"อ่ะ อ่ะ "
ร่างบางสั่นระริก ในยามที่ฝ่ามือหนาเคลื่อนไปช้า จนหยุดลงไปที่ต้นขาขาวๆของนาง มือหนาลูบไปมาบนเนินเนื้อนุ่มของนางเบาๆ นางสั่นไหวสะท้านร้องครวญครางขึ้นมา
"อ...อย่าเพคะ..."
ร่างบางยกฝ่ามือดันไปที่อกแกร่งแรงๆ แต่ก็มิอาจจะขยับร่างกายดั่งหินผาได้แม้เพียงนิด ริมฝีปากแดงๆแลบลิ้นออกมาไล้เลียลำคอของตวัดไปมาจนนางนั้นสั่นไหวไปทั้งกาย
"อรื้อ อร้า อ่ะ อย่า...อรื้อ “
ร่างหนาหนักขยับร่างขึ้นมาคราหนึ่ง บดริมฝีปากจุมพิตนางแน่นหนัก บดขยี้เรียวลิ้นของนางอย่างรุนแรงอีกครั้ง ตวัดปลายลิ้นรุกรานนางอย่างรุนแรงไปมากกว่าเดิมอีก และล้วงมือลงไปใต้ผ้าผืนบางบนร่างของนางเสีย นิ้วมือหยาบระคายเริ่มกรีดลงไปที่กลีบเนื้อสาวเบาๆ และกดแทรกปลายนิ้วเข้าไปอย่างรุนแรงทีเดียวในคราหนึ่ง
ปึก!!!!
"อรื้อ อรื้อ อรื้อ “
ร่างบางเบิกตาโตตัวสั่นระริก นิ้วแข็งๆดันจนลึกและดึงออกมาช้าๆ และขยับแหย่เข้าออกในกลีบเนื้อของนางเป็นจังหวะถี่กระชั้น
"อรื้อ อรื้อ อรื้อ “
ริมฝีปากร้อนๆถอดถอนจุมพิตออกไปจากปากของนาง นิ้วมือก็ค่อยๆหยุดลงช้าลง แต่ค่อยๆขยับเข้าช้าๆและดึงออกไปช้าๆเฉกเช่นกัน นางร้องครวญครางลั่น แอ่นกายส่ายสะบัดมิหยุด
“อร้า อร้า อร้า “
เสียงหวานๆดังออกมาในทันที่ ที่บุรุษนั้นถอดถอนริมฝีปากออกไป ร่างหนาทรมานนาง จนนางเจียนจะถึงฝั่งฝัน แล้วก็ถอดถอนนิ้วมือออกไปแรงๆ และผุดลุกออกไปในทันใด ร่างบางทรมานยิ่ง นางกอดรัดตนเองตัวสั่นระริกน้ำตารินขึ้นมา
"อือ...ซี้ด อร่า “
นางร้องครวญครางขึ้นมาเบาๆ ยามที่นึกถึงนิ้วแข็งแกร่งของบุรุษเพศ ใบหน้าของนางแดงซ่าน ร่างกายร้อนรุ่นทุรนทุรายสิ้น
จนยามที่ถึงคราอาบน้ำ ผู้อื่นก็มาช่วยผลัดเปลี่ยนผืนผ้าให้นาง ยามที่ข้ารับใช้นั้นถูกตัว นางก็ใบหน้าแดงซ่าน ออกปากไล่ออกไปเสียจนหมดสิ้น ยามที่ผู้อื่นหายไปจนสิ้นสายตาจองนาง นางเผลอกายตนยกฝ่ามือลูบไล้เรือนกาย และครวญครางเสียงแผ่วเบาขึ้นมา
"อา...ฝ่าบาท..."
ร่างหนาแอบจ้องมองนางด้วยสายตาคมกริบ และเร้นกายหายไปโดยพลัน จนถึงยามราตรี ร่างบางหลับลงไปในไม่ช้า ยามนางหลับไปคราหนึ่ง
ร่างบางร่างหนึ่งถูกจับล้มลงมาบนร่างของนาง และร่างของสตรีผู้นั้นก็เขย่าสั่นไหว เสียงร้องครวญคราง ที่นางเคยคุ้นดังขึ้นมาที่ข้างๆหูของนางอย่างชัดแจ้ง ใบหน้าขององค์หญิงแดงวาบ นางตัวสั่นระริกขึ้นมา
"เจ้าจักรพรรดิวิปริต!!!! "
สตรีถูกกระแทกกระทั้นอย่างรุนแรงไปตลอดคืน จนร่างของนางสั่นไหวตามไปด้วย องค์หญิงหลับตาแน่นและลืมตาขึ้น ในยามที่นางมิอาจจะหลับลงไปแล้ว มือหนาจิกผมของหญิงสาวในความมืด ขยำเนินอกของนางบดขยี้ จนหญิงสาวกรีดร้องลั่นขึ้นมา
"อร้า อร้า อร้า องค์จักรพรรดิ"
ร่างหนาโหมกายขยับรุนแรงไปตลอดคืน จนถึงยามที่ท้องฟ้านั้นใกล้สว่างแล้ว มือหนาก็เหวี่ยงร่างอวบอัดที่อยู่บนร่างของนางออกไป แล้วตวาดลั่นขึ้นมา
"ออกไปซะ!!!! "
"เพคะ เพคะ "
ร่างหนาลุกไปชำระกายในห้องของนาง องค์หญิงถอนหายใจออกมาแรงๆใบหน้าแดงซ่าน นางหลับตาลงไปในทันใด ด้วยความเหนื่อยล้า จนถึงยามสาย นางตื่นขึ้นมาก็พบว่าหน้าแข้งหนาหนัก ก็ทับลงมาบนท้องนางอีกเช่นเคย
"อา....หนัก...ข้าหิว...ข้าจะทำเช่นใด จึงจะยกร่างกายนี้ออกไปได้กัน หนักอะไรเช่นนี้นะ ฮึบบ !!!! "
มือบางใช้สองมือเพียรยกหน้าแข้งหนาหนักออกไป ก็มิอาจทำได้ จนนางหายใจเหนื่อยล้า ร่างหนาก็พลิกกายลุกขึ้นมาโดยพลัน
"เร่งแต่งกายซะ มินาน เราจะต้องเดินทางอีก "
ร่างบางถอนหายใจออกมาและเร่งไปอาบน้ำชำระกายเสีย ชุดแสนงดงามถูกสวมใส่ลงมาให้นางอีกคราหนึ่ง นางมีเสื้อคลุม คลุมกายลงมาอีกชั้นหนึ่ง และข้ารับใช้ ก็เดินมากระซิบเบาๆ
"สำรับอาหารอยู่บนรถม้าแล้วเพคะ ยามนี้ต้องเดินทางแล้วเพคะ "
ร่างบางยิ้มจางๆ เพราะนางนั้นหิวเหลือเกินในยามนี้ และเหนื่อยล้ามากเหลือเกิน นางต้องการกินและนอนเสียงีบหนึ่ง นางจึงเร่งเดินไปที่รถม้า ที่มีผู้พยุงนางขึ้น นางขึ้นไปนั่งก่อนผู้อื่น และองค์จักรพรรดิก็เสด็จมาถึง ในพระหัตถ์มีแผนที่ทหารหนึ่งผืน ยามร่างหนาขึ้นประทับบนรถม้า ก็สั่งผู้คนให้เคลื่อนขบวนไป
ร่างหนาหยิบตะเกียบคีบเนื้อชิ้นหนึ่งให้นาง นางอายน้อยๆแต่อ้าปากออกไปโดยดี ยามที่ปากของนางนั้นอ้าออก ดวงตาคมดุก็จ้องมองไปที่ริมฝีปากของนางเขม็ง ร่างบางเร่งเคี้ยวช้าๆและกลืนลงคอไปอย่างอายๆ
"บ้าที่สุด เจ้าจักรพรรดิลามก เจ้าจ้องข้า ข้าจะกินลงได้อย่างไร!!!! "
มือหนาคีบอาหารป้อนนางลงไปอีก นางก็กลืนลงไปอีก และมือหนาก็คีบอีกจนนางอิ่มและรับลงไปมิไหวแล้วนั่นเอง
"หม่อมฉันอิ่มแล้วเพคะ "
"อืม....เช่นนั้นจงป้อนข้าเสีย ข้ารอคอยเจ้านานแล้ว!!! "
ร่างบางตาโตขึ้นมา นางหน้าแดงและเร่งป้อนองค์จักรพรรดิลงไปช้าๆ ริมฝีปากแดงระเรื่อ อ้าออกรับอาหารลงไปจนหมดสิ้น มิคาดว่าแม้ผักนั้นก็มิเหลือ องค์หญิงซื่อหยูดวงตาโตขึ้นมา
"กินจุเช่นนี้ หากผู้ใดวางยาท่าน ท่านย่อมต้องตายเป็นแน่แล้ว เจ้าคนลามก ฮึ !!! "
รถม้าวิ่งไปเรื่อยๆไปจนถึงจุดพัก ร่างบางลงไปยืดเส้นยืดสายเบาๆ นางเดินทอดน่องไปมาข้างลำน้ำที่แดงฉานเต็มไปด้วยต้นเฟิง ยามที่เดินไปได้เพียงนิด กลิ่นคาวพลันลอยขึ้นมาในอากาศ นางอุดจมูกสิ้นและเร่งวิ่งกลับไป ยามกลับไปก็พบว่าร่างหนานั้นทะยานอยู่บนอากาศ ร่ายรำดาบอย่างงดงาม อยู่ในวงล้อมของเหล่าองครักษ์หลวง
ร่างบางยืนมองรอบกายอย่างหวั่นๆ นางหลบเร้นกายไปข้างรถม้า และค่อยๆแหวกผ้าเข้าไปด้านในรถม้าคันหนึ่ง รายรอบเกิดเสียงปะทะกันไปมา
"ฟรี้ ฟรี้ ฟรี้ "
เสียงลมหายใจบางเบาสม่ำเสมอดังขึ้นมา องค์หญิงหลับไปอย่างช้าๆ นางง่วงจนมิอาจจะทานทนอีก จนผู้อื่นตะโกนหานางเสียงดังลั่น นางจึงโผล่ใบหน้างัวเงียออกไป ตอบเสียงปนเสียงง่วงงุนออกไปเสีย
"อืมมม ข้าอยู่นี่..."
ร่างบางเดินงัวเงียไปมาและค่อยๆมองหารถม้าของตนเอง นางขึ้นไปและหลับลงไปอย่างหน้าตาเฉย
"ฟรี้ ฟรี้ ฟรี้ "
ร่างหนาส่งสายตาดุดัน มองตามนางและขึ้นรถม้าไปโดยพลัน
"เคลื่อนขบวนเสีย เดี๋ยวนี้ !!! "
ร่างหนามองนางไปในคราหนึ่ง และดึงนางลงมาพิงที่แผ่นอก กอดรัดร่างของนางไปตลอดทาง จนรถม้าหยุดลงมีเสียงขันทีดังขึ้นมา
"องค์จักรพรรดิ ถึงวังหลวงแล้วพะยะค่ะ"
ร่างแกร่งยกร่างนางขึ้นในอก อุ้มนางออกไปจากรถม้า และพานางเข้าไปในตำหนักตนในทันที ผู้อื่นสอดสายตา มองตามนางไปอย่างสนใจ สตรีทั้งวังหลวง กรีดร้อง โวยวายลั่นขึ้นมา
"นางคือผู้ใดกัน นางคือผู้ใดกัน พระองค์มิเคยให้สตรีใดอยู่ในตำหนัก !!! "
"อา มิเคยมีสตรีใด อยู่ได้จนถึงรุ่งเช้าแล้วรอดตายมาก่อนเลย ยามถึงที่ทิวามาเยือน นางจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ !! "
“ฟรี้ ฟรี้ ฟรี้ “
เสียงลมหายใจสม่ำเสมอดังขึ้นมา ร่างหนายิ้มเยาะนางเบาๆ และกระตุกสายคาดเอวของนาง ออกไปจนสิ้น
" อรื้อ อรื้อ อรื้อ “
ร่างบางงัวเงีย ยกมือกอดรัดและตวัดปลายลิ้นตอบกลับมาช้าๆ ยามที่นางนั้นยังตื่นมิเต็มตา