บทที่ 7

2934 Words
แม่ของชายหนุ่มตรงมายังบ้านของลินเมื่ออาการดีขึ้น แม่ของเขากล่าวด้วยน้ำตาว่าสาเหตุมันเป็นเพราะตน นั่นทำให้หนูลินต้องลำบากเลี้ยงดูลูกมาคนเดียว "คุณพี่คะ น้องขอโทษจริงๆ น้องไม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ ตอนนั้นน้องเพียงแค่หวังดีกับลูกอยากให้ลูกได้เติบโตในหน้าที่การงาน ทั้งสองคนสนิทกันตาภัทรเองก็เชื่อหนูลินมากกว่าแม่เองด้วยซ้ำ" "อย่าคิดมากไปเลยค่ะ คุณน้องก็ไม่ได้ตั้งใจนี่คะ อะไรที่แล้วก็ให้แล้วไปเถอะ พี่ไม่ถือโทษโกรธหรอกนะ พ่อแม่ทุกคนก็ย่อมอยากให้ลูกเราได้ในสิ่งดีๆทั้งนั้น ยัยลินนี่น่าตีมากกว่าที่มีอะไรก็เก็บเงียบไว้คนเดียว เรามารอลุ้นกันดีกว่าว่าตาภัทรจะสามารถปรับความเข้าใจกับหนูลินได้หรือเปล่า พี่เองขอเพียงแค่ต้องสองสามารถรักษาครอบครัวของตนเองไว้ได้ก็มีความสุขแล้ว" "น้องก็หวังแบบนั้นค่ะ " หญิงสาวนั่งหน้ามุ่ยอยู่บนรถหรูของคุณหมอหนุ่ม เธอรู้สึกขัดใจเป็นอย่างมากที่คนเป็นแม่ไม่ขัดขวางเขาเลยสักนิด แถมยังเป็นใจเปิดทางให้เขาพาเธอออกมาด้านนอกอย่างง่ายดายได้สำเร็จ แม่ของเธอยังกำชับทั้งคู่อีกว่าให้รีบปรับความเข้าใจกันเสียเรื่องหลานไม่ต้องเป็นห่วงนางจะดูแลหลานรักของนางให้เป็นอย่างดีแน่นอน "นี่เรากำลังจะไปไหนภัทร ภัทรจะพาลินออกมาไกลๆแบบนี้ไม่ได้นะ ลินเป็นห่วงลูก ลินไม่เคยต้องอยู่ห่างจากลูกนะ" "เรื่องลูกไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกลิน ไม่ได้ยินที่คุณแม่บอกเราหรอว่าท่านจะดูแลให้อย่างดี แล้วอีกอย่างป่านี้แม่กับพ่อของภัทรก็คงมาช่วยเลี้ยง" "ภัทรก็พูดได้สิ แล้วงานการไม่ทำหรือไง" "ภัทรลา" "..." "ลิน รู้ไหมภัทรมีความสุขมาก" เมื่อได้ยินชายหนุ่มพูดดังนั้นเธอก็คิดว่าเขากำลังบ้า คนกำลังทะเลาะกันจะมามีความสุขได้ยังไง "บ้า" เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ "ไม่บ้านะ ภัทรพูดเรื่องจริง รู้ไหมว่าภัทรคิดถึงเสียงของลินมากขนาดไหน โดยเฉพาะเสียงบ่น" "ลินไปบ่นภัทรตอนไหนไม่ทราบ" "ก็ตอนเราเรียนไง ลินบ่นภัทรนั่นก็แปลว่าลินเป็นห่วงภัทร กลัวว่าภัทรจะทำอะไรไม่ถูกต้อง" "ไม่ได้ห่วงซะหน่อย คิดไปเอง" "ไม่ต้องมาปากแข็งหรอก แค่มองตาภัทรก็รู้หมดแล้ว" "งั้นตอนนี้ลินกำลังคิดอะไรละ" "ลินกำลังคิดหาทางลงจากรถของภัทร ใช่ไหมละ" "..." รู้ได้ยังไงนะ "ใช่จริงๆด้วย แต่ก็คงได้แค่หวังนะลินเพราะต่อจากนี้ภัทรจะไม่ยอมให้ลินหนีภัทรไปได้อีกแล้ว" "ไม่กลัวหรอก " "ไม่ได้ให้กลัวแต่แค่ให้รู้ไว้ตั้งหาก เพราะอีกหน่อยเราก็ต้องอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข" "ขี้มโน" "ไม่ได้มโนนะ ถึงแล้วๆ" "ที่นี่ที่ไหน" "บ้านเราไง" "บ้านเรา..หมายความว่าไง" "ก็ตั้งแต่ภัทรรู้ความจริงหลายๆอย่างภัทรก็เตรียมบ้านหลังให้ครอบครัวเราไง" "ใครเป็นครอบครัวกับภัทรไม่ทราบ" "อ้าวก็นี่ไง นี่พ่อ นี่แม่ ส่วนลูกอยู่กับคุณยาย" ชายหนุ่มชี้ที่ตนเองก่อนที่จะชี้ไปยังหญิงสาว หญิงสาวคิดตามก็ต้องหน้าแดงเพราะมันจริงอย่างที่เขาว่า "มาๆภัทรออกแบบเองเลยนะ สวยไหม" "..." "ลินไปดูห้องลูกก่อนดีกว่า" "..." อือ ฮือ ดูดีเชียว ห้องของหนุ่มน้อยเริศสุดๆ เธอคิดว่าเป็นห้องนอนในฝันของเด็กๆหลายคนเลยละ ลองให้เจ้าของห้องมาเห็นก่อนเถอะ อาจจะมัวเล่นเพลินจนลืมคนเป็นแม่เลยก็ได้ "ลินชอบไหม" "ไม่ชอบ" "อ้าว" "ลินไม่ชอบแต่ลูกคงชอบ ห้องลูกไม่ใช่หรอ" "อ่ออ ใช่ๆ ลูกต้องชอบแน่นอน งั้นไปดูห้องเราต่อดีกว่า อยากรู้ว่าลินจะชอบไหม" "เดี๋ยว จะห้องลงห้องเราได้ไง เราเป็นอะไรกัน " "เราเป็นสามีภรรยากันไง" "ไหนละหลักฐาน" "ก็เจ้าอ้วนกลมที่บ้านลินไง น้องภีมหน้าตาเหมือนภัทรอย่างกับแกะพิมพ์ออกมาลินยังกล้าปฎิเสธอีกหรอ" "เรื่องนั้นลินยอมรับ ก็ใครใช้ให้น้องภีมรับเชื้อพ่อมาแรงๆละ" หญิงสาวพูดไปแบบไม่ได้คิดอะไรจนชานหนุ่มเอ่ยชมตนเองเธอจึงหน้าแดงด้วยความเขินอาย "แน่นอน เชื้อภัทรแรงครั้งเดียวติดเลย" "อย่ามาพูดนะ ครั้งเดียวที่ไหนกันเล่นเอาลินเกือบแย่ อุ๊บ" เธอลืมตัวนึกขึ้นได้จึงยกมือขึ้นปิดปากตนเอง เธอไม่สมควรจะพูดอะไรอย่างนั้นเลย "ฮ่าๆ ภัทรขอโทษจริงๆก็ลินสวยมากนี่หน่า" "หยุดพูดนะ" "จะให้ภัทรพิสูจน์อีกก็ได้นะ ลองดูไหมละ เผื่อครั้งนี้จะได้ลูกสาวสักคน" "อย่าเข้ามานะ อี๋ ออกไปๆ กรี๊ดดดดด" หญิงสาวเห็นท่าไม่ดีร้องโวยวายและพยายามวิ่งหนีชายหนุ่มแต่ห้องที่เคยใหญ่บัดนี้ดูแคบถนัดตาเพราะเฟอร์นิเจอร์ต่างๆที่ประดับตกแต่งเต็มห้องไปหมด หญิงสาววิ่งหนีเขาสุดชีวิตแต่มีหรือที่เสือร้ายอย่างภัทรจะตามไม่ทัน "ฮ่าๆ จับได้แล้ว จะวิ่งหนีภัทรทำไมเนี่ย" ชายหนุ่มกอดหญิงสาวอย่างเต็มรัก "ก็ถ้าไม่หนีก็ต้องโดนจับอย่างนี้ไงละ ปล่อยลินนะ" "ไม่ปล่อยหรอก เรื่องอะไรจะยอมปล่อย ลินหอมจัง ฟอดดด" "ตุ๊บ" "โอ้ยย" "ไอ้คนฉวยโอกาส" "ตุบเลย ตุบภัทรอีกจนกว่าลินจะพอใจได้เลย ภัทรยอม ลินจะทำให้ภัทรเจ็บแค่ไหนภัทรก็ยินดี" หญิงหยุดชะงักเมื่อเขาบอกอย่างนั้น "ภัทรขอโทษ ลินให้โอกาสภัทรเถอะนะ" "เรื่องลูกลินไม่ขัดภัทรหรอกนะ แต่สำหรับชีวิตคู่คงจะไม่ได้หรอก" "ทำไมละลิน" "เราไม่ได้เป็นอะไรกันตั้งแต่แรกแล้วนะภัทร ภัทรคิดดูสิ ถ้าลินไม่ได้ท้องภัทรก็คงจะไม่มาตามหาลินหรอก" "เรื่องลูกก็ส่วนหนึ่ง" หญิงสาวหน้าเศร้าเพราะสุดท้ายแล้วเธอก็คิดว่าเธอเดาถูก เขามาก็เพราะลูก "แต่เรื่องลินก็อีกส่วน" "หืมม" "ในเมื่อลินย้ำกับภัทรมากนักว่าเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันตั้งแต่แรก งั้นต่อจากวินาทีนี้ไปภัทรจะเริ่มจีบลินแล้วนะ ลินต้องให้โอกาสภัทรด้วยรู้หรือป่าว เปิดใจให้ภัทรบ้างสักนิดก็ยังดีนะลิน" "..." "ลิน ลินโอเคไหม" "..." "ลินคร๊าบบบ" "อือออ" "อืออะไรอ่ะ โอเคหรือป่าว" "โอเคค จะย้ำทำไมเนี่ย เขินจะแย่แล้ว" ไอ้คนไม่เคยมีความรักพอมีคนมาขอเดินหน้าจีบก็ทำตัวไม่ถูก เธอได้แต่บอกเขาไปตรงๆว่าเธอเขินจนแก้มแทบแตกแล้ว ใบหน้าแดงๆของเธอเรียกรอยยิ้มจากชายหนุ่มไม่หยุด "ฮ่าๆๆ โอเคนะ จะเดินหน้าเต็มสูบเลย ฟอดดด" "เดี๋ยว คนยังไม่เป็นแฟนกันมาหอดแก้มได้ยังไงเนี่ย" "ขอเป็นมัดจำเพื่อกำลังใจไงละคร๊าบบ งั้นถือว่าตอนนี้เราคืนดีกันแล้วนะ ถึงแม้สถานะจะยังไม่ใช่อย่างที่ภัทรต้องการก็ตาม" หญิงสาวพยักหน้างึกๆ จากนั้นก็รีบก้มหน้าลง เธอไม่กล้าสบหน้ากับผู้ชายตรงหน้าแล้วจริงๆ เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นชายหนุ่มก็พาหญิงสาวกลับไปส่งที่บ้าน ซึ่งปรากฎว่าทุกคนมารวมอยู่กันครบรวมถึงพ่อและแม่ของชายหนุ่มด้วย "อืมม หลานตาปรือง่วงจะแย่แล้ว ป้าเอาหนูไปนอนก่อนเถอะ" "ได้ค่ะคุณนาย" "คุณลุงคุณป้าสวัสดีค่ะ น้องภีมละคะแม่" "แม่ให้เขาพาขึ้นไปนอนแล้วละ ตาปรือแล้ว" "งั้นลินขอตัวไปดูลูกก่อนนะคะ" "เดี๋ยว ไม่ต้องมาเลี่ยงเลยนะยัยลิน มานั่งข้างแม่มา" คนโดนรู้ทันหน้ามุ่ยแต่ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงเดินช้าๆไปนั่งข้างมารดาของตน "ก่อนอื่นเลยแม่ของตาภัทรเขาอยากจะคุยกับเราหน่อย" "มีอะไรหรอคะคุณป้า" "ป้าขอโทษนะลูก ป้าไม่ตั้งใจจะทำให้หนูเสียใจ ป้าไม่รู้จริงๆว่าตอนนั้นหนูกำลังตั้งท้องหลานของป้า ไม่สิๆเรียกแม่ดีกว่าเนาะ แม่ขอโทษขอโทษแทนตาภัทรด้วย ตาภัทรไม่ได้อยากจะไปหรอกนะลูก เป็นแม่เองที่อยากให้ตาภัทรไป" "อะ เอ่อ คะ คุณแม่อย่าโทษตัวเองเลยนะคะ ลินเป็นคนตัดสินใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้เอง ถ้าจะหาคนผิดก็คงเป็นลินเองที้เก็บความลับไว้ไม่ยอมบอกใครแม่กระทั่งพ่อของลูก" "ไม่นะไม่ใช่ความผิดของลิน ความผิดของภัทรเอง ถ้าภัทรไม่ใจร้อนคิดว่าลินอยากให้ภัทรไปไกลๆ ทั้งๆที่ลินอยากให้ภัทรมีอนาคตที่ดี ถ้าภัทรคิดได้อีกสักหน่อยเรื่องก็คงจะไม่เป็นอย่างนี้" "เอาละๆ อย่ามัวหาคนผิดกันอยู่เลย สรุปเราสองคนคืนดีกันหรือยัง" "คืนดีแล้วครับ แต่สถานะภรรยาของผมลินยังไม่ให้" "อ้าว แล้วมันยังไงกันละเนี่ย แม่งงไปหมดแล้ว" "ผมจะเริ่มจีบลินตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปครับคุณแม่ ก็จริงอย่างที่ลินบอกว่าก่อนหน้านี้เราเป็นแค่เพื่อนกันมาตลอด แต่จู่ๆจะให้เลื่อนเป็นสามีภรรยากันเลยลินก็คงจะลำบากใจไม่น้อย แต่ผมไม่ย่อท้อแน่นอนครับคุณแม่ ยังไงสุดท้ายแล้วผมกับลินก็ต้องได้แต่งงานกัน" "มั่นใจเกินไปนะ" "มันเรื่องจริงต่างหาก ว่าแต่ผมขออนุญาตไปหาลูกก่อนกลับบ้านได้ไหมครับ" "ได้สิลูกเขยของแม่" แม่ของหญิงสาวยิ้มตาหยีให้กับว่าที่ลูกเขยอย่างเต็มใจ ดูก็รู้ว่าดีใจขนาดไหนที่รู้ว่าพ่อของหลานเป็นชายหนุ่ม "คุณแม่!" "ฮ่าๆหรือไม่จริงละ" คนเป็นแม่แซว "ยังไม่จริงค่ะ" "แม่ว่าอีกไม่นานหรอก อย่าเล่นตัวมากนักละเดี๋ยวตาภัทรจะเปลี่ยนใจเอา" "คุณแม่! นี่ลินลูกคุณแม่นะคะ ทำไมคุณแม่ถึงไม่เข้าข้างลินบ้างเลยละคะ" แม่ของเธอคงจะหลงภัทรหนักเอาการเลย "เพราะเรามันดื้อไง ชอบเก็บความรู้สึก แล้วก็ยังชอบคิดแทนคนอื่นด้วย" "หึ งอนคุณแม่แล้ว" หญิงสาวหน้ามุ่ยเพราะถูกขัดใจ "ตายๆ โตจนเป็นแม่คนแล้วยังจะมางอนแม่เหมือนเด็กๆไปได้" คนเป็นแม่ส่ายหัวไปมา แม้ปากจะบอกออกไปอย่างนั้นแต่เธอก็ยังคิดว่าลูกของเธอเป็นเด็กอยู่ดีนั่นแหละ เป็นเด็กเสมอในสายตาพ่อและแม่ วันนี้ชายหนุ่มออกมาทำงานด้วยใบหน้าที่ดูสดใสร่าเริงเพราะเมื่อคืนหญิงสาวบอกฝันดีเขาก่อนจะกลับบ้าน จนเจ้าหน้าที่หลายๆคนอดแปลกใจไม่ได้ที่คุณหมอดูมีความสุขจนมันล้นออกมายังสีหน้า "สวัสดีครับหมอภัทร มีอะไรดีๆเกิดขึ้นหรือเปล่าครับเนี่ย วันนี้ดูมีความสุขกว่าทุกวันเลย" ก็แน่ละสิ เขาทนทุกมานานหลังจากที่ถามข่าวเรื่องหญิงสาวแอบซ่อนลูกของเขาไว้ แต่ว่าตอนนี้เขาสามารถเข้าออกบ้านของเธอเพื่อไปหาลูกได้นั่นย่อมเป็นความสุขอย่างหนึ่ง แม้ใจอยากจะเข้าหาแม่ของลูกด้วยก็ตาม "นิดหน่อยน่ะครับ ขอตัวก่อนครับ" เมื่อชายหนุ่มเดิรจากไปก็เริ่มมีคนซุบซิบเรื่องของเขาทันที "ฉันว่าคุณหมอต้องมีแฟนแน่ๆเลย" "ฉันก็ว่าใช่ไม่งั้นคงไม่ยินหน้าบานมาขนาดนี้" "เขาว่ากันว่าเวลาคนมีความรักอะไรก็สดใสไปเสียหมด ใครจะว่ายังไงก็ไม่โกรธ เพราะใจมันแฮปปี้ม๊ากมาก" "ฮ่าๆ เห็นแล้วฉันละอยากมีความรักกับใครเขาบ้างเลย" "แค่เธอเริ่มเปิดใจก็พอจ้ะ ที่คุยๆก็คงมีดีสักคนละม้าง" "แรงมากแม่ เจ๊อ่ะ" 1 ปีผ่านไป ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาชายหนุ่มทุ่มเททำงานควบคู่ไปกับการเข้าไปดูแลหญิงสาวและลูกชาย จนตอนนี้ตาภีมเริ่มติดผู้เป็นพ่อจนไม่อยากให้ชายหนุ่มไปไหน จากความรู้สึกขัดเขินกลายเป็นเคยชินและผูกผัน "แม่คร๊าบบ" "ว่าไงครับลูก" "คุณพ่อเมื่อไรจะมาครับ" "คุณพ่อติดงานเดี๋ยวคุณพ่อก็มานะครับ" "แม่ครับ" "ว่าไงลูก" "ทำไมคุณพ่อถึงไม่มาอยู่กับเราหรอครับ คุณพ่องานยุ่งตลอดเลย" "หนูเข้าใจพ่อเขาหน่อยนะลูก" "..." "เดี๋ยวแม่พาหนูไปเที่ยวดีไหมลูก อยากไปไหนครับ" "อยากไปทะเลครับ" "ทะเลหรอลูก หนูรู้จักทะเลด้วยหรอครับ" "ทีวีครับ คุณยายเปิดให้ดู" "โอเคครับ พรุ่งนี้เราไปกันเลยไหมครับ" "เย้ๆ รักแม่คร๊าบบ" "ปากหวานจริงๆเลยลูกแม่" ในเช้ามืดวันรุ่งขึ้นทั้งสองออกเดินทางไปเที่ยวทะเลครั้งแรกด้วยกัน หญิงสาวจองที่พักริมชายหาดไว้หนึ่งหลัง สามารถมองเห็นและเดินลงไปเล่นน้ำทะเลได้อย่างง่ายดาย เมื่อมาถึงก็ทำการเช็คอินเข้าพัก จัดเก็บกระเป๋าให้เข้าที่เข้าทาง จากนั้นเธอกะว่าจะพาหนุ่มน้อยลงไปทานข้าวเสียหน่อย แต่พอหันกลับไปดู ก็พบว่าน้องภีมได้นอนหลับไปซะแล้ว เธอจึงเปลี่ยนแผนให้เขามาเสริฟ์อาหารที่ห้องแทน เพราะเธอคิดว่าลูกเองคงจะเหนื่อยกับการเดินทาง ด้านของชายหนุ่มที่ทำการผ่าตัดอย่างต่อเนื่องมาหลายชั่วโมง เมื่อเสร็จภารกิจมีเวลาเป็นของตัวเองแล้วก็รีบต่อสายหาลูกรักทันที แต่ติดต่อเท่าไรก็ติดต่อไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจโทรไปที่บ้านของหญิงสาวแทน และได้ความว่าทั้งสองไม่อยู่บ้าน ออกไปทะเลกันตั้งแต่เช้ามืดแล้ว ทำไมไม่บอกเขาบ้างนะ เขาก็อยากไปด้วยนี่หน่า ทำไมวันนี้ภัทรยังไม่โทรมาหาเธอเลยนะ แปลกจัง หญิงสาวเริ่มรู้สึกแปลกๆเพราะปกติถ้าชายหนุ่มไม่มาหาก็จะต้องโทรมาสอบถามนู้นนี่นั่นอยู่เสมอ แต่วันสองวันนี้เงียบหายไปเลย เธอจึงหยิบโทรศัพท์ของตนมาดูแล้วก็ต้องเข้าใจว่าเหตุใดเขาจึงไม่โทรหาเธอ แบตมือถือของเธอหมดนี่เอง จึงรีบนำไปชาร์จแบตทันที เมื่อลองเช็คอีกครั้งก็พบว่าภัทรโทรมาแล้ว โทรมาถึงสี่สายเลย คงจะงงว่าเธอกับลูกหายไปไหนแน่ๆ 30 นาทีผ่านไป "ก๊อกๆ" "เชิญค่ะ" อาหารมาเสริฟ์พอดีเลย เธอว่าเธอจะทานก่อนลูก เพราะเวลาลูกทานเธอจะได้ดูแลเขาได้อย่างเต็มที่ หญิงสาวใช้เวลาไม่นานก็ทานจนหมด และเสียงสวรรค์ก็เรียกเธอทันที "คุณแม่คร๊าบบบบ ฮือออ คุณแม่อยู่ไหน" เป็นธรรมดาที่เวลาตื่นมาแล้วไม่เจอใครจะร้องไห้และยิ่งแปลกที่ก็คงจะยิ่งกลัว "อยู่นี่ลูก แม่อยู่นี่ หนูหิวหรือยังครับ" "หม่ำๆ" "ใช่ลูก ไปหม่ำๆกันนะ" ลูกชายของเธอใช้เวลาในการทานอาหารพอสมควรเพราะมีนิสัยจะติดเล่นเสียมากกว่า แต่เธอโชคดีตรงน้องภีมเป็นเด็กกินง่ายและกินผักด้วย ชอบผักเป็นชีวิตจิตใจนั่นอาจจะเป็นเพราะเธอสอนอยู่เสมอว่าผักมีประโยชน์ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหาร เพราะเด็กทั่วๆไปมักไม่ชอบทานผัก เธอยังบอกอีกว่าถ้ากินอาหารที่มีประโยชน์รวมถึงผัก น้องภีมก็จะสามารถโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่แบบพ่อของตนได้ หนุ่มน้อยเลยเลือกที่จะทานตามที่เธอแนะนำ "ก๊อกๆ" "ใครมากันนะ ฉันไม่ได้สั่งอะไรนี่หน่า" "หนีมาเที่ยวไม่ยอมบอกกันบ้างเลยนะลิน" "ภัทร! มาได้ไงเนี่ย" "มาเครื่องบินน่ะสิ อยากให้มาถึงเร็วๆ" "แม่คร๊าบบ ใครมาครับ" เสียงเจ้าลูกชายที่เขาแสนจะคิดถึง ร้องเรียกมาจากด้านในทำให้เขาคิดอยากจะฟัด พุงกลมๆนั่นเหลือเกิน "จะไม่ให้ภัทรเข้าไปหรอลิน" "อะ อ้าว เข้ามาก่อน" ชายหนุ่มเดินเข้ามาพร้อมสัมภาระต่างๆของตน จนหญิงสาวต้องรีบร้องทัก "ภัทร ขนอะไรมาเนี่ย ภัทรจะค้างหรอ" "ใช่น่ะสิ" "แต่ที่นี่มีห้องนอนเดียวจะนอนยังไงละ" "ภัทรไม่รู้ ภัทรจะนอนด้วยละกัน สามคนอบอุ่นดีเนาะ" พูดจบก็รีบเดินหนีไปหาลูกชายทันที "คุณพ่อ! คุณพ่อมาได้ยังไงครับ" "เพราะพ่อคิดถึงภีมไงครับ พ่อเลยมาหา" "ทำไมเมื่อวานคุณพ่อไม่มาหาภีมครับ" "พ่อขอโทษนะลูก พ่อมีผ่าตัดคนไข้ด่วน ทำให้ไม่ทันได้ติดต่อภีมกับแม่เลย คิดถึงพ่อบ้างหรือป่าวเนี่ย" "คิดถึงคร๊าบบ" เจ้าหมูน้อยโน้มตัวใส่ผู้เป็นพ่อจนเขายังแอบเซเพราะน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นของลูก "แล้วแม่ลูกเขาคิดถึงพ่อหรือป่าว" ชายหนุ่มแอบกระซิบข้างหูคนเป็นลูก "แม่คร๊าบบ" "ว่าไงลูก" "แม่คิดถึงพ่อเหมือนภีมหรือป่าวคร๊าบ" "อะ เอ่อแม่ เอ่อ.."
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD