สองวันต่อมา
วันนี้เป็นวันแต่งงานของสมิงกับมายา พิธีทั้งหมดถูกจัดที่โรงแรมหรูในตัวจังหวัดซึ่งเป็นโรงแรมของสมิงเอง มายาที่เข้าพิธีหมั้นตอนเช้าด้วยชุดไทยที่เขาส่งมาให้ ยิ้มแย้มอยู่ตลอดเพราะถูกใจสีชุดของตัวเอง ชุดไทยสีแดงสดเธอชอบมาก ถือว่าเขาทำดีกับการจัดงานแต่งงานให้เธอในครั้งนี้
มายามองตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ ชุดแต่งงานสีขาวด้านบน ข้างล่างตรงชายกระโปรงตกแต่งด้วยลูกไม้สีแดงสด ชุดนี้ถูกใจเธอมากเหมือนกัน และเธอไม่ต้องกังวลกับขนาดของมัน เมื่อชุดที่สวมใส่ลงไปทั้งสองชุด พอดีกับตัวเธอเปะๆ เหมือนเธอไปวัดตัวและสั่งตัดด้วยตัวเอง แม้ความจริงเขาจะทำเองทั้งหมดก็เถอะ
“มายาเสร็จรึยังลูก” คนเป็นแม่ที่อยู่ในชุดราตรีสีน้ำเงินเข้ม เดินเข้ามาหาเจ้าสาวที่นั่งอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ ภายในห้องพักของโรงแรม เจ้าสาวแสนสวยจึงหันกลับไปมองคนเป็นแม่ที่เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ
“ที่หนูทำทั้งหมดไม่ใช่เพราะอยากประชดแม่หรอกนะคะ แล้วก็เลิกรู้สึกผิดกับเรื่องของเขาสักที ในขณะที่แม่บอกให้หนูก้าวไปข้างหน้าแล้วลืมอดีต พ่อกับแม่กลับไม่ลืมมันไปสักที ชีวิตแต่งงานของหนูคงไม่หวานแหววแบบที่แม่ต้องการหรอกนะคะ แต่หนูคิดว่าหนูคงมีความสุขในสิ่งที่หนูตัดสินใจเลือก หนูรักแม่ค่ะ”
มายากอดเอวแม่ของเธอไว้แน่น ทั้งยังพูดทุกสิ่งที่เธอรู้สึกจนรับรู้แรงสะอื้นของคนเป็นแม่ ท่านยังรู้สึกผิดอยู่เสมอ ที่มีส่วนทำให้คนรักของเธอตายเมื่อสี่ปีก่อน แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด เรื่องนี้มีเพียงเธอ กับคนที่ตายไปแล้วเท่านั้นที่รู้ และอีกคนก็น่าจะเป็นภรรยาที่เขาซุกซ่อนไว้
เธอไม่ได้เสียใจที่เขาตาย จะบอกว่าดีใจมันก็ไม่ใช่ทั้งหมด แต่คนเป็นพ่อแม่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย กลับคิดว่าเพราะท่านกีดกันเขากับเธอ เขาจึงคิดมากจนเมาเหล้าและขับรถคว่ำเสียชีวิตคาที่ พ่อกับแม่เธอจึงรู้สึกผิดอยู่ตลอด แม้เธอจะอธิบายไปแล้ว ว่าเธอกับเขาเลิกกันก่อนที่เขาจะตาย แต่ท่านก็ยังรู้สึกผิดอยู่เหมือนเดิม
“แม่รักลูกนะ แม่ขอให้หนูมีความสุขนะลูก” คนเป็นแม่หอมลูกสาวเบาๆ จับมือกันเดินออกไปจากห้องพัก เมื่อใกล้ถึงเวลาเริ่มพิธีฉลองมงคลสมรส
เจ้าสาวถูกส่งมือให้พ่อของเธอ เดินเข้าไปในงานด้วยท่าทางมาดมั่น เธอตัดสินใจแล้วว่าเธอจะมีความสุขกับชีวิตแต่งงานให้ได้ ต่อให้เขายังไม่ใช่คนที่เธอรักก็ตาม แต่สักวันเขาคงเป็นคนเดียวที่เธอรักหมดหัวใจแน่นอน
มือเล็กถูกเจ้าบ่าวสุดหล่อจับไว้แน่น เมื่อพ่อของเธอส่งมือเธอให้เขาด้วยตัวเอง ใบหน้าที่เคยเรียบเฉยตอนที่ยืนรอเธออยู่ในงาน ส่งยิ้มนิดๆให้เธอ จนเธอต้องยิ้มตอบ
“มีคนบอกรึยัง ว่าวันนี้…..ชุดสวยมาก” ใบหน้าคมก้มลงกระซิบข้างหู มายาจึงมองตาขวาง เขาต้องชมเธอสิไม่ใช่ชมชุด ไอ้บ้านี่! ฉันเห็นนะว่าคุณมองฉันตาค้างอะ
“ชมฉันตรงๆ ก็ได้นะ ฉันไม่ได้เขินง่ายขนาดนั้น” มายาบอกคนที่ยืนเก็กหล่ออยู่ข้างๆ ผมที่ปกติถูกเขาจัดเซ็ตไว้ลวกๆ วันนี้กลับถูกจัดเช็ตอย่างดี เข้ากับชุดสีขาวของเขา แม้ปกติจะเห็นแต่ใส่ชุดดำก็เถอะ แต่ใส่สีขาวแล้วก็ดูดีนี่น่า ไม่น่าแต่งดำไว้ทุกข์ให้ตัวเองอยู่ตลอดเลย
“ฉันหล่อใช่ไหม?” สมิงถามคนที่มองสำรวจใบหน้าเขาอยู่ ตอนนี้เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพิธีกรของงานกำลังพูดเรื่องอะไร เพราะความสนใจทั้งหมดของเขา ถูกเธอดึงไปหมดแล้ว ตั้งแต่ที่เธอก้าวเข้ามาในงานด้วยชุดแต่งงาน ที่เขาเป็นคนสั่งตัดด้วยตัวเอง
“ก็หล่อแหละ แต่ขี้เก็กไปหน่อย” มายาพูดออกไปแบบไม่ต้องคิด เพราะนั่นคือความจริงที่สุด ถ้าไม่ได้อยู่ข้างเธอ เธอจะไม่เห็นเขาทำสีหน้าแบบนี้เลย สีหน้าที่บางทีก็อ่อนโยน บางทีก็ดูเหมือนมีความสุขที่สุด ที่มีเธออยู่ใกล้ๆ ช่างต่างจากคุณสมิงที่เธอเคยรู้จักผ่านคนอื่นๆ ชะมัด
มายาหันหน้าไปมองพิธีกร เมื่อเขาพูดอะไรสักอย่างแล้วยื่นไมค์มาตรงหน้าเธอ ในขณะที่สมิงเองก็ทำหน้างง
ก็เขากับเธอไม่สนใจคนอื่นในงานเลยนี่นา เอาแต่ซุบซิบอะไรกันแค่สองคน และตอนนี้ดูเหมือนเธอจะอยากได้ความช่วยเหลือจากเขามากที่สุด
“เจ้าสาวผมตื่นเต้นเลยฟังไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ช่วยถามอีกรอบได้ไหมครับ” สมิงบอกพิธีกรที่มองเขากับเธอสลับกัน ก่อนพิธีกรจะยิ้มกว้าง แล้วถามคำถามเดิมที่เคยถามเมื่อครู่
“คนในงานสงสัยเหมือนกันกับผม ว่าทำไมคุณถึงมัดใจผู้ชายแบบคุณสมิงได้ ในเมื่อรอบกายของคุณสมิง ไม่เคยขาดผู้หญิงสวยๆ เลยสักครั้ง”
มายาฟังคำถามที่น่าตบปากคนพูดมากที่สุด นี่แน่ใจว่าถามหรือดูถูกเธอกันแน่ ต่อยพิธีกรในงานแต่งตัวเอง มันได้ไหมวะ
“แน่ใจว่านั่นคือสิ่งที่คุณอยากรู้ ไม่ใช่ว่าคนในงานนี้อยากรู้ว่าทำไมฉันถึงแต่งงานกับเขาแบบฟ้าผ่า คงสงสัยว่าฉันท้อง มากกว่าจะสงสัยว่าทำไมผู้หญิงอย่างฉันถึงได้มาแต่งงานกับคนแบบเขา แต่ฉันคงบอกพวกคุณไม่ได้ทั้งหมดหรอกนะ ฉันบอกได้แค่สองอย่าง อย่างแรกคือฉันยังไม่เคยนอนกับเขา เพราะงั้นตัดเรื่องท้องไปได้เลย และอย่างที่สองคือเขาเป็นคนขอฉันแต่งงาน”
คำพูดที่ออกมาจากปากเจ้าสาวเป็นที่ฮือฮาของแขกในงาน แต่เจ้าบ่าวกลับไม่รู้สึกโกรธที่เธอประกาศโต้งๆ ว่าเขาเป็นคนที่ต้องการจะแต่งงานกับเธอ ก็นั่นเป็นความจริง เธอจะพูดหรือไม่พูดก็ได้ทั้งนั้น
“สิ่งที่พวกคุณอยากรู้ ฉันตอบไม่ได้หรอกค่ะ เพราะฉะนั้นอย่าถาม และข้ามขั้นตอนนี้ไปดีกว่า” มายายิ้มกว้างหลังพูดจบ ใครๆ ต่างก็อยากรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับเธอทั้งนั้น เพราะนี่เป็นงานแต่งแรกที่ไม่มีรูปพรีเวดดิ้งเหมือนงานอื่น มีเพียงเจ้าบ่าวเจ้าสาวตัวจริงแทนรูปถ่ายพวกนั้น
“อ่าครับลำดับต่อไป…” พิธีกรจึงข้ามขั้นตอนของการกล่าวแนะนำและถามความเป็นมาของบ่าวสาวไป พิธีทั้งหมดดำเนินไปจนจบ เหลือเพียงพิธีสำคัญอย่างเข้าหอ ที่มีเพียงญาติและคนสนิทเท่านั้นที่ได้อยู่ส่งตัวบ่าวสาว และกลับออกไปจนหมดเมื่อกล่าวคำอวยพรเสร็จเรียบร้อย
“เหนื่อยโว้ย!”
มายาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงสีขาวสะอาดตา แรงทิ้งตัวของเธอมีมากพอให้ดอกไม้ที่โรยเป็นรูปหัวใจ กระจายไปทั่วเตียงจนไม่เหลือเค้าเดิม สายตาก็เอาแต่มองตามคนที่เดินเข้าห้องน้ำไปเงียบๆ
ร่างสูงเดินออกมาจากห้องน้ำ ด้วยชุดใหม่ที่เป็นสีดำสนิททั้งตัว เขามีงานที่ต้องไปทำต่อ พิธีแต่งงานจบลงแล้ว เขาใช้เวลาทั้งอาทิตย์ตระเตรียมงาน จนไม่ได้เข้าไปดูธุรกิจหลายอย่าง ผับที่เขาเป็นเจ้าของก็ไม่ได้เข้าไปดูวันที่สองแล้ว เขาจึงอยากจะไปดูสักหน่อย เพราะช่วงนี้มันกำลังมีปัญหา
“จะไปไหน?” มายาถามคนที่เดินทำหน้าเรียบเฉยออกมาจากห้องน้ำ สมิงมองเธอเพียงแค่เสี้ยววินาที จากนั้นก็ก้าวเดินต่อไม่สนใจที่จะตอบคำถามเธอเลยสักนิด
“ถ้าคุณไปฉันก็จะไปเหมือนกัน ไม่ใช่ไปกับคุณนะ ฉันจะออกไปปาร์ตี้กับเพื่อนฉัน”
มายาหันหน้าหนีไปอีกทาง น้อยใจสามีนิดๆ ที่เขาทำท่าเหมือนจะทิ้งเธอในคืนแรกของการแต่งงาน แต่เธอไม่สนหรอก เพื่อนๆ ชวนเธออกไปปาร์ตี้เหมือนกัน เธอจะถือโอกาศนี้ออกไปฉลองเลยละกัน
สมิงเดินมาวางเงินปึกหนึ่งลงที่เตียงตรงหน้าเธอ เผื่อเธอจำเป็นต้องใช้ ส่วนเขาจำเป็นต้องไป เพราะช่วงนี้ที่ผับมีปัญา เขาเป็นคนเดียวที่ตัดสินใจเรื่องทุกอย่างได้ดีที่สุด
“รอฉันก่อน เพื่อนชวนไปแถวๆ ผับคุณ ฉันไม่ได้เอารถมา หวังว่าแค่รอสัก 10 นาที คงไม่ทำคุณเสียเวลามากไปกว่านี้นะ” มายาลุกไปหยิบถุงเสื้อผ้าที่เตรียมมาไว้ใส่กลับบ้าน เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ และกลับออกมาเมื่อใช้เวลาที่บอกไปเกือบหมด
มายาออกมาโดยสวมชุดเกาะอกสีแดงสด ด้านล่างเป็นกางเกงยีนส์สีดำที่แต่งขาดจากข้างล่างมาถึงต้นขา เลือกสวมเสื้อคลุมทับลงไปอีกชั้น เมื่อคิดว่าตัวเองไม่ใช่สาวโสดอีกต่อไปแล้ว ก้าวเดินมาหยุดยืนตรงหน้าคนที่ยืนพิงกรอบประตูห้องนอนมองเธออยู่
“ถ้าจะหวงก็รีบหวงตั้งแต่ตอนนี้ แต่ถ้าไม่หวง ก็เตรียมใจไว้ได้เลย”
มายาพูดจบก็เดินผ่านหน้าสมิงไป จงใจใช้ไหล่ตัวเองกระแทกไหล่เขาด้วยความหมั่นไส้ อยู่ในงานแต่งยังทำท่าทางดีใจที่ได้เธอเป็นเมียอยู่เลย ตอนนี้กลับทำท่าเหมือนคนอยากจะตายซะงั้น แถมยังคิดจะทิ้งให้เธอนอนอยู่ในห้องหอนี่คนเดียวอีก เรื่องอะไรเธอจะอยู่คนเดียวล่ะ
“อ๊ะ คุณหมิง”
ร่างที่ก้าวนำออกจากห้องนอน ถูกอุ้มจากทางด้านหลัง ก่อนจะถูกโยนลงบนเตียงกว้างโดยสามีของเธอ ใบหน้าที่เรียบตึงเมื่อครู่ดูหงุดหงิดงุ่นง่าน มือหน้ายกขึ้นเสยผมตัวเอง อย่างคนที่หมดความอดทนลงไปแล้ว
“ใจดีแล้วไม่ชอบสินะมายา” มือเล็กถูกรวบไว้เหนือหัว ใบหน้าคมก้มลงกระซิบเสียงแหบพร่า สงสัยคืนนี้คงต้องปล่อยให้อาร์ชจัดการพวกก่อกวนเพียงลำพัง วันนี้ไม่อยากให้เธอไปเพราะกลัวเธอโดนลูกหลง และสิ่งเดียวที่จะห้ามคนอย่างมายาได้ คงมีแค่กดเธอไว้ใต้ร่างเขาทั้งคืนเท่านั้น
“คุณเป็นบ้ารึไงเนี่ย”
ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บข้อมือที่ถูกกดทับอยู่ พยายามดิ้นหนีจากพันธนาการของเสือตัวใหญ่ แต่ยิ่งดิ้นร่างข้างบนยิ่งกดทับเธอแรงขึ้น ตอนนี้เขาทาบทับลงมาทั้งตัว จนร่างทั้งสองแนบสนิท ใบหน้าคมชิดจนริมฝีปากทาบทับไปกับหน้าผากมน
“เป็นสามีต่างหาก” น้ำเสียงแหบพร่าดูเย้ายวน ยิ่งคำว่าสามียิ่งทำให้มายาขนลุกซู่
เขาเป็นสามีน่ะใช่! แต่แค่ในนามไง ยังไม่เคยได้กันเลย และคืนนี้ก็คืนเข้าหอด้วย ยังไม่ได้เตรียมใจว่าจะถูกเอาเลย เธอน่าจะปล่อยเขาไปซะตั้งแต่ทีแรก แต่พอคิดว่าเขาจะไปหาคนอื่นในคืนเข้าหอ ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมานิดๆ
มือหนาเคล้นคลึงทรวงอกอวบอิ่ม เมื่อเธออยู่นิ่งๆจึงปล่อยมือเธอให้เป็นอิสระ ใช้ริมฝีปากขบเม้มตั้งแต่ซอกคอลงมาถึงลาดไล่ ลามเลียไปทั่วผิวขาวนวล ก่อนจะหยุดลงที่เนินเนื้อปทุมถันที่เอ่อล้นออกมาจากเกาะอกสีแดง
“อ๊ะ เดี๋ยวสิ เดี๋ยว! อ๊ะ” มายาผลักใบหน้าหล่อเหลาที่ครอบครองหน้าอกอวบอิ่มเธอออกแรงๆ แต่นอกจากเขาจะไม่ขยับ ยังกัดเธอผ่านเนื้อผ้านั่นอีก มันไม่เจ็บหรอก แต่มันเสียวไง มันเสียวนะเว้ย
“ต้องการแบบนี้ไม่ใช่เหรอ” ใบหน้าคมเงยขึ้นมองคนเป็นภรรยา เขาไม่ได้รีบร้อนแม้จะได้เธอมาเป็นเมียแต่งแล้วก็ตาม อยากให้เธอพร้อมและขึ้นคร่อมเขามากกว่า เพราะเขาชอบตอนที่เธอเป็นแบบนั้นมากกว่าตอนที่อยู่ใต้ร่างเขาซะอีก
มายาเป็นผู้หญิงที่เขาเฝ้าติดตามมานานถึงสองปี เขารู้จักทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ รู้ด้วยว่าเธอเคยคบกับอดีตเจ้าของค่ายมวยที่เสียชีวิตไป เคยคบจริงจังถึงขั้นจะแต่งงาน ถ้าเธอไม่โดนเมียของผู้ชายคนนั้นมาแฉซะก่อน เธอกับมันคงแต่งงานกันไปแล้ว
“ฉันกลัวคุณรังเกียจ ถ้ารู้ว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์” มายาพูดเสียงเบา การพูดความจริงน่าจะดีกับชีวิตคู่ต่อจากนี้ที่สุด
ใช่! เธอเคยผ่านมือชายมาแล้ว ความสัมพันธ์ที่ผ่านไปเพียงข้ามคืนยังตราตึงเธออยู่เสมอ เธอไม่รู้ว่าเขาคนนั้นเป็นใครด้วยซ้ำ เพราะเธอเมา แต่จำได้ดีว่ารสสัมผัสวันนั้นมันเร่าร้อนรุนแรงขนาดไหน
เธอไม่ได้รอคนรักแสนทรยศที่ตายไป แต่เธอเฝ้าตามหาผู้ชายที่ได้ครั้งแรกของเธอไปตลอดสองปี แต่หายังไงก็หาไม่เจอ เธอเลยไม่ยอมคบกับใครเลย เพราะอายถ้าคนที่เธอคบด้วยรู้ว่าเธอไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ แม้มันจะไม่ใช่ยุคที่ต้องแคร์เรื่องแบบนี้แล้วก็ตาม แต่เธอแคร์ไง และคิดมากเรื่องนี้มาตลอดจนไม่เคยมีแฟนเลย
“หึ! เธอจะจำผัวไม่ได้จนวินาทีสุดท้ายจริงๆ นะเหรอมายา”
สมิงพูดอย่างขบขัน เธอจำเขาไม่ได้จริงๆ นะเหรอ รู้ว่าคืนนั้นเธอเมาหนัก และมันไม่ใช่แค่ฤทธิ์เหล้าอย่างเดียว คืนนั้นเธอเร่าร้อนอยู่บนตัวเขา แม้จะเป็นครั้งแรก แต่เธอกับเขาก็เอากันทั้งคืนจนสว่าง น่าจะจำเขาได้บ้างสิ เพราะเธอเอาเขาจนพรุนซะขนาดนั้น
เพราะเขาต้องทำงานต่อ จึงปล่อยให้เธอนอนพักอยู่เพียงลำพัง กลับมาอีกทีเธอก็หายไปแล้ว และตั้งแต่วันนั้นเขาก็ให้คนของตัวเอง ตามติดเธอมาตลอดสองปี และพยายามสู่ขอเธอกับพ่อแม่มาตลอด และนั่นทำให้เขารู้เรื่องทุกอย่างของเธอ