4
ปัญหาของครอบครัวที่อัญชันไม่รู้
อัญชันไปซื้อนาฬิกาเป็นเพื่อนมิ้งค์ เธอเลยตั้งใจซื้อนาฬิกาเพื่อเป็นคนของขวัญวันเกิดให้กับโดมที่จะถึงในกี่วันข้างหน้า มิ้งค์กำลังหนักใจว่าจะเลือกเรือนไหนดีจึงให้อัญชันเป็นคนช่วยเลือกให้
“อัญชันเธอว่าเรือนไหนดี ฉันเลือกไม่ถูกเลยระหว่างเรือนนี้กับเรือนนี้” มิ้งค์ยกนาฬิกาสองเรือนให้อัญชันช่วยเลือก
“ถ้าแกจะซื้อให้พี่มอสฉันว่าเรือนหน้าปัดเรียบ ๆ น่าจะเหมาะกับผู้ชายมากกว่า” อัญชันชี้ไปที่นาฬิกาเรือนที่หน้าปัดเรียบเพื่อให้ความคิดเห็นกับมิ้งค์ก่อนที่เธอจะหันไปเลือกนาฬิกาเพื่อนำไปเป็นของขวัญให้กับโดม
“ว้าว! แกซื้อนาฬิกาให้พี่โดมราคาเป็นแสนเลยหรอเนี่ย นาฬิกาห้าหมื่นของฉันก็ดูเบาไปเลยนะเนี่ย” มิ้งค์พูดพร้อมกับยืนมองนาฬิกาที่เธอเลือก
“แค่นี้ยังน้อยไปสำหรับความรักที่ซื่อสัตย์ที่พี่โดมมอบให้กับฉัน” อัญชันพูดยิ้มๆ ก่อนจะยื่นบัตรเครดิตให้พนักงานเพื่อรูดจ่ายค่านาฬิกาที่เธอเลือก
“แต่ก็จริงอย่างที่แกว่าถ้าฉันมีแฟนดีๆ อย่างพี่โดมฉันก็คงซื้อให้เหมือนกันเพราะแฟนของแกทั้งหล่อนิสัยดีไม่เจ้าชู้อีกด้วย” มิ้งค์พูดพร้อมกับ
“คุณลูกค้าคะไม่ทราบว่าคุณลูกค้ามีบัตรใบอื่นนอกจากบัตรใบนี้หรือเปล่าคะพอดีว่าบัตรใบนี้ไม่สามารถรูดสินค้าได้ค่ะ” พนักงานเดินมาบอกพร้อมกับยื่นบัตรเครดิตคืนให้กับอัญชัน
“ไม่มีแล้วค่ะพอดีว่าวันนี้ถือมาแค่ใบเดียว ถ้าอย่างนั้นก็เอาไว้ก่อนก็ได้ค่ะ” อัญชันพูดพร้อมกับรับบัตรคืนมาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไร
“หรือว่าคุณพ่อกับคุณแม่ว่าฉันใช้เงินเยอะไปเลยตัดบัตรเครดิตฉัน” อัญชันพูดกับมิ้งค์อย่างสงสัย
“ถ้าอย่างนั้นฉันยังไม่ซื้อเรือนนี้ดีกว่าไว้ค่อยมาซื้อกับแกใหม่วันหลังวันนี้เราไปหาอะไรกินอร่อยๆ กันดีกว่า” มิ้งค์พูดจบก็จูงมือของอัญชันเดินตามหาร้านอาหารเพื่อกินอาหารเย็นด้วยกัน
“เรากินชาบูกันดีมั้ย” อัญชันชี้ไปที่ร้านชาบูก่อนจะเดินเข้าไปทันที
“อัญชันแกเข้าไปรอฉันในร้านก่อนนะเดี๋ยวฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ แกเข้าไปนั่งรอเลยถ้าไปพร้อมกันเดี๋ยวโต๊ะไม่ว่าง” อัญชันพยักหน้าก่อนจะเข้าไปนั่งรอข้างในร้าน
ที่บ้านของคีตะวัน
หลังจากที่คีตะวันกับพอลล่าขับรถเฉี่ยวชนรถของอัญชันพ่อของอัญชันที่รู้จักครอบครัวของคีตะวันเป็นอย่างดีจึงเข้าไปคุยกับที่บ้านของคีตะวัน
“เรื่องค่าเสียหายที่ลูกชายของผมทำไปเดี๋ยวผมให้คนจัดการค่าซ่อมค่าเสียหายทั้งหมดให้นะครับพี่อนันต์” ‘คมสันต์’ พ่อของคีตะวันพูดกับอนันต์พ่อของอัญชัน
“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลไปหรอกที่พี่อยากรบกวนคือเรื่องที่พี่จะซื้อหุ้นบริษัทของผมแล้วก็ช่วยกู้สถานการณ์ของบริษัทที่ตอนนี้เลวร้ายเหลือเกิน” อนันต์พูดพร้อมกับทำสีหน้าและแววตาที่ดูเป็นกังวล
“เรื่องนั้นพี่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ ผมขอเวลาพี่สามวันเพราะตอนนี้ภรรยาของผมยังไม่กลับจากไปเที่ยวต่างประเทศอีกสองวันน่าจะกลับแล้วเมื่อนั้นผมจะให้คำตอบกับพี่ไดแต่พี่ไม่ต้องกังวลเพราะผมมั่นใจว่า ‘แพรพิไล’ ต้องช่วยพี่อย่างแน่นอนเพราะพี่ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลเมื่อตอนที่ครอบครัวของผมลำบากพี่ก็เคยช่วยครอบครัวของผมไว้” คมสันต์ยื่นเงินก้อนหนึ่งให้อนันต์
“เงินอะไรพี่รับไว้ไม่ได้หรอก” อนันต์ที่เห็นเงินก้อนใหญ่ก็ถามคมสันต์ทันที
“เงินค่าทำขวัญลูกสาวของพี่ที่ลูกชายของผมได้ทำให้ลูกสาวของพี่ตกใจ”
“มันมากไปคมสันต์พี่รับไว้ไม่ได้หรอก” อนันต์ปฏิเสธที่จะรับเงินนั้นแม้ว่าตอนนี้ครอบครัวของเขากำลังลำบากมากๆ
“รับไว้เถอะพี่ แค่นี้ยังน้อยไปสำหรับสิ่งที่ลูกชายของผมทำไว้โชคดีแค่ไหนที่ลูกสาวของพี่ไม่เป็นอะไร” อนันต์จึงยอมรับเงินก้อนนั้นไว้เขาแทบอยากร้องไห้เพราะตอนนี้ครอบครัวของเขาแทบไม่เหลืออะไรแล้ว
“ขอบใจมากนะคมสันต์” อนันต์พูดจบคมสันต์ก็พูดถึงเรื่องราวในอดีตที่ครอบครัวของคมสันต์ตกทุกได้ยากลลำบากมากๆ ในตอนนั้นถ้าไม่ได้อนันต์ยื่นมือเข้ามาช่วยป่านนี้ครอบครัวของเขาคงมาสุขสบายอย่างวันนี้
ห้างสรรพสินค้า
‘เบญจมาศ’ แม่ของอัญชันกำลังเดินเข้าไปในร้านทองเพื่อนำทองที่เขาสะสมมานานมาจำนำเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพราะตอนนี้ครอบครัวกำลังลำบากมากๆ อัญชันที่กินชาบูกับมิ้งค์อิ่มแล้งก็กำลังจะกลับบังเอิญว่าอัญชันเหลือบไปเห็นแม่ของเธอ
“นั้นมันแม่ของฉันนี่นา แม่มาทำอะไรที่ร้านทองอย่าบอกนะว่าแม่มาซื้อทองไปเก็บไว้ยังเยอะไม่พออีกหรือเนี่ย” อัญชันที่คิดว่าแม่ของเธอมาซื้อทองเพื่อนำไปเก็บไว้เหมือนหลายๆ ครั้งที่เธอเคยมาซื้อกับแม่
“คุณแม่สวัสดีค่ะ” มิ้งค์ยกมือไหว้ทักทายเบญจมาศอย่างอ่อนน้อมตามมารยาท
“สวัสดีจ๊ะมิ้งค์ไม่เจอกันนานเลย” เบญจมาศคุ้นเคยกับมิ้งค์เป็นอย่างดีเพราะมิ้งค์คือเพื่อนคนเดียวที่อัญชันพามาที่บ้านบ่อยมากๆ
“แม่ขาแม่มาทำอะไรที่ร้านทองคะ แอบพ่อมาซื้อทองหรอค่ะ” อัญชันเดินไปหาแม่พร้อมกับถามทันทีไม่ทันที่เบญจมาศจะได้ตอบอะไรกับลูกสาวของเธอพนักงานร้านทองก็พูดขึ้นมาก่อนแต่สิ่งที่อัญชันได้ยินไม่เป็นไปตามอย่างที่เธอคิด
“คุณลูกค้าคะทองที่นำมาจำนำได้เงินทั้งหมดห้าแสนบาทนะคะ นี่คือรายละเอียดที่ลูกค้าต้องมาชำระแต่ละเดือนนะคะ” สิ้นสุดเสียงของพนักงานก็ทำอัญชันมองหน้าแม่พร้อมกับคำถามมากมาย
อัญชันกลับบ้านกับแม่ส่วนมิ้งค์ก็ขับรถกลับบ้านคนเดียว ในระหว่างทางกลับบ้านอัญชันนั่งนิ่งๆ อย่างใช้ความคิดว่าทำไมแม่ของเธอถึงได้นำทองไปจำนำทั้งๆ ที่ครอบครัวของเธอก็ไม่ได้ยากลำบากเงินทองก็มีมากมายนั่นคือสิ่งที่อัญชันเข้าใจแต่ความเป็นจริงไม่ใช่อย่างที่อัญชันเข้าใจเลยแม้แต่น้อย