ยงเมืองราม แน่นอนว่าลูกชายของนาง คงตกหลุมรักแพทย์หญิงใบบัวเข้าให้แล้วอย่างจัง จนไม่อาจทนเห็นผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เธอได้

“คุณย่าขา ของขวัญขอผัดผักเพิ่มได้ไหมคะ ขอแครอทเยอะๆ นะคะ” ใบหน้าและแววตาหนูน้อยที่ออดอ้อน ทำให้คุณนายแม้นเมืองยิ้มหน้าบาน ความฝันอยากมีหลาน ทั้งที่เคยเลือนราง เวลานี้กลับอบอวนไปด้วยกลิ่นอายของความสุข เมื่อหนูน้อยกลายเป็นหลานสาวคนโปรดสำหรับนางไปโดยปริยาย

“ได้สิจ๊ะ แม่นุ่นสั่งให้เด็กตักผัดผักมาเติมให้หลานสาวของฉันสิ ยกมาหมดเลยก็ได้ พ่อเลี้ยงคงไม่ทานหรอก ป่านนี้เมาเป๋แล้วมั้ง” ขณะที่พูดหญิงสูงวัยแอบยิ้มบางๆ เมื่อนึกถึงท่าทีของลูกชาย จากที่เขาเคยเย็นชาดูไร้หัวใจ ช่วงเวลานี้พ่อเลี้ยงเมืองรามกลับมุ่งมั่นที่จะเอาชนะใจแพทย์หญิงใบบัว สองคนย่าหลาน ยังคงรับประทานอาหารด้วยความเอร็ดอร่อย ก่อนที่แพทย์หญิงใบบัวจะเดินเข้ามา พลางแสดงสีหน้ารู้สึกผิด

“ขอโทษนะคะคุณแม่ที่เสียมารยาท พอดีว่าคุณธุระสำคัญกับคุณหมอโฬมนานไปหน่อย เขาเพิ่งกลับไปเมื่อสักครู่นี่เองค่ะ”

“ไม่เป็นไรหรอกแม่เข้าใจดี มาทานข้าวกันเถอะเดี๋ยวจะเย็นหมดเสียก่อน”

“ขอบคุณมากค่ะ เอ่อ... แล้วพ่อเลี้ยงละค่ะ”

“เห็นบอกว่าไม่ค่อยสบายเลยขอตัวขึ้นไปพักผ่อน ทานข้าวเสร็จคุณหมอช่วยไปตรวจดูอาการของพ่อเลี้ยงหน่อยสิลูก” หญิงสูงวัยแอบชำเลืองหางตามองไปที่แพทย์หญิงใบบัว ซึ่งทำให้นางพอจะทราบถึงอากัปกิริยาของเธอ เมื่อใบหน้าของหญิงสาวดูกังวลไม่น้อย แค่เพียงรู้ว่าพ่อเลี้ยงเมืองรามไม่สบาย

“ได้ค่ะคุณแม่” หญิงสาวรีบตกปากรับคำหญิงสูงวัยออกไปอย่างไม่ลังเล ภายในใจของเธอเริ่มเป็นกังวลมากขึ้น กลัวว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มจะเป็นอะไรมากไปหรือเปล่า เขาถึงไม่ยอมลงมารับประทานมื้อเย็น

“คืนนี้ของขวัญจะนอนกับคุณย่าอีกใช่ไหมลูก”

“ใช่แล้วค่ะ ของขวัญอยากฟังนิทานที่คุณย่าเล่ามันสนุกดี คุณแม่ขา... ของขวัญนอนกับคุณย่าอีกนะคะ” หนูน้อยเงยหน้าจากอาหารในจาน ก่อนจะพูดจาออดอ้อนมารดาของเธอ

“ได้สิค่ะ แต่หนูห้ามดื้อกับคุณย่ารู้ไหม”

“รู้แล้วค่ะ” ดูเหมือนว่าของขวัญเริ่มจะติดคุณย่าแจ เพราะช่วงเวลาหลายวันมานี้ เธอมักจะมานอนกับคุณนายแม้นเมือง จนหญิงสูงวัยเริ่มชิน อยากจะนอนกับหนูน้อยในทุกค่ำคืน

“ถ้าไม่มีหนูของขวัญกับคุณหมอ ที่ไร่คงไม่มีชีวิตชีวาแบบนี้ ขอบใจมากนะที่เดินเข้ามาในชีวิตของคนแก่ ซึ่งทำให้บ้านไม่เงียบเหงาเหมือนดังแต่ก่อน” ถ้อยคำที่เรียงร้อยออกมาจากใจ ทำให้แพทย์หญิงใบบัวรู้สึกดี เธอช่างมีวาสนาที่มาเจอคนไข้อย่างคุณนายแม้นเมือง เพราะนางมีจิตใจดีโอบอ้อมอารีและไม่ถือตัว มิหนำซ้ำยังรักเธอกับของขวัญเหมือนลูกเหมือนหลานอีกด้วย

หลังจากรับประทานมื้อเย็นเสร็จ ของขวัญไปนอนกับคุณนายแม้นเมือง ส่วนแพทย์หญิงใบบัวเดินไปหยิบกระเป๋าแพทย์ที่เรือนหลังเล็ก ก่อนจะเดินกลับมาที่เรือนหลังใหญ่อีกครั้ง เธอช่างใจอยู่นาน

ในที่สุดก็ตัดสินใจเคาะประตูห้องนอนของพ่อเลี้ยงเมืองราม ซึ่งเขาไม่ได้ลงกลอนเอาไว้ พอเปิดประตูเข้าไป ทำให้หญิงสาวถึงกับก้าวขาไม่ออก เพราะทั้งเนื้อทั้งตัวของพ่อเลี้ยงเมืองราม มีแค่กางเกงขายาว ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่า จนเผยให้เห็นซิกซ์แพ็กเป็นชั้น กล้ามแขนเป็นมัดๆ บ่งบอกให้รู้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่รักสุขภาพ

ถึงแม้จะโหมงานในไร่หนักแค่ไหน พ่อเลี้ยงหนุ่มก็ยังคงหาเวลาเข้าฟิตเนสเป็นประจำ ซึ่งคล้ายโรงยิมส่วนตัว มีทั้งสระว่ายน้ำและอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน จึงทำให้เขานั้นกลายเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มาก โดยเฉพาะเวลาที่โชว์ร่างกายท่อนบนแบบนี้

“ขอโทษค่ะ พอดีว่า... ฉันได้รับคำสั่งจากแม่ของคุณ ท่านบอกให้ฉันมาตรวจอาการของคุณ แต่ท่าทางพ่อเลี้ยงคงสบายดีถึงได้นั่งจิบไวน์สบายใจแบบนี้” แพทย์หญิงใบบัวทำเป็นใจดีสู้เสือ ทั้งที่ภายในใจของเธอมันแทบเก็บอาการไม่อยู่ ไม่รู้ว่าทำไมหัวใจถึงได้เต้นแรงขนาดนี้

“ว่างแล้วเหรอ” พ่อเลี้ยงเมืองรามตวัดหางตามองมาที่คนตัวเล็ก พลางยกแก้วไวน์ขึ้นจิบด้วยใบหน้าและแววตาที่ยากจะคาดเดาได้

“ฉันเพิ่งทานข้าวเสร็จก็รีบขึ้นมาดูอาการของคุณทันที ไม่คิดว่าคุณจะนั่งดื่มแล้วยังแต่งตัวไม่เรียบร้อยอีก แบบนี้คงไม่ต้องตรวจแล้วมั้งคะ”

เธอไม่คิดว่าเขาจะชอบอยู่กับธรรมชาติเป็นชีวิตจิตใจ เครื่องปรับอากาศคงมีไว้เพียงประดับห้อง เมื่อพ่อเลี้ยงเมืองรามเลื่อนกระจกใสบานใหญ่ออกกว้าง เพื่อให้สายลมโกรก เข้ามาต้องกายภายในห้องนอน

ซึ่งหญิงสาวเองก็อดที่จะชื่นชอบบรรยากาศแบบนี้ไม่ได้เช่นกัน แต่ก็ไม่อยากแสดงอาการใดๆ ออกไป เพราะเธอยังไม่แน่ใจในความรู้สึกที่แท้จริง มันคือความรัก หรือเพียงเพราะว่าความใกล้ชิดที่มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะเธอไม่เคยเปิดใจรับใครเข้ามา พอเจอกับพ่อเลี้ยงเมืองรามที่รุกหนัก จึงทำให้เขาและเธอนั้นเริ่มผูกพันทั้งที่เพิ่งเจอกันไม่นาน

“คุณไม่ห่วงผมเลยใช่ไหม ถึงได้แสดงท่าทีเย็นชาแบบนี้”

“ใครบอก ถ้าฉันไม่ห่วงคงไม่ถือกระเป๋าแพทย์ขึ้นมาในห้องของคุณ ทั้งที่รู้ว่ามันไม่เหมาะสม ใช่ช่วงกลางค่ำกลางคืนแบบนี้”

“แต่ที่ผมเห็นมันไม่ใช่อย่างที่คุณพูดเลยสักนิด ถ้าแม่ผมไม่เอ่ยปากขอร้อง คุณหมอคงไม่สนใจ ที่จะตรวจคนไข้อย่างผมสินะ” พ่อเลี้ยงหนุ่มยังคงน้อยใจแพทย์หญิงใบบัว เพราะภาพที่เธอกอดกับนายแพทย์หนุ่มยังคงติดตาคาใจ

chap-preview
Free preview
แผลในใจ
พ่อเลี้ยงเมืองราม ชายหนุ่มหน้าตาดี ผู้ที่มีรูปร่างหล่อล่ำสมชายชาตรี สูงขาวเจ้าเสน่ห์ อายุอานามของเขาปาเข้าเลขสี่อยู่รอมร่อ แต่ทว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มผู้มีสวนองุ่นส่งออกทั้งในและต่างประเทศ กลับไม่เคยคิดที่จะสานสัมพันธ์กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน หลังจากที่เขาสูญเสียม่านฟ้าให้กับผู้ชายคนนั้นไป ทั้งที่บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่แข่งกันขายขนมจีบไม่เว้นในแต่ละวัน แต่ทว่าเขานั้นกลับมุ่งมั่นทำแต่งาน จนได้รับฉายาว่าคนไร้ความรู้สึก เมื่อเขาเห็นงานสำคัญกว่าผู้หญิง ไม่ว่าใครหน้าไหน สวยระดับนางสาวไทย ก็ไม่เคยเข้ามาอยู่ในใจของพ่อเลี้ยงเมืองรามได้ “พ่อเลี้ยง หมอคนใหม่ที่ลูกจะให้เธอมาดูแลแม่แทนหมอประวิทย์หน้าเป็นยังไง ใจดีหรือเปล่า ความจริงแค่จ้างพยาบาลก็ได้ ทำไมต้องให้หมอมาดูแลถึงบ้านด้วย” หญิงสูงวัยพูดกับลูกชายออกมาด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ เมื่อพ่อเลี้ยงเมืองรามจะให้แพทย์เฉพาะทางมาดูแลมารดา ซึ่งเธอสามารถทำงานที่โรงพยาบาลได้ตามปกติ แต่ต้องมาพักที่ไร่ของเขา จนกว่าการว่าจ้างจะสิ้นสุด “พยาบาลกับหมอแตกต่างกันนะครับแม่ ผมแค่อยากให้แม่อยู่ใกล้หมอ” คำพูดของลูกชายทำให้มารดาถึงกับส่ายศีรษะ เพราะนางไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่แพทย์ระบุว่าหญิงสูงวัยเป็นโรคหัวใจ ห้ามให้ใครหรือสิ่งใดมากระทบกระเทือนหัวใจของนาง แต่ดูลูกชายจะเป็นกังวลมากไป “ผมมีเงินมากพอที่จะจ้างเขาให้มาดูแลแม่คนเดียวเลยด้วยซ้ำ ผมอยากให้เธอลาออกจากโรงพยาบาล แต่หมอประวิทย์บอกว่าเธอไม่ยอม กว่าหมอคนนั้นจะใจอ่อนหมอประวิทย์ต้องชักแม่น้ำทั้งห้า ที่สำคัญเธอไม่รับเงินจากผม” สาเหตุที่แพทย์หญิงไม่รับเงิน นั่นเป็นเพราะว่าเธอต้องพาลูกมาด้วย และก็ยังคงสามารถเดินทางไปทำงานที่โรงพยาบาลตามปกติ ที่สำคัญในวันที่เธอต้องเข้าเวรจะมีคนดูแลลูกให้ เพราะพี่เลี้ยงที่เคยจ้างนั้นกำลังจะลาออกไปทำงานที่กรุงเทพฯ “จริงเหรอ แม่ชักอยากจะเห็นหน้าเธอแล้วสิ แต่...เอ... ที่ไม่รับเงินจากพ่อเลี้ยง เป็นเพราะว่าหมอคนนี้ อยากได้ลูกชายแม่เป็นการตอบแทนหรือเปล่าน๊า....” หญิงสูงวัยพูดจาหยอกเย้าลูกชายออกมาอย่างอารมณ์ดี ซึ่งนางอยากอุ้มหลานเต็มที แต่พ่อเลี้ยงกลับไม่เลือกผู้หญิงคนไหนมาเป็นแฟน เมื่อเขานั้นเคยผิดหวังจากความรัก “คงไม่หรอกครับแม่ หมอประวิทย์บอกว่าเธอมีลูกแล้ว กำลังอยู่ในวัยน่ารัก เธอคงจะพาลูกมาพักที่นี่ด้วยก็เลยเกรงใจ ไม่ยอมรับค่าจ้างจากผม ที่สำคัญผมว่าคุณแม่คงหายเหงาแน่” พ่อเลี้ยงเมืองรามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่ม ซึ่งเขาไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเธออยู่แล้ว เพราะถึงยังไง ผู้ชายที่เคยมีแผลเป็นในใจอย่างเขา คงไม่สามารถเปิดรับใครเข้ามาได้อีก “อ้าว! แล้วสามีของเธอล่ะ มาด้วยหรือเปล่า” หญิงสูงวัยอุทานออกมาด้วยอาการเสียดาย เมื่อแพทย์หญิงมีครอบครัวไปแล้ว อุตส่าห์ตั้งใจจะเชียร์ให้ลูกชายสักหน่อย “ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมลืมถาม แต่บ้านเราออกจะกว้าง มีหลายห้องนอน หรือจะให้เธอไปอยู่หลังเล็กดีครับ” พ่อเลี้ยงเมืองรามเริ่มขอความเห็นจากมารดา เมื่อเขากำลังคิดว่าแพทย์หญิงควรมีพื้นที่ส่วนตัวกับครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูก ถ้าหากว่าเธอมาอยู่ที่ไร่ของเขา “อืม... ก็ดีเหมือนกัน” หญิงสูงวัยตอบกลับไป พร้อมตักข้าวต้มขึ้นมาเป่า ก่อนจะค่อยๆ รับประทาน พลางนึกคิดไปด้วย ถ้าหากไร่นี้มีเด็กวิ่งเล่นก็คงจะดีไม่น้อย ถึงแม้ว่าเด็กคนนั้นจะไม่ใช่ลูกหลานของนาง แต่หญิงสูงวัยที่อยากอุ้มหลานมานานหลายปี ก็คงจะรู้สึกดีหรือชดเชยสิ่งที่ต้องการลงไปได้บ้าง ถ้าหากว่ามีเด็กมาวิ่งเล่นภายในบ้าน “ถ้าอย่างนั้นป้านุ่นก็จัดการทำความสะอาดเรือนหลังเล็กไว้รอคุณหมอได้เลยนะครับ อาทิตย์หน้าเธอคงจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่แล้ว” พ่อเลี้ยงหันไปสั่งแม่บ้าน เพราะต้องรื้อผ้าม่านออกมาซัก พร้อมกับปัดกวาดเช็ดถูให้สะอาด พร้อมย้ายเข้าไปอยู่ได้เลย “ได้ค่ะ พ่อเลี้ยงแน่ใจแล้วเหรอคะ ว่าจะให้คุณหมอพักที่เรือนหลังเล็ก” ป้านุ่นเอ่ยถามเจ้าของบ้านออกไปอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจ หลังจากที่พี่ชายของเขาจากไปด้วยอุบัติเหตุทางเครื่องบิน ซึ่งเมืองแมนรักบ้านหลังนั้นมาก “พี่เมืองแมนคงเข้าใจถึงเหตุผลที่คุณหมอต้องย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ แทน ว่าที่ภรรยาของเขา แต่น่าเสียดายที่เราไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร คนที่พี่เมืองแมนพูดถึงก่อนจะประสบอุบัติเหตุ” พ่อเลี้ยงเมืองรามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าลงไปถนัด ไม่ต่างจากหญิงสูงวัยที่เริ่มน้ำตาคลอหน่วย “แม่ไม่เคยลืมความตั้งใจของเมืองแมน เขาอยากมีครอบครัวที่อบอุ่นกับผู้หญิงคนนั้น คนที่เมืองแมนพูดถึงบ่อยๆ แล้วข่าวดีที่ว่านั้นคือเรื่องอะไรนะ ที่เมืองแมนบอกว่าอยากเซอร์ไพรส์พวกเรา สุดท้ายมันก็ได้ตายไปกับเมืองแมนสินะ” หญิงสูงวัยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงคล้ายคนกำลังจะร้องไห้ เมื่อนางรู้สึกสะเทือนใจกับการจากไปของเมืองแมน ไม่ว่าเวลาจะล่วงเลยผ่านไปกี่ปี ความคิดถึงที่มีก็ไม่เคยเสื่อมคลาย “เรื่องมันผ่านไปแล้วหลายปี เราจะจดจำพี่เมืองแมนไว้ในใจตราบชั่วชีวิต คุณแม่อย่าคิดมากเลยนะครับ พี่เขาไปดีแล้ว เราต้องอยู่กับปัจจุบันให้ได้ ผมไม่อยากเห็นแม่คิดมาก เดี๋ยวอาการโรคหัวใจจะกำเริบอีก” พ่อเลี้ยงเมืองรามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เขาเอื้อมมือลงไปกุมมือมารดาเอาไว้เบาๆ เพื่อปลอบโยนให้หญิงสูงวัยคลายจากความเศร้า เพราะตั้งแต่พี่ชายของเขาตายจากไป ผู้เป็นมารดาก็กลายเป็นคนคิดมากจมอยู่กลับความทุกข์จนกลายเป็นโรคหัวใจ หลังจากมีสิ่งกระทบให้สะเทือนใจอย่างหนัก เมื่อนางได้รับข่าวการจากไปของลูกชายคนโต “แม่เริ่มทำใจได้แล้ว เพราะถึงยังไงก็มีลูกชายคนนี้อีกคนที่คอยห่วงใย แล้ววันนี้พ่อเลี้ยงจะเข้าเมืองหรือเปล่า” หญิงสูงวัยรีบเปลี่ยนเรื่องคุย เมื่อนางเริ่มรู้สึกไม่ไหว เวลาที่พูดถึงเมืองแมน เหมือนแผลในใจได้ถูกสะกิดขึ้นมาอีกครั้งทั้งที่มันกำลังจะสมาน แต่ก็ไม่เคยหายดีสักที “ผมมีธุระจะต้องเข้าไปในเมืองสักพัก ผมรักแม่นะครับ” “ถ้ารักแม่ก็ลองเปิดใจรับใครเข้ามาสักทีสิพ่อเลี้ยง ม่านฟ้าไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวในโลกสักหน่อย ดาหลาลูกสาวพ่อเลี้ยงอินคาก็สวยใช้ได้ เรียนจบมาจากเมืองนอกเมืองนามา ทำไมลูกชายของแม่ถึงไม่เปิดใจลองรับเธอเข้ามาพิจารณาบ้าง” ดูเหมือนว่าหญิงสูงวัยกำลังจะเชียร์ลูกชายให้กับพ่อเลี้ยงอินคา เพราะนางเริ่มอยากอุ้มหลานเต็มแก่แล้ว “ผมกลัว กลัวที่จะกลับไปจมปลักกับความรู้สึกแบบนั้นอีก ถ้าหากวันหนึ่งผู้หญิงที่ผมรัก แอบปันใจให้ชายอื่น แล้วยังทำหน้าตายหลอกผมได้เป็นปีๆ ถ้าเป็นแบบนั้นอีกล่ะก็... ผมขออยู่แบบนี้ไปจนตายดีกว่าครับแม่” ดูเหมือนว่าพ่อเลี้ยงเมืองรามจะหมดศรัทธาให้กับความรักไปแล้ว เมื่อเขาได้ปิดประตูหัวใจใส่กลอนเอาไว้อย่างหนาแน่น ไม่ยอมให้ใครได้เข้ามานั่งภายในหัวใจได้อีก “ผู้หญิงในโลกใบนี้ไม่ได้มีนิสัยเหมือนกันหมด บางคนก็พร้อมจะหักหลังทรยศต่อรักที่เคยมั่น เพียงเพราะว่าลุ่มหลงในกามารมณ์ชั่ววูบ แต่ผู้หญิงบางคน หัวใจนารีนั้นแกร่งดั่งภูผา เธอไม่หวั่นแม้จะต้องตกระกำลำบาก ถ้าหากเจอผู้ชายที่คอยดูแลเอาใจใส่ ถามไถ่ในวันที่รู้สึกแย่ ไม่ทอดทิ้งกันในวันที่ลำบาก แม้จะปราศจากตัวแปรสำคัญอย่างเงินตรา” หญิงสูงวัยพยายามที่จะอธิบายให้ลูกชายได้เข้าใจ หลังจากที่ม่านฟ้าหนีไปแต่งงานกับมหาเศรษฐี เพราะในเวลานั้นเมืองรามยังไม่ได้ร่ำรวยเฉกเช่นในทุกวันนี้ “แม่คิดว่ามีเหตุผลอะไร ที่ผมต้องเปิดใจ ในเมื่อทุกวันนี้ผมก็มีความสุขดีอยู่แล้ว” พ่อเลี้ยงหนุ่มรีบโต้กลับมารดาออกไป เมื่อเขาตั้งใจที่จะโสดแบบนี้ไปจนวันตาย “โลกได้สร้างมนุษย์ให้ชายหญิงเกิดมาคู่กัน แม่เชื่อว่าสักวันต้องมีผู้หญิงสักคนที่ทำให้หัวใจของพ่อเลี้ยงหวั่นไหวบ้างแหละ แล้วแม่จะคอยดู อย่าพยายามหลอกตัวเองก็แล้วกัน แม่จะยังไม่ตายง่ายๆ หรอกนะ อยากจะรู้จังว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าตาเป็นยังไง” พูดจบประโยคหญิงสูงวัยได้แอบยิ้มเล็กๆ เมื่อนางยังคงมีความหวัง อยากจะเห็นลูกชายคนเล็กได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบกับเขาบ้าง

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

ชะตาต้องรัก

read
3.6K
bc

ใต้ปีกเจ้าพ่อ

read
2.5K
bc

บอสคนนี้เป็นของเธอนะ

read
4.0K
bc

รักนอกพันธสัญญา

read
3.8K
bc

มัดใจ'รุ่นพี่วิศวะตัวร้าย

read
6.8K
bc

หัวใจของยมฑูตอบอุ่นมากนะ : Grim Reaper and The Warm Heart

read
1.0K
bc

แค้นรักวายุภักษ์

read
1.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook