บทที่2.ปะทะ!....

1553 Words
เสียงสั่นๆ บอก พยายามแนบลำตัวชิดกับประตูรถยนต์ด้านข้างมากขึ้น เคลวินตวัดปลายขาขึ้นไขว่ห้าง เขาควานหาเครื่องดื่มจากตู้เย็นเล็กๆ และรินใส่แก้วโดยไม่คิดจะตอบให้อีกฝ่ายหายข้องใจ ทิชากรมองดูน้ำสีอำพันที่หายไปในลำคอเขา เธอกลัว!! กลัวจนฉี่แทบเล็ด เธอไม่เคยเจอสถานการณ์อะไรที่แฝงไปด้วยภัยคุกคามเช่นนี้มาก่อน รังสีอันตรายแผ่กระจายออกมาจากคนตัวหนา ใครๆ ก็พูดให้ฟังว่าอิทธิพลมืดในโรมมีมากมายเกลื่อนเมือง เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยผู้คน และกลุ่มอิทธิพลที่แฝงตัวมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตอนนี้เธอกำลังเผชิญหน้ากับเขาแบบไม่ได้ตั้งตัว!! “ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะคะ นึกว่าสงสารลูกนกลูกกา!” เสียงสั่นเครือวิงวอนเสียงพร่า หน้างดงามซีดลง ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำใสๆ เธอภาวนาให้เขาสงสาร และปล่อยตัวเธอไปก่อนที่จะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น สองมือของเธอยกขึ้นไหว้ชายหนุ่มปลกๆ เคลวินเลิกปลายคิ้วขึ้นสูง เขาปลดกระดุมเสื้อสูทและถอดสูทตัวนอกออก ก่อนจะวางไว้ข้างๆ ตัว ถลกปลายแขนเสื้อขึ้นจนถึงข้อศอก ก่อนจะยกมือขึ้นกอดอก หรี่ตามองคนตัวเล็กเบื้องหน้าที่พยายามเบียดตัวกับขอบประตูมากขึ้นกว่าเก่า “เหรอ เธอไม่เต็มใจ อีตอนอุ้มมาไม่เห็นจะขัดขืนนี่ ฉันมีพยานตั้งหลายคน ว่าเธอ...สมยอม!!” น้ำเสียงยียวนตอบ เขาแสยะยิ้มสำทับอีกด้วย ทิชากรฉุนกึก เธอเป็นลมหมดสติจะให้ดิ้นขัดขืนเขาได้อย่างไรล่ะ อีตานี่ถ้าจะมีปัญหากับระบบสมองถึงได้คิดอะไรแผลงๆ เธอตวัดตามองเขา ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาลวกๆ อารมณ์คุกรุ่นขึ้นมาติดหมัดจนเห็นช้างตัวเท่ามดและหมดความเกรงกลัวเขาไปโดยปริยาย เพราะต่อให้อ้อนวอนแทบตายคนคนนี้ก็คงไม่มีทางเห็นใจเธอหรอก เมื่อเขากำลังกุมชัยชนะอยู่ในมือ “ฉันเป็นลม!! มีคนเป็นลมคนไหนที่ดิ้นได้บ้างล่ะคะ” เธอกระแทกเสียงตอบกลับ กับการแก้ต่างของเขาที่ฟังแล้วช่างเหมือนการเอาสีข้างเข้าถูกับผนังห้อง “อ้าวใครจะไปรู้!! นึกว่ายอมมาเองนี่ เห็นเงียบๆ มันช่วยไม่ได้นะ เข้าใจผิดไปแล้ว จะทำยังไงดีล่ะ” ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาบิดมุมปากโค้งลงเหมือนจะยิ้มเยาะเธอ ทิชากรกำมือแน่นจนปลายเล็บจิกลงไปในอุ้งมือและรีบถลึงตาใส่เขาด้วยความโกรธจัด “คุณๆ!!” เธอชี้หน้าเขา อยากจะถลาเข้าไปตะกุยหน้าหล่อนั่นแต่...เข็ดล่ะ ครั้งก่อนเธอโดนปล้นจูบหน้าตาเฉย เพราะฉะนั้นจะไม่ให้ซ้ำรอยเดิมเป็นอันขาด เพราะขณะนี้สถานการณ์อันตรายมากกว่าเก่า เมื่ออยู่ใต้อาจักรของเขา อยู่ในรถยนต์ส่วนตัวที่กำลังมุ่งหน้าไปไหนก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ!! รถยนต์จอดสนิทหลังวิ่งเข้าไปจอดที่หน้าวิลล่าหลังใหญ่ ตัวตึกฉาบสีเหลืองอ่อน มองดูอ่อนหวานและสงบเงียบ หลุยส์เปิดประตูด้านข้างให้ เขาเชื้อเชิญให้เธอลงมาจากรถ ทิชากรมุดออกมาเธอยืนข้างนอก เธอมองทิวทัศน์รอบๆ ตัวด้วยความสนใจ แม้จะอยู่ท่ามกลางความสลัวตอนกลางคืน และหากไม่ได้ถูกบังคับมา เธอคงตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะวิวสวยๆ แม่น้ำกว้างๆ ที่อยู่หน้าบ้านกับสายลมเย็นๆ ที่โชยมาปะทะหน้าพาให้สดชื่น แต่...ชายหนุ่มที่ยืนหน้าตาย อยู่ใกล้ๆ นี่ต่างหากที่ทำให้บรรยากาศสวยๆ หมดความหมาย เธอขุ่นใจจนไม่อยากจะซึมซับบรรยากาศเหล่านั้น เพราะกำลังอารมณ์ไม่ดีที่ถูกพาตัวมาแบบไม่เต็มใจ “เธอน่าจะเคยได้ยินชื่อเสียงของแม่น้ำไทเบอร์มาบ้างนะ หากเธอมาเหยียบโรมหลายวันแล้วน่ะ ดูท่าทางเธอไม่น่าจะใช่คนแถวนี้ ใช่ไหม” ทิชากรตวัดสายตาใส่ก่อนจะตอบ “ค่ะ เคยได้ยินแต่ไม่คิดว่าจะได้มาเห็น เพราะมันไม่ได้อยู่ในโปรแกรมทัวร์ ฉันเป็นคนไทย ไทยแลนด์ค่ะ เคยได้ยินไหมคะ บ้านเราเป็นเมืองพุทธและปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย” เธอเค้นเสียงตอบ แยกเขี้ยวโชว์ฟันซี่เล็กๆ ให้เขาดูด้วย “อืม...ประเทศเล็กๆ โซนเอเชีย ฉันเคยไป ผู้หญิงสวยและของกินอร่อย” “มิสเตอร์คงไม่ได้บังคับฉันมาเพื่อจะมาคุยเรื่องอาหารการกินหรอกใช่ไหมคะ เอาล่ะค่ะ คุณต้องการอะไรกันแน่” ความอดทนของเธอขาดผึ่ง จึงโพล่งคำถามชายหนุ่มออกไป เพราะมัวแต่ลีลาก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น อุณหภูมิรอบตัวลดลงอย่างรวดเร็วจนเธอสั่น ร่างกายสะท้าน ฟันกระทบกันกึกกัก “ก็ใช่... ฉันไม่ได้อยากจะคุยกับเธอเรื่องประเทศเล็กๆ นั่นหรอกน่า หรืออาหารอะไรทั้งสิ้นฉันก็ไม่ได้อยากรู้สักหน่อย ฉันอยากเห็นเธอบนเตียงนอนของฉันและดิ้นพล่านอยู่ใต้ร่างฉัน นั่นคือวัตถุประสงค์ของฉันไง... เธอจะว่าไงล่ะ” “ฉันไม่อยากเชื่อเลยนะคะ ว่ามิสเตอร์เคลวินผู้ยิ่งใหญ่ จะสิ้นทางใช้วิธีบีบบังคับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งให้สมยอม ทั้งที่เขาไม่เต็มใจ” “เธอจะไม่พูดแบบนั้น ถ้าเธอรู้ว่าจะได้เงินเท่าไหร่สำหรับการแลกเปลี่ยนครั้งนี้” “ต่อให้เอาเงินมากองท่วมศีรษะฉันตอนนี้ ฉันก็ไม่สนใจหรอกค่ะ ฉันไม่ได้สิ้นคิดถึงขนาดต้องขายร่างกายแลกกับเศษเงินของคุณ!!” ทิชากรกระแทกเสียงใส่ เธอสะบัดหน้าหนี ไม่อยากมองชายหนุ่มให้อารมณ์ขึ้น และที่แน่ๆ เธอกลัวสายตาของเขา มันลุกวาบโชนแสงขึ้น เพียงแค่ได้ยินเธอปฏิเสธ “เธอไม่อยากพูดแบบนั้นหรอกใช่ไหม? เพราะอะไรรู้ไหม... ที่นี่คือ ‘โรม’ ไม่ใช่ประเทศเล็กๆ ที่เธอเคยอาศัยอยู่ เพราะฉะนั้นฉันยิ่งใหญ่พอที่จะทำให้เธอสูญหายไปตลอดชีวิตหากเธอคิดลองดี” “ฉันไม่กลัวคุณหรอกค่ะ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป ต่อให้คุณใหญ่โตแค่ไหนคุณก็หนีเงื้อมือกฎหมายไม่พ้น” เธอสะบัดหน้ากลับมาและก่นว่าเขาเสียงเคร่ง “โอ!! ฉันอยู่เหนือกฎหมายที่เธอพูดถึงนะสาวน้อย ใครจะกล้ากับฉันล่ะ เพราะฉันคือ เคลวิน โดมนะ” ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาโบกมือไล่ลูกกระจอกที่อารักขาอยู่รอบๆ ตัวให้ถอยออกไปห่างๆ ก่อนจะเดินเข้าหาทิชากรด้วยท่าทางคุกคาม จนหญิงสาวถอยหลังหนี สายลมเย็นๆ จากแม่น้ำไทเบอร์โชยมาปะทะหน้าทำให้เธอหนาวสั่นมากขึ้น ทั้งกลัวเกรงผู้ชายตรงหน้าและอากาศที่อุณหภูมิลดลงแบบฮวบฮาบ ทิชากรตัดสินใจในเสี้ยววินาที เธอหมุนตัวกลับและออกวิ่งสุดแรงเกิด!!! ให้ตายเถอะ! เคลวินสบถเสียงฉุนเฉียว ยัยบ้านั่นวิ่งหนีเขา ไม่เห็นเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นที่แทบจะกระโจนเข้าใส่ หล่อนวิ่งหน้าตั้งทั้งๆ ที่ไม่มีทางหนี เพราะเบื้องหน้ามีบอดี้การ์ดของเขากระจายกำลังล้อมไว้ และแม่น้ำไทเบอร์กว้างสุดลูกหูลูกตา ไม่นะ!! เจ้าหล่อนคงไม่ได้คิดที่จะวิ่งหนีลงน้ำใช่ไหม เมื่ออากาศเย็นเฉียบด้านบน ในแม่น้ำจะเย็นมากกว่าอีกนับเท่าตัว!! เคลวินออกวิ่งสุดตัวเพราะเขาเดาได้ว่ายัยผู้หญิงบ้านั่นจะต้อง... ตู้ม!! เสียงน้ำแตกกระจายเป็นวงกว้าง ร่างบอบบางลอยละลิ่วร่วงลงบนแผ่นน้ำ สองมือของเธอพยายามตะเกียกตะกาย พาตัวออกไปให้ห่างชายฝั่งมากขึ้น และไปให้ไกลจากเงื้อมือของจอมมารอย่างเคลวิน “ฉิบหาย!!” เคลวินสบถเสียงก้อง เขาสะบัดรองเท้าหนังสีดำและกระโจนตามทิชากรไปติดๆ ตู้ม!! ผืนน้ำแตกกระจายมากกว่าครั้งแรก เพราะน้ำหนักตัวชายหนุ่มมากกว่าทิชากรนับเท่าตัว แผ่นน้ำสะเทือนระลอกคลื่นซัดใส่ร่างบอบบางที่กำลังว่ายอยู่กลางแม่น้ำ อุณหภูมิเย็นๆ รอบตัวทำให้เรียวขาเธออ่อนแรงชายิบ ขาของเธอแทบจะไม่กระดุกกระดิก มันแข็งชาและใกล้จะหมดความรู้สึกลงไปทุกที ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เธอพยายามพยุงตัวให้ลอยคอเหนือน้ำ เมื่อใกล้จะจมดิ่งลงไปก้นแม่น้ำเต็มที เรียวขาที่เคยเคลื่อนไหวได้ มันหยุดชะงักไม่และเธอก็ค่อยๆ จมดิ่งลงใต้แผ่นน้ำเย็นฉ่ำ ดวงตากลมโตหรี่ปรือ เธอคิดถึงบ้าน!! คิดถึงพ่อแม่ขึ้นมาจับใจ ‘พ่อจ๋าแม่จ๋า!!’ ก่อนที่สติจะดับวูบลง เธอถูกมือแข็งแรงกระชากขึ้นมาจากความตาย พร้อมกับเสียงสบถดังยาวเหยียด “ให้ตายเถอะยัยบ้า!! ไม่มีใครคนไหนกระโดดลงมาในแม่น้ำไทเบอร์ตอนตีหนึ่ง!! อยากฆ่าตัวตายหรือไงหะ” ชายหนุ่มสบถงึมงำ เขารั้งเอวของหญิงสาว พยุงพาเข้าชายฝั่งอย่างทุลักทุเล บอดี้การ์ดนับสิบกระโจนตามลงมาช่วยประคองเจ้านาย พวกเขาดันชายหนุ่มขึ้นมาบนฝั่งสำเร็จ “หันหลัง...ด่วน!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD