bc

แค้นรักวังจันทรา

book_age16+
108
FOLLOW
1K
READ
billionaire
reincarnation/transmigration
HE
fated
drama
bxg
brilliant
rebirth/reborn
like
intro-logo
Blurb

เมื่อความรักหยั่งลึกจากภพชาติอดีต ก่อกำเนิดแรงอาฆาตแค้นอันน่าสะพรึงกลัว

รักที่ไม่สมหวัง รักที่เทิดทูนไว้จนเหนือเกล้า กลับถูกปฏิเสธเพียงเพราะชายที่ตนรัก

มอบความรักนั้นให้กับหญิงอื่น รักสามเส้าแต่เกี่ยวข้องกับชีวิตถึงสี่คน

ทั้งดวงจิตและดวงวิญญาณ จึงเฝ้าผูกพันจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต

ไม่ว่าภพชาติไหนจะต้องติดตามและไขว่คว้าให้เป็นของตนให้ได้

“ท่านชายบดินทร์ธรเป็นของกู! วังจันทรานี้คือเรือนหอของกู!

ต่อให้ต้องตายเป็นผี! อย่าหวังว่าจะเอาไปจากกูได้!

พวกมันจะต้องชดใช้ให้แก่กูทุกภพ! ทุกชาติไป!

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1 บทนำ
เมื่อความรักจากภพชาติอดีต ก่อกำเนิดความอาฆาตแค้นอันน่าสะพรึงกลัว รักที่ไม่สมหวัง รักที่เทิดทูนไว้จนเหนือเกล้า กลับถูกปฏิเสธเพียงเพราะชายที่ตนรักมอบความรักนั้นให้กับหญิงอื่น ทั้งดวงจิตและดวงวิญญาณจึงเฝ้าผูกพันจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต ไม่ว่าภพชาติไหนจะต้องติดตามและไขว่คว้าให้เป็นของตนให้ได้ เพราะชายคนนั้นเปรียบเสมือน “ของรักของข้า!” ปีพุทธศักราช 2396 ณ.วังจันทรา ปีพุทธศักราช 2396 ขึ้น 10 ค่ำ เดือนอ้าย ปีฉลู  เบญจศก จ.ศ. 1215, รัตนโกสินทร์ศก 72 สุริยคติ เป็นปกติสุรทิน , จันทรคติ เป็นอธิกมาส ปกติวาร เรือนไทยหลังงามขนาดมหึมา ถูกสร้างอยู่บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของล้านนา นั่นก็คือเมืองเชียงใหม่ อาณาบริเวณกว้างขวางสุดลูกหูลูกตาแบ่งเป็นเขตพื้นที่ของเรือนไทยจำนวน 22 ไร่ เจ้าของพื้นที่และเรือนไทยหลังงามดังกล่าว คือหม่อมเจ้าบดินทร์ธร อิศรา ราชนิกุลผู้สูงศักดิ์ ดำริให้สร้างขึ้นเพื่อใช้สำหรับเป็นเรือนหอของพระองค์กับพระคู่หมั้นนั่นก็คือ หม่อมเจ้าหญิงมณีภัสสร สุริยารังษี หรือที่เรียกขานในนามท่านหญิงมณี เรือนไทยหลังงามได้รับการออกแบบและควบคุมการก่อสร้างโดยหม่อมเจ้ารณยุทธ อิศรา พระอนุชาฝาแฝดของท่านชายบดินทร์ธร ผู้เป็นพระเชษฐา ภายหลังจากการสร้างวังนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ได้พระราชทานนามว่าวังจันทรา สวยงามและยิ่งใหญ่ สมเป็นเรือนหอของราชนิกุลผู้สูงศักดิ์ชั้นหม่อมเจ้าทั้งสองพระองค์ ที่จะได้ใช้ชีวิตสมรสเคียงคู่อยู่ด้วยกัน ทว่าเรือนหออันสวยงาม ที่สร้างรอไว้กลับมิสามารถต้อนรับเจ้าของวังทั้งสองพระองค์ได้ ด้วยเพราะต่างสิ้นพระชนม์ในเวลาไล่เลี่ยกันจนเป็นที่น่าตกใจและกล่าวขานกันเป็นวงกว้าง นับตั้งแต่ท่านชายรณยุทธ พระอนุชาฝาแฝด สิ้นพระชนม์ลงกลางป่าด้วยไข้มาลาเรีย ขณะที่กำลังนำทัพจากพระนครไปตีเมืองเชียงตุง นำพาความโศกเศร้ามาสู่วังอิศราและเสด็จในกรมผู้เป็นพระราชบิดาและท่านชายบดินทร์ธรผู้เป็นพระเชษฐาอย่างยิ่งยวด และระยะเวลาไม่ถึงสามเดือน ท่านหญิงมณีภัสสร สุริยารังษี พระคู่หมั้นของท่านชายบดินทร์ธร ก็สิ้นพระชนม์ลงด้วยอุบัติเหตุเรือพระที่นั่งล้มกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ท่านหญิงตกน้ำและสิ้นพระชนม์ลงเพราะทรงว่ายน้ำไม่เป็น กว่าจะงมพระศพพบที่จมดิ่งอยู่ใต้สายน้ำเจ้าพระยา ก็ผ่านไปแล้วหนึ่งวันเต็มๆ ทำให้ท่านชายบดินทร์ธร โศกเศร้าเสียพระทัยเป็นยิ่งนักต่อการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของพระคู่หมั้น เพียงแค่หนึ่งเดือนของการสิ้นพระชนม์ท่านหญิงมณี ท่านชายบดินทร์ธรก็สิ้นพระชนม์ลงตามมาติดๆ ด้วยสาเหตุมาจากทรงตรอมพระทัยต่อการจากไปของคนที่พระองค์รักถึงสองครั้งสองคราในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั่วทั้งพระนครต่างโจษขานกันไปทั่ว ถึงเรื่องราวดังกล่าวว่านี่คือเหตุบังเอิญหรือมีอาถรรพ์บางอย่างแอบแฝงอยู่หรือไร ทว่าการสิ้นพระชนม์ของราชนิกุลชั้นสูงจากวังอิศราและวังสุริยารังษี ผู้ที่โศกเศร้าสะเทือนใจที่สุดไม่นับเสด็จในกรมของทั้งสองวัง คือราชนิกุลหญิงจากสายสกุลเทพรัตน์ หม่อมราชวงศ์หญิงอุบลวรรณ เทพรัตน์หรือคุณหญิงบัว ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าผู้ใด และการสิ้นพระชนม์ของทั้งสามพระองค์หนึ่งในนั้น มิอาจทำให้คุณหญิงบัวพำนักอยู่ในพระนครได้อีกต่อไป ต้องรีบเร้นกายหลบหน้าผู้คนจากพระนครบ่ายหน้าขึ้นเหนือมาพำนักอยู่ที่วังจันทรา เพื่อหลบซ่อนบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้เป็นที่ครหาต่อผู้คนจนเอ็ดอึงไปทั่ว และยิ่งไปกว่านั้นวังเทพรัตน์จะได้รับความอับอายกับสิ่งที่กำลังฟ้องออกมาอยู่ทุกวี่วัน ตุบ! จดหมายจากพระนครร่วงหล่นจากมือทันทีที่ได้อ่านข้อความดังกล่าว ร่างบอบบางของสตรีสาว เจ้าของผิวสีน้ำผึ้งงามลออตา นุ่งโจงกระเบนสีม่วงเนื้อผ้าทอจากไหมชั้นดี ห่มผ้าแถบสีชมพู พรั่งพร้อมไปด้วยเครื่องประดับของเจ้านายชั้นสูง สมฐานันดรศักดิ์ชั้นหม่อมราชวงศ์ “ท่านชาย!”เสียงเพรียกหาสั่นเครือถึงคนไกลที่ลาลับ พร้อมหยาดน้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้าขึ้นมาทันที ภายในจดหมายดังกล่าวได้แจ้งข่าวการถวายเพลิงเผาพระศพของท่านชายบดินทร์ธร เจ้าของวังจันทราแห่งนี้เพิ่งสำเร็จลุล่วงและจัดเก็บอัฐิเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “คุณหญิงเจ้าขา บ่าวตั้งสำรับเช้าแล้วเจ้าค่ะ รับข้าวรองท้องสักเพียงคำหน่อยเถิด หาไม่แล้วจะล้มเจ็บเอาได้ ตั้งแต่จากพระนครจนถึงเชียงใหม่ รับประทานน้อยเหลือเกินบ่าวเป็นห่วง”บ่าวรับใช้นามว่านางแย้มนั่งพับเพียบหมอบอยู่กับพื้นพยายามเกลี่ยกล่อมคุณหญิงคนงาม “ข้าไม่กิน!”คำตอบดังกล่าวห้วนสั้นเสียนี่กระไร ร่างเล็กบอบบาง นั่งอยู่บนตั่งเหม่อมองภูเขาสูงตั้งอยู่ไม่ไกลจากวังจันทราเท่าใดนัก ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามพรั่งพร้อมไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ ส่งกลิ่นหอมโรยรื่นออกมาเป็นระยะๆ ทว่ากลับไปไม่ได้ทำให้ราชนิกุลสาวคลายความโศกเศร้าไปได้เลย ตรงกันข้ามกลับยิ่งแย่ไปเสียกว่าเดิม แปะ! หยาดน้ำตาร่วงรินตกลงบนหน้าตัก พร้อมเสียงสะอื้นไห้ดังตามมาติดๆ “คุณหญิงเจ้าขาร้องไห้อีกแล้ว อย่าร้องนะเจ้าค่ะตอนนี้กำลังตั้งครรภ์อยู่ด้วยจะไม่ดีต่อเด็กในครรภ์เอาได้ พยายามรักษาครรภ์เอาไว้ อีกไม่ถึงสี่เดือนก็จะคลอดแล้ว”บ่าวรับใช้คนซื่อพยายามปลอบโยน ควับ! คุณหญิงบัวหันกลับมามองบ่าวคนสนิทด้วยสายตาเต็มไปด้วยความน่าสะพรึงกลัว “เอ็งจะให้ข้าเก็บเด็กในท้องเอาไว้เพื่ออะไรอีแย้ม! ในเมื่อท่านชายทรงสิ้นพระชนม์ไปแล้ว เด็กที่อยู่ในท้องของข้าจะเกิดออกมาได้เยี่ยงไร! จะเกิดออกมาเพื่อประจานข้ากับเทพรัตน์ให้ทั่วทั้งพระนครโจษขานว่าข้าท้องไม่มีพ่ออย่างนั้นหรอกรึ!!!”เสียงตวาดดังกระหึ่มไปทั่วทั้งบริเวณ ในขณะที่นางแย้มได้แต่นั่งตัวลีบด้วยความกลัวลนลาน ที่ดันไปพูดสะกิดเจ้านายหญิงจนมีอาการฉุนเฉียวมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม “บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ ต่อไปจะไม่กล่าวถึงอีกแต่ถึงอย่างไรเสียก็ต้องเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้านะเจ้าค่ะ คุณหญิงเพิ่งจะมาพำนักที่วังนี้ เมื่อถึงวันคลอดขึ้นมาจะไปหาหมอตำแยมาทำคลอดได้เยี่ยงไรกัน มิต้องวุ่นวายไปทั่วทั้งวังหรอกหรือเจ้าค่ะ”นางแย้มถามกลับไป “แล้วผู้ใดบอกเล่าว่าข้าจะคลอดเด็กคนนี้ออกมา”คุณหญิงบัวสวนกลับไปทันควัน “คุณหญิง!”นางแย้มส่งเสียงอุทาน สองมือยกขึ้นทาบอกด้วยความตกใจ “แต่เด็กเกือบหกเดือนแล้วนะเจ้าค่ะ หากทำอะไรลงไปไม่ปลอดภัยแก่ชีวิตของคุณหญิงแม้แต่น้อย” “แล้วจะให้เก็บเอาไว้ประจานข้าหรือไงนางแย้ม! หากแม้นท่านชายยังไม่สิ้นพระชนม์จากไปเสียก่อน มีหรือที่จะทำเช่นนี้ ไม่ต้องกังวลว่าจะท้องไม่มีพ่อถึงแม้ว่าพระบิดาของข้าจะยังไม่ล่วงรู้เรื่องนี้ก็ตาม แต่ท่านชายสัญญาเอาไว้แล้วว่าจะอภิเษกเสกสมรสข้าเป็นชายาเคียงข้างพระองค์ แต่ดูรึ!ทรงทำกับข้าได้! ทำกับข้าได้ลงคอ! ทำไมจะต้องทรงตรอมพระทัยตายตามนางมณีมันไปด้วย! แล้วข้าเล่า! ข้าเป็นอะไร!ไม่ใช่เมียอย่างนั้นหรอกรึ!!!”คุณหญิงบัวระเบิดอารมณ์ที่อัดอั้นเอาไว้ พลางร่ำไห้คร่ำครวญออกมาในคราเดียวกัน “โอ้ย! ตายแน่กูอีแย้ม ปากมึงไม่น่าพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเลยจะทำเยี่ยงไรต่อไปดีวะ”นางแย้มบ่าวรับใช้ได้แต่นั่งรำพึงรำพันไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดีต่อไป ก่อนจะได้ยินเสียงดังแทรกขึ้น “ทูนหัวของบ่าวร้องไห้ทำไมเจ้าค่ะ”เสียงเต็มไปด้วยความตกใจพร้อมร่างอวบอิ่มรีบเดินเข้าไปหาคุณหญิงคนงามที่กำลังร่ำไห้จนใจแทบขาดรอนอยู่ในขณะนี้ “ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะจ๊ะนม”นางแย้มรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน “เอ็งกล่าวสิ่งใดให้คุณหญิงขุ่นเคืองอย่างนั้นรึอีแย้ม มีหรือที่คุณหญิงจะร่ำไห้เช่นนี้ออกมา ปากช่างน่าตบนักเชียว พูดอะไรหัดคิดเสียบ้าง”กล่าวพร้อมตรงเข้าไปกอดประโลมผู้เป็นนายของนางทันที “ทูนหัวของบ่าวไม่เป็นไรนะเจ้าค่ะ อย่าโศกเศร้าจนทำร้ายตัวเองเช่นนี้ คุณหญิงจำต้องอยู่ต่อไปให้ได้นะเจ้าค่ะ ถึงเวลาจะได้กลับคืนสู่พระนครไปพำนักวังเทพรัตน์ตามเดิม” สิ้นเสียงปลอบโยนร่างงามที่กำลังร่ำไห้อยู่ในขณะนั้น ใช้มือผลักร่างอวบอิ่มของแม่นมออกไปจนสุดแรง “จะให้กลับคืนพระนครได้เยี่ยงไร กลับไปให้เป็นขี้ปากของผู้คนอย่างนั้นหรอกรึ ท้องข้าโตขึ้นทุกวันมันกำลังฟ้องตัวข้าว่าท้องไม่มีพ่อ! เช่นนี้แล้วจะเก็บมันไว้ทำไมอีก ในเมื่อคนเป็นพ่อก็ตายไปแล้ว! มันก็จะต้องถูกกำจัดไปด้วยเช่นกัน! เก็บเอาไว้ให้มาประจานหรืออย่างไร”คุณหญิงบัวแผดเสียงก้อง และนั่นทำให้แม่นมหรือนมตลับถึงกับเอามือขึ้นทาบอกของตัวเองเอาไว้ด้วยความตกใจกับสิ่งที่กำลังได้ยิน “คุณหญิง! แต่มันอันตรายมากนะเจ้าค่ะ! ไม่ควรอย่างยิ่ง..ไม่ควรทำเช่นนั้นเพราะมันจะทำให้ถึงแก่ชีวิตเอาได้นะเจ้าค่ะ”นมตลับพยายามคัดค้าน “กูไม่กลัว!!!”คุณหญิงบัวแผดเสียงดังก้องเปลี่ยนคำเรียกขานแทนตัวตนด้วยความโกรธอย่างยิ่งยวดขึ้นมาทันใด พลางจ้องเขม็งบ่าวทั้งสองที่นั่งพับเพียบอยู่กับพื้นตรงหน้า “มึงแล้วก็มึง!”พูดพลางยกนิ้วชี้หน้าบ่าวคนสนิททั้งสอง  “ไปบอกอีนวลให้จัดการปรุงยาขับเลือดอย่างแรงที่สุดมาให้กูกินเอาเด็กที่อยู่ในท้องของกูออกไป! เดือนหน้าเสด็จในกรมพระบิดาของท่านชายจะมาเยือนวังจันทรา ท้องกูก็โตเข้าเดือนที่เจ็ดแล้ว อีกทั้งยังมาพำนักอยู่ที่วังนี้ไม่มีกำหนดกลับเสียด้วย เช่นนี้แล้วพวกมึงคิดว่าจะให้กูหลบหน้าเสด็จในกรมตลอดไปได้เยี่ยงไรหากแม้นไม่กำจัดออกไปจากท้องของกูเสียตั้งแต่ตอนนี้!!”คุณหญิงบัวกล่าวลอดไรฟัน นมตลับและนางแย้มถึงกับนั่งอึ้งไปทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น “เสด็จในกรมของวังอิศราจะมาที่นี่เดือนหน้าหรือเจ้าค่ะ!”นมตลับเป็นฝ่ายถามกลับไป “ก็เออสิ!”คุณหญิงบัวส่งเสียงคำรามลั่น และนั่นทำให้นมตลับและนางแย้มหันกลับมามองหน้ากัน ต่างคนมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด “หากแม้นเสด็จในกรมมาเยือนวังจันทราแล้วไซร้พบคุณหญิงตั้งครรภ์อยู่ เห็นทีเอ็งและข้าจะต้องโดนโทษทัณฑ์สถานหนักเป็นแน่แท้นางแย้ม”นมตลับกระซิบบอก “ต้องโทษทัณฑ์ข้อหาอะไรรึนม เหตุใดบ่าวเช่นพวกเราจะต้องถูกลงโทษด้วย”นางแย้มถามกลับไปด้วยความสงสัยระคนแปลกใจ “โธ่! อีโง่..จะข้อหาอะไรเสียอีกละวะ ถ้าไม่ใช้รู้เห็นเป็นใจและสนับสนุนให้คุณหญิงท่านทรงทำผิดจารีตเช่นนี้ ราชนิกุลทุกพระองค์มีกฎระเบียบจากทางราชสำนักวางเอาไว้ทั้งสิ้นและมีบทลงโทษสถานหนักเลยทีเดียว”นมตลับอธิบาย “พวกเอ็งสองคนจะพากันซุบซิบต่อหน้ากูอีกนานไหม! สิ่งที่สั่งให้จัดหาเตรียมการเอาไว้เหตุใดจึงไม่รีบไสหัวไป จะต้องให้ย้ำอีกสักกี่ครา!”คุณหญิงบัวตวาดกลับเสียงเกรี้ยวกราดยิ่งนัก นมตลับและนางแย้มต่างพากันสะดุ้งโหยงกันอย่างถ้วนหน้า “บ่าวเกรงว่ายาขับเลือดที่คุณหญิงต้องการจะเป็นผลร้ายต่อสุขภาพมิลองหาวิธีอื่นดีกว่านะเจ้าคะ”นมตลับพยายามเกลี่ยนกล่อม ปัง! ฝ่ามือของคุณหญิงบัวตบลงโต๊ะที่สำหรับใช้วางเชียนหมากเสียงดังสนั่น “แล้วมึงคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้ให้กูได้อย่างนั้นเหรอ! หรือจะคิดให้หลีกเร้นซ่อนกายหลบหนีเสด็จในกรมฯ เช่นนี้แล้วมิต้องหลบหนีไปอีกนานสักเพียงใด มึงจะคาดการณ์ถูกหรือไม่ ถึงอย่างไรเสียเมื่อกูได้เข้ามาพำนักอยู่ในวังจันทรานี้แล้วไซร้ ไม่มีวันที่กูจะออกจากวังนี้! วังจันทรานี้เป็นของกู!!!”คุณหญิงบัวแผดเสียงดังก้องประหนึ่งเสียสติ “ตะ..แต่ว่าวังนี้เป็นเรือนหอของท่านชายบดินทร์ธรและท่านหญิงมณีไม่ใช่เหรอนม เหตุใดเล่าคุณหญิงจึงกล่าวว่าวังจันทราเป็นของท่านด้วยเล่า”นางแย้มบ่าวปากไวอดไม่ได้ที่จะถามนมตลับกลับไปด้วยความสงสัยครั้นได้ยินเช่นนั้น ทว่าเสียงกระซิบก็ดังเข้าหูคุณหญิงบัว ใบหน้าคมสวยหันกลับมาจ้องเขม็งบ่าวรับใช้ข้างกาย “อีปากจัญไร!”คุณหญิงบัวตวาดใส่หน้าพร้อมยกเท้าขึ้นถีบตรงปากนางแย้มทันที วะ...ว้ายยย!!! นางแย้มร้องเสียงหลงด้วยถูกถีบปากจนหงายหลังม้วนลงไปกับพื้นกระดานเรือน ติดตามด้วยร่างของคุณหญิงบัวลุกขึ้นจากตั่งอย่างรวดเร็วยกมือชี้หน้านางแย้มด้วยความโกรธอย่างยิ่งยวด “ขืนมึงพูดอีกคำเดียวว่ากูไม่ใช่เจ้าของวังนี้! กูจะสั่งลงหวายตีให้มึงตายอีแย้ม! เหตุใดกูจะไม่ใช่เจ้าของวังจันทรา! เหตุใดกูจึงจะไม่ใช่ในเมื่อกูเป็นเมียของท่านชาย!!!!”คุณหญิงบัวตวาดเกรี้ยวกราด ในขณะที่นางแย้มรีบลุกขึ้นมานั่งพับเพียบยกมือขึ้นไหว้กราบแล้วกราบอีก ก่อนจะรีบคลานเข่าเข้าไปหาพร้อมเอื้อมมือจับข้อเท้าก่อนจะก้มลงกราบแทบเท้าของผู้เป็นนาย “บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ! คุณหญิงท่านยกโทษให้ด้วยเถิด เป็นเพราะบ่าวมันโง่! จึงมิรู้เรื่องอะไรเลย บ่าวสัญญาว่าต่อไปจะไม่มีเล็ดรอดออกจากปากสักเพียงคำก็หามีไม่เจ้าค่ะ” พรืดดด!!! เท้าเรียวเล็กสะบัดออกจากมือหยาบของนางแย้ม “ไสหัวของมึงออกไป! กูไม่อยากเห็นหน้า! ต่อไปหากไม่เรียกขึ้นมารับใช้บนเรือนอย่าเสนอหน้ามาให้กูเห็นเป็นอันขาด..ออกไป!!!” “เจ้าค่ะ..เจ้าค่ะ! บ่าวจะเอาหน้าหนีไปให้ไกลห่างจากคุณหญิงท่านบัดเดี๋ยวนี้”นางแย้มพูดพร้อมก้มลงกราบ ก่อนจะรีบคลานเข่าถอยหลังออกไปจากเรือนนอนอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสายตาของคุณหญิงบัวที่มองตามอย่างขุ่นเคือง ทันทีที่นางแย้มพ้นไปจากเรือนนอน เสียงของคุณหญิงบัวดังแทรกขึ้นมาทันใด “ไปบอกให้อีนวลปรุงยาขับเลือดตามที่สั่ง กูต้องการที่จะกินวันนี้! แล้วให้มันขึ้นมาบนเรือนคอยรับใช้แทนอีแย้ม..อีกอย่างมึงไม่ต้องมาสาระแนออกความคิดเห็นเป็นห่วงเป็นใยกูอีกเพราะพวกมึง! ไม่มีผู้ใดช่วยกูได้ นอกจากตัวกูเองเท่านั้น”คุณหญิงบัวปรามบ่าวที่อยู่ในฐานะแม่นมให้ล่วงรู้ว่าไม่ควรมายุ่งเรื่องของเจ้านาย “เจ้าค่ะ! บ่าวมิกล้าแล้วจะรีบไปสั่งนางนวลปรุงยาขับเลือดตามที่คุณหญิงท่านต้องการให้เร็วที่สุด”นมตลับพูดพร้อมรีบคลานเข่าถอยหลังออกไปจากเรือนนอนดังกล่าวอย่างรวดเร็ว ทันทีที่อยู่เพียงลำพัง คุณหญิงบัวทรุดกายลงนั่งบนตั่งตามเดิม พลางเอื้อมมือหยิบจดหมายที่ส่งมาจากพระนครที่ทำร่วงหล่นลงไปบนตั่งเมื่อครู่ที่ผ่านมา ใจความของจดหมายบางส่วนยิ่งทำให้ หัวใจเจ็บร้าวระทมลึกมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม  ด้วยเพราะเสด็จในกรมฯ มาเพื่อทำตามรับสั่งสุดท้ายของท่านชายบดินทร์ธร นำอัฐิของพระองค์และท่านหญิงมณีพระคู่หมั้นนำมาไว้ที่วังจันทราเพื่อเคียงคู่อยู่ด้วยกันภายในเรือนหอแห่งนี้ตลอดไป แกรบบบบ!!!! จดหมายถูกขยำขยี้อยู่ภายในมือด้วยความเจ็บแค้นอย่างที่สุด “อีมณี! มึงตายไปยังเอาท่านชายของกูไปอีก ลงแรงฆ่ามึงจนกลายเป็นผีเฝ้าก้นแม่น้ำเจ้าพระยาไปเพื่ออะไร! แทนที่ท่านชายจะอภิเษกกูกลับตรอมใจตายตามมึงไปด้วย ทิ้งให้กูกับลูกเผชิญชะตากรรมกับผู้คนทั่วทั้งพระนคร!”เสียงเกรี้ยวกราดเต็มไปด้วยความแค้น แควก! แควก! แควก! จดหมายในกำมือถูกฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยพร้อมเสียงก่นด่าดังเอ็ดอึง “กูเกลียดมึงอีมณี! กูเกลียดมึง! ถึงมึงตายเป็นผีเถ้ากระดูกของมึงอย่าหวังว่าจะได้เข้ามาอยู่ในวังจันทรา ตราบใดที่กูยังอยู่ที่นี่ไม่มีวันที่กูจะยอมให้อีมณีได้เข้ามาแม้ว่ามันจะเหลือเพียงเถ้าธุลี!!!”คุณหญิงบัวก่นด่าสหายรักที่ลงมือฆ่าด้วยตัวเองอย่างเลือดเย็น ดวงตาเต็มไปด้วยไฟแค้นมิเลือนหายไปจากสายตา ยามหนึ่ง ถ้วยเคลือบสีขาวส่งกลิ่นยาพวยพุ่งออกมาพร้อมไอร้อนเป็นควันขาวจางๆ อยู่บนถาดทองเหลือง โดยมีนางนวลบ่าวรับใช้ที่ติดตามมาจากวังเทพรัตน์ ซึ่งคุณหญิงบัวนำติดสอยห้อยตามมาด้วย นางนวลเชี่ยวชาญในการปรุงยาสมุนไพรเพราะได้รับความรู้จากคนเป็นพ่อซึ่งเป็นหมอยาในหมู่บ้าน จนมีชื่อเสียงโจษขานกันไปทั่ว ก่อนจะถูกขายเพราะคนเป็นพ่อตีไก่จนหมดตัว ต้องขายนางนวลไปใช้หนี้พนัน นางนวลจึงต้องกลายมาเป็นทาสอยู่ในวังเทพรัตน์ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โชคดีที่มีความรู้ทางหมอยาจึงอยู่ในระดับพิเศษเหนือกว่าทาสคนอี่นๆ แต่ถึงอย่างไรก็ดีก็ยังเป็นทาสอยู่ร่ำไป “ยาที่คุณหญิงท่านต้องการบ่าวปรุงมาให้แล้วเจ้าค่ะ”นางนวลกล่าวพร้อมวางถ้วยยาลงบนโต๊ะ ดวงตาสีดำสนิทเหลือบมองถ้วยยาดังกล่าวเพียงครู่พร้อมเอ่ยขึ้น “กินยาถ้วยนี้เข้าไปแล้วใช้เวลาเท่าไรเด็กที่อยู่ในท้องจึงจะถูกขับออกมา”คุณหญิงบัวถามกลับไป “ตอนนี้อายุครรภ์เข้าเดือนที่ 6 แล้ว คุณหญิงท่านต้องดื่มยาติดต่อกัน 3 ถ้วยเจ้าค่ะ วันนี้เริ่มถ้วยแรก พรุ่งนี้รุ่งสางก่อนพระอาทิตย์ขึ้นดื่มถ้วยที่สอง และถ้วยที่สามหลังจากพระอาทิตย์ตก ครบสามถ้วยแล้วไม่เกินย่ำรุ่งของวันถัดไปยาก็จะขับเด็กในท้องออกมาเจ้าค่ะ”นางนวลอธิบายกลับไปอย่างละเอียด “ดี! ให้มันออกไปให้พ้นจากท้องของข้าได้เร็วเท่าไรยิ่งดี เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บเอาไว้อีกต่อไป”คุณหญิงบัวกล่าวพร้อมหันกลับไปคว้าถ้วยยาขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดเพียงชั่วอึดใจเท่านั้น ตุบ! ถ้วยยาถูกวางลงบนโต๊ะดั่งเดิมพลางดึงผ้าเช็ดน้ำหมากขึ้นซับมุมปากที่ไหลเอ่อออกมา ก่อนจะหันกลับไปมองหน้าหมอยาตรงหน้า “เอ็งต้องกำจัดเด็กในท้องของข้าออกไปให้ได้โดยเร็ววันเข้าใจหรือไม่นางนวล หลังจากนั้นปรุงยาทำให้ข้าฟื้นตัวจากการทำแท้งในครั้งนี้ให้เร็วที่สุด ก่อนที่เสด็จในกรมฯ จะมาถึงที่นี่เข้าใจหรือไม่”คุณหญิงบัวกล่าวกำชับ “บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”นางนวลก้มหน้ารับคำเสียงเบา ภายในใจนั้นกำลังกังวลกับผลที่จะตามมา ด้วยเพราะอายุครรภ์ที่มากถึง 6 เดือน การทำแท้งในช่วงนี้อันตรายยิ่งนัก ไม่เพียงแต่ชีวิตของเด็กที่จะต้องตายตั้งแต่อยู่ในท้องเพราะฤทธิ์ยาแต่ชีวิตของคนเป็นแม่อาจจะไม่รอดเช่นเดียวกัน หากแม้นดวงแข็งคนเป็นแม่ก็สามารถรอดชีวิตแต่ในขณะเดียวกัน ยังไม่เคยมีใครรอดจากการทำแท้งในขณะที่มีอายุครรภ์เฉกเช่นนี้เลยสักเพียงคน! หามีผู้ใดล่วงรู้ชะตาของราชนิกุลจากวังเทพรัตน์ผู้นี้นับต่อไปเบื้องหน้าว่าจะคงอยู่หรือดับดิ้นชีวาวายลง ณ.วังจันทราแห่งนี้!!!”  

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
14.2K
bc

Passionate Love รักสุดใจนายขี้อ่อย 20+

read
31.8K
bc

ขังรัก

read
17.7K
bc

เมียลับอุ้มรัก

read
77.8K
bc

หัวใจซ่อนรัก(เฮียเดย์)

read
29.4K
bc

รอยแค้นแห่งรัก

read
52.4K
bc

My Sister น้องสาว... ที่รัก

read
6.6K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook