บทที่ 3 หนุ่มน้อย

2243 Words
ตอนนี้น้องภีมอายุหนึ่งขวบพอดี หนุ่มน้อยเป็นเด็กอารมณ์ดีมาก หญิงสาวเมื่อหมดเวลาลาคลอดเธอก็กลับมาปฎิบัติหน้าที่ตามเดิม เธอไม่ได้จ้างพี่เลี้ยงเพราะอยากจะให้ลูกสัมผัสรับรู้ความรักจากคนเป็นแม่ให้มากที่สุดเท่าที่จะรับรู้ได้ คุณหมอและพี่ๆพยาบาลในค่ายต่างรักใคร่และเอ็นดูเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นคนที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับทุกคน ใครว่างจากเข้าเวรก็จะวนเวียนมาเล่นเป็นเพื่อนแก้เหงากับหนุ่มน้อย "น่ารักจังเลย มาหาน้ามิ้นหน่อยครับ" "มาหาพี่ตามดีกว่าครับ" "จ๊ะเอ๋ๆ มาหาพี่กวางดีกว่าครับน้องภีม" "เอิ้กๆ" น้องภีมหัวเราะชอบใจเมื่อใครๆต่างก็อยากให้ตนไปหาใกล้ "หลานงงหมดแล้วมั้งคะเนี่ย ไม่รู้จะไปหาใครดี มองซ้ายมองขวาใหญ่เลย" คนเป็นแม่เมื่อลงเวรก็มารับลูกกลับบ้านพัก หญิงสาวตัดสินใจแล้วว่าวันเสาร์อาทิตย์นี้เธอจะกลับไปหาผู้เป็นแม่ของตน คงถึงเวลาแล้ว "พี่ขอตัวน้องภีมก่อนนะคะ ได้เวลากลับบ้านกันแล้วค่ะ" "หว่าา หนุ่มน้อยจะกลับซะแล้วยังเล่นไม่จุใจเลยค่ะ" "เดี๋ยวพรุ่งนี้หลานก็มา แกนี่ ดราม่าไปได้" "พรุ่งนี้ไม่ได้มาหรอกนะคะ" "อ้าวทำไมละคะหมอลิน" คนถามผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด "พอดีพี่จะพาหลานไปหาคุณยายเขาน่ะค่ะ ยังไม่ได้พาไปหาเลย" "อ่อ อย่างนี้นี่เอง เดินทางปลอดภัยนะคะ รีบกลับมาเล่นกันนะครับน้องภีม" "ขอบคุณค่ะ" "ติ้งๆ" "เสียงใครมากดออดกันนะไปเปิดประตูหน่อยสิ" เสียงคุณนายทองหยอดโวยวายแต่เช้าและให้เด็กในบ้านออกไปเปิดประตูรั้ว "ไม่ทราบว่ามาหาใครคะ" "หาคุณนายทองหยอดค่ะ นี่คงจะมาใหม่ใช่ไหม" "ใช่จ้ะ เข้ามาก่อนจ้า" เด็กรับใช้ในบ้านเปิดประตูรั้วให้แขกเข้ามาในบ้าน ที่เปิดให้เลยเพราะคุณนายนั้นมีคนแวะเวียนมาหาอยู่เป็นประจำจนเป็นเรื่องปกติซะแล้ว "นั่งรอในนี้คนนะจ้ะ" "ใครกันมาหาฉัน ตะ แต่..ยัยลินลูก" คุณนายตาโตไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวคนเดียวของตน "คิดถึงแม่จังเลยค่ะ" หญิงสาวโผเข้ากอดมารดา "ไม่กลับมาหาแม่บ้างเลยนะ สงสัยแม่คงจะป่วยเราถึงจะอยู่ดูแล" "แม่อย่าพูดอย่างนั้นสิคะ ลินเป็นห่วงนะคะ" "ว่าแต่นั่นใครละ ลินไปเอาลูกใครมา" แม่ของหญิงสาวถามถึงเด็กชายหน้าตาน่ารักบนรถเข็น "แม่คะ ลูกลินเองค่ะแม่" "อะไรนะ นี่ลูกพูดอะไร อำแม่เล่นใช่ไหม" คุณนายไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ลูกสาวบอก "ไม่ได้อำค่ะนี่ลูกของลินจริงๆ" "ตายๆฉันจะเป็นลม" คุณนายซวนเซ คนรับใช้วิ่งกันวุ่นหายาดมยาหอม "บอกแม่ทีเถอะลูกว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง พ่อของตาหนูละลูก เขาเป็นใคร" "ลิน ลินเลิกกับเขาก่อนที่จะรู้ว่าท้องค่ะ" "แสดงว่าพ่อตาหนูก็ไม่รู้ว่ามีลูกใช่ไหม" "ใช่ค่ะแม่" "ตายๆ นี่มันน่าปวดหัวซะจริง แล้วลูกจะทำยังไงต่อ" "ลินก็จะเลี้ยงลูกของลินให้ดีที่สุดค่ะ" "เรื่องนั้นแม่เชื่อว่าลูกทำได้ แต่ไม่คิดจะบอกพ่อของตาหนูหน่อยหรอลูก" "ไม่ค่ะ ลินตัดสินใจแล้ว" "แม่ขออะไรอย่างได้ไหม" "อะไรคะ" "ถ้าไม่อยากให้แม่เป็นกังวลไปมากกว่านี้ก็กลับมาทำงานที่บ้านเราเถอะลูก อย่างน้อยๆก็ยังอยู่ในสายตา ได้ยินข่าวคราว" "แต่งานที่ค่ายละคะแม่" หญิงสาวไม่กล้าคิดว่าถ้าเธอกลับมางานที่นู้นที่เป็นส่วนของเธอก็ต้องแบ่งให้พี่หมอคนอื่นๆ "ขาดหนูคนหนึ่งแม่เชื่อว่าเขาก็ยังไปต่อได้ลูก เพราะแม่เชื่อว่าหมอดีๆยังมีอีกเยอะ ยังมีคนที่อยากทำเพื่อสังคมอีกมาก เชื่อแม่เถอะนะลูก ลูกควรจะทำเพื่อตัวเองบ้าง" หญิงสาวตัดสินใจได้อยากลำบากมาก นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากกว่าตอนที่ตัดสินใจจะเลี้ยงน้องภีมคนเดียวเสียอีก งานนี้เป็นงานที่เธอรักมากจริงๆ เธอจะทำอย่างไรดีนะเนี่ย "เฮ้อ ก็ได้ค่ะแม่ ลินจะทำตามที่แม่ต้องการ ลินไม่อยากให้แม่เป็นกังวลไปมากกว่านี้" ในเมื่อเธอเป็นคนสร้างความกังวลให้กับผู้เป็นแม่ เธอก็ควรจะจัดการในทางที่ถูกที่ควร "ขอบคุณนะลูกที่ยังเชื่อฟังแม่บ้าง ทั้งที่ตลอดเวลาดื้อรั้นกับแม่มาตลอด" "แม่! โถว่ว่าลูกทำไมคะ" "ฮ่าๆ เอาน่า ว่าแต่กินอะไรมาหรือยัง ให้แม่จัดโต๊ะเลยไหมมีแต่ของโปรดลูกทั้งนั้นเลย" "ดีเลยค่ะ หิวอยู่เหมือนกัน" "แล้วของหลานละ" "เดี๋ยวให้ดื่มนมนอนค่ะ" "อ่ะๆ เอางั้นก็ได้" เมื่อคิดว่าความหนักอึ้งในอกมลายหายไปแล้ว เธอก็ติดต่อกลับไปยังค่ายและขอลาออกด้วยเหตุผลส่วนตัว ทุกคนต่างเสียดายหมอดีๆอย่างเธอที่ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้กับงานเสมอ แต่อีกด้านทุกคนก็เข้าใจและเคารพการตัดสินใจของเธอ หญิงสาวฝากลูกไว้กับแม่ แม้จะไม่อยากห่างแต่ก็ต้องห่าง เพราะเธอต้องกลับไปเก็บข้าวของเตรียมย้ายกลับบ้านเกิดอย่างถาวรเพื่อความสบายใจของผู้เป็นแม่ "แม่คะ กลับมาแล้วค่ะ" "เดี๋ยวหนูยกไปเก็บให้นะคะ" "ขอบคุณจ้ะ" "มะ มา" "โอ้โห้ นี่หนูออกเสียงจะชัดแล้วนะลูก คิดถึงจังเลยหลานงอแงบ้างไหมคะแม่" "ก็มีบ้างตามประสาเด็กแหละ แม่ว่าหน้าตาหลานแม่มันคุ้นๆนะ เหมือนเคยเห็นที่ไหน" "เหมือนหนูไงคะ แม่คงจะจำสับสนแล้ว" "ไม่ๆ แม่พูดจริงๆ เหมือน เหมือน..ตาภัทรเลยนะ" "คะ แคกๆ" หญิงสาวตกใจสุดขีด "อ้าวๆ ใจเย็นๆสิ เดี๋ยวก็สำลักแย่เลย" "ขอบคุณแม่มากค่ะ เราไปหาอะไรทานกันดีกว่านะคะ" "อืมๆ ไปลูกตาภีม" และแล้วหญิงสาวก็เบี่ยงเบนความสนใจของผู้เป็นแม่ไปเรื่องอื่นสำเร็จ รางวัลแพทย์ดีเด่นปีนี้คงหนีไม่พ้นนายแพทย์ณภัทร เดชานากร อย่างเช่นเคย เพราะชายหนุ่มทุ่มเทแรงกายแรงใจและพลังสมองในการคิดค้นคว้าวิจัยเพื่อค้นหาวิธีการรักษาที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา หาแนวทางที่สะดวกรวดเร็วและคนไข้สามารถฟื้นตัวได้เร็ว ทุกคนต่างชื่นชมเป็นเสียงเดียวกันว่าแม้เขาอายุยังน้อยแต่ก็มีความขยันอดทนและมักเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆมาเพิ่มพูนความรู้ให้กับตนเองอยู่เสมอ ตรงกับคติของเขาที่ว่า คนเราจะก้าวหน้าไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานหรอกขอแค่มีความตั้งใจและมุ่งมั่นเท่านั้นก็พอแล้ว "ฮัลโหลว่าไงลูก" "แม่ครับ ภัทรได้รางวัลสองปีซ้อนแล้วครับ" "เก่งจริงๆเลยลูกชายแม่ เมื่อไรจะกลับบ้านเราละลูก แม่คิดถึงนะรู้ไหม" "ผมก็คิดถึงคุณแม่มากๆเลยครับแต่ผมยังสนุกกับงานที่นี่อยู่เลยครับแม่" "ลูกติดต่อหนูลินบ้างหรือป่าวลูก แม่ได้ข่าวว่าหนูลินเขากำลังจะกลับมาอยู่กับคุณนายทองหยอดแล้วนะ" "หรอครับ ใครบอกแม่" เมื่อจะอยากรู้มากแต่ก็ทำเป็นเหมือนไม่สนใจ "ก็คนในตลาดเขาพูดกันน่ะ แม่ว่าจะแวะไปเยี่ยมเสียหน่อย มีอะไรจะฝากถึงไหมละ ไปอยู่ไกลกันขนาดนั้น" "อะ เอ่อ ไม่มีหรอกครับแม่ แม่ไปหาพวกเขาเดี๋ยวก็รู้เองละครับว่าสบายดีหรือเปล่า" "พูเเหมือนเป็นคนอื่นไกลไปได้นะตาภัทร ไม่มีก็ไม่มีงั้นแม่วางสายก่อนนะลูก" "ครับแม่" ปากบอกไม่มีแต่เขาก็ได้แต่อาลัยอาวรณ์ผ่านโทรศัพท์หากฝากข้อความไปถึงได้เขาก็อยากจะถามว่าเธอสบายดีไหม เคยคิดถึงกันบ้างหรือป่าว วันรุ่งขึ้นแม่ของชายหนุ่มเดินทางไปยังบ้านของลินดาเพื่อจะไปเยี่ยมเยียนเพื่อนของลูกชายที่ไม่ได้เจอกันนานแล้ว "สวัสดีค่ะมาหาใครคะ" สาวใช้ทักทายแขกของบ้าน "มาหาหนูลินกับคุณนายทองหยอดจ้ะ" "เชิญเข้ามาก่อนค่ะ" เป็นธรรมเนียมเด็กในบ้านพาแขกไปรอที่ห้องรับแขกก่อน "อ้าว ไปไงมาไงละคะเนี่ย" แม่ของเพื่อนลูกสาวมาหาแต่เช้า "พอดีได้ข่าวว่าหนูลินกลับมาอยู่บ้านแล้วเลยมาเยี่ยมค่ะ นี่ขนมค่ะ น้องทำเองค่ะคุณพี่" "ตายจริง ไม่ต้องลำบากขนอะไรมาหรอกนะ เรามันคนกันเองทั้งนั้น" "ไม่ลำบากเลยค่ะ แล้วนี่หนูลินอยู่ไหมคะ" "อยู่ค่ะ พอดียุ่งๆกับหลาน" "หลานหรอคะ" แม่ของชายหนุ่มตกใจไม่น้อย "ลูกหนูลินน่ะ" "ห่ะ หนูลินมีลูกแล้วหรอคะ ทำไมไม่เคยได้ยินเลยละคะว่าแต่งงานแล้ว" "พี่ก็ตกใจไม่แพ้คุณน้องหรอก แต่เรื่องมันยาวขออนุญาตไม่เล่านะคะ" "อ่อ ค่ะๆ" คงจะลำบากใจไม่น้อยในการบอกเธอ เธอเข้าใจดี "มะ มา หม่ำๆ" "ค่ะ หม่ำๆนะคะ แม่กำลังพาหนูไปหม่ำข้าวบดใส่ฟักทองแล้วก็แครอทของโปรดของหนูดีกว่านะคะ" "หม่ำๆ" หนุ่มน้อยตบมือเปาะแปะ "แม่คะ จัดโต๊ะหรือยะ..อ้าวคุณป้าสวัสดีค่ะ" "สวัสดีจ้ะหนูลิน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะจ๊ะ" "อะ เอ่อ ขอบคุณค่ะ ภีมธุจ้าก่อนสิลูก " "หลานคุณพี่ผู้หญิงหรือผู้ชายคะเนี่ย น่ารักจังเลย" "ผู้ชายจ้ะ กำลังซนเลย หน้าหวานใช่ไหมละ ตอนแรกพี่ก็นึกว่าเด็กผู้หญิง" "อนาคตต้องทั้งหล่อทั้งฉลาดเหมือนคุณแม่แน่ๆเลย" "มาๆแม่อุ้มให้ดีกว่า ลินไปเตรียมข้าวให้ตาหนูเถอะแม่ดูแลเอง" "ค่ะแม่ ขอตัวก่อนนะคะคุณป้า" "ตามสบายเลยลูก ไม่ต้องห่วงนะป้าจะช่วยเลี้ยงอีกแรง" "บู้ๆ" "ไม่เอาไม่เล่นน้ำลายนะครับลูก" "ยา ยาย" "ครับ ว่าไงครับเรียกยายทำไมฮึ" "หม่ำๆ" "คุณน้องดูสิ ตัวจะแตกอยู่แล้วแต่ยังจะหม่ำๆทั้งวัน สงสัยยัยลินตามใจมากเกินไปแล้ว" "เด็กกำลังจะโตก็แบบนี้ละคะ ต้องการสารอาหารเพื่อการเติบโต จริงไหมครับ น่าเอ็นดูจังเลยครับ" เมื่อหญิงสาวทำอาหารเรียบร้อยแล้วผู้เป็นยายทั้งสองก็ไปรวมตัวกันในห้องอาหาร เฝ้ามองหนุ่มน้อยรับประทานจนหมดถ้วย และยังคอยเชียร์เป็นกำลังใจให้หนุ่มน้อยทานจนหมด "เก่งจริงๆเลย คุณพี่นี่มีหลานทันใช้แน่นอนค่ะ แต่น้องเองไม่รู้จะมีวี่แววบ้างหรือป่าว ตาภัทรยังไม่คิดจะกลับเมืองไทยเลย" "โถว่ตาภัทรเดี๋ยวก็มีหลานมาให้คุณน้องอุ้ม ไม่ต้องไปกังวลไปหรอกจ้ะ ถ้าแมนเต็มร้อยน่ะนะ" "ฮ่าๆ คุณพี่ก็ ลูกของน้องแมนชัวร์ค่ะ แค่กำลังสนุกกับงานมากไปหน่อยเท่านั้นเอง" แมนไม่แมนไม่รู้แต่ที่แน่ๆเชื้อดีจนมีเจ้าหนุ่มน้อยมานั่งออดอ้อนอยู่ตรงนี้ทั้งคน หญิงสาวคิดในใจ "ตาภัทรมีแฟนหรือยังล่ะ" หญิงสาวหูผึ่งกับคำถามของมารดา "น้องเองก็ไม่แน่ใจค่ะ" "เดี๋ยวก็คงพามาเปิดตัวเชื่อเถอะ" "เฮ้อ เรื่องนั้นหวังมากไม่ได้หรอกค่ะกลัวจะผิดหวังซะเปล่าๆ ถ้ายังไงป้าไม่กวนแล้วดีกว่า ขอกลับไปเตรียมขึ้นเวรก่อนนะจ้ะ" "โถว่ นี้คุณน้องเป็นผู้บริหารแล้วยังจะต้องขึ้นเวรอีกหรอคะ" "ก็ถือซะว่าช่วยๆกันไปค่ะ งานในโรงพยายาลมันยุ่ง" "ก็จริง สู้เดินเก็บค่าตลาดไม่ได้ ไม่ต้องคิดไรมาก" "ค่ะ กลับแล้วนะครับน้องภีม" "สวัสดีคุณยายก่อนลูก" "ธุ" "ใช่แล้วลูก เก่งมาก ธุจ้าแบบนี้ครับ" "ภัทร ยินดีด้วยนะที่ได้รางวัลสองปีซ้อนเลย" "ขอบคุณมากๆเหมือนกัน จริงๆก็เพราะมีเพื่อนดีๆคอยให้ความช่วยเหลือด้วยนะ เราอยากเลี้ยงขอบคุณน่ะ ไปทานข้าวกันเถอะ" "เย็นนี้หรอ คุณไปไหม" "ถ้าคุณอยากไปผมก็โอเค" "ไปฉันไป" "โอเค งั้นพวกเราตกลงภัทร" "ดีลล" "ฮัลโหลครับแม่ พอดีผมไปทานข้าวกับเพื่อนมาเลยไม่ได้รับสายครับ" "ไม่มีอะไรมากหรอกลูก แม่แค่จะโทรมาคุยเล่น วันนี้แม่ไปบ้านหนูลินเขามา" "แล้วลินเป็นไงบ้างครับ" "หนูลินสบายดี แต่ที่สำคัญลินมีลูกแล้วน่ารักมาก" "อะไรนะครับ" "ลินมีลูกแล้วตาภัทร น่ารักมาก" "มีลูกแล้ว" ประโยคที่แม่พูดทำเขาอึ้งตะลึงจนมือไม้ไร้เรี่ยวแรงทำเอาโทรศัพท์ในมือล่วงลงมือทันที มันรู้สึกช้าจนทำอะไรต่อไม่ได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD