01 - เจ้านายสุดเย็นชา
"ไอ้ทัต! ตื่นได้แล้วเว้ย!"
เสียงตวาดดังลั่นจากคนที่ยืนข้างเตียงปลุกคนที่กำลังนอนซุกผ้าห่มฝันหวานให้สะดุ้งเฮือก เขาลืมตามองต้นเสียงเลิ่กลั่ก เหงื่อแตก ใจสั่นหวิวราวกับเพิ่งตื่นจากฝันร้าย
"คุณเจน... ตกใจหมดเลย ผมกำลังฝันดีแท้ ๆ" ทัตพลถอนหายใจแล้วมองคนที่ยืนค้ำหัวเขาข้างเตียงด้วยอาการเคืองใจที่ถูกปลุกจากฝันดี
"โทษทีที่ปลุกว่ะ แต่นี่มันเจ็ดโมงแล้ว ถ้าแกยังนอนต่อมีหวังไปไม่ทันเปิดงานของสาขาใหม่แน่ ลุกเดี๋ยวนี้เลยนะ หรือจะให้เตะลงจากเตียง" เจนวัตรบอกด้วยเสียงเรียบ สายตาเย็นชามองมายังเลขาที่ยังนอนคุดคู้บนเตียง
"ครับ ลุกก็ได้" ทัตพลเกาหัวแล้วตลบผ้าห่มออกจากตัว ก่อนจะหย่อนเท้าลงจากเตียงและลากสังขารเดินเข้าห้องน้ำ
"ให้ตายเถอะ แกเป็นเลขาฉัน แต่ดันตื่นนอนสายกว่าฉัน แล้วยังต้องให้ฉันปลุกทุกเช้าด้วย แกเป็นเลขาภาษาอะไรวะ" เจนวัตรบ่นพลางแต่งตัวด้วยเชิ้ตแขนยาว ผูกไทสีเข้ม จัดแต่งทรงผมให้เรียบ
"ภาษาไทยสิครับ ผมเป็นคนไทยนะ" ทัตพลเถียงกลับก่อนจะปิดประตูห้องน้ำและจัดการตัวเองให้สดชื่นด้วยสายน้ำเย็นฉ่ำ
เจนวัตรมองประตูห้องน้ำแล้วส่ายหัว มันเป็นเลขาหรือเป็นอะไรวะ? นอนตื่นสายกว่าเจ้านาย กินก็เก่ง แล้วยังเถียงไฟแลบ ถ้าด่ามาก ๆ ก็จะงอนไปเป็นวัน เขาพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ ด้วยความระอา
ถึงนิสัยทัตพลจะเกินเยียวยา แต่ถ้าเอางานเข้ามาหักล้างกับนิสัยเพี้ยน ๆ นี่ ก็นับว่าทัตพลทำงานดีมาก จัดตารางงานของเจนวัตรทุกวันอย่างลงตัว แยกงานของผู้จัดการแต่ละฝ่ายอย่างละเอียดก่อนนำส่ง รวมถึงสรุปงานโดยรวมของแต่ละแผนกก่อนส่งเขาตรวจรอบสุดท้ายทุกเดือนอย่างไม่ผิดพลาด
"คุณเจนคร้าบ ขอผ้าเช็ดตัวหน่อย" เสียงทัตพลดึงเจนวัตรกลับมาจากความคิด เขาหันไปมองประตูห้องน้ำที่เปิดแง้มไว้ และเห็นทัตพลโผล่มาครึ่งตัวในสภาพหัวเปียกโชกจนน้ำหยดลงบนผ้าเช็ดเท้าหน้าห้องน้ำ พร้อมกับมือที่ยื่นออกมากวักหยอย ๆ
"แล้วทำไมไม่เอาเข้าไปด้วยวะ! ฉันไม่ใช่คนใช้แกนะ!" เจนวัตรด่าเลขาหนุ่ม แต่ก็ลุกไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ในตู้เสื้อผ้ายื่นส่งให้
"ขอโทษครับ ผมลืม และขอบคุณครับ" ทัตพลหัวเราะแล้วผลุบหายเข้าห้องน้ำไป เสียงฮัมเพลงอย่างมีความสุขดังลอดออกมาจากประตูห้องน้ำที่ไม่ได้ปิด พักเดียวทัตพลก็นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมา สองมือถือผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมที่เปียก
เจนวัตรนั่งที่ปลายเตียงของเขามองดูเลขาหนุ่มที่ยืนเช็ดผมหน้าโต๊ะเครื่องแป้งเงียบ ๆ ทัตพลสูงโปร่งและไม่ค่อยมีกล้าม เพราะไม่ชอบออกกำลัง ผิวขาวแบบชาวเหนือ หน้าตาดูดี ไม่ถึงกับหล่อคม แต่ก็มีเสน่ห์เวลายิ้ม
"มองอะไรครับ? หลงเสน่ห์ผมเหรอ?" ทัตพลยิ้มหวานแบบที่เจนวัตรหมั่นไส้และเห็นเป็นรอยยิ้มที่โคตรจะเสแสร้ง
"อย่าพล่ามมาก รีบแต่งตัวให้ไวเลย ฉันหิวแล้ว ลงไปช้าทางโรงแรมจะเก็บบุฟเฟต์เช้าก่อนนะ" เจนวัตรเร่งด้วยสายตาดุ
"คร้าบ ๆ รอแป๊บบบบบเดียววววว" ทัตพลลากเสียงล้อเลียนแล้วรีบแต่งตัวอย่างรวดเร็ว เชิ้ตสีอ่อนกับไทสีเข้ม ผมที่หวีเสยขึ้นเปิดหน้าผาก กางเกงเรียบกริบ และโคโลญจน์กลิ่นหอมอ่อน ๆ ทำให้ผู้ชายที่หัวกระเซิงตอนตื่นนอนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
หลังจากเสริมหล่อกันเรียบร้อย เจนวัตรก็เดินออกจากห้องพัก และทัตพลก็ถือกระเป๋าเอกสารสาวเท้าตามเจ้านายออกไปที่ลิฟต์ลงไปชั้นล่าง เมื่อหาที่นั่งในห้องอาหารได้ ทัตพลก็ลุกไปตักข้าวต้ม กุนเชียงทอด ไชโป๊วผัดไข่ กับยำไข่เค็มมาวางบนโต๊ะ จากนั้นก็ไปรินน้ำส้มมาวางให้ที่โต๊ะด้วย
เจนวัตรมองมื้อเช้าตรงหน้าแล้วลงมือกิน ปกติมื้อเช้าเขาจะกินแค่ขนมปังปิ้งทาเนยและกาแฟอีกถ้วย แต่ถ้ามาพักโรงแรมก็จะเลือกกินข้าวแทน ด้วยเหตุผลที่ว่า เอาให้คุ้มกับค่าห้องพักราคาแพง และเขาก็จะโดนเลขาตัวดีแอบค่อนแคะว่า 'รวยแล้วยังงก'
"อิ่มไหมครับ ผมไปตักเพิ่มให้ไหม?" ทัตพลถามเมื่อเห็นเจ้านายกินข้าวหมดถ้วยแล้ว แต่ยังตักกับข้าวในจานใส่ปาก
"พอแล้ว แกกินให้อิ่มก็แล้วกัน" เจนวัตรมองคนตัวบางที่นั่งตรงข้ามตักข้าวต้มมาเป็นถ้วยที่สามแล้ว ตัวบางแบบนั้น กินก็เยอะ ทำไมไม่อ้วนวะ แล้วไอ้ที่กินเข้าไปเอาไปใส่ตรงไหนหมด เจนวัตรมองคนกินข้าวอย่างอร่อยด้วยความไม่เข้าใจ ไม่ใช่แค่ข้าวเท่านั้น ทัตพลกินได้อร่อยทุกอย่าง ทั้งขนม ทั้งผลไม้
"อิ่มจัง" ทัตพลมองมื้อเช้าบนโต๊ะที่เหลือแต่จานเปล่าหลังจากข้าวต้มหมดไปสี่ถ้วย พร้อมน้ำส้มอีกแก้ว
"ไม่อิ่มก็แปลกล่ะว่ะ กินยังกะผีอดอยาก" เจนวัตรด่าเบา ๆ แต่เลขาหน้ากวนนอกจากจะไม่ใส่ใจคำด่า ยังหัวเราะกลับด้วย
"กินให้คุ้มค่าห้องไงครับ" ทัตพลยิ้มกวน
"เออ ไปกันได้ละ" เจนวัตรลุกขึ้นจากโต๊ะและเดินนำออกไปก่อน เขาไม่สนใจทัตพลที่ถือกระเป๋าก้าวตามมาข้างหลัง ถ้ามัวแต่คุยมันจะยิ่งช้า พิธีเปิดป้ายสาขาใหม่ที่จังหวัดนี้มีตอนเก้าโมงเช้า และเขาที่เป็นประธานบริษัทสาขาหลักต้องมาเปิดงาน
เจนวัตรขึ้นไปนั่งในรถคันหรูของเขา และทัตพลก็เป็นคนขับไปถึงบริษัทสาขาก่อนเวลาเปิดงานครึ่งชั่วโมง พอจอดรถตามที่ผู้จัดการจัดไว้ให้เรียบร้อย ทัตพลก็หยิบเสื้อสูทของเจนวัตรที่พาดตรงพนักพิงมาปัดและสวมให้เขา ก่อนจะลูบสูทด้านหน้าให้เรียบอีกที นี่เป็นการเอาใจใส่เล็กน้อยของเลขาหนุ่ม แต่เจนวัตรก็ชอบที่ทัตพลดูแลเขาแบบนี้ เมื่อเจ้านายแต่งตัวเรียบร้อย เลขาหนุ่มก็คว้าเสื้อสูทของตัวเองมาสวม และถือกระเป๋าเอกสารเดินตามเจ้านายเข้าไปในบริษัท
หลังพิธีเปิดสาขาใหม่เสร็จเรียบร้อย เจนวัตรก็ไปนั่งโต๊ะผู้บริหาร และผู้จัดการสาขาก็ยื่นรายงานทั้งหมดให้ประธานบริษัท เขารับมาอ่านอย่างละเอียดและเซ็นอนุมัติก่อนจะยื่นส่งให้เลขาส่วนตัวที่ยืนข้างโต๊ะ ทัตพลอ่านซ้ำอีกรอบและยื่นรายงานฉบับหนึ่งส่งคืนผู้จัดการ และเก็บรายงานอีกฉบับใส่กระเป๋า
เมื่อการเปิดบริษัทใหม่และรับรายงานทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย เจนวัตรก็เรียกประชุมผู้จัดการสาขาและหัวหน้าแต่ละฝ่าย โดยมีทัตพลนั่งไม่ไกล คอยจดรายงานการประชุมทั้งหมดตามหน้าที่ และสรุปผลการประชุมวาระที่ 1 ของบริษัทสาขา
เจนวัตรนั่งทำงานอยู่ที่บริษัทจนถึงบ่ายก็ออกมาจากห้อง และมองเลขาหนุ่มกำลังหยอดคำหวานจีบพนักงานสาว ๆ ในบริษัทด้วยเสียงหัวร่อต่อกระซิก คารมกับรอยยิ้มมีเสน่ห์เรียกเสียงหัวเราะชอบใจจากพนักงานผู้หญิงได้ไม่ยาก แต่เมื่อเห็นสายตาเย็นชาของประธานบริษัท บรรดาสาว ๆ ก็เงียบกริบและรีบกลับไปทำงาน ทิ้งให้เลขาหนุ่มยิ้มแหย ๆ ต่อหน้าเจ้านาย
"ดูท่าทางมีความสุขนะ ย้ายมาอยู่ที่สาขานี้ไหม? ฉันจะเซ็นอนุมัติให้" เจนวัตรพูดด้วยเสียงเรียบตามสไตล์เขา
"ไม่ครับ ถ้าผมย้ายมาแล้วใครจะดูแลคุณเจนล่ะครับ" ทัตพลรีบยิ้มเอาใจเจ้านาย
"คนที่สมัครตำแหน่งเลขามีตั้งหลายคน ฉันหาเลขาใหม่ไม่ยากหรอก"
"โธ่คุณเจนครับ ผมแค่หยอกพวกสาว ๆ หน่อยเดียวเอง" ทัตพลรีบอ้อน เจนวัตรเป็นคนพูดจริงทำจริง เขาไม่เคยสนใจพนักงานรอบข้าง และเซ็นอนุมัติการย้ายตำแหน่งหรือลาออกอย่างไม่ลังเล และเจนวัตรก็ไม่เคยง้อให้พนักงานคนไหนอยู่ต่อสักคน
"แกก็รู้ ว่าฉันไม่ชอบพนักงานผู้ชายที่ทำท่าหมาหยอกไก่กับพนักงานผู้หญิง มันดูไม่ดี และเสียภาพพจน์บริษัท แต่แกที่เป็นเลขาฉันกลับมาทำเสียเอง แย่จริง" เจนวัตรมองเลขาหนุ่มด้วยสายตาเย็นชา
"ขอโทษครับ" ทัตพลเสียงอ่อย
"กลับได้ละ ฉันอยากพัก" เจนวัตรไม่ใส่ใจท่าทีสำนึกผิดของคนตรงหน้า และเดินผ่านไปอย่างไม่ใยดี
"รอผมด้วยสิครับ" ทัตพลรีบคว้ากระเป๋าที่วางบนโต๊ะ ก้าวยาว ๆ ตามเจ้านายไปที่ลานจอดรถ ก่อนจะขับรถกลับโรงแรมด้วยความเงียบ
พอถึงโรงแรมที่พัก เจนวัตรก็เดินกลับขึ้นห้อง ไม่สนใจคนที่รีบก้าวตามเช่นเคย เขาถอดเสื้อสูทโยนพาดเก้าอี้ ถอดไทโยนไปบนเตียง ถอดเสื้อเชิ้ตกับกางเกงโยนไปกองทับและเดินเข้าห้องน้ำ
ทัตพลมองตามเจ้านายแล้วถอนหายใจก่อนจะตามเก็บเสื้อผ้ามาพับเก็บ เจนวัตรอารมณ์ไม่ดีอีกแล้ว และสาเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากเขานี่แหละ เพราะนิสัยเข้ากับคนอื่นง่ายและคุยสนุก ทำให้พวกพนักงานผู้หญิงชอบมาคุยกับเขา แต่เจนวัตรไม่ชอบและจะเข้มงวดกับการทำงาน เขาเห็นว่าทัตพลควรวางตัวให้เหมาะสมกับตำแหน่งเลขาของเขา แต่ถ้านอกเวลางาน เจนวัตรจะไม่สนใจเลยว่าทัตพลจีบพนักงานสาวหรือเปล่า ช่างเป็นคนที่ไม่มีอารมณ์สนุกและเอาแต่ทำงานจริง ๆ
เจนวัตรออกมาจากห้องน้ำและมองคนที่นั่งบนเตียงดูทีวีเงียบ ๆ แล้วก็ไม่ได้สนใจ เขาเช็ดตัวและแต่งตัวเรียบร้อยก่อนจะไปที่เตียงของตัวเองและล้มตัวลงนอนดูทีวีรอให้ถึงเวลามื้อเย็น เขาชำเลืองมองคนที่นั่งเงียบและเปลี่ยนช่องทีวีดูอะไรไปเรื่อยเปื่อยเหมือนคนใจลอย
"งอนอะไรอีกวะ?" เจนวัตรหันไปถามอย่างอดไม่ได้
"เปล่าครับ" ทัตพลปิดทีวีและลุกเอารีโมทไปวางบนโต๊ะหน้าทีวี ก่อนจะกลับมาถอดเสื้อผ้าเดินเข้าห้องอาบน้ำ
"ให้ตายเถอะ ด่านิดด่าหน่อยก็งอนยังกะผู้หญิง" เจนวัตรส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย
"ผมไม่ได้งอนสักหน่อย!" ทัตพลเถียงออกมาจากห้องน้ำ เขาเปิดฝักบัวและเข้าไปยืนข้างใต้ให้สายน้ำฉ่ำเย็นช่วยทำให้ใจสงบ จะบอกว่าไม่งอนเลยก็เหมือนจะโกหกตัวเองไปหน่อย
เขาทำงานกับเจนวัตรมาตั้งแต่เรียนจบจนมาถึงวันนี้ เจนวัตรก็ยังเย็นชาใส่เขาไม่เปลี่ยน เขาเคยเห็นรอยยิ้มของเจนวัตรน้อยมากจนนับครั้งได้ แต่เห็นสายตาเย็นชากับคำด่าทุกวัน
"คนเย็นชาไร้อารมณ์" ทัตพลบ่นงึมงำและอาบน้ำต่อจนเสร็จ พอเช็ดตัวและเดินออกจากห้องน้ำ เจ้านายสุดเย็นชาก็ไม่ได้อยู่ในห้องนอนแล้ว
"อ้าว? ไปไหนอีกละเนี่ย? สงสัยไปนั่งจิบเบียร์ข้างสระน้ำละมั้ง" ทัตพลถอนหายใจแล้วเดินไปแต่งตัวเรียบร้อยก็ขึ้นไปนั่งบนเตียง หยิบโทรศัพท์มือถือมาเล่นเกมรอเจ้านาย
เจนวัตรไปไหนมาไหนไม่เคยบอก นอกจากเวลาทำงานแล้วเขามีความเป็นส่วนตัวสูงมาก และทัตพลก็ไม่อยากถาม เดี๋ยวโดนด่าว่าเซ้าซี้มากเกินไป
-------------------------