“มีอะไรหรือเปล่า” น้ำเสียงตื่นเต้นทำให้เมธาวีพลอยอยากรู้ไปด้วย
“นี่ก็ช่วงคริสต์มาสพอดี”
“แล้ว...?”
“แกจำเรื่องของฉันได้หรือเปล่า” แพรพลอยเริ่มเท้าความหลัง
เพียงเพื่อนรักเกริ่นมาแค่นี้เมธาวีก็นึกได้ทันที เรื่องของแพรพลอยที่เกี่ยวข้องกับวันคริสต์มาสคงไม่พ้นเรื่องความรัก เพื่อนเธอเคยขอพรกับต้นคริสต์มาสให้เจอรักแท้ และเหมือนกับโชคชะตากำหนดให้เธอได้เจอกับปรมัต ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่ได้แต่งงานเป็นสามีภรรยากันแล้ว และรักใคร่กันมากเสียด้วย เพื่อนเธอเชื่ออย่างเป็นจริงเป็นจังว่าเป็นเพราะคำขอในวันนั้น แม้ว่ากว่าที่จะได้ลงเอยกันทั้งคู่จะผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมาย แต่สุดท้ายคู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกัน
“จำได้สิยะ ฉันจำแกเต้นรูดเสาหน้าคอนโดได้แม่นเชียวละ” ทำไมเธอจะจำไม่ได้ล่ะ เรื่องนี้ทำให้เพื่อนเธอขายออกเชียวนะ
“ย่ะ ถ้าจำได้แกก็ลองดูบ้างสิ” น้ำเสียงจริงจังของเพื่อนทำให้เมธาวีอดขำไม่ได้ แต่ก็ตอบออกไป “รู้แล้วน่า”
“แกไม่ต้องมาขำฉันเลยนะยายเมย์ ฉันแค่อยากให้แกขายออกเท่านั้นแหละ ขี้เหงาอย่างแกควรมีผัวเป็นตัวเป็นตนได้แล้ว” แพรพลอยพูดอย่างรู้ทัน แต่อย่างหนึ่งก็เพราะความเป็นห่วงเพื่อนนั่นแหละ
“ได้ เดี๋ยวฉันจะรีบไปขอผัวเดี๋ยวนี้เลย นี่อยู่ตรงต้นคริสต์มาสพอดี” ไม่ต้องอ้อมค้อม ทั้งสองสนิทกันจนใช้ภาษาพูดแบบนี้กันจนชิน
“ดีมากยายเมย์ ปีนี้เพื่อนฉันต้องได้ผัว!” เมธาวีหัวเราะให้กับความมุ่งมั่นจริงจังของเพื่อนรัก ทั้งคู่คุยกันต่ออีกนิดหน่อยแล้วจึงค่อยวางสาย
ที่ใต้ต้นคริสมาสต์ขนาดใหญ่ เธอหยุดยืนพิจารณามันสักครู่แล้วยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปทั้งต้นคริสต์มาสและบริเวณโดยรอบโดยไม่ลืมที่จะเซลฟี่และอัปลงโซเชียลเป็นที่ระลึกไว้ด้วย อุตส่าห์มาอยู่ตั้งเมืองนอกก็ขออวดอะไรที่โก้เก๋ดูบ้าง เพียงไม่ถึงนาทีก็มีคนมากดไลก์ให้หัวใจกันมากมาย
เมธาวีเก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋าแล้วหันกลับมาสนใจกับบรรยากาศรอบตัวอีกครั้ง ที่ต้นคริสต์มาสนี้นอกจากคนที่มาถ่ายรูปแล้ว บางคนกำลังยืนใช้สองมือประกบกันที่หน้าอกแล้วหลับตาเหมือนกำลังขอพรอะไรสักอย่าง พลันทำให้เมธาวีนึกถึงคำแนะนำของเพื่อนสนิท รอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานในขณะที่เธอเกิดนึกสนุกบางอย่างขึ้นมา
สองมือเล็กภายใต้ถุงมือหนังสีดำสอดประสานกันอยู่ระดับอก เธอแหงนหน้ามองต้นคริสต์มาสยักษ์ตรงหน้าก่อนที่จะหลับตาลงอธิษฐานขอพรบางอย่างในใจ
‘ถ้าหากเวทมนตร์แห่งวันคริสต์มาสมีจริงขอให้ปีนี้ฉันได้เจอรักแท้ ช่วยส่งผัวแบบแซ่บ ๆ สักคนมาให้ฉันด้วยเถิด’
พอขอพรเสร็จก็ลืมตาขึ้นแล้วเดินจากที่ตรงนั้นไป นึกถึงคำขอของตนเองแล้วอดที่จะหลุดหัวเราะและส่ายหัวให้กับความไร้สาระของตนเองไม่ได้