เมื่อคิดได้ บางอย่างกลับมาแทนที่ แต่งงานมาเกือบสองปี เหตุใดยังไม่เคยมีอะไรกับสามี มันแปลกเกินไปไหม ไม่เข้าใจ ตกลงมันยังไงกันแน่
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน สีหน้าสับสน ไม่เข้าใจอะไรเลย
“มีอะไรหรือเปล่า ทำไมคิดหนักขนาดนั้นล่ะครับเจ้านาย” ภาคภูมิส่งเสียงเย้า
“มันแปลก”
“อะไรครับที่แปลก”
“เธอแต่งงานแล้ว” เขาเอ่ยออกมา ราวกับละเมอ
“ครับ เธอแต่งงานมีสามีแล้ว”
“ทำไม..” เสียงเงียบหายไปในลำคอ
“ทำไมอะไรครับ คุณอย่าทำเหมือนอกหัก จนไม่ได้สติสิครับ ผมเป็นห่วง หรือต้องพาส่งโรงพยาบาล” ลูกน้องเริ่มเสียดัง เพราะเห็นเจ้านาย ท่าทางเหมือนคนไม่ได้สติ
“แกก็ว่าไป”
เขาหยิบรูปมามองดูอีกครั้ง สับสนจนทำอะไรไม่ถูก จะค้นหาความจริง ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ
“เธอชื่ออะไรงั้นเหรอ”
“เธอชื่อว่าทิพย์วารี เป็นลูกสาวเจ้าของรีสอร์ทกับสวนทุเรียนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่พื้นเพเธอเป็นคนกรุงเทพนะครับ แต่แม่ไปพบรักกับหนุ่มเจ้าของสวน”
“อืม” เขาตอบรับลูกน้องเสียงแผ่วเบา
“แล้วเจ้านาย จะเอายังไงต่อครับ หรือสานสัมพันธ์ต่อดี” ลูกน้องแสร้งเย้า
“จะบ้าหรือไง ไม่เห็นเหรอว่าเธอแต่งงานแล้ว!”
“ก็เห็นครับ แต่ดูเจ้านายเหมือนอาลัยอาวรณ์”
คนฟังระบายลมหายใจ สีหน้าครุ่นคิด มันค้างคาใจ แต่ตนเองคงทำอะไรไม่ได้ นอกจากยอมปล่อยให้ทุกอย่าง กลับสู่ที่ทางที่ควรเป็น ต่อให้เธอมีอะไรกับสามีหรือไม่ อย่างไรเสีย เธอคือหญิงที่แต่งงานแล้ว และเขาควรถอยออกมาเสีย
“มันก็คงมีบ้าง เพราะคิดว่าเธอยังโสด ตอนนี้ฉันคงต้องตัดใจไม่ยุ่งแล้วล่ะ”
“ก็ควรเป็นอย่างนั้นครับ เพราะสามีทางนั้นก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน”
“ฉันรู้แล้ว เหมือนเคยเห็นหน้ามาก่อน ผู้ชายคนนี้คงสืบไม่ยากว่าเป็นใคร ดูท่าคงอยู่ในแวดวงธุรกิจเหมือนฉันนี่ล่ะ”
“เดาถูกเลยล่ะครับ” ภาคภูมิหยิบรูปธนานพออกมา “เขาคือลูกชายประธานบริษัทเคจีกรุ๊ป และตอนนี้ดำรงตำแหน่งรองประธานเคจีกรุ๊ป ชื่อคุณธนานพ วิกิจเศรษฐสานส์”
ไตรทศเอนกายพิงพนักเก้าอี้ ทอดสายตามองข้อมูล รูปถ่ายมากมายบนโต๊ะ แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ รู้สึกเหมือนตนเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ ต่อจากนี้ไป คงต้องระมัดระวัง เรื่องการควงสาวขึ้นห้องแล้ว
“นายไปได้แล้วล่ะ เอาหลักฐานพวกนี้ไปทำลายด้วย ฉันไม่อยากให้มีปัญหา”
“ครับเจ้านาย” เขารวบทุกอย่างเข้าซอง แล้วหันมอง “อย่าลืมทำตามสัญญาด้วยนะครับ หนึ่งแสนบาทถ้วน”
“เข้าใจแล้ว รีบไปได้แล้ว!”
“ลาล่ะครับเจ้านาย”
ชายหนุ่มลุกยืน สาวเท้ามาตรงหน้าต่างกระจก ทอดมองวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอันงดงาม แล้วระบายลมหายใจ สงสัยชาตินี้เขาคงไม่มีหลานให้พ่อแม่ได้อุ้มชู พอคิดจริงจังกับใคร ทำไมมันถึงยากเย็นขนาดนี้กันนะ หรือตนเองจะอาภัพเรื่องนี้เอาจริง ๆ
2 เดือนต่อมา
ที่ทำงานใหม่ วันนี้มีการประชุมใหญ่ ผู้ถือหุ้นของบริษัท ทิพย์วารีทำหน้าที่เลขาให้กับประธานบริษัท และวันนี้ตนเองได้ถูกมอบหมาย ให้ทำงานร่วมกับกรรมการบริหารคนใหม่ เธอเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง คุณฤทธิศักดิ์เลยโอนย้ายเธอให้ไปช่วยงานทางนั้น เพื่อการดำเนินงานที่ราบรื่นมากขึ้น ประตูห้องทำงานเปิดออก หญิงสาวนั่งประจำที่ตนเอง เพื่อรอให้บรรดาเจ้านายมาประชุมกัน ไม่นานนักห้องเปิดออก ผู้บริหาร และพนักงานตำแหน่งสูง เริ่มทยอยกันมา ไม่นานนักห้องประชุม ก็เต็มไปด้วยผู้คน ฤทธิศักดิ์ก้าวออกมายืนด้านหน้า
“สวัสดีครับ วันนี้ผมอยากขอแนะนำ กรรมการบริหารคนใหม่ของเราครับ คุณไตรทศ สวัสดิ์รักษ์”
เสียงปรบมือกึกก้อง ร่างสูงใหญ่เปิดประตูก้าวเข้ามาด้านใน ท่ามกลางสายตาจับจ้องไปยังเขา ที่กำลังยืนอยู่ด้านหน้า ไตรทศยิ้มกว้าง แล้วยกมือไหว้เพื่อทักทายทุกคน ทว่าทิพย์วารีกลับนิ่งงัน ดวงตาเบิกกว้าง มือเริ่มชื้อเหงื่อ พยายามก้มหน้าหลุบตามองพื้น ไม่กล้าสบตา หัวใจเต้นกระหน่ำ เกรงอีกฝ่ายจะจดจำได้
เธอกัดฟันข่มความหวาดหวั่น หวังว่าชายคนนั้น คงไม่ทักทาย ภาวนาให้เขาทำเหมือนไม่รู้จัก ยิ่งจำไม่ได้ มองผ่านเหมือนอากาศธาตุยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ทำไมมันถึงได้ซวยขนาดนี้ อุตส่าห์ได้งานใหม่ ทว่าเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ดันต้องมาเจอกับผู้ชาย ที่เคยนอนด้วยเพียงครั้งเดียวเนี่ยนะ ให้ตายเถอะ โลกกลมเกินไปไหม
“ผมไตรทศครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ” เขาบอก แล้วกวาดตามองรอบห้อง ทว่าสายตากลับหยุดที่หญิงสาว หน้าตาท่าทางดูคุ้น ไตรทศรีบสลัดความคิด เพื่อไม่ให้ตัวเองไขว่เขวไม่ว่าจะใช้หรือไม่ เธอก็เป็นแค่คนแปลกหน้าเท่านั้น
ชายหนุ่มถูกเชื้อเชิญให้นั่ง หลังจากเรียบร้อย ต้องทำการพรีเซนต์โครงการใหม่ และนั้นมีเธอร่วมอยู่ด้วย การทำงานครั้งนี้ เป็นการประเมินผลงาน ทิพย์วารีกัดริมฝีปาก กลั้นใจก้าวออกมาด้านหน้า ต่อให้ร่างจะแหลกสลาย เธอต้องทำผลงานออกมาให้ได้ ไม่เช่นนั้น คงถูกคนอื่นดูถูกว่าเข้ามาทำงาน เพราะหน้าตาดี ใช้เส้นสาย คุณฤทธิศักดิ์ถึงให้เลื่อนขั้นมาเป็นเลขา เพราะนามสกุลสามีดัง
ถูกพนักงานด้วยกัน นินทาต่าง ๆ นาๆ เพียงเพราะตนเอง มีสามีชื่อเสียงโด่งดัง แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่ตนเองต้องการเลยสักนิด ไม่อยากให้ใครรู้ด้วยซ้ำไป ว่าเธอมีสามีแล้ว ร่างบางออกมายืนด้านหน้า จังหวะนั้นดวงตาสองคู่สบกัน คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อย พยายามเก็บอาการ ไม่ให้แสดงอะไรออกไป มือหนากำแน่น กรามขบเป็นสันนูน แค่เพียงเห็น ทำเอาหัวใจกระตุกวูบ ทำไมต้องมาเจอกันอีกครั้ง
“สวัสดีค่ะ ดิฉันทิพย์วารี เป็นเลขาของคุณฤทธิศักดิ์ จะมาทำหน้าที่แนะนำโครงการใหม่ของบริษัทค่ะ”