“อะไรกัน มองขนาดนั้น เดี๋ยวหนูพายก็เขินกันพอดี”
“ก็ฉันเอ็นดูนี่ค่ะ อยากมีลูกสาวน่ารักๆเหมือนหนูพายบ้าง”
ทางด้านคุณเหมันต์และคุณเอวารินทร์ที่กำลังนั่งคุยอยู่กับคุณ นิรุจน์ และ พะพาย ลูกสาวสุดรักสุดหวงของคุณนิรุจน์ ซึ่งคุณเอวารินทร์ก็เอาแต่มองเด็กสาวร่างอวบอ้วน แก้มแดงปลั่งชมพูน่ารักกับผิวขาวราวน้ำนมอย่างนึกเอ็นดู เมื่อเธออยากมีลูกสาวและพยายามเท่าไหร่ก็ไม่ยอมมาเกิดจนหมดความพยายามไปแล้ว พอมาเห็นพะพายที่น่ารักอย่างนี้ก็เลยอดมองอย่างเอ็นดูไม่ได้จริงๆ
“เห็นน่ารักๆแบบนี้ พอจะแสบก็ใช่เล่นเลยนะครับ ฮ่าฮ่าฮ่า”
“คุณพ่อ!”
คุณนิรุจน์ที่ทั้งพูดทั้งอมยิ้มอย่างมีความสุขเมื่ออดที่จะแกล้งลูกสาวคนสวยไม่ได้ จนพะพายต้องหันมามองตาคว่ำอย่างไม่พอใจบิดาของเธอ
“นั่นไง ดูสายตานั่นสิ เหมือนแม่ไม่มีผิดเลย ฮ่าฮ่าฮ่า”
แต่คนเป็นพ่อกลับไม่ได้คิดโกรธเคืองหรือไม่พอใจ เมื่อมีแต่ความรักและความเอ็นดูเท่านั้นที่มีให้กับลูกสาวที่เขาเลี้ยงมาเองกับมือเพราะภรรยาได้ด่วนจากไปหลังจากคลอดพะพายได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
“อ่าว นั่นไงคะลูกชายกำลังเดินมาพอดี...เหมลูก”
คุณเอวารินทร์ที่มองไปเห็นเหมราชย์เข้ารีบกวักมือเรียก ก่อนที่ร่างสูงของเหมาราชย์จะเดินยิ้มกว้างเข้ามาหาบิดามารดา
“พอดีผมหลงทางเลยมาช้าน่ะครับ”
เหมราชย์รีบบอกขึ้น
“หลงทางหรือหลงสาว”
คุณเหมันต์เดินเข้าไปกระซิบกับลูกชายพร้อมกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ไปให้ซึ่งก็ได้รอยยิ้มแบบเดียวกันกลับมา
“เหมือนกันไม่มีผิด มานี่เลย มาสวัสดีคุณลุงนิรุจน์กับน้องพะพายก่อนเร็ว”
คุณเอวารินทร์รีบบอก ก่อนที่เหมราชย์จะเดินเข้ามาหามารดา
“สวัสดีครับ”
เหมันต์เดินเข้ามายกมือไหว้คุณนิรุจน์พร้อมกับหันไปทักทายพะพายด้วยรอยยิ้มหวาน
หมับ!
จนพะพายที่นั่งตะลึงกับความหล่อของเหมราชย์ถึงกับตกใจ รีบลุกจากเก้าอี้จนสะดุดขาตัวเองเกือบล้ม ดีที่เหมราชย์ไวกว่ารีบคว้าเอวของเธอเอาไว้ก่อนที่จะได้ล้ม
“เอ่อ ขอโทษค่ะ พอดีพาย เอ่อ...”
“ไม่เป็นไร ไม่เจ็บตัวก็พอแล้ว”
อ๊าาา นี่มันเทพบุตรชัดๆ...
พะพายถึงกับไปไม่เป็น เธอเอาแต่จ้องมองเหมราชย์อย่างรู้สึกตกหลุมรัก ยิ่งเขายิ้มให้เหมือนเธอถูกดึงเข้าไปในสวนดอกไม้แสนหอมหวานและหลงใหลกับดอกไม้พวกนั้นจนไม่อยากออกมา
“ลูกสาว พ่อว่ายืนเองได้แล้วมั้งนั่น พี่เขาหนักแย่แล้ว”
เป็นคุณนิรุจน์ที่พูดขึ้น ทำเอาพะพายถึงกับสะดุ้งออกมาจากจินตนาการของตัวเองทันที
“คุณพ่อน่ะ!”
“หึหึหึ อะไรกันครับ ไม่เห็นหนักเลย”
ด้วยความที่เป็นคนเจ้าชู้แถมปากหวาน เหมราชย์กลับพูดออกไปแบบนั้นจนคนที่เขินอยู่แล้วยิ่งเขินเข้าไปอีก
“อีก 2 เดือน หนูพะพายจะเข้ามหาลัย รู้ไหมสอบเข้าที่เดียวกับลูกเลย”
คุณเอวารินทร์บอกขึ้น เพราะพึ่งรู้จากการคุยกันก่อนหน้านี้ไป
“จริงเหรอครับ อย่างนี้ผมก็เป็นรุ่นพี่แล้วสิ”
“ลุงฝากดูน้องหน่อยนะ ยิ่งไม่ค่อยทันคนอยู่ด้วย ว่าจะส่งไปต่างประเทศก็ห่วง”
“ครับ ไว้ใจผมได้เลย”
และจากนั้นการสนทนาเรื่องการเรียนของลูกๆก็เริ่มขึ้น เหมราชย์ที่เข้ากับคนง่ายคอยสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่พะพายที่เอาแต่มองเขาอย่างหลงใหลและเคลิ้มตาม ปากเล็กฉีกยิ้มแทบจะตลอดเวลา เธอคิดว่าเธอนั้นตกหลุมรักเขาเข้าให้เสียแล้ว
“น่าจะไม่เกินครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวไปรับ หรือจะเจอกันที่คอนโดของฉันเลยก็ได้ เธอเคยไปแล้วนี่”
“ค่ะ เชอรี่จะรอนะคะ มาไวไวนะคะ อยากกินจะแย่แล้ว”
“หึหึหึ เดี๋ยวจะให้กินจนอิ่มเลย แค่นี้ก่อนนะ”
หลังจากคุยจนเหนื่อย เหมราชย์ก็เดินออกมารับโทรศัพท์จากคู่ขาที่เขานัดเอาไว้ในคืนนี้ ก่อนจะวางสาย
“เฮ้ย! อ่าว พาย มีอะไรรึเปล่า...”
พอหันกลับมากลับเจอเข้ากับร่างอ้วนของพะพายยืนอยู่ เหมราชย์ถึงกับตกใจเพราะเกือบชนเข้าให้แล้ว
“พี่เหม...พี่เหมมีแฟนแล้วเหรอคะ...”
พะพายที่เดินตามมาทันได้ยินทุกย่างถามขึ้นพร้อมกับก้มหน้าหลบ เมื่อรู้สึกใจเต้นทุกครั้งเวลาที่เขามองเธอ
“หืม? แฟนเหรอ ไม่มีหรอกพี่น่ะมีแต่คู่นอน พี่ไม่ชอบมีแฟนนอนกับใครก็ไม่ได้ ว่าแต่เรา มีเรื่องอะไรรึเปล่า?”
เหมราชย์บอกขึ้นพร้อมกับมองพะพายอย่างนึกแปลกใจกับท่าทีของเธอ
“พาย...พายอยากเป็นแฟนพี่เหม...”
เธอตัดสินใจบอกขึ้น เมื่อดันไปหลงใหลในความอ่อนโยนของเขาเข้าให้
“ห๊ะ? ฮ่าฮ่าฮ่า พูดอะไร ฮ่าฮ่า พี่บอกแล้วว่าพี่ไม่ต้องการแฟน อีกอย่าง พายก็ไม่ใช่ตัวเลือกของพี่แน่นอน พี่ชอบแบบผอมๆเพรียวๆ อุ้มง่ายๆ เปลี่ยนท่าได้เยอะน่ะ โทษทีนะ”
พูดจบ เหมราชย์ก็เดินเลี่ยงออกไปทันที ปล่อยให้พะพายได้แต่ยืนก้มหน้านิ่ง สองมือกำกระโปรงตัวสวยจนมันยับยู่ยี่ไปหมดด้วยความโกรธทั้งอับอายก่อนจะวิ่งหนีออกจากงานไปด้วยน้ำตานองหน้าที่ถูกเขาปฏิเสธและพูดทำร้ายจิตใจแบบนั้น
ส่วนเหมราชย์ที่ไม่ได้รู้เรื่องเดินกลับเข้ามา แล้วเอ่ยขอตัวกลับโดยเอาเรื่องเรียนขึ้นมาอ้างจนสามารถกลับออกมาจากงานได้