บทที่ 1 จุดเริ่มต้น
ฉันลินดา วิพาประกร ลูกสาวคนเดียวของคุณนายทองหยอด เจ้าของตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด ในทุกวันเสาร์อาทิตย์หลังเลิกเรียนพิเศษเธอก็จะมีทำหน้าที่เก็บค่าแผงจากเหล่าบรรดาแม่ค้าที่มาเช่าพื้นที่เพื่อที่จะขายของ วันนี้ก็เช่นกัน แตกต่างกันตรงที่อาทิตย์หน้าฉันจะไม่ได้มาเก็บอีกแล้ว เพราะว่าฉันกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยและเลือกเรียนที่กรุงเทพพร้อมเพื่อนสนิทที่ชื่อว่าณภัทร เดชานากร ชายหนุ่มเป็นลูกชายของคุณหมอณัชณิชาและคุณหมอณัฐพล ความหวังของพ่อแม่ณภัทรคือการที่ณภัทรจะเป็นคุณหมอเหมือนอย่างพ่อกับแม่
"เฮ้อ ใจหายเหมือนกันนะเนี่ย ลูกสาวฉันจะทิ้งฉันไปแล้ว"
"โถว่ๆ แม่จ๋า ลินไปเรียนนะ ไม่ได้ทิ้งแม่ไปไหนซะหน่อย"
"ก็มันรู้สึกแปลกๆนี่หน่า" คนเป็นแม่รู้สึกใจหาย
"รักแม่น้า สี่ปีแปบเดียวนะจ๊ะ" หญิงสาวรีบออดอ้อนผู้เป็นแม่
"อ่ะๆ รีบเรียนรีบจบกลับมาหาแม่ละกันนะ" แม่จะทำใจมาบ้างแต่มันก็ยากจริงๆสุดท้ายเธอก็คงต้องทำใจว่าสี่ปีมันแค่แปบเดียวเท่านั้นตามที่ลูกสาวคนสวยของตนบอกกับตน
"จ้าา คุณนายทองหยอด" น่าตีจริงๆเชียวลูกสาวคนเดียวของเธอเนี่ย
"ทำไมช้าจังละลูก"
"ขอโทษนะคะคุณป้าณิชา ก็คุณนายทองหยอดของหนูกว่าจะปล่อยหนูออกมาก็แทบแย่ค่ะ"
"อย่างนี้ละลูก ลูกสาวคนเดียวแม่เขาก็ต้องห่วงมากหน่อย เป็นธรรมดานะจ๊ะ หนูต้องเข้าใจแม่เขาหน่อยนะ"
"ค่ะ เราไปกันเลยไหมคะ"
"ตายจริงมัวคุย ขึ้นรถเถอะลูก แม่จะไปส่งก็ไม่ยอมกันนะเนี่ย"
"แค่ไปจองหอเองครับแม่"
"นั่นละ"
ทั้งสองเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อประสานงานกับที่เรียนและหาหอพัก เพราะที่นี่ไม่ได้มีการบังคับให้พักหอใน ทั้งสองจึงอยากหาที่พักที่สะดวกสบายเดินทางมาเรียนง่ายๆ ซึ่งก็คือหอพักแสนสิริ หรูหราพอตัว
"สวยดีเนาะ แกห้องไหนอ่ะ"
"109"
"เหรอ ฉันห้อง 110 ตรงข้ามกันเลย"
"ดีๆเวลาไปเรียนอย่าลืมปลุกฉันด้วยละ"
"นี่แกจะให้ฉันคอยปลุกแกตั้งแต่มัธยมจนมหาวิทยาลัยเลยหรอ"
"เอาน่า เราเป็นเพื่อนกันก็ต้องช่วยกันถูกแล้ว"
"ย่ะ แยกย้ายๆ ฉันอยากพักแล้ว"
"โอเค เจอกันพรุ่งนี้"
"ถึงที่พักแล้วจ่ะแม่"
"เป็นไงบ้างละ ชอบไหม"
"ชอบมากจ้ะแม่ มีเครื่องใช้อำนวยความสะดวกครบเลย"
"ดีๆจะได้ไม่ต้องขนซื้ออะไรเยอะ แล้วห้องของตาภัทรละลูก"
"อยู่ตรงข้ามกันนี่แหละแม่ มันยังจะให้หนูปลุกมันเหมือนเดิม เบื่อจะแย่"
"เอาน่าๆ เพื่อนก็ช่วยเพื่อนหน่อย"
"จ้ะๆ"
6 ปีผ่านไป
เวลานี้ลินดาและณภัทรเรียนจบปนิญญาตรีเรียบร้อยแล้ว วันนี้เป็นวันเลี้ยงอำลาเพื่อฉลองความสำเร็จในครั้งนี้ของทุกคน ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส บางส่วนจบปุ๊บก็มีงานทำเลย ส่วนเธอยังดูๆอยู่ว่าจะทำงานในกรุงเทพหรือจะกลับไปทำที่บ้านเกิดเพราะแม่ของเธออย่างให้เธอกลับไปอยู่ด้วยใจจะขาด
"ลิน ลิน"
"ห่ะๆ" หญิงสาวสะดุ้งตกใจ
"เม่ออะไร เรียกหลายรอบแล้ว"
"อ่าๆโทษที มีไรอ่ะ"
"อาจารย์ให้มาตามไปถ่ายรูปรวม"
"อ่อ โอเคๆ ขอแวะเข้าห้องน้ำก่อน"
"ได้ๆ อย่าช้าละ ผู้ใหญ่รอนานไม่ดี"
"จ้า รู้แล้วจ้าพ่อ"
"เดี๋ยวเถอะ"
"ฮ่าๆ" หญิงสาวรีบเดินห่างออกไปทำธุระส่วนตัวทันที
หลังจากถ่ายรูปรวมเสร็จบรรดาอาจารย์ก็ขอตัวกลับ และปล่อยให้เด็กๆสนุกกันอย่างเต็มที่ ในงานสิ่งที่จะขาดไม่ได้คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รสเลิศเพราะชีวิตนิสิตแพทย์ไม่มีเวลามานอกลู่นอกทางมากเท่าไร พอถึงเวลาเหมาะสมทุกคนก็ไม่ลืมจะคว้าโอกาสนั้นไว้ทันที
"เมามากแล้วนะไอ้ภัทร" ลินเย้าแหย่เพื่อนสนิท
"ไม่เมาๆ" ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมาช้าๆดูก็รู้ว่ากำลังได้ที่
"เซขนาดนี้บอกไม่เมา ฮ่าๆ"
"แกก็ใช่ย่อยยัยลิน"
"ฉันว่าเราไปส่งพวกมันกันเถอะ สภาพคือไม่ไหวแล้ว" เพื่อนสาวอีกคนเสนอความเห็น
"เออจริงไปเถอะ" บรรดาเพื่อนสนิทคนอื่นๆลงความเห็นว่าควรจะพาทั้งสองกลับไปส่งยังที่พักได้แล้ว เมื่อมาส่งถึงที่แล้วทุกคนต่างก็แยกย้าย
"ทำไรอ่ะ"
"ไขกุญแจไง"
"ยุ่งยาก ก็บอกให้ใส่รหัสแทนก็ไม่ยอม" หญิงสาวกดใส่รหัสหน้าประตูห้องของตน ส่วนชายหนุ่มยังคงคำหากุญแจไม่หยุด
"ไมไม่ออกว่ะ"
"ใจเย็นๆดิ"
"ปวดฉี่นะเว้ยเนี่ย"
"มาๆเข้าที่ห้องน้ำฉันก่อนมา" หญิงสาวเปิดประตูชายหนุ่มก็พุ่งตัวเข้าไป
"เออดี"
ชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องของหญิงสาวอย่างง่ายดาย และจัดการกับธุระของตนทันที
"ว้าย ไอ้ภัทร.." ลินยกมือขึ้นมาปิดใบหน้า
"อะไรอย่าเสียงดัง"
"ทำไมแกไม่ใส่กางเกง"
"ก็มันอึดอัดอ่ะ"
"ก็ไปถอดห้องแกสิ นี่มันห้องฉัน"
"อ้าวนี่ห้องแกหรอ ฮ่าๆ"
"ก็เออสิว่ะ"
"แต่ไม่ไหวอ่ะ ขอนอนก่อน" เขาฟุบตัวลงนอนที่เตียงกว้างทันที
"ไม่ได้ๆ แกกลับห้องแกไปเลยนะ"
คนหน้ามึนนอนนิ่งไม่ไหวติงหญิงสาวพยายามเรียกเท่าไรเขาก็หาได้สนใจเธอ
"ภัทร ภัทร ตื่นเดี๋ยวนี้นะ" ชายหนุ่มไม่ขยับเลยสักนิด หญิงสาวยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าชายหนุ่ม เวลานอนหลับไปแบบนี้ก็ดูน่ารักดีนะ ไม่ฤทธิ์เยอะเหมือนตอนตื่น ไม่ๆ จู่ๆเธอจะมาชมมันได้ยังไงกัน มันเป็นเพื่อนห้ามคิดเกินเลย ในหัวเธอคิดตีกันวุ่นไปหมด เธอจึงค่อยๆถอยห่างจากชายหนุ่ม แต่ยังไม่ทันได้ขยับมาก คนที่หลับเป็นตายกับคว้าต้นคอของเธอและโน้มลงมาจูบอย่างดูดดื่ม จริงสาวตกใจทำอะไรไม่ถูกเพราะนี่มันคือจูบแรกของเธอ และผู้ชายที่กำลังจูบเธออยู่ตอนนี้ก็คือเพื่อนสนิท
"อื่อออ" หญิงสาวดิ้นรนพยายามทุบตีที่หน้าอกของชายหนุ่มแต่กลายเป็นว่ามันไม่ได้ส่งผลอะไรถึงเขาเลยสักนิดเดียว
"ลิน"
"ใช่น่ะสิปล่อยฉันเลยนะ"
"ลิน ลิน" ชายหนุ่มพูดคล้ายละเมอ
"จะเรียกทำ มะ" ชายหนุ่มโน้มต้นคอเธอลงไปจูบอีกครั้ง ถามว่าเขารู้ไหมว่าผู้หญิงตรงหน้าเป็นใคร เขารู้แต่เขาไม่อาจควบคุมจิตใต้สำนึกที่ไม่รักดีของตนได้เลย ชายหนุ่มไม่สนใจสิ่งต่างๆรอบตัวอีกต่อไป ในตอนนี้หญิงสาวเริ่มรู้สึกว้าวุ่น เขาทำให้เธอปั่นป่วนเหมือนมีผีเสื้อบินวนอยู่ในช่องท้อง เขาสร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้กับเธอจนไม่อาจควบคุมร่างกายและติตใจของตนได้อีกต่อไป ไม่นานทั้งสองร่างก็เปลือยเปล่า ความร้อนรุ่มรอบๆกายกับทวีคูณขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกสัมผัสมันตราตรึงในใจของเขาและเธอ สติที่มีเหลืออยู่อันน้อยนิดก็ดับลงทันที ขอแค่สิ่งที่กำลังทำตอบสนองความต้องการของตนก็เพียงพอแล้ว เมื่อสองร่างหลอมรวมเป็นร่างเดียวความรู้สึกสุขสมก็เอ่อล้นในใจ ชายหนุ่มไม่วายฉีดเชื้อพันธุ์ที่อาจจะก่อให้เกิดชีวิตเล็กๆในกายของเธอ เมื่อพายุรักสงบลง ทั้งสองก็หลับเป็นตาย เวลานี้เป็นเวลบ่ายกว่าแล้ว หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาก็ต้องตกตะลึงเพราะความหนาวเย็นของเครื่องปรับอากาศสัมผัสกับผิวของเธอโดยตรง ทำให้เธอรับรู้ได้ทันทีว่าเธอไม่ได้สวมอะไรเลยสักชิ้น แต่ที่น่าตกใจกว่าดูจะเป็นผู้ชายที่กำลังนอนหลับฝันดีข้างกายเธอนี่เอง นี่เธอมีความสัมพันธ์เลยเถิดกับเพื่อนหรอเนี่ย หญิงสาวทำอะไรไม่ถูกรีบเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายของตนและนำไปสวมในห้องน้ำทันที หลังจากนั้นเธอก็เก็บข้าวของสำคัญรวมถึงเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแล้วออกไปไม่ได้ร่ำลา ชายหนุ่มเมื่อตื่นขึ้นมาก็รับรู้เรื่องทุกอย่างและต้องการจะปรับความเข้าใจกับหญิงสาวแต่พยายามโทรเท่าไรเธอก็ตัดสาย หญิงสาวไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าต้องรับสายของเขาและพูดว่าอย่างไรจึงทำได้เพียงแค่ยื้อเวลาออกไปก่อน เป็นเวลาเกือบเดือนที่ทั้งสองไม่ได้ติดต่อกันเลย แม้ในใจของชายหนุ่มอยากจะคุยกับเธอแทบขาดใจ แต่ในเมื่อเธอตัดสายเขาทิ้งทุกครั้งเขาก็ต้องทำใจ
หญิงสาวเลือกทำงานเป็นแพทย์อาสาบนดอยหลังจากที่โน้มน้าวคุณนายทองหยอดสำเร็จ แต่กว่าจะมาทำงานที่นี่ได้ เธอก็ต้องหาเหตุผลสารพัดมาโน้มน้าวแม่ของเธอ ในระหว่างที่เธอนั่งรถกลับบ้านพักนั้น ก็มีสายสำคัญสายหนึ่งโทรเข้ามาหา สายนี้ไม่ได้โทรหาเธออีกเลยตั้งแต่เรียนจบ
"สวัสดีค่ะคุณป้า" หญิงสาวเอ่ยทักทายด้วยน่ำเสียงสดใส
"สวัสดีจ้ะหนูลิน สบายดีไหมลูก แม่โทรหาตาภัทรไม่ติดเลย เจ้าลูกชายของป้าติดต่อหนูบ้างหรือป่าวจ้ะ"
"ลินสบายดีค่ะ คุณป้าละคะ ลินคิดว่าภัทรจะยังนอนไม่ตื่นมั้งคะ แต่ช่วงนี้ไม่ได้ติดต่อกันมาเลยค่ะ"
"ป้าสบายดีลูก แต่สายป่านี้แล้วลูกชายป้านี่ไม่ได้เรื่องเลย ตั้งแต่ไม่มีหนูคอยปลุกก็คงจะไม่ค่อยตื่น เอ่อ ป้ามีเรื่องจะรบกวนหนูหน่อยสิลูก"
"มีอะไรหรอคะคุณป้า"
"พอดีมีจดหมายมาจากมหาวิทยาลัยที่ตาภัทรเคยสมัครทุนเอาไว้น่ะ เขาตอบกลับมาแล้วลูกว่าตาภัทรได้ทุน แต่ตาภัทรก็งอแงไม่ยอมจะไปเรียนต่อ ป้าไม่รู้จะทำยังไง"
"จริงหรอคะคุณป้า ดีจังกับภัทรจังเลยค่ะ" หญิงสาวดีใจไปกับชายหนุ่มจริงๆ ที่อนาคตจะไปได้ไกลกว่าที่คิด
"ใช่น่ะสิลูก ป้าดีใจมาก แต่ตาภัทรก็ดื้อไม่ยอมจะไป หนูลองคุยให้ป้าบ้างได้ไหมลูก เผื่อพอเป็นหนูแล้วตาภัทรจะยอมไปเรียนต่อ"
"อะ เอ่อ..ได้ค่ะ ถ้ายังไงลินจะพยายามช่วยพูดกับภัทรให้นะคะ"
"ขอบคุณมากจ้ะ ป้าไม่กวนเราแล้ว คิดถึงนะลูก"
"ค่ะคุณป้า คิดถึงเหมือนกันค่ะ"
หลังจากวางสายแม่ของชายหนุ่มแล้ว หญิงสาวก็กำพลาสติกแท่งยาวในมือของตนแน่น เธอจะทำยังไงดีนะ ประจำเดือนของเธอยังไม่มา เธอคิดว่าตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์อย่างแน่นอน ก็เพราะหลังจากมีอะไรกันเธอก็ลืมเรื่องป้องกันไปเสียเลย แต่ในตอนนี้เขากำลังจะไปมีอนาคตที่สดใส เธอคงจะรั้งเขาไว้ไม่ได้หรอก แล้วอีกอย่างเรื่องที่เกิดขึ้นก็คือเรื่องของความผิดพลาด ถ้าเกิดเธอท้องขึ้นมาจริงๆลูกคนเดียวเธอคิดว่าเธอเลี้ยงได้แน่นอน หญิงสาวรีบกลับที่พักและตรวจผลทันที ซึ่งนั่นก็เป็นไปตามที่เธอคาดการไว้ ประจำเดือนเธอไม่มาซึ่งปกติแล้วเธอไม่เคยประจำเดือนขาด และนี่ก็คงเป็นเหตุผลสินะที่ทำให้ประจำเดือนของเธอนั้นขาดหายไป เจ้าตัวน้อยที่กำลังนอนหลับสบายใจในท้องของเธอนั่นเอง ชีวิตที่แท้จริงของเธอกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ณ ปัจจุบัน ภัทรกำลังสนุกกับการทำงานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใกล้มหาวิทยาลัย เขาทราบข่าวเรื่องทุนการศึกษาของตนแล้วและลังเลว่าจะไปศึกษาต่อดีหรือไม่ จนเมื่อสายสำคัญสายหนึ่งโทรเข้ามา เขาก็ตัดสินใจเรื่องนี้ได้ในทันที ย้อนกลับไปเมื่อสองวันก่อนขณะที่เขาพักกลางวัน เมื่อรับประทานอาหารเสร็จเขาก็มาพักยังห้องรับรอง มีสายๆหนึ่งโทรเข้ามา เมื่อเข้าได้เห็นว่าสายนั้นเป็นใครก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสายที่เขาเฝ้ารอ คือลินนั่นเองที่โทรเข้ามา ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเฝ้าโทรหาเธอตลอดแต่ก็ไร้การตอบรับ
"ฮัลโหลลิน" ชายหนุ่มกรอกเสียงลงในสายอย่างดีใจ
"ภัทรนี่ลินเอง ลินมีเรื่องจะคุยด้วย พรุ่งนี้ภัทรว่างไหม" หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"ว่างสิ เพื่อลินภัทรว่างเสมอแหละ"
"ไม่ต้องมาปากหวาน มาเจอกันหน่อยสิ"
"ได้เลย ที่ไหนเมื่อไรดีล่ะลิน"
"พรุ่งนี้ที่ร้านกาแฟใกล้ที่ทำงานภัทรละกัน ตอนเที่ยง เดี๋ยวลินไปหา"
"ได้สิ ลินจะเข้ามากรุงเทพหรอ"
"อืม"
"โอเคแล้วเจอกันนะ ภัทรรอนะ"
"อืม วางสายแล้วนะ"
เวลาเที่ยงตรงชายหนุ่มถึงที่นัดหมายเรียบร้อย รอไม่นานคนที่เขาอยากเจอก็มาถึง
"รอนานไหมอ่ะ รอติดมากเลย ไม่ชินจริงๆ"
"ไม่นานๆนั่งเถอะ"
"สั่งอะไรทานเลยสิ"
"อ่อ เราสั่งให้แล้ว ของโปรดลินทั้งนั้น"
"ขอบใจนะ"
ทั้งสองพูดคุยเรื่องเล็กๆน้อยๆจนกระทั่งทานอาหารเสร็จ ชายหนุ่มยังคงดูดีไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ หญิงสาวคิดว่าถึงเวลาแล้วจึงกล่าวเรื่องธุระของตน
"ทำไมถึงจะไม่ไปเรียนต่อละ"
"ก็แค่รู้สึกว่าทำงานอยู่ที่นี่ก็ดีแล้ว"
"แต่ฉันว่านายควรไปนะ อนาคตที่ดีรอนายอยู่"
"ลินคิดอย่างนั้นหรอ แล้วเรื่องของเราละ ภัทรพร้อมรับผิดชอบลินทุกอย่างนะ"
"เรื่องของเรานายลืมมันไปเถอะ มันคือความผิดพลาด"
"ความผิดพลาดหรอ"
"ใช่ นายไปเรียนเถอะ ฉันว่าหลังจากนี้เราก็คงจะไม่ได้เจอกันอีก" คำพูดเหมือนผลักไสทำให้อารมณ์ของชายหนุ่มคุกกรุ่นและพูดประชดหญิงสาวออกไป
"ได้ ในเมื่อลินบอกเวลามันคือความผิดพลาดภัทรก็จะลืมมัน" คำพูดตัดรอนของเขาชั่งกรีดหัวใจของเธอซะเหลือเกิน
"แล้วเรื่องเรียนสรุปยังไง"
"เราตัดสินใจแล้ว เราจะไปเพื่ออนาคตที่ดีกว่านี้ ขอบคุณที่ลินทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น"
"แม่ครับ ผมตัดสินใจไปเรียนต่อนะครับ"
"จริงหรอลูก แม่ดีใจที่สุดเลย นี่อย่าบอกนะว่าที่เปลี่ยนใจได้นี่เพราะหนูลินน่ะ แม่ว่าแล้วว่าวิธีนี้ต้องได้ผลแน่ๆ แม่ต้องขอบคุณหนูลินจริงๆที่ทำให้ลูกเปลี่ยนความคิดได้"
"ครับแม่เพราะลิน ลินคนเดียว" เพราะเธอทำให้เขาเหมือนเป็นคนไร้หัวใจและความรับผิดชอบไปในเวลาเดียวกัน เขาพร้อมจะรับผิดชอบและอยู่เคียงข้างกับเธอ แต่เธอกลับผลักให้เขานั้นไกลออกไป
ณ สนามบิน ชายหนุ่มต้องออกเดินทางแล้ว
"เดินทางปลอดภัยนะลูก มีอะไรโทรหาแม่ได้เสมอนะลูก" แม่ของชายหนุ่มยังอดเป็นห่วงลูกชายของตนที่ต้องเดินทางห่างไกลประเทศบ้านเกิดเหมือนอย่างว่าเขาเป็นเด็กเล็ก
"ขอบคุณครับแม่" ชายหนุ่มพยายามมองหาว่าหญิงสาวจะมีน้ำใจสักนิดมาส่งเขาบ้างไหมแต่ก็เปล่าเลย เวลาสองปีนับจากนี้คงยากลำบากเสียจริงงานนี้ เครื่องบินบินออกไปแล้ว ด้านหญิงสาวได้แต่มองฟ้าคิดถึงคนที่กำลังห่างออกไปเรื่อยๆ
"เวลานี้นายคงอยู่บนเครื่องแล้ว ขอให้อนาคตของนายสดใสมีแต่ความสุขความสำเร็จ ส่วนเรื่องทางนี้ก็คงจะเป็นความลับต่อไปนั่นแหละ
"สวัสดีครับผมภัทร เพิ่งย้ายมาเรียนเป็นเทอมแรก"
"ยินดีต้อนรับนะ เราชื่อทอม ส่วนนี้เอลลี่"
"ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะภัทร"
"อะ เอ่อ"
"ไม่ต้องสงสัยไปหรอก เราสองคนเป็นแฟนกันน่ะ"
"อ่อ อย่างนี้นี่เอง"
ชายหนุ่มมาเรียนไม่นานแต่ก็ได้เพื่อนเพิ่มขึ้นหลายคนด้วยความที่เป็นคนมีอัธยาศัยดี ดูเข้าถึงได้ง่ายและมีน้ำใจ
ด้านหญิงสาวก็ไม่ค่อยได้กลับไปหามารดาเนื่องจากหน้าท้องที่เริ่มโตขึ้นในทุกๆวัน คนที่ทราบว่าเธอท้องก็คงจะมีแต่หมอในค่ายเท่านั้น ซึ่งทุกคนก็เคารพความเป็นส่วนตัวของแต่ละคน ไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวระหว่างกัน แถมยังช่วยเหลือเรื่องต่างๆกับเธออีกตั้งหาก
"มาๆพี่ยกเองครับ กล่องพยาบาลกล่องนี้หนักจะตายไป"
"ขอบคุณค่ะพี่ปับ"
"ไปๆพักเถอะ เราไม่มีเวรแล้วนิ"
"ใช่ค่ะ งั้นลินขอตัวก่อนนะคะ"
"ครับ"
หญิงสาวต่อโทรศัพท์หามารดาเสมอหากมีเวลาว่าง "แม่ขาา"
"ว่าไงจ้ะ บ้านช่องไม่กลับเลยนะ ไปเป็นสาวชาวดอยแล้วเหรอ เอ๊ะหรือว่าซ่อนหนุ่มๆเอาไว้ไม่บอกแม่"
"หนุ่มๆอะไรละคะ ไม่มีหรอก วันๆลินทำแต่งาน คิดถึงคุณแม่จังเลย"
"คิดถึงแม่ก็กลับบ้านสิลูก หรือจะให้แม่ขึ้นดอยไปหาดีไหม"
"อะ เอ่อ อย่าลำบากเลยนะคะ ที่นี่ไม่ค่อยสะดวกสบายลินไม่อยากให้แม่บำบาก ถ้ามีเวลาว่างลินจะลงไปหาแม่นะคะ รักแม่ค่ะ"
"แม่ก็รักหนูนะลูก อย่าลืมว่าเราอยู่กันแค่นี้เวลาทุกวินาทีมีความหมาย"
"โถว่คุณแม่พูดอย่างนี้ลินอยากจะไปหาคุณแม่ทันทีเลยค่ะ"
"เอาละๆ แม่ไม่งอแงกับเราแล้วก็ได้ พักผ่อนบ้างนะลูกแม่เป็นห่วงเรามากๆรู้ตัวไหม"
"ทราบค่าาา ลินรักแม่ที่สุด"
"แม่ก็รักลูกนะ ไปนอนเถอะดึกแล้ว"
"ค่ะ ฝันดีนะคะ"
"ฝันดีจ้ะ" หญิงสาววางสายของมารดาแล้วก็บอกฝันดีพ่อของลูกต่อ
"ฝันดีนะภัทร" หญิงสาวลูบท้องกลมของตนเองอย่างรักใคร่ นี่สินะคือรักตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้ากัน ลูกของเธอจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ไม่รู้ จะนิสัยเอาแต่ใจแบบผู้เป็นพ่อหรือระเบียบเรียบร้อยเหมือนกับเธอก็ไม่มีใครรู้ หญิงสาวบอกกับตัวเองเสมอว่าหากเธอคลอดลูกเมื่อไร เธอจะพาหลานไปหาว่าที่คุณยายทันที เธอคิดถึงแม่ และยิ่งเข้าใจหัวอกคนเป็นมากขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อได้มีโอกาสเป็นแม่บ้าง