โจวเจ๋อฮั่นอ๋องนักรบหนุ่มแห่งแคว้นเหลียงอนุชาร่วมสายโลหิตของฮ่องเต้เพียงพระองค์เดียว ไปประจำการอยู่ชายแดนมาหลายปี ชื่อเสียงเลื่องลือในเรื่องความเหี้ยมโหดและไม่สนใจผู้ใด สมญานามอ๋องปีศาจของเขาจึงเลื่องลือไปทั่วใต้หล้า
บัดนี้เบื้องหน้าของเขาคือนางโลมผู้หนึ่ง ที่มีเรือนกายงดงามเป็นอย่างยิ่ง แต่ใบหน้าของนางที่ดูเหมือนว่าจะมีรอยแผลเป็นน่าเกลียดอยู่บนนั้นทำให้เขาขมวดคิ้ว
สตรีผู้นี้ย่อมเป็นผู้ที่เจ้าอี้เหวินส่งมาจากหอนางโลมเป็นแน่ หากเป็นผู้อื่นคงได้ไล่นางผู้นี้ออกไปจากห้องแล้ว แต่สำหรับท่านอ๋องไม่คิดเช่นนั้นเขาเพียงแต่ส่งยิ้มเหี้ยมเกรียมออกมา
“เจ้าช่างประหลาดยิ่ง แต่ถูกใจข้านัก”
“น้ำ ข้าหิวน้ำ”
นางจับมือของชุ่ยหลินเอาไว้แล้วร้องขอด้วยน้ำเสียงแผ่วหวานยั่วยวนโดยที่ตนเองนั้นไม่รู้ตัว
“เช่นนั้นหรือ”
อ๋องหนุ่มตั้งใจเดินไปรินน้ำให้นาง ข่มความกระหายไว้ภายใน
“ไม่ดื่มน้ำแล้วหรือ”
เขาเอ่ยออกมาเพียงครึ่งคำก็ถูกแม่นางผู้นี้จู่โจมริมฝีปากเข้าแล้ว หลิวซือซือครั้นบังเอิญถูกมือของบุรุษผู้นี้สัมผัสร่างกายของตนเองเข้าโดยบังเอิญ
นางพลันรู้สึกดียิ่งสติที่มีขาดสะบั้น เห็นริมฝีปากบางของเขาคล้ายบ่อน้ำ ภายในใจร่ำร้องให้ลิ้มลองจึงกระโจนเข้าใส่เขาทันใด
"อ๊า ข้ารู้สึกดีเป็นอย่างยิ่ง"
แต่แล้วท่านอ๋องต้องถอนจุมพิตออกมาเพ่งพิศใบหน้าเนียนสวยนั้นเมื่อรับรู้ถึงความเหนียวหนืดที่หลุดมาติดใบหน้าเขา
การเสียดสีใกล้ชิดกันอย่างมากทำให้หน้ากากแผลเป็นของหลิวซือซือหลุดออกมา อ๋องหนุ่มจ้องมองด้วยความสงสัย
มือเรียวหยาบด้วยจับกระบี่มานานปีจึงค่อย ๆ ไล้สัมผัสที่แก้มนวลเนียนของหญิงสาว
โจวเจ๋อฮั่นกัดปากใจเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อเขาเริ่มดึงสิ่งที่เหมือนแผลเป็นจนคล้ายเนื้อหนังที่น่าสยดสยองนั้นออกช้าๆ
จวบจนโจวเจ๋อฮั่นดึงหน้าปลอมออกมาจนหมดเมื่อเห็นใบหน้าที่แท้จริงของสตรีนางนี้ทำให้โจวเจ๋อฮั่นแทบลืมหายใจ
นางงดงามเช่นนี้อีกทั้งใบหน้านี้หาได้อัปลักษณ์แต่อย่างใด
ใบหน้าที่เทพเซียนบนสวรรค์ยังต้องอับอายงดงามจนหมูมวลผกาต้องโศกศัลย์เหตุใดจึงได้ปิดบังอำพรางไว้เช่นนี้
ในขณะที่โจวเจ๋อฮั่นกำลังตกตะลึง สตรีผู้นี้พลันเอ่ยวาจาประหลาดออกมา
"ท่านเทพช่วยซือซือด้วยเจ้าค่ะ ซือซือร้อนเหลือเกินเจ้าค่ะ ช่วยซือซือด้วยจับตรงนี้ของซือซือจะได้หรือไม่"
"เจ้าช่างร้ายกาจเป็นอย่างยิ่ง"
"ท่านเทพเจ้าขาช่วยซือซือด้วย จับแรงๆเลยเจ้าค่ะ มีตรงนี้อีกเพียงได้สัมผัสท่านซือซือก็รู้สึกดีมากๆเลย"
หลิวซือซือที่ไร้สติเข้าใจว่าเขาคนนี้คือเทพเซียนที่มาช่วยปลดปล่อยตนเองไปแล้ว
เขาค่อยๆ ดันปลายนิ้วเข้าไปในช่องทางสวาทของนางและสิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงคือนางผู้นี้ชางคับแคบเป็นอย่างยิ่ง
และนี่คือสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกผิดสังเกต นางเรียกเขาว่าเทพเซียนในคราแรกเขาเพียงคิดว่านางกำลังแสดงบทบาทบนสวรรค์ให้เขาตื่นเต้น
ดูจากอาการของนางแล้วเหมือนกับว่านางกำลังถูกวางยา
แต่ในเวลานี้โจวเจ๋อฮั่นก็ไม่อาจยับยั้งชั่งใจตนเองได้ในทันที นางยั่วเขาร่างกายนุ่มนิ่มอ่อนหวาน
จุมพิตที่ดูดดื่มทำให้เขายากแล้วที่จะถอนกาย เขาต้องการนางต้องการเข้าไปในร่างของนางและปลดปล่อยความต้องการออกมา ส่วนเรื่องอื่นนั้นเขาค่อยถามเอาความจริงกับเจ้าอี้เหวิน
ยังไม่ทันที่โจวเจ๋อฮั่นจะถอดกางเกงเพื่อจัดการสตรีร่านรักนางนี้ให้สำเร็จ เสียงรายงานของทหารที่เฝ้าอยู่หน้าประตูพลันดังขึ้น
“ทูลท่านอ๋อง นางโลมจากหอซิ่วแดงขอเข้าเฝ้าสองนางพ่ะย่ะค่ะ”
โจวเจ๋อฮั่นขมวดคิ้ว มองสตรีที่กำลังนัวเนียร่างเขาแล้วตอบเสียงเข้มว่า
“ให้เงินพวกนางไปแล้วให้กลับไปได้”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ครานี้เขาถูกนางผลักลงเตียง เขาดูดริมฝีปากของนางกกกอดนางไว้ดันนิ้วเข้าไปภายในของนางให้ลึกยิ่งขึ้น เตรียมร่างกายของนางให้พร้อมเมื่อต้องรับพลังอันใหญ่โตของเขา
บางสิ่งบางอย่างที่ใหญ่ยิ่งกว่านิ้วมือของเขา หญิงสาวดันร่างของตนเองส่ายสะโพกยั่วยวนแล้วเอ่ยว่า
"ท่านเซียนเจ้าขาซือซืออยากได้ที่ใหญ่โตกว่านี้ ท่านพอมีสิ่งใดช่วยซือซือได้บ้างเจ้าคะ"
โจวเจ๋อฮั่นแทบจะสำลักออกมาเมื่อคำพูดที่ร้องขอของนางช่างเปิดเผย สตรีนางนี้คงพร้อมมากแล้วและเขาก็พร้อมมากเช่นกัน
แต่แล้วคล้ายว่ามีมารผจญเมื่อมีเสียงคล้ายผู้คนกำลังต่อสู้อยู่ด้านนอก พลันทหารยามของเขาถูกกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งถีบเข้ามาภายในห้องจนกระอักเลือดอยู่เบื้องหน้า
ด้วยสัญชาตญาณนักรบ ท่านอ๋องใช้ผ้าห่มคลุมร่างตนเองและหญิงงามในอ้อมกอดก่อนจะอุ้มนางขึ้นมาด้วยมือข้างเดียวแล้วใช้อีกมือซัดคนร้ายที่ถือกระบี่พุ่งเข้ามาหมายเอาชีวิตของเขา
เพียงแค่ฝ่ามือเดียวของท่านอ๋องก็ทำให้คนร้ายกระอักเลือดจนล้มลง เขาวางนางลงที่เตียงใช้ผ้าห่มมัดร่างของนางไว้เมื่อเห็นว่าสตรีผู้นั้นดิ้นรนที่จะมาวุ่นวายกับร่างกายของเขา
ฉับพลันเสียงกรีดร้องของนางทำให้เขาต้องหันกลับมามอง
นางเงียบเสียงไปแล้วมีคนผู้หนึ่งใช้ยาทำให้นางสลบอีกทั้งกำลังอุ้มนางขึ้นบ่า