1
สาลิณีจ้องเขม็งไปยังเลขาคนสนิทที่ตนสู้อุตส่าห์ปลุกปั้นให้ขึ้นมาทำงานแทนคนเก่าที่จากไปนานกว่าสิบเดือน แต่ยังหาใครมาแทนไม่ได้เลยสักคน
คิดแล้วเคือง
สายตาของสาลิณีจิกมองหญิงสาวคนตรงหน้าเหมือนกับจะจับปาดคอทิ้งเสียให้ตายตรงนั้นให้ได้เลย
ขนาดที่ว่าเลือกดีแล้วแท้ ๆ ยังไม่วายถูกลูกสารเลวฉกไปต้มยำทำแกง จนมีภาพและคลิปหลุดฉาวโฉ่ไปทั่วจังหวัด แบบนี้จะใช้ไหว้วานให้ทำงานออกหน้าออกตาได้อย่างไร
“ฉันอุตส่าห์ไว้ใจเธอนะ ไหนแม่เธอ เขาบอกว่าเธอเป็นเด็กเรียนดี มารยาทงาม งามแบบไหนกันยะแบบนี้ งามหน้าล่ะสิไม่ว่า”
สาลิณีมองหญิงสาวคราวลูกที่ตนเลือกเฟ้นให้มาช่วยสอดส่องเจ้าลูกชายตัวดี แต่กลับกลายเป็นไปอีกแบบ “ฉันให้ช่วยเป็นหูเป็นตา สอดส่องลูกสารเลวนั่น แต่เธอกลับไปหลับไปนอนกับมันเสียได้ ถอดเสื้อผ้าง่าย ๆ คิดหรือว่าคนอย่างนั้นมันจะยกยอเธอขึ้นเป็นเมีย มันแค่ต้องการทำอะไรก็ได้ให้ฉันอกแตกตาย ไม่รู้หรือไง”
คนถูกต่อว่าถึงกับสะอื้นไห้ออกมาโฮใหญ่ พร้อมกับทรุดตัวลงกองที่พื้น “หนูผิดไปแล้วค่ะคุณป้าสา”
ขวัญลดายืนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เอาแต่ก้มหน้างุด หญิงสาวมองภาพในมุมของตัวเองด้วยหัวใจที่เดี๋ยวเต้นแรง เดี๋ยวเต้นแผ่ว เพราะเธอเองก็เพิ่งถูกปล่อยตัวออกมาจากห้องลับของลูกชายตัวดีของคุณป้าสาลิณี เมื่อตอนเช้ามืดนี่เอง
แม่ลูกคู่นี้มีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีต่อกันนัก ไม่ใช่ไม่ดี แต่เข้าขั้นย่ำแย่เลยด้วย หลังจากเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน ที่เธอเคยได้ยินคนในบ้านบอกต่อ ๆ กันว่าคุณป้าสาลิณีตามจองล้างจองผลาญหญิงสาวที่ลูกชายรักมาก ๆ คนนั้น จนหล่อนประสาทเสีย ขับรถหนีและประสบอุบัติเหตุจนถึงแก่ชีวิต จากนั้นมา แม่และลูกชายก็ถึงกับตัดขาด และไม่เคยได้รับการประสานรอยร้าวกันเลย
และลูกชายก็เอาคืนคนเป็นแม่บ้าง สิ่งใดที่สาลิณีหวงแหน จะถูกลูกชายพรากเอาไปทำลายจนหมดสิ้น นั่นก็คงจะ...รวมถึงเธอด้วย
สาลิณีโมโหจนเริ่มรู้สึกปวดไปทั้งดวงตาและมันร้าวขึ้นไปตามศีรษะ ท่านค่อยปิดเปลือกตาลงช้า ๆ อยู่กับลมหายใจของตัวเอง อยู่แบบนั้นเป็นนาน จนคนในห้องที่เหลือพลอยอยู่ในท่าเดิม เวลาผ่านไปเป็นสิบกว่านาทีเห็นจะได้ สาลิณีถึงค่อยเปิดตาขึ้น แล้วมองมาที่คนตรงมุมห้อง พูดพึมพำกับตนเองเสียงคล้ายเบาใจลง
“ยังดีที่ยัยหนูของฉันปลอดภัยจากไอ้ลูกสารเลว”
ขวัญลดาได้ยินคำพูดของท่านแล้ว ก็รีบกลั้นลมหายใจของตัวเองไว้แน่นโดยไม่ได้ตั้งใจ หญิงสาวเม้มปากของตัวเองไว้แน่น เพราะกลัวจะหลุดพูดอะไรออกไปเสียก่อน
เมื่อไรที่ถึงคิวของเธอ เธอคงถูกต่อว่าแบบสาดเสียเทเสียหนักกว่านี้แน่นอน และคงต้องระเห็จออกไปจากที่นี่ด้วยเหมือนกัน แต่ขวัญลดาก็แอบสร้างทางรอดให้ตัวเองแบบเงียบ ๆ ใจแอบหวังไว้ว่าถึงตอนนั้น เธอคงสร้างหลักสร้างฐาน มีเงินเก็บมากพอที่จะออกไปใช้ชีวิตของตัวเองตามลำพัง แบบที่ไม่ต้องพึ่งใบบุญของสาลิณีอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้
“เอาเอกสารพวกนั้นไปส่งให้เลขาของไอ้ลูกเวรนั่นทีนะยัยหนู แล้วบอกให้มันไปฟังเจ้าหน้าที่ของกรมที่ดิน เข้ามาชี้จุดที่เป็นเขตแดนใหม่ตามที่เขานัด จะได้ไม่ล้ำเข้ามาในที่ของคนอื่นอีก”
เสียงสั่งของสาลิณีดังขึ้น เรียกสติของขวัญลดาให้กลับมาที่งานตรงหน้าอีกครั้ง หญิงสาวตอบรับเสียงจริงจัง “ค่ะ” แล้วหมุนตัวออกจากห้องไป
‘ขวัญลดา’ คงเป็นหญิงสาวเพียงคนเดียวในบรรดาลูกจ้างหญิงที่รายล้อมรอบตัวสาลิณี ที่ใคร ๆ หลายคนมองว่าเธอน่าจะยังรอดปลอดภัยจากลูกชายของท่าน คงด้วยรูปร่างอวบอัดระยะสุดท้าย ทั้งยังสวมแว่นปิดทับใบหน้าอยู่ตลอดเวลาด้วยนั่นเอง ทุกคนเลยลงความเห็นว่าเธอไม่ใช่คนสวยและน่าสนใจแต่อย่างใด
ขวัญลดาเดินเท้าออกจากห้องทำงานของสาลิณี ลัดเลาะไปตามทางเดิน ระยะทางเกือบเป็นกิโลเมตร กว่าจะไปถึงบ้านของลูกชายของคนสั่งการ ที่ตรงนั้นเหมือนค่ายทหาร มีคนยืนเวรยามรอบบริเวณ และท่าทางเหมือนผ่านศึกสงครามมาแล้วหลายปี
เธอมองชายร่างสูงทะมึนที่ตรงทางเข้า บอกธุระของตัวเองออกไป “เอาเอกสารมาส่งให้คุณรัชญ์”
คนของเขามองเธอด้วยสายตาเอือม ๆ เพราะเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่มาที่นี่ได้บ่อย ๆ และเล็ดลอดออกไปได้อย่างปลอดภัย นั่นก็เพราะความอวบอัดของเธอที่ช่วยเป็นเกราะคุ้มภัยให้นั่นเอง
ชายคนนั้นรับเอกสารของเธอแล้ว ค่อยไล่ด้วยสายตาบอกให้กลับไปได้ ขวัญลดาค่อยหันหลังแล้วเดินกลับไปยังเส้นทางเดิม