ถ้าคุณมีหนึ่ง ฉันจะมีสอง และมีให้มากกว่าที่คุณมี!

2585 Words
มายาขับรถบิ๊กไบค์ของตัวเองมาถึงบ้านที่สระบุรีเกือบบ่าย เพราะเธอมัวแต่ระงับความโกรธที่มีต่อสามี ด้วยการจอดตลอดเส้นทางที่ขับรถผ่าน ที่ไหนสวยเธอแวะหมด ทั้งที่ขาไปใช้เวลาไม่นาน แต่ขากลับเธอใช้เวลาเกือบครึ่งวัน “ไปไหนมาลูก” คนเป็นแม่ถามลูกสาวตัวแสบที่เดินเข้ามาในบ้านพร้อมเป้สะพายหลัง กับหมวกนิรภัยใบโต เท่านี้ก็รู้แล้วว่าลูกสาวตัวแสบแอบเอารถมอเตอร์ไซด์อันใหญ่นั่นขับหนีไปเที่ยวมาตลอดทั้งอาทิตย์ “หัวหินค่ะ” มายาเดินมานั่งลงข้างๆแม่ ซุกซบศรีษะลงกับไหล่ท่านอย่างหาที่พึ่งพิง ตลอดเส้นทางที่ขับรถกลับมาบ้าน เธออยู่กับความคิดที่ว่า ทำไม? ทำไมเธอถึงรู้สึกหงุดหงิดเพราะเขาได้ขนาดนี้ เธอยอมรับว่าชอบเขา และเคยบอกเขาไปแล้วก่อนแต่งงาน แต่ความชอบของเธอมันเปลี่ยนเป็นความรู้สึกแบบนี้ได้ยังไง และพอเธอรู้สึกแบบนี้ ท่าทีเขากลับแปลกๆไป ไหนจะคนในอดีตที่เธอเผลอไปพูดถึงนั่นอีก อีตานั่นมันมีอดีตยังไงกัน ทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่องของเขาเลยสักอย่าง “แม่ ไอ้คุณหมิงของแม่เนี้ย เคยแต่งงานมาแล้วเหรอ” มายาถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัย ถึงจะได้ยินข่าวเขาบ่อยๆ ส่วนมากมีแต่ข่าวเสียๆ กับข่าวสาวๆที่มาจากเพื่อนเท่านั้น ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเขามีเมียแล้ว แล้วเธอพูดผิดเหรอเรื่องเมียตายนั่น ทำไมต้องโกรธขนาดนั้นด้วย “เท่าที่แม่รู้มาจากแม่ของสมิง กับผู้หญิงคนนั้นยังไม่ได้แต่งนะ เพราะเธอตายก่อนที่เข้าพิธีแต่งงานเพียงแค่สองวัน” คนเป็นแม่บอกลูกสาวเสียงเบา มายาจึงหันขวับมามองอย่างสงสัย “แม่รู้จักแม่ของคุณสมิง?” มายานึกไปถึงผู้หญิงสูงวัยที่ดูเงียบๆไม่ค่อยพูดตอนพิธีแต่งงาน ท่านเงียบมากและดูเข้าถึงยากที่สุด และอีกอย่างคือท่านแสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบเธอที่เป็นเมียของลูกชาย “อัญชลีเป็นเพื่อนแม่่” มายาพยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ มิน่าละ เขาถึงสามารถเข้าถึวครอบครัวของเธอได้ เพราะมีแม่เป็นเพื่อนกับแม่เธอ แล้วที่บอกว่าพ่อเธอเป็นหนี้เขา คือหนี้อะไรวะ บ้านเธอขัดสนจนต้องไปหยิบยืมเขาเลยเหรอ “แม่คะ แล้วเราเป็นหนี้ไอ้คุณหมิงจริงเหรอ” มายาไม่อยากเก็บความสงสัยไว้ หันหน้าไปถามแม่ที่หัวเราะกับคำพูดของเธอ “บ้านเราเหมือนคนขัดสน?” “นั่นสิ แต่ก่อนที่จะแต่ง เขาบอกว่าพ่อติดหนี้เขา” จริงๆ วันนั้นเธอไม่ได้หูหนวก และเธอเข้าใจมาตลอดว่าต้องแต่งงานใช้หนี้มากกว่าจะแต่งเพราะเขาสนใจเธอซะอีก “ถ้ากับพ่อ คงหมายถึงหนี้ชีวิตนั่นแหละมั้ง สมิงเขาเคยช่วยพ่อไว้น่ะ ตอนที่ถูกคนลอบฆ่า” เรื่องนี้มันผ่านมาหลายปีแล้ว และเธอก็รู้เรื่องนี้ดี เพราะบริษัทของพ่อเป็นบริษัทส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด มันก็เลยมีพวกที่ไม่หวังดีต้องการเอาชีวิตท่าน หวังให้เสาหลักของบ้านตายไป เธอที่เป็นลูกสาวคนเดียวกับแม่ จะได้ไม่มีที่พึ่ง แต่พวกมันทำไม่สำเร็จเพราะมีคนมาช่วยพ่อไว้ และเธอเพิ่งจะรู้นี่แหละว่าคนที่รับกระสุนแทนพ่อวันนั้น คือเขา “อ่า แล้วผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไรเหรอคะ” มายาวกกลับมาที่เรื่องที่เธอกังวลใจ อยากรู้เรื่องผู้หญิงคนนั้นอะ “มาริษามั้ง แม่ไม่แน่ใจ” คนเป็นแม่ตอบเสียงเรียบ มองหน้าลูกสาวด้วยความเห็นใจ ใครๆต่างก็มีอดีต แต่ไม่คิดว่าวันนี้ลูกสาวจะมาถามถึงอดีตของคนเป็นสามี “ชื่อเหมือนหนูเลยแฮะ” มายาหรือมาริษา พูดเบาๆกับคนเป็นแม่ เสหน้ามองไปทางอื่นเมื่อรู้สึกว่าขอบตามันร้อนแปลกๆ ในใจก็รู้สึกจี๊ดๆ เมื่อรู้ว่าอดีตของเขามีชื่อเหมือนกันกับเธอ หรือที่ผ่านมาเธอเป็นตัวแทนของผู้หญิงคนนั้นมาตลอด วันนั้นที่เขาเข้าหาเธอ เพราะคิดว่าเธอเป็นคนรักของเขาเหรอ ที่เขาทำกับเธอในคืนนั้นไม่ใช่สนใจ แต่เพราะมองว่าเธอคือคนรักที่ตายไปใช่ไหม ไอ้บ้าเอ้ย! ฉันไม่ใช่ตัวแทนของใครนะ “จะไปไหนลูก” คนเป็นแม่ถามลูกสาวที่ลุกพรวดออกไปจากห้องรับแขก ลูกสาวของท่านเพียงแค่หันมายิ้มให้นิดๆ แล้วเดินหายออกไปจากบ้าน จากนั้นไม่นานท่านก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์ขับออกไปจากบ้านด้วยความเร็ว มายาขับรถมุ่งหน้าไปที่คอนโดของตัวเอง เธอแต่งงานแล้วจะให้นอนอยู่บ้านพ่อแม่มันก็ยังไงอยู่ ส่วนบ้านที่เป็นของสามีเธอก็ไม่เคยไป เธอไม่มีเรือนหอเหมือนคนอื่น และไม่รู้ด้วยว่าสามีเธอใช้ที่ไหนเป็นที่หลับนอน การแต่งงานของเธอแปลกชะมัด เจ้าสาวที่ไม่มีบ้านให้นอนเหรอ น่าสมเพชจังเลยมายา Truu Truu ยังไม่ได้ก้าวขาเข้าห้อง โทรศัพท์เครื่องหรูก็ส่งเสียงร้อง มายาหยิบมันออกมามองหน้าจออย่างชั่งใจ ก่อนจะตัดสินใจกดรับสายพร้อมทั้งเดินเข้าห้องไปเงียบๆ [มายา! อยู่ไหนเนี้ย ตั้งแต่แต่งงานไป ฉันไม่เห็นหน้าแกเลยนะ] บัณฐิตา คือเจ้าของเสียงแสบแก้วหูที่ดังแข่งกับเสียงเพยง ทำให้มายารีบยกโทรศัพท์ออกห่าง และเลือกเปิดสปีคเกอร์โฟนคุยแทน “มีอะไรเหรอบลู ที่โทรหาแค่อยากจะบ่นงี้เหรอ” [แกจะไม่หวงสามีแกหน่อยเหรอมายา เพิ่งแต่งงานกันแค่อาทิตย์เดียวก็ปล่อยเขามาเกี้ยวสาวอื่นแล้วเหรอ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าแกแต่งกับเขาเพราะอะไร แต่ถ้าแกไม่มาตอนนี้ คนอื่นได้คาบสามีของเธอไปแน่] น้ำเสียงที่เจือความห่วงใยของเพื่อนสนิททำให้มายาถอนหายใจออกมาดังๆ เขาก็เคยเป็นแบบนั้นอยู่แล้วป่ะ เธอว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวเขาแล้วนะ แต่ปรามไว้สักหน่อยก็น่าจะดี แต่งงานแล้วทั้งที น่าจะเพลาๆเรื่องนี้ลงบ้าง “แกเจอเขาที่ไหนเหรอ” [ที่ผับของพ่อน่ะ ตอนนี้เขาก็ยังอยู่กับพี่สาวฉัน รีบมานะ] สายถูกตัดไปโดยเพื่อนของเธอ มายาจึงลุกขึ้นเดินไปอาบน้ำเงียบๆ เธอไม่รู้ว่ามีสิทธิ์หึงหวงเขาแค่ไหน แต่เธอเป็นเมียแต่งนี่นา คงมีสิทธิ์หวงได้เต็มที่ แต่ถ้าวันนึงเขาบอกว่ามันมากเกินไป และเธอไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น เธอจะไปจากเขาทันที มายาเลือกขับบูคาติคันหรูของตัวเองไปที่ผับของเสี่ยสังวาลบิดาของเพื่อนคนสนิท สิ่งที่ยัยบลูเคยเกริ่นไว้ในวันแต่งงาน คือเรื่องความสัมพันธ์ของพี่สาวเธอกับสมิง มายาไม่กล้าถามเขาว่ามีความสัมพันธ์กันขั้นไหน จึงอยากไปดูให้เห็นกับตา เรื่องผู้หญิงที่ผ่านมาของเขา เธอพอได้ยินมาอยู่บ้าง สมิงทำตัวเหมือนเสี่ย มีผู้หญิงรอบกายไม่เคยขาด และก่อนแต่งเธอไม่เคยคุยเรื่องนี้จริงจัง ถ้าเขาจะทำแบบเดิมมันก็ได้ แต่เขาน่าจะทำแบบลับๆมากกว่าไหม ไม่ใช่มานั่งกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันกลางแจ้งแบบนี้ “คุณมายา” อชิตะเรียกคนที่ก้าวมาหยุดยืนตรงหน้าเสียงเบา ใช้ตัวบังร่างเจ้านายกับผู้หญิงในอ้อมกอดไว้จากสายตาของคนสวยตรงหน้า เขาไม่ได้ปกปิดความผิดของเจ้านาย แต่เขากลัวเมียของเจ้านายจะเสียใจกับภาพที่เห็นมากกว่า “ถอยไป!”มายาพูดเสียงเรียบ พยายามผลักเขาออก เพื่อมองคนที่กำลังจูบผู้หญิงอื่นอย่างดูดดื่มอยู่ข้างหลัง ไอ้บ้านั่นมันไม่เห็นเลยรึไงว่าเธอยืนอยู่ตรงนี้ เธอเป็นเมียมัน แต่ดูมันทำสิ จูบผู้หญิงอื่นต่อหน้าเมีย ไอ้ห่านี่ “คุณมายากลับไปก่อน” “ไม่หลบ ฉันถีบนะ” มายาตั้งท่าเตรียมถีบคนของเขาอย่างที่พูด อยากเอากันทำไมไม่ไปทำที่อื่น ตรงนี้คนอยู่มายมาย คนทั้งจังหวัดรู้แล้วว่าเธอเป็นเมียแต่ง และคนพวกนั้นกำลังชี้มือมาที่เธอแล้วหัวเราะขบขัน ที่ผ่านไปเพียง7 วัน ผัวก็มาจูบกับผู้หญิงคนอื่น หรือตลอดทั้งอาทิตยที่เธอไม่อยู่เขาทำแบบนี้ตลอดเลย? “ปล่อยมายาเข้ามาอาร์ช” สมิงลืมตามองช้าๆ ผลักผู้หญิงที่นั่งอยู่บนตักออกเบาๆ เธอก็ลงไปนั่งข้างๆ แต่มือเธอยังกอบกุมความเป็นชายของเขาอยู่อย่างเดิม “ไม่คิดเลยนะคะว่าพี่บิว ก็เคยเป็นเมียของไอ้นี่ ทำไมไม่จับมันไว้แน่นๆหน่อยละ มันจะได้ไม่ต้องมาแต่งกับมายา” มายาก้าวเดินไปหยุดตรงหน้า ดึงไหล่ผู้หญิงหน้าตาสวยหวานให้หันมามอง คนที่ถูกเธอกระทำนิ่งเงียบ ดวงตาสวยแวววาวไปด้วยน้ำตา เมื่อโดนมายาจิกเล็บลงไปบนไหล่ขาวเนียนจนจมเนื้อ “พูดดีๆนะมายา ปล่อยเธอซะ” สมิงพูดเสียงราบเรียบ คงไว้ซึ่งท่าทางปกติของตัวเอง ทั้งที่ในใจกลับร้อนรุ่มที่เห็นเธออยู่ตรงนี้ “ทำไมปกป้องมัน?” มายาเลือดขึ้นหน้าไปหมด เดินไปกระชากคอเสื้อสีดำสนิทมากำไว้แน่น เธอเป็นเมียไม่ใช่เหรอ หรือเขาตั้งใจแต่งเธอไปเป็นควายไว้ไถนา อยากจะเล่นกับความรู้สึกเธอยังไงก็ได้แบบนี้เหรอ “คุณมายากลับไปก่อนเถอะครับ” อชิตะเดินมาจับข้อมือของคนที่กำลังกำขอเสื้อของเจ้านายเขาไว้เบาๆ ไม่สนใจสายตาของเจ้านายที่มองมาอย่างตำหนิสักนิด “หึ! เอาสิ ฉันจะนั่งดูอยู่ตรงนี้ ถ้าอดอยากมากขนาดนั้นฉันจะยกให้วันนึงละกัน จะเอากันต้องนี้เลยก็ได้นะ ไหนๆก็กล้าทำเรื่องไร้ยางอายต่อหน้าคนในร้านไปแล้วนี่” มายาทิ้งตัวลงที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับสมิง ถือขวดเหล้าที่วางอยู่ตรงนั้นขึ้นดื่มเงียบๆ สายตามองคนตรงหน้าที่มองเธออยู่นิ่งๆ อยากเอาก็เอาสิ ฉันจะนั่งดู อยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงของเขา ลีลาเด็ดเท่าเธอไหม สมิงมองภรรยาของตัวเองเงียบๆ มายาในวันนี้ดูแปลกตาเพราะใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มจนไม่เหลือเค้าเดิม ชุดก็สุดแสนจะเซ็กซี่ จนผู้ชายทั้งร้านมองเธอเกือบทั้งหมด ผมสีน้ำตาลสวยเป็นลอนถูกเธอรวบขึ้นไป เปิดเปลือยลำคอระหงที่เต็มไปด้วยรอยแดง รอยพวกนั้นมีเยอะและลามมาถึงเนินเนื้อหน้าอกของเธอ และสายตาผู้ชายพวกนั้นก็หยุดที่บริเวณนั้นเหมือนกันกับเขา “หมิงคะ” พรรณิสาเอ่ยเรียกคนที่เธอรักเสียงเบา ถึงแม้เธอกับเขาจะมีความสัมพันธ์แค่ในฐานะตัวแทนเท่านั้น เธอเป็นแบบนั้นมาตลอด คอยปลอบใจเขามานาน ตั้งแต่เพื่อนสนิทของเธอเสียชีวิตไป แต่สองปีแล้วที่เธอไม่ได้เจอเขา เพราะเขาหลงเสน่ห์ผู้หญิงที่กำลังยกขวดเหล้าขึ้นดื่มอยู่ตรงนั้น แต่วันนี้เขากลับมาหาเธอเอง เหมือนทุกๆครั้งที่เขาคิดถึงคนรักที่ตายไป “ขึ้นไปข้างบนเถอะ” สมิงลุกขึ้นยืน พร้อมกับดึงมือคนข้างตัวไปด้วย ออกเดินไปด้วยกันโดยไม่สนใจมายาที่มองด้วยสายตาเย็นชาสักนิด “ถ้าแกทำได้ ฉันก็ทำได้เหมือนกัน ลองดูสิว่าระหว่างแกกับฉัน ใครจะไวกว่า” มายาพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด มองคนที่จับมือกันออกไปอย่างหวงแหนแล้วเลืิอดขึ้นหน้า เดินไปคว้าคอคนของเขามากดจูบลงไปทันทีที่สมิงหันกลับมามอง “…” อชิตะเม้มปากไว้แน่น มองดวงตาแวววาวนั่นอย่างสงสาร จับสะโพกเธอขึ้นนิดๆให้เท้าสูงกว่าพื้น หมุนตัวเธอเพื่อใช้ร่างกายบดบังเธอจากสายตาคนอื่น รวมทั้งสายตาของเจ้านาย “กลับเถอะครับผมไปส่ง” อชิตะพูดชิดริมฝีปากแดงสด มองใบหน้าที่คลอน้ำตานิ่งๆ ก่อนจะเช็ดน้ำตาให้เธออย่างเบามือ ทำไมเขาถึงต่ำต้อยขนาดนี้นะ ถ้าเขาคู่ควรกับเธอสักนิด เขาจะไม่มีวันทำให้เธอเสียใจแบบนี้เป็นอันขาด “อาร์ช!” น้ำเสียงเย็นยะเยือกของเจ้านายไม่ได้ทำให้อชิตะกลัว เขายังใช้ตัวบดบังเธอไว้ เมื่อเธอไม่ยอมขยับเดินทั้งยังผลักเขาออกเบาๆเป็นเชิงว่าเธอจัดการเองได้ “ทำไม! เกิดหวงฉันขึ้นมาเหรอ? เสียใจด้วยนะ เพราะคุณหมดสิทธิ์แล้ว ต่อไปถ้าคุณมีหนึ่งฉันจะมีสอง และจะมีให้ได้มากกว่าคุณ” มายาพูดจบก็ก้าวเดินออกไปทันที เธอคิดว่าจะให้เกียตริเขาในฐานะสามี และคิดว่าเขาจะให้เกียตริเธอบ้าง หรือไม่เขาคงเลือกที่พอแล้ว ถึงได้ขอเธอแต่งงาน แต่นี่เขายังไม่พอเลยสักนิด แล้วมาขอแต่งงานกับเธอทำไม ถ้าเพียงเพราะว่าพ่อเธอเป็นหนี้ชีวิตเขา ก็น่าจะบอกเธอสิ จะมาพูดว่าสนใจเธอทำไม มาพูดให้เธอรู้สึกว่าเธอมีค่า เขาถึงเลือกเธอแทนที่จะเป็นผู้หญิงรอบตัวเขาทำไม “ไปกันเถอะค่ะหมิง” เมื่อภรรยาของเขาไม่อยู่ พรรณิสาจึงเอ่ยเรียกเสียงเบา ทุกครั้งที่สมิงมาหาเธอ เขาจะไม่ไปกับคนอื่น เพราะแผลในใจเขาลึกมากและมีเพียงเธอเท่านั้นที่จะช่วยเขาได้ “กลับกันเถอะอาร์ช” สมิงพ่นลมหายใจออกแรงๆ เขาคิดว่าควรพอสักที เขาไม่จำเป็นต้องมีเธอช่วยอีกแล้ว ร่างสูงก้าวเดินผ่านมือขวาของตัวเองอย่างเร่งรีบ ไม่ได้คิดจะตามมายาไป เขาอยากกลับบ้าน บ้านที่เป็นเรือนหอของเขากับมาริษา ทุกครั้งที่ถูกพูดถึงเธอ เขาจะคุมตัวเองไม่ได้ ความรู้สึกผิดยังตราตรึงอยู่ในใจเสมอ ที่ไม่สามารถไปช่วยเธอได้ มาริษาถูกรถชนตาย ก่อนจะถึงวันแต่งงานแค่สองวัน แม้จะผ่านมาเกือบ 6 ปีแล้ว แต่เขาก็ยังคงคิดถึงเธอเสมอ เธอที่เป็นรักแรกและเขาคิดว่าเธอเป็นรักเดียว ต่างจากผู้หญิงอีกคนที่เขาเพียงแค่สนใจและรู้สึกสงสารในวันที่เธอเมามายเพราะผู้ชายที่ทิ้งเธอไป เธอสวยหวานและแอบมีบางมุมที่คล้ายกัน โดยเฉพาะชื่อนั่นที่มันเหมือนกันจนเขาเคยคิดว่ามายา คือมะลิ คนรักที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD