เจนวัตรกลับขึ้นห้องพักในตอนสามทุ่มด้วยอาการมึนจากเบียร์ที่ดื่มไปหลายขวด พอเปิดประตูเข้าห้องมาก็เจอคนนอนหลับบนเตียงและมีโทรศัพท์มือถือวางบนอก หน้าจอยังเป็นเกมที่เปิดค้างไว้
"ไอ้ทัต จะนอนก็นอนดี ๆ สิ มือถือก็ปิดซะ" เจนวัตรทักคนที่ขยับตัวและงัวเงียลืมตาขึ้นมา
"กลับมาแล้วเหรอครับ? ผมรอตั้งนานแน่ะ" ทัตพลขยี้ตาและปิดเกมในโทรศัพท์
"รอทำไม?" เจนวัตรย้อนถาม
"ก็... เอ่อ เปล่าครับ" ทัตพลลุกนั่งและมองเวลา มันสามทุ่มกว่าแล้ว เขามองหน้าเจ้านายที่คงกินข้าวเย็นมาแล้ว พร้อมเบียร์อีกหลายขวดแล้วแอบถอนหายใจ นี่กูมาคนเดียวใช่มั้ยเนี่ย คิดแล้วก็ถอนหายใจอีกทีก่อนจะลุกขึ้นยัดโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกง มือคว้ากระเป๋าเงินเดินออกจากห้อง
"แกจะไปไหน?"
"หาข้าวเย็นกินสิครับ ผมยังไม่ได้กินอะไรเลย" ทัตพลตอบโดยไม่หันหน้ามา
"ยังไม่ได้กินอีกเหรอ? นี่มันสามทุ่มกว่าแล้วนะ"
จะกินยังไงวะ มากับเจ้านายแล้วจะให้หนีไปกินข้าวก่อนเหรอ? แล้วตัวเองยังไปไหนไม่บอกด้วย นี่คือประโยคที่ทัตพลสวนกลับคำถามของเจ้านายในใจด้วยความขุ่นเคือง ไปกินข้าวกินเบียร์ไม่บอกสักคำปล่อยให้รออยู่ได้ ถ้าบอกมาสักนิดเขาคงออกไปหาอะไรกินตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว... เหมือนทุกครั้ง
"ห้องอาหารของโรงแรมยังไม่ปิดนี่ครับ แต่ผมอาจจะเดินไปตลาดกลางคืนก็ได้ ได้ยินพนักงานบอกว่าอยู่ไม่ไกล คุณเจนนอนก่อนเลยครับ" ทัตพลหันมามองเจ้านายแวบหนึ่งแล้วเปิดประตูห้องออกไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
เจนวัตรมองตามหลังเลขาหนุ่มที่เดินออกจากห้องแล้วก็ไม่ได้สนใจอีก เขาคว้ารีโมตทีวีมาเปิดดูอะไรไปเรื่อยเปื่อยสักพักก็เบื่อ มันไม่มีอะไรน่าสนใจเลย เจนวัตรปิดทีวีแล้วมองไปที่เตียงข้าง ๆ และนึกถึงหน้าของทัตพลที่มีแววตาขุ่นเคืองเขา
"อารมณ์ไม่ดีอะไรอีกล่ะวะ? เพราะเราลงไปกินเบียร์ไม่บอกเหรอ?" เจนวัตรไม่เข้าใจ ทุกทีเขาก็ไปไหนมาไหนคนเดียวอยู่แล้ว ถึงจะออกต่างจังหวัดกับทัตพลบ่อย แต่พอเลิกงานเขาก็ไปคนเดียวประจำ และทัตพลก็แยกไปต่างหากทุกครั้ง เจนวัตรเลิกใส่ใจลูกน้องแล้วล้มตัวลงนอนซุกผ้าห่มหลับไป
"หนาวแฮะ ไอ้ทัตเปิดแอร์ต่ำไปเหรอ?" เจนวัตรมุดออกจากผ้าห่มในตอนกลางดึกแล้วลุกไปกดรีโมตเพิ่มแอร์ เขาหันไปมองเตียงข้าง ๆ ที่ว่างเปล่า ทัตพลยังไม่กลับมา พอมองเวลาจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ มันเป็นเวลาตีสองแล้ว
"มันไปกินข้าวถึงไหนวะ? สงสัยไปเที่ยวผับต่อแน่ แล้วพรุ่งนี้มันจะขับรถกลับกรุงเทพได้ไหมเนี่ย" เจนวัตรส่ายหน้า ดูท่าพรุ่งนี้เขาคงต้องขับรถเองแน่
เจนวัตรกลับไปนอนต่อ แต่ไม่ว่ายังไงก็ข่มตาให้หลับไม่ได้ เขานึกถึงสายตาที่ทัตพลมองเขาก่อนออกจากห้องแล้วก็รู้สึกแปลก ๆ สายตาเคืองปนความน้อยใจนั่นมันอะไรกัน มันรบกวนจิตใจเขามากพอดูจนต้องคว้าโทรศัพท์มาต่อสายหาเลขาหนุ่ม เสียงเรียกเข้าดังอยู่พักใหญ่ปลายสายก็กดรับ
"ไอ้ทัต แกอยู่ไหนเนี่ย ทำไมยังไม่กลับมาอีก?" เจนวัตรกรอกเสียงลงไปก่อนปลายสายจะเซย์ฮัลโหล
"อยู่... อิ้ก... ผับบครับบบ... อิ้ก..." เสียงยานคางตอบกลับพร้อมสะอึกนิด ๆ
"กลับมานอนได้แล้ว ดึกมากแล้วนะ พรุ่งนี้ต้องกลับกรุงเทพนะเว้ย"
"เออ เอ๊ย คร้าบ เดี๋ยวกลับบ อิ้ก... ครับ" เสียงหัวเราะร่วนด้วยความกรึ่มในอารมณ์ แต่เจนวัตรกลับฟังว่าเป็นเสียงหัวเราะแบบเยาะหยัน และจากน้ำเสียงแบบนั้น สภาพคงไม่น่าจะกลับเองไหว
"แกอยู่ร้านไหน เดี๋ยวฉันจะไปรับ"
"ม่ายต้อง... อิ้ก... ผมกลับบเองง โผมมมาด้าย ก้อกลับด้ายยย นอนไปเลยครับเจ้าานาายยย" ทัตพลตัดสายฉับ
"ไอ้งี่เง่า เมาซะขนาดนั้นแกจะกลับเองยังไงวะ ต่างจังหวัดแบบนี้มันมีแท็กซี่ซะที่ไหน" เจนวัตรบ่นแล้วตลบผ้าห่มออก เขาลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า คว้าโทรศัพท์มือถือยัดกระเป๋ากางเกง คว้ากระเป๋าเงินกับกุญแจรถเดินออกจากห้องพัก
เจนวัตรถามพนักงานรีเซปชั่นที่กำลังจะแอบงีบถึงผับในตัวเมืองที่ขาดริ๊งก์ชอบไปนั่งกัน และก็ได้มาหลายชื่อ แล้วไอ้งี่เง่านั่นไปผับไหนล่ะ คงต้องไล่หาไปทีละผับละมั้ง
"เอ่อ คุณคนที่มากับคุณน่าจะไปที่นี่นะครับ เพราะเขามาถามผมก่อนจะออกไปข้างนอก" พนักงานบอกชื่อผับหนึ่งให้
"โอเค ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมไปตามหาเอง" เจนวัตรพยักหน้า ดีหน่อยที่พนักงานจำหน้าเซ่อ ๆ นั่นได้ว่ามากับเขา คิดแล้วก็เดินไปที่ลานจอดรถและขับออกไปตามทางที่รีเซปชั่นบอกมา ไม่นานนักก็มาถึงผับในตัวเมืองที่ค่อนข้างใหญ่และหรูในระดับจังหวัด เกือบตีสามแล้วแต่ผับยังไม่ปิด ช่างเย้ยกฎหมายซะจริง ๆ น่าจะส่งส่วยเยอะเลยเปิดได้ถึงเวลาขนาดนี้
มาถึงผับแล้วก็จริง แต่เจนวัตรกลับเข้าไปไม่ได้ ผับมันยังไม่ปิด แต่ไม่รับลูกค้าแล้ว บริกรบอกว่า ที่ยังเปิดอยู่ก็แค่รอลูกค้ากลับจนหมดเท่านั้น เออ เหตุผลเข้าท่าน่าหาเรื่อง
"พี่ไม่ได้มาดื่ม พี่มาตามหาคนต่างหาก ในผับน้องมีลูกค้าหน้าเอ๋อ ๆ ที่ใส่เสื้อยืดสีน้ำเงินกับกางเกงยีน รองเท้าผ้าใบแล้วมาคนเดียวไหม?" เจนวัตรถามบริกรหนุ่มที่ยืนหน้าประตู
"เอิ่ม ถ้าลูกค้าใส่เสื้อผ้าตามที่พี่บอกมาล่ะก็ มีเพียบครับ แต่หน้าตาเอ๋อ ๆ นี่ผมไม่แน่ใจ" บริกรทำหน้าลำบากใจ
"งั้นน้องจะให้พี่เข้าไปตามหาเขาได้ไหม รับรองพี่ไม่ก่อความวุ่นวายแน่นอน ถ้าน้องไม่มั่นใจ งั้นน้องเข้าไปกับพี่ก็ได้" เจนวัตรขออีก
บริกรหนุ่มมองท่าทางของเจนวัตรและสิ่งที่เจนวัตรชูให้ดูก็ตัดสินใจ
"ตกลงครับ พี่เข้าไปเลย" เขาคว้าหมับที่ใบแดง ๆ สองใบในมือเจนวัตรแล้วยัดใส่กระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็วก่อนจะเปิดประตูให้เข้าไปด้านใน
เสียงเพลงจังหวะเร้าใจยังเปิดอยู่ ถึงจะลดระดับเสียงลงแต่ก็ย้งน่าระคายหูสำหรับเจนวัตรไม่น้อย ทั้งแสงสีวับวาบสลับกันไปมาจนน่าเวียนหัว รวมถึงการออกสเต็ปท่าร่างคล้ายไส้เดือนโดนขี้เถ้าของบรรดาวัยรุ่นทั้งหญิงชายแล้วเขาก็ส่ายหัวน้อย ๆ
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เจนวัตรต้องสนใจ เขาต้องมองหาคนเอ๋อ ๆ ที่แสนจะงี่เง่าของเขาก่อน เจนวัตรมองไปทุกโต๊ะอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายที่กำลังนัวเนียกับผู้หญิง หรือคนที่เมาหัวทิ่มคอพับหลับคาเก้าอี้ คนนอนฟุบโต๊ะหมดสภาพ คนยืนพิงผนังห้องน้ำหลับ หรือคนนั่งกอดชักโครก ไม่มีใครหน้าเอ๋อสักคน เจนวัตรถอนหายใจเฮือก หรือทัตพลไม่ได้อยู่ที่นี่ ขณะกำลังจะเริ่มต้นหาใหม่อีกครั้ง โทรศัพท์มือถือเขาก็ดังขึ้น และสายที่ติดต่อมาคือทัตพล
"แกอยู่ไหนวะไอ้ทัต!" เจนวัตรกรอกเสียงลงไปทันทีด้วยความหงุดหงิด แล้วเขาก็ชะงัก เมื่อเสียงปลายสายไม่ใช่ทัตพล
"เอ่อ ขอโทษครับ คือ คุณพี่เจ้าของมือถือเบอร์นี้เมาพับอยู่ที่ผับผม ผมเลยโทรหาคุณพี่ที่เป็นเบอร์ล่าสุด คือ จะช่วยมารับคุณพี่คนนี้ได้ไหมครับ ผมจะปิดร้านแล้ว" เสียงปลายสายบอกมาแบบนี้
"โอเค ผับน้องอยู่ไหน เดี๋ยวพี่ไปหา" เจนวัตรถอนใจ เขาเสียเงินฟรีสินี่ ตั้งสองร้อยเลยนะกว่าจะได้เข้ามาในนี้
หลังจากวนรถในเมืองเพื่อหาตำแหน่งพักใหญ่ พร้อมกับสอบถามเด็กในร้านสะดวกซื้อเขาก็มาถึงผับจนได้ ประตูผับปิดแล้ว และมีบริกรคนหนึ่งยืนรออยู่ด้วยความกระวนกระวาย เมื่อเห็นเจนวัตรลงมาจากรถ เขาก็ปรี่เข้ามาหาด้วยสีหน้าที่เหมือนจะโล่งใจ
"พี่มารับคนทึ่ม ๆ เอ๋อ ๆ ที่เมาพับในร้านตามที่มีคนโทรไปบอกน่ะ" เจนวัตรบอกจุดประสงค์
"ทางนี้เลยครับพี่ ผมกำลังรออยู่เลย" บริกรส่งโทรศัพท์มือถือของทัตพลให้เจนวัตรและรีบพาเข้าไปข้างในจนพบทัตพลนอนฟุบเคาน์เตอร์อยู่
"ทัต ตื่นได้แล้ว" เจนวัตรเขย่าตัวเลขาหนุ่ม แต่ไร้การตอบสนอง
"ไอ้ทัต ตื่นสิวะ กลับไปนอนที่โรงแรม" เจนวัตรเขย่าปลุกอีกหลายครั้ง แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ
"ให้ตายเถอะ จะดื่มอะไรขนาดนี้วะ สั่งพักงานสักปีดีไหมนี่" เจนวัตรบ่นด้วยความหงุดหงิด
"ค่าเหล้าไอ้ทึ่มนี่เท่าไหร่?" เขาหันไปถามบริกร หลังจากชำระค่ากินค่าดื่มทั้งหมดเจนวัตรก็จ้างบริกรช่วยหิ้วปีกทัตพลไปยัดในรถเขาแล้วขับกลับโรงแรม จากนั้นก็จ้างเด็กบริกรของโรงแรมหิ้วปีกทัตพลไปโยนไว้บนเตียงนอน
"หนึ่งพันกับการพาไอ้ทึ่มนี่กลับมา ยังไม่รวมค่าเหล้ามันอีกนะ ฉันจะหักเงินเดือนแกมาชดใช้ค่าเสียเวลานอนของฉัน" เจนวัตรบ่นแล้วถอดเสื้อทัตพลโยนไปปลายเตียง ถอดเข็มขัดแล้วดึงกางเกงโยนทิ้งตามไป เขาเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กไปที่อ่างล้างหน้า เปิดน้ำเย็นใส่บิดหมาด ๆ แล้วถือมาที่เตียง
"อือออ เย็นนะ" ทัตพลงึมงำแล้วตีมือที่ถือผ้าขนหนูเย็น ๆ ที่กำลังเช็ดหน้าเขา
"หุบปากซะ! แล้วอยู่นิ่ง ๆ" เจนวัตรดึงแขนทัตพลขึ้นไปไว้เหนือหัวแล้วเอาหมอนทับไว้ เขาเช็ดหน้าทัตพลแรง ๆ แล้วเช็ดลงมาที่คอ ไหล่ และหน้าอก จากนั้นก็ลุกไปเอาผ้าชุบน้ำบิดหมาดอีกทีแล้วกลับมาเช็ดตัวอีกรอบเพื่อระบายความร้อน หลังจากเช็ดหน้าเช็ดตัวแล้วเจนวัตรก็จับทัตพลใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น ก่อนจะดึงผ้ามาห่มให้
"เวรเอ๊ย มัวแต่ยุ่งกับไอ้งี่เง่านี่จนเกือบสว่าง เสียเวลานอนเป็นบ้า" เจนวัตรส่ายหัวมองเวลาที่ตอนนี้มันตีสี่กว่าแล้ว ทัตพลก็นอนไม่ได้สติ แล้วเขาเองก็นอนไม่พอ จะให้ขับรถกลับกรุงเทพคงไม่ไหวแน่ เจนวัตรถอนหายใจแล้วกลับไปที่เตียงตัวเอง มุดเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้วนอนต่อ ค่อยกลับกรุงเทพพรุ่งนี้ละกัน
"คุณเจน..." เสียงแผ่วเบาดังมาจากเตียงข้าง ๆ เรียกให้คนกำลังจะหลับลืมตามอง แต่เมื่อเห็นทัตพลหลับอยู่ เจนวัตรก็เลิกสนใจและนอนต่อ
"ละเมอด่ากูหรือไงวะ ไอ้งี่เง่า" เจนวัตรด่าออกมาจากในผ้าห่มก่อนจะหลับยาวแข่งกับทัตพล
-------------------------