8
ไม่มีทางให้เลือก
อัญชันกลับมาถึงบ้านก็ต้องตกใจกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเพราะมีชายสี่คนกำลังล้อมพ่อกับแม่แล้วก็น้องสาวของเธอไว้พร้อมกับกำลังทำร้ายพ่อของเธอด้วยการต่อย
“นี่หยุดนะอย่าทำอะไรพ่อของฉันนะ” อัญชันที่กำลังจะวิ่งเข้าไปห้ามก็โดนผู้ชายพวกนั้นมาจับเธอไว้ส่วนผู้ชายอีกคนก็ชกพ่อของเธอหนึ่งทีก่อนจะพูดขึ้นมาเสียงดัง “ถ้าอีกสามวันพวกมึงยังหาเงินมาคืนไม่ได้เตรียมตัวตายกันทั้งครอบครัวได้เลย” แล้วผู้ชายกลุ่มนั้นก็ออกไปจากบ้าน
“พ่อคะพ่อเป็นอะไรหรือเปล่า แล้วทำไมคนพวกนั้นต้องมาทำร้ายพ่อด้วยคะ” อัญชันพูดออกมาทั้งน้ำตาเพราะเธอรู้สึกสงสารพ่อกับแม่แล้วก็น้องของเธอที่ต้องมาเจออะไรอย่างนี้
“พ่อไม่ได้เป็นอะไรแต่ถ้าต่อไปพ่อหาเงินมาคืนมันไม่ได้พ่อต้องโดนพวกมันฆ่าแน่ๆ พ่อขอโทษนะลูกที่ทำให้ครอบครัวของเราต้องมาเจออะไรอย่างนี้” อนันต์พูดพร้อมกับทำหน้ารู้สึกผิดที่เขาไม่สามารถเป็นพ่อที่แข็งแกร่งและดูแลครอบครัวได้ไม่ดีเท่าที่ควร
“พ่ออย่าพูดอย่างนั้นสิคะหนูกับพี่รักพ่อนะคะพ่อเลี้ยงหนูกับพี่อัญชันมาอย่างดีพ่ออย่าโทษตัวเองเลยนะคะ” พวงชมพูพูดออกมาทั้งน้ำตาด้วยความสงสารพ่อ
“ถ้าอย่างนั้นอัญชันจะยอมแต่งงานอย่างที่พ่อกับแม่ต้องการถ้าการเสียละครั้งนี้จะทำให้พ่อกับแม่แล้วก็น้องไม่ต้องมาเจออะไรอย่างนี้” อัญชันไม่ได้อยากทำอย่างนั้นแต่เธอต้องทำด้วยความจำเป็น อนันต์และเบญจมาศได้ยินที่ลูกสาวเอ่ยออกมาอย่างนั้นทั้งสองก็มองหน้ากันอย่างไม่น่าเชื่อว่าอัญชันจะยอมง่ายๆ อย่างนี้
“อัญชันพ่อกับแม่ขอโทษนะลูกที่ให้ลูกทำอย่างนี้พ่อกับแม่นี่เหมือนพ่อกับแม่ที่ขายลูกกินน่าอายเหลือเกิน” เบญจมาศพูดพร้อมกับหลั่งน้ำตาออกมาอย่างหนัก
“แม่อย่าร้องไห้เลยค่ะพ่อกับแม่ทำเพื่อหนูมามากแล้วแต่งงานคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงของหนูหรอกคะ” ทั้งสี่คนพ่อแม่ลูกกอดกันกลมทั้งน้ำตา
คีตะวันออกไปท่องราตรีได้ไม่กี่วันเงินที่เขามีก็เริ่มหมดลงแล้ว วันนี้คีตะวันก็ออกมาเที่ยวอย่างเช่นทุกวันเขามาพร้อมกับเพื่อนอีกหลายคนและวันนี้เขาก็พาสาวสวยคนใหม่มานั่งดื่มด้วยกันครั้งแรก การดื่มด่ำแสงสีเสียงผ่านไปจนถึงเวลาที่ร้านกำลังจะปิดพนักงานสาวคนหนึ่งเดินมาที่โต๊ะพร้อมกับบิลค่าเครื่องดื่มค่าอาหารซึ่งวันนี้คีตะวันใจป๋าบอกกับทุกคนว่าเขาจะเลี้ยงเอง
“ค่าอาหารเครื่องดื่มทั้งหมด สี่หมื่นแปดพันบาท” พนักงานพูดจบคีตะวันก็ตกใจจากที่เมาๆ เขาก็ตาสว่างขึ้นมาทันทีเพราะพวกเพื่อนๆ ที่มาสั่งไวน์ราคาแพงมาดื่มกันหลายขวด
“ทุกคนไม่ต้องห่วงวันนี้เสี่ยคีย์เลี้ยงเอง” เพื่อนคนหนึ่งของคีตะวันพูดขึ้นมาพร้อมกับชวนเพื่อนร้องชื่นชมในความใจป๋าของคีย์ตะวัน
“พวกเราขอบคุณเสี่ยคีย์หน่อยเร็ว” เสียงปรบมือชื่นชมคีย์ตะวันเสียงดังไปทั่วร้าน
คีตะวันเริ่มสีหน้าเปลี่ยนเมื่อเขาเปิดดูเงินในบัญชีมีอยู่แค่หนึ่งหมื่นห้าพันบาทเท่านั้น คีตะวันจึงบอกให้ทุกคนกลับไปก่อนเดี๋ยวเขาเคลียร์ยอดเอง
“ทุกคนกลับกันก่อนได้เลยนะเดี๋ยวเรื่องค่าอาหารเครื่องดื่มจะจัดการเอง” ทุกคนต่างขอบคุณเขาก่อนจะเดินออกจากร้าน
“พี่คีย์คะรีบๆ จ่ายสิคะลิลลี่อยากไปต่อที่ห้องของพี่คีย์ใจจะขาดอยู่แล้ว” สาวนมโตที่คีตะวันควงมาในวันนี้รีบเร่งให้เขาจ่ายค่าเครื่องดื่ม
“ไอ้คีย์ทำไมมึงทำหน้าอย่างนั้นวะ” พีชเพื่อนของคีตะวันพูดขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนของเขากำลังซีดๆ อย่างเห็นได้ชัดเพราะโดยปกติแล้วคีตะวันเป็นคนที่จ่ายเร็วมากๆ
“มึงมีสักห้าหมื่นมั้ยว่ะกุยืมก่อนได้มั้ยพอดีกูหยิบมือถือมาผิดเครื่อง เครื่องนี้ไม่มีแอพจ่าย” คีตะวันหาทางออกเอาตัวรอดไปอย่างน้ำขุ่นๆ
“บัตรมึงก็ไม่ได้เอามาหรือไงที่ร้านก็รูดได้นะ ปกติมึงก็รูดบัตรไม่ใช่หรือไง” พีชพูดพร้อมกับมองหน้าของคีตะวันเพราะตั้งแต่เป็นเพื่อนเที่ยวกับคีตะวันมาเขาไม่เคยเป็นอย่างนี้
“กูลืมเอามา มาให้กูยืมก่อนเดี๋ยวกูโอนคืน” ลิลลี่ที่หวังจับคีตะวันก็เริ่มรู้สึกอย่างถอยห่างๆ ซะแล้วเพราะเงินแค่ห้าหมื่นยังต้องยืมเพื่อน
“กูไม่มีเลยว่ะเพื่อน เมียโทรตามแล้วกูไปกลับก่อนนะ” พีชทำทีเป็นยกมือถือขึ้นมาคุยทั้งๆ ที่ไม่มีใครโทรเข้ามาเลยแม้แต่สายเดียว
“อย่าพึ่งไปสิวะไอ้พีชกูยืมวันนี้พรุ่งนี้กูก็คืนแล้ว” คีตะวันตะโกนตามหลังของเพื่อนแต่เพื่อนก็ไม่แม้จะหันกลับมามองเขา
“พี่คีย์อย่าบอกนะว่าพี่คีย์ไม่มีเงิน เงินแค่นี้ก็ยืมเพื่อนไม่มีแล้วยังใจป๋าเลี้ยงคนอื่นน่าสมเพช” ลิลลี่พูดจบก็เดินไปจากตรงนั้นทันที คีตะวันนั่งจมอยู่กับสิ่งที่เขาควรจะรู้มาตั้งนานแล้วว่าไม่มีใครจริงใจหรือเป็นเพื่อนเขาจริงๆ ก็วันนี้วันที่เขาไม่มีเงิน
“คุณลูกค้าว่ายังไงคะจะจ่ายได้ตอนไหนคะเพราะตอนนี้ร้านของเราต้องปิดแล้วค่ะรบกวนคุณลูกค้าชำระภายในสิบนาทีนะคะ” พนักงานสาวเดินมาบอกหลังจากที่เขาบอกว่าขอเวลาสิบนาทีและตอนนี้มันก็ผ่านไปสิบนาทีแล้ว
คีตะวันตัดสินใจโทรหาพ่อกับแม่เพื่อให้โอนเงินมาให้เขาพร้อมกับคำสัญญาของเขาที่บอกว่าเขาจะยอมแต่งงานตามที่พ่อกับแม่ต้องการ เมื่อพ่อกับแม่ได้ยินอย่างนั้นก็ยอมโอนเงินาให้คีตะวันพร้อมกับบันทึกเสียงที่เขาสัญญาว่าจะทำตามที่พ่อกับแม่ต้องการ
คีตะวันออกจากร้านมานั่งในรถพลางคิดไปเรื่อยเปื่อยก่อนจะเหยียบคันเร่งออกจากหน้าร้านไปคนเดียวเงียบๆ สิ่งที่คีตะวันรู้สึกในตอนนี้คือในยามที่เขาไม่มีเงินเขาก็ไม่ได้มีค่าสำหรับใครสักคน