ตอนที่ 4 ผู้หญิงหน้าด้าน
พงษ์พัทเดินลงมาจากห้องนอนด้านบน สองขาเร่งก้าวเดินเมื่อมองดูนาฬิกาแล้วพบว่าใกล้ถึงเวลานัดหมายกับคู่ค้ารายใหญ่ ทว่าในจังหวะที่กำลังก้าวพ้นประตู จมูกโด่งกลับได้กลิ่นอะไรบางอย่างคล้าย ๆ กับกลิ่นเหม็นไหม้ มือที่กำลังหยิบรองเท้าอีกข้างมาใส่หยุดชะงัก หันหน้าไปตามกลิ่นที่คละคลุ้ง เมื่อหาต้นเหตุของกลิ่นไหม้ได้ว่าลอยมาจากที่ไหน ดวงตาคมก็เบิกกว้างด้วยความตื่นตกใจ ไม่แม้แต่จะวางรองเท้าในมือ สองขาก็รีบวิ่งไปยังห้องครัวเล็กทันที
"นั่นเธอกำลังจะทำอะไร!!" เสียงเข้มตวาดออกไป สิริรัตน์ค่อย ๆ หันหน้ากลับมามองช้า ๆ ใบหน้าหวานยิ้มกว้างออกมาอย่างยินดี นี่เป็นก้าวแรกที่เธอจะเริ่มทำเพื่อเขา ทำเพื่อคนที่เธอรัก ถึงเป็นเพียงไข่เจียวง่าย ๆ ก็ตาม
"พัท..แค็ก!! แค็ก!! ตื่นแล้วเหรอ ไปนั่งรอก่อนสิ ฝนกำลังทอดไข่ จะเสร็จแล้วล่ะ" คิ้วหน้าขมวดขึ้น มือทั้งสองกำแน่น จะเสร็จอย่างนั้นหรือ ควันลอยคลุ้งเต็มห้อง กลิ่นเหม็นไหม้โชยออกไปถึงหน้าปากซอย จะเหลืออะไรให้กินได้อีก
"เธอบอกว่าทอดไข่จะเสร็จแล้ว" เขาเอ่ยเสียงลอดไรฟันออกมาทีละคำ สายตาจ้องมองเธออย่างแข็งกร้าว
"โอ๊ย!!."สิริรัตน์ผงะถอยหลังอย่างตกใจ เธอกลัวสายตาที่มองจ้องมาของเขา สายตาเขาเหมือนกับสายตาของผู้คนในงานแต่งวันนั้น ร่างอรชรสั่นเทาไปทั้งตัว ทว่าพงษ์พัทกับไม่รับรู้เลยแม้แต่น้อย
"อย่ามาสำออย ฉันยังไม่ทันทำอะไร เธอจะร้องหาสวรรค์วิมานอะไร ถอยออกมาเธอจะเผาครัวฉันหรือยังไง" มือหนาคว้าเอาแขนเล็กและกระชากออกมาให้ห่างจากเตาไฟ
เมื่อพ้นจากร่างบางกระทะไข่เจียวก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้า พงษ์พัทเบิกตาขึ้น เขากัดฟันตนเองแน่นจนกรามเป็นขึ้นสัน โมโหแทบจะหันไปขยำคนตัวเล็กที่อยู่ด้านหลัง และเขย่าเพื่อดูว่าข้างในหัวเธอมันมีอะไรอยู่บ้าง นอกจากเรื่องชั่ว ๆ แล้วเธอทำอะไรเป็นบ้าง
"เธอบอกว่า..กำลังทอดไข่เหรอ"
"ใช่ค่ะ ฝนอยากดูแลพัทบ้าง อาหารเช้าเป็นสิ่งสำคัญ พัททานข้าวก่อนไปทำงานนะ เดี๋ยวฝนตักข้าวให้"
"ปัญญาอ่อน!!..แหกตาดูก่อนเถอะ ใครมันจะไปกินได้วะ ไข่ไหม้จนเหม็นไปทั่วห้อง เธอยังนึกว่ามันยังจะกินอยู่ได้อีกหรือไง เอา!!..กินให้ฉันดูสิ" พงษ์พัทยื่นจานไข่เจียวสองที่ไปตรงหน้า ด้านบนสีเหลืองมองดูน่ากิน ทว่าด้านล่างกับดำไหม้ไปทั้งแผ่น หญิงสาวชินเสียแล้วกับคำพูดหยาบคายของเขา เพราะตั้งแต่เธอกลับมาหาเขา เขาก็ไม่เคยพูดดีกับเธอเหมือนเดิมอีกเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะรอจนกว่าเขาจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
สิริรัตน์รับจานไข่เจียวมาคิ้วเรียวขมวดขึ้น ปกติแม่บ้านที่บ้านเธอก็ทอดไข่แบบนี้ไม่ใช่เหรอ หรือว่าเธอทำผิดตรงไหน เธอหันไปหยิบช้อนขึ้นมาตักชิ้นเล็ก ๆ มาหนึ่งคำ ครั้นเมื่อไข่เจียวถูกส่งเข้าปาก เธอก็รีบคายออกมา หากไม่นับที่เหม็นไหม้แล้ว รสชาติก็เค็มเสียยิ่งกว่าน้ำทะเล
"ฝน..ฝน..เอ่อ..ฝนขอโทษ เอาไว้ฝนจะหัดทำให้เก่งขึ้น พัทอย่าโกรธเลยได้ไหมคะ"
"ไม่ต้องหัดทำอะไรทั้งนั้น แค่ไสหัวออกจากบ้านฉันไปก็พอแล้ว"
"ฝนไม่ไปหรอก พัทไม่ต้องมาไล่ ฝนไม่มีที่ให้กลับไปอีกแล้ว น้องแพทบอกเองว่าให้ฝนอยู่ที่นี่" สิริรัตน์ส่ายหน้าปฏิเสธอย่างดื้อรั้น ให้ตายอย่างไรเธอก็จะไม่ นอกจากไม่มีที่ไปแล้ว เธอก็อยากจะอยู่กับเขา ชดเชยทุกสิ่ง เธออยากจะทำให้เขากลับมารักเธอเหมือนเดิม
"เธอมันหน้าด้าน!! จริง ๆ แล้วฉันก็ควรจะรู้ว่าเธอหน้าด้านมาตั้งนานแล้วนี่เนอะ ขนาดตอนนั้นฉันมีแฟน เธอยังทำทุกทางให้ฉันเลิกกับน้ำอิง หน้าด้านไหมล่ะและนอกจากหน้าด้านเธอยังเห็นแก่ตัวอีกด้วย เพราะเมื่อเธอแย่งฉันมาได้สำเร็จ แต่เธอก็ไม่เคยจะยอมรับฉันเลยสักครั้ง แม้เราจะนอนเอากันมากี่ครั้ง ฉันก็ไม่เคยมีสถานะ แค่นั้นไม่พอเธอยังเลือกไปหมั้นกับคนที่รวยกว่า แล้วยังไงนะเหรอ พอเขามาเจอตอนที่เรากำลังเอากันอยู่ เธอก็ยังโยนความผิดนั่นมาให้ฉัน หึหึ..ฝนเธอมันทุเรศ" พงษ์พัทแสยะยิ้มออกมา เขาเดินชนไหล่บางของเธอออกไป ไม่ได้สนใจอีกว่าเธอจะทำสีหน้ายังไง เขาเจ็บมามากพอแล้ว
เพล้ง!!..สิริรัตน์เซถอยหลัง จานไข่เจียวหล่นลงพื้นแตกกระจาย เรี่ยวแรงที่มีหดหายไปจนสิ้น เธอทรุดตัวนั่งลงที่พื้น ยกมือสองข้างขึ้นมาปิดใบหน้าตนเอง และปล่อยเสียงร้องโฮออกมาจนแทบจะขาดใจ ทุกคำพูดของพงษ์พัท เสียดแทงเข้ามาในใจเธอจนเจ็บปวด เหมือนดังคมมีดที่กรีดลงมาในแผลเดิมซ้ำ ๆ เธอจำได้ดี วันที่นพดลเปิดประตูเข้ามาเจอเธอและพงษ์พัทกำลังร่วมรักกัน เธอยังขอให้พงษ์ไปพูดกับนพดลให้เธออีกด้วย คิดไปแล้ว เธอก็สารเลวเหมือนที่เขาพูดจริง ๆ
"ฝนเลวมากเลยใช่ไหม พัทเกลียดฝนมากเลยใช่ไหม" ไม่มีเสียงตอบกลับมา พงษ์พัทคงไปแล้ว สิริรัตน์ยิ้มออกมา ทว่าเป็นรอยยิ้มที่ดูบิดเบี้ยว ความผิดหวัง ความเสียใจถาโถมเข้ามาจนไม่อยากแม้แต่จะหายใจ เธอนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นนานเท่าไรไม่รู้ น้ำตาที่ไหลก็เหือดแห้งลงไป ร่างเล็กหอบหายใจเข้าปอดอย่างปวดร้าว
ความสิ้นหวังทำให้เธอแทบจะไร้ซึ่งสติ เธอยื่นมืออันสั่นเทาออกไปช้า ๆ เธอหยิบเศษกระเบื้องที่แตกกระจายขึ้นมากำเอาไว้แน่น คมกระเบื้องบาดลงไปที่ฝ่ามือ เลือดสด ๆ ไหลรินออกมา หยดลงพื้นเป็นดวง ดวงตาเรียวไร้วี่แวว มีเพียงความเหม่อลอย เธอไม่รู้สึกถึงความเจ็บเลย เพราะในใจมันเจ็บปวดกว่าหลายพันเท่า มือเล็กค่อย ๆ จับกระเบื้องชิ้นนั้นขึ้นไปจ่อที่คอตนเอง
"ฝนต้องทำยังไงถึงจะชดเชยความผิดเหล่านี้ได้ ไม่มีใครต้องการฝนเลยสักคน คุณพ่อก็ไม่รักฝน คุณแม่ก็รักแต่ตัวเอง ฝนอยากจะสนิทกับยัยฟ้าแต่คุณแม่ก็ไม่ยอม ตอนนี้ยัยฟ้าก็เกลียดฝนไปแล้ว พัทเองก็ไม่รักฝนอีกแล้ว ฝนเหนื่อยเหลือเกิน ชีวิตฝนไม่เหลือใครแล้ว"