พรึ่บ...ร่างสูงกำยำลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง ฉันรีบก้มหน้าลงต่ำเมื่อเห็นสภาพเต็ม ๆ เขาแล้วว่ามันไม่น่ามอง
ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าเขาไม่ได้สวมเสื้อและตรงหน้ามีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง แต่ไม่คิดว่าท่อนล่างเขาจะใส่แค่กางเกงว่ายน้ำที่รัดติ้วจนเห็นแก้มก้นชัดเต็มสองตาขนาดนี้
"สิ่งที่จะใช้ค้ำประกันหนี้ครั้งนี้ได้ต้องเป็นสิ่งมีชีวิต เดินเหินสะดวก และที่สำคัญต้องเป็นเพศเมีย" จากใบหน้าที่ก้มต่ำรีบเงยขึ้นสบตาคนตรงหน้าทันที
"คุณต้องการ..." ฉันไม่อาจเอ่ยคำต่อไปออกมาได้ เมื่อสายตาปะทะเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่มันสะดุดตาตรงเป้ากางเกง
อึก อึก อึก น้ำลายหนืด ๆ ถูกกลืนอย่างยากลำบากอีกครั้ง ก่อนจะรู้ตัวว่าเผลอมองอะไรก็สายไปเสียแล้วเมื่อเสียงเข้มเอ่ยขึ้น
"ท่าทางเธอจะมีสิ่งค้ำประกันนั้นอยู่นะ ดูสิ แค่เห็นภายนอกก็หน้าแดงขนาดนี้แล้ว" ในน้ำเสียงเขามีความขบขันอยู่ระดับสิบ
"ปะ เปล่านะคะ ข้าวไม่ได้ตั้งใจมอง"
ทำไมสายตาเธอถึงได้ไปโฟกัสเอาส่วนนั้นด้วยนะ!
"อ้อ ไม่ต้องปฏิเสธ เพราะลูกชายฉันมักสะดุดตาของสาว ๆ อยู่ประจำ"
ฉ่า~ ตอนนี้หน้าฉันคงจะแดงเอามาก ๆ เพราะรู้สึกแก้มร้อนไปหมดทั้งสองข้าง
"ละ เลิกพูดเรื่องพวกนี้เถอะค่ะ สรุปว่า คุณต้องการให้ข้าวเอาอะไรมาค้ำประกันกันแน่" ไม่กล้ามองหน้าเขา เอาแต่บังคับสายตาให้มองมาที่ปลายเท้าตัวเอง
แม้ในใจอยากจะมองหน้าคนตรงหน้าให้ชัด ๆ ไปเลยแต่เพราะการโฟกัสครั้งแรกที่ผิดพลาดเลยทำให้ไม่กล้าเงยขึ้นไปมองคนที่สนทนาโต้ตอบกันสักนิด
"นี่ยังไม่เข้าใจอีก?" ฉันมองเห็นเงาตะคุ่ม ๆ ที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้า ตอนนี้แดดแรงมากทำให้เงานั้นชัดและโดดเด่น
เขาคงยืนห่างฉันแค่นิดเดียวเพราะรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายอันตรายของผู้ชายคนนี้ได้อย่างชัดเจน หมับ! "อ้ะ!" ฉันสะดุ้งโหยง
เมื่อจู่ ๆ ก็ถูกจับปลายคางให้เงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่ให้ตั้งตัว
กึก... ครั้งนี้ไม่ต้องกลัวจะโฟกัสผิดที่แล้วเพราะสองตาฉันมองเห็นใบหน้าเขาอย่างชัดเจน ผู้ชายผมสีแดงเพลิงคนนี้ถ้าคนปกติทั่วไปทำสีผมเลียนแบบเขาคงตายยกรังหมาเห่าทั้งซอย
แต่ผู้ชายคนนี้ที่มีเครื่องหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรมาจุติ ดวงตาเรียวยาว นัยน์ตาสีดำคมเข้ม คิ้วหนาดกดำโก่งโค้งรับรูปหน้า สันจมูกโด่งรั้นรับกับกลีบปากหยักลึกสีแดงติดคล้ำหน่อย ๆ จากการดูดบุหรี่หนัก
เครื่องหน้าทุกอย่างถูกจัดวางได้ลงตัวจนฉันที่ไม่เคยบ้าผู้ชายทั่วไปมาก่อนนอกจากอปป้าเกาหลี และเป็นแม่ยกหนุ่มจีนถึงกับตาค้างกับคนตรงหน้าได้อย่างง่าย
"หึ!" เสียงขำน้อย ๆ ดังขึ้น พร้อมใบหน้าฉันที่สะบัดเบา ๆ จากการถูกมือหนาปล่อยปลายคางให้เป็นอิสระ
"ดูสายตาเธอแล้ว คงกลืนกินฉันได้ไม่ยาก งั้นฉันจะยอมประนอมหนี้ให้เธอก็ได้"
"จะ จริงเหรอคะ" รีบโพล่งออกไปด้วยความดีใจ
"..." สายตาคมมองกลับมา ในนั้นมีประกายเจ้าเล่ห์ซุกซ่อนอยู่จนฉันรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่าง "แต่การประนอมหนี้ครั้งนี้ต้องมีดอก"
ดอกเบี้ย? แค่เงินจำนวนนี้ที่พวกเขาโกงขึ้นก็มากพอแล้ว ยังมาคิดดอกเบี้ยเพิ่มอีกโหดร้ายเกินไปหรือเปล่า
"ข้าวเพิ่งรู้ว่าติดหนี้พนันเวลาเรียกเก็บมีดอกเบี้ยด้วย" เหน็บแนมเบา ๆ
"ใครบอกว่าแค่หนี้พนัน พ่อเลี้ยงเธอเป็นคนมายืมเงินก้อนนั้นเองนะ แบบนี้ก็เหมือนฉันปล่อยกู้ แล้วการปล่อยกู้ก็จำเป็นต้องมีดอก"
ทำยังไงดียัยข้าว แค่ล้านเดียวยังไม่รู้จะใช้คืนหมดเมื่อไหร่ จู่ ๆ มีดอกเพิ่มมาอีกซึ่งยังไม่รู้ยอดแต่ถ้าให้เดาจำนวนก็ไม่น่าจะน้อยไปกว่าเงินต้นเท่าไหร่นัก
"ดะ ดอก เท่าไหร่คะ" ครั้งนี้เสียงฉันติดขัด
แค่หายใจและเปล่งเสียงต่อไปได้ก็บุญแค่ไหนแล้วเถอะ
"อืม..." คนตรงหน้าไม่ตอบคำถาม เขาเอาแต่จ้องมาทางฉันราวกำลังใช้ความคิด
"คัพอะไรเรา"
"คะ?"
"ถ้าให้เดาทางสายตา น่าจะคัพบี"
หมับ!!
ด้วยถ้อยคำหยาบคายที่มาวิจารณ์ร่างกายคนอื่นอย่างหยาบกระด้างทำให้ฉันรีบยกมือขึ้นกอดหน้าอกตัวเองไว้ แต่ทำไมยิ่งกอด ถึงยิ่งรู้สึกว่าสายตาคมคู่นั้นกำลังเผาผลาญสแกนร่างกายฉันได้ดียิ่งกว่าเดิม
"ไอ้ไจ๋ ปกติคัพบีกูคิดดอกกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินต้นวะ"
คนหัวแดงเพลิงไม่สนใจท่าทางหวาดระแวงของฉันสักนิด เขาหันไปถามลูกน้องคนสนิท(เดาเอา) "ปกติลูกหนี้นายคัพบีมีน้อยมาก"
"งั้นเหรอ กูก็ว่ากูไม่เคยเห็นอกไข่ดาวแบบนี้มาก่อน"
"นี่คุณ!" ฉันแหวใส่เขาทันทีที่กล้ามาพูดจาดูถูกคนอื่นแบบนี้
"ทำไม ไม่พอใจ?" ใบหน้ายียวนเอ่ยถามอย่างไม่รู้สึกรู้สา
"..." ฉันได้แต่กัดฟันกรอด ๆ เพราะไม่กล้าพูดอะไรรุนแรงออกไปอีกกลัววัตถุมันวาวที่วางอยู่ตรงหน้าไม่กี่ก้าวจะลั่นเอา
"ในเมื่อปกติฉันรับแต่ผู้หญิงนมโต ไปงั้นเธอที่กล้ามาขอผ่อนผันหนี้ถึงถิ่น ฉันก็จะไม่ใจร้าย คิดดอกเธอเพิ่มสิบเปอร์เซ็นต์แล้วกัน"
"สิบเปอร์เซ็นต์!" ถึงกับอ้าปากค้าง หนี้ก้อนนั้นหนึ่งล้าน สิบเปอร์เซ็นต์ของหนึ่งล้านก็เท่ากับ... "หนึ่งแสนบาท ไม่มากเกินไปเหรอคะ"
"คุณข้าวฟ่างควรเงียบดีกว่านะครับ ไม่งั้นดอกอาจจะเพิ่มได้"
นายไจ๋เตือนฉัน แต่คิดว่ามันยุติธรรมแล้วเหรอกับดอกเบี้ยที่แสนแพงสำหรับคนธรรมดาเดินดินหาเช้ากินค่ำแบบฉัน "งั้นมีอีกทางที่เธออาจจะไม่ต้องใช้ดอกเพิ่ม"
หูฉันผึ่งทันทีที่จู่ ๆ เจ้าหนี้หน้าเลือดในคราวแรกเอ่ยเหมือนมีทางออกให้
"ไปทำนมมา ใหญ่สุดสักคัพซีสี่ ฉันไม่คิดดอกพ่อเลี้ยงเธอ"
บะ บ้าไปแล้ว! หมอนี่ต้องเป็นโรคจิตแน่ ๆ
ฉันเอาเงินไปศัลยกรรมมาจ่ายหนี้เขาไม่ดีกว่าไปอัปไซซ์หน้าอกตัวเองให้เจ็บตัวเล่นหรือไง
"แค่แสนเดียวใช่ไหมคะ ดอกเบี้ยหนึ่งแสน เงินต้นหนึ่งล้าน รวมเป็นหนึ่งล้านหนึ่งแสนบาทถ้วน" เสียงฉันติดไม่พอใจอยู่หลายส่วนมาก
โดนดูถูกเรื่องหน้าอกไม่พอ ยังโดนไล่ไปอัปไซซ์เพื่อลดดอกอีกมันน่าโมโหมั้ยคิดดูเองแล้วกัน
"ตามนั้น" เจ้าหนี้หน้าเลือดตอบกลับอย่างเรียบเฉย ฉันครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนเสนอยอดเงินที่คิดว่าน้าจะหามาจ่ายต้น จ่ายดอกได้ในแต่ละเดือนทันที
"งั้นข้าวตกลง แต่ขอผ่อนจ่ายเดือนละสองหมื่น ลดต้นและลดดอก ตกลงไหมคะ" ถามไปแล้วใจก็ลุ้นอย่างตึกตัก เจ้าหนี้เองก็ดูลอยชายสบายอารมณ์จนน่าหมั่นไส้
"ไอ้จำนวนผ่อนจ่ายต่อเดือนไม่มีปัญหา แต่หลักค้ำประกันล่ะ ว่ายังไง"
เอ๊ะ! นี่ฉันคิดว่าสิ่งนั้นไม่จำเป็นแล้วซะอีก
"ก็คุณบอกมีหมดแล้ว"
"ใช่ ฉันหมายถึงสิ่งที่เธอเสนอมาน่ะมีหมดแล้ว"
ยังไงของผู้ชายคนนี้ คิดจะปั่นหัวฉันอยู่หรือเปล่าเนี่ย
"งั้นคุณก็บอกมาตรง ๆ ดีกว่าค่ะว่าอยากได้หลักค้ำประกันคืออะไร"
มาให้นั่งเดาใจคนอื่นฉันทำไม่ได้หรอกนะ!
Thanuusil’s part
ผมมองหน้าผู้หญิงตรงหน้าที่คิ้วสวยกำลังขมวดเข้ากันอย่างใช้ความคิดก็นึกขำในใจ ทำเป็นอินโนเซ้นท์เล่นตัว สุดท้ายก็คลานเข่ามาหาผมทุกราย เชื่อสิ!
"ให้พูดตรง ๆ เธอรับได้?" ผมพูดจายอกย้อนกลับเมื่อเห็นใบหน้าสวยแต่ไม่ตรงสเปคผมขมึงตึง "กะ ก็บอกมาสิคะ"
ยังทำตัวหน่อมแน้มอีก ผมเกลียดที่สุดคือพวกลูกหนี้ขัดดอกแบบนี้
ผมเปิดกาสิโนมาหลายปีแล้ว พวกติดหนี้ผมที่ใช้ลูกใช้เมียใช้หลานเหลนโหลนมาขัดดอกมีถมเถ และส่วนมากเวลาเจอผมครั้งแรกก็ทำตัวแบบยัยนี่ทุกคน
ทำเป็นหวาดกลัวผม ระแวงผม รับไม่ได้กับคำพูดหยาบคายของผม
แต่ผลสุดท้ายพอให้ขึ้นเตียง ผมแทบไม่ต้องทำอะไรนอกจากนอนให้พวกนั้นที่แสดงออกว่าไร้เดียงสาขย่มจนน้ำแตก
"ไอ้ไจ๋ มึงบอกยัยนี่ไปสิ ว่าอะไรที่ใช้ค้ำประกันหนี้กูได้"
เบื่อฉิบหายเลยโยนขี้ให้ลูกน้องต่อ ไหนมันบอกว่าลูกหนี้คนนี้เด็ดดวงไงวะ แต่ทำไมสุดท้ายก็เข้าอีหรอบเดิม ทำตัวซ้ำซากเหมือนพวกก่อน ๆ
"ผมว่าคุณข้าวฟ่างรู้แก่ใจนะครับ" ไอ้ไจ๋หันไปคุยกับยัยผู้หญิงผมน้ำตาลอ่อน ๆ รูปร่างบาง แถมนมเล็ก ไม่ใช่สเปกป๋าธนูสักนิดเดียว
"ข้าวไม่อยากคิดไปเอง แต่ถ้าเจ้านายคุณหมายถึงใช้ตัวข้าวเป็นหลักค้ำประกัน ได้โปรดช่วยอธิบายเพิ่มด้วยนะคะว่า 'ใช้' แบบไหน"
วะ! ยัยนี่ เล่นลิ้นเก่งฉิบ!
อยากรู้จริง ถ้าเอาลิ้นนั้นมาพัวพันตรงนั้นของผมมันจะเสียวแค่ไหน
อา.. แค่จินตนาการเล่น ๆ เป้าผมก็ตุงใหญ่แล้ว ใจเย็นลูก ใจเย็น เดี๋ยวพาไปปลดปล่อย แต่ต้องไม่ใช่ยัยนี่นะ เพราะผมชักรู้สึกรำคาญเธอแล้วสิ
"กี่วันแล้ววะ" ผมเลิกสนใจพวกเล่นตัว หันไปถามลูกน้องมือขวาคนสนิทถึงจำนวนวันที่พ่อเลี้ยงยัยนี่ติดหนี้ผม
"ถ้านับตั้งแต่วันที่นายสงบจับเงินของเราจนถึงวันนี้ก็... สิบวันพอดี"
เชี่ย!! ครั้งนี้ไอ้ไจ๋ทำงานพลาดมาก แบบนี้ต้องสั่งสอนสักหน่อย
ปัง! ผมสาดกระสุนไปหนึ่งนัด เฉียดติ่งหูมันนิดเดียว แต่ไอ้ไจ๋กลับไม่สะทกสะท้าน
ก็นะ...มันรู้สันดานเจ้านายมันดีว่าไม่ยิงคนสนิทอย่างมันแน่นอน
[End part]