บทที่6 โดนดุ

3708 Words
วินขับรถคันหรูแล่นมาจอดให้บัวตองที่นั่งเคียงข้างมาด้วยลงจากรถเพื่อเข้าเรียนตรงหน้ามหาลัยชื่อดัง บัวตองพยายามกดดึงปลดล็อกเข็มขัดนิรภัยที่คาดตัวเธอเอาไว้แต่เข็มขัดกลับไม่เป็นใจไม่ยอมปลดล็อกออกจากกัน วินเห็นอย่างนั้นก็อดที่จะมองเธออย่างขบขันในใจไม่ได้   "อย่าบอกนะ ว่าปลดล็อกไม่ได้ ฉันไม่มีเวลามาเล่นตลกกับเธอหรอกนะ" วินเอ่ยเสียงเข้ม   "ปกติบัวก็ปลดล็อกได้ปกตินะคะ แต่วันนี้ทำไมมันถึงดึงออกยากก็ไม่รู้ค่ะ" พูดพลางใช้มือทั้งกดทั้งดึงเข็มขัดนิรภัยให้ออกจากตัวด้วยใบหน้ามุ่ย   "มาฉันช่วย" วินส่ายหน้าให้กับเด็กสาวพร้อมกับปลดล็อกเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวเองแล้วเอี้ยวโน้มตัวเข้าไปหาบัวตองใกล้ๆ ก้มลงใช้มือหนาเอื้อมไปอีกฝั่งหนึ่ง   "น่าแปลกจริง ทำไมมันถึงล็อกแน่นอย่างนี้นะ" เสียงทุ้มบ่นอยู่ใกล้ๆ เธอ   "ได้ไหมคะ" เสียงหวานเอ่ยถามพร้อมกับก้มลงมองมือหนาพยายามกดปลดล็อกเข็มขัดให้เธอ   "ไม่ได้" วินพูดพลางเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าของบัวตองตรงๆ ประจวบเหมาะกับเธอมองเขาอยู่พอดีทำให้สายตาคนทั้งคู่สบมองกันเข้าจังๆ   ด้วยใบหน้าที่ใกล้กันแค่ลมหายใจทำให้สันจมูกโด่งได้กลิ่นหอมๆ ลอยเข้ามาเตะจมูกโด่งของเขาเต็มๆ ชายหนุ่มจึงถือโอกาสสูดกลิ่นหอมเข้าเต็มปอด สายตาคมกริบจ้องใบหน้าเนียนด้วยความเผลอไผลพร้อมกับโน้มตัวขยับเข้าหาร่างบางช้าๆ บัวตองจึงรีบหลบสายตาเอนตัวติดเบาะให้ห่างจากชายหนุ่มให้ได้มากที่สุดด้วยความหวั่นไหวในใจ   สันจมูกโด่งหยุดค้างใกล้แก้มเนียนอมชมพูอีกแค่นิดเดียวก็จะแตะสัมผัสแก้มของเธอแล้ว แต่ด้วยจิตสำนึกชายหนุ่มจึงหยุดไว้แค่นั้น พอดึงสติกลับมาเขาจึงก้มลงปลดล็อกเข็มขัดให้เธออีกครั้งจนสำเร็จในครั้งเดียว แล้วหันไปมองร่างบางที่เอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมมองหน้าเขาด้วยความหวั่นใจ   "ได้แล้ว" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกลับถอยไปนั่งที่ของตนเอง   "ขอบคุณค่ะ" บัวตองพนมมือไหว้ทันควันโดยไม่กล้ามองสบตากับชายหนุ่ม   "ลงไปได้แล้ว เสียเวลา"   "ค่ะ" รับคำพร้อมกับเปิดประตูรถ   "ตั้งใจเรียนด้วยล่ะ เดี๋ยวเย็นนี้ฉันจะมารับกลับ"   "ค่ะ"   "เย็นนี้ฉันอยากจะทานน้ำพริกปลาทูทำให้ฉันทานด้วย" จ้องใบหน้าเนียนที่ลงไปยืนอยู่ตรงประตูรถไม่วางตา   "ค่ะ" ปิดประตูลงอย่างเบามือ   ทันทีที่เธอปิดประตูลงวินก็แล่นรถออกไปทันที บัวตองยืนมองรถออกไปด้วยความโล่งใจจนลับสายตา ความใกล้ชิดกับชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายทำให้เธอไม่เป็นตัวของตนเอง ยิ่งชายหนุ่มใช้สายตามองเธออย่างนั้นยิ่งทำให้ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวอย่างบอกไม่ถูก   "บัวทำไมมายืนอยู่ตรงนี้" ปายเดินเข้าไปหาบัวตองที่ยืนนิ่ง   "เปล่า"   "พี่วินมาส่งเหรอ"   "อืม" บัวตองพยักหน้าด้วยความว้าวุ่นในใจ เพราะนึกขึ้นได้ว่าวินมีคู่หมั้นแล้วเธอกับเขาไม่ควรจะใกล้ชิดกันมากจนเกินขอบเขต แต่ทำไมนะชายหนุ่มถึงทำแบบนั้นกับเธอในรถเมื่อสักครู่   "เข้าไปข้างในกันเถอะ" ปายเดินนำบัวเข้าไปในมหาลัย   ภายในรถคันหรูระหว่างที่วินกำลังทะยานรถไปข้างหน้าก็อดนึกถึงใบหน้าใสชื่อขาวเนียนกับกลิ่นหอมๆ จากร่างสาวขึ้นมาไม่ได้ ยิ่งมองเธอก็ยิ่งเหมือนดอกไม้แรกแย้มที่กำลังเบ่งบานให้ผึ้งหรือผีเสื้อได้ดอมดม   "บ้าจริง วินแกไม่ควรคิดอะไรแบบนี้นะ แกรัก"ษา" คนเดียวจำไว้" ชายหนุ่มเอ่ยเตือนตนเองพร้อมกับสลัดภาพของบัวตองออกไปจากหัว   ณ บริเวณหน้าห้องน้ำหญิงปายกำลังเดินออกมาจากห้องน้ำแต่กลับต้องชะงักเท้าหยุดเดินโดยอัตโนมัติด้วยความตกใจที่อยู่ๆ นัทก็มายืนนิ่งอยู่ตรงหน้าของเธอ พร้อมกับส่งสายตามาทางเธอที่ยากจะคาดเดา   "นายมีอะไร มายืนอยู่ตรงนี้ทำไม" ปายชิงเอ่ยถามขึ้นเสียก่อน   "เมื่อวานฉันอุตส่าห์ช่วยเธอโดยการซื้อน้ำมันไปให้ เธอไม่คิดที่จะตอบแทนอะไรฉันสักหน่อยเลยเหรอ"   "ใช่สิ ฉันก็ไปลืมไปเลย เดี๋ยวก่อนนะ"ปายพูดพลางเปิดกระเป๋าหยิบเงินออกมายื่นให้นัททันที   "อะไรของเธอ"   "ก็ค่าน้ำมันไง รับไปสิ"   "ฉันไม่เอา ฉันอยากให้เธอช่วยอย่างอื่นมากกว่า"   "เรื่องอะไร"   "ฉันว่าเธอคงจะดูออกนะ ว่าฉันชอบบัว"   "ยิ่งกว่าดูออกอีก" ปายเอ่ยเสียงแผ่วเบา   "ดี งั้นฉันจะให้เธอช่วยเป็นแม่สื่อให้ฉัน ตกลงตามนี้นะ"   "ไม่ ฉันไม่ช่วยอะไรนายทั้งนั้นแหละ นี่ค่าน้ำมันของนาย" ปายรีบยัดเงินใส่ในมือนัทแล้วเดินเลี่ยงออกไป   "เฮ้ จะมาเดินหนีกันดื้อๆ อย่างนี้ไม่ได้นะ!" นัทรีบเดินไปกระชากแขนเรียวให้หยุดเดิน   "โอ๊ย! นายปล่อยฉันนะ!"   "เธอจะยอมช่วยฉันดีๆ หรือว่าจะต้องให้ใช้กำลัง"   "ไม่! ถึงฉันช่วยบัวเขาก็ไม่รักหรือชอบนายมากกว่าเพื่อนหรอก ปล่อย!" สลัดแขนจนหลุดจากการจับกุมจนสำเร็จ   "เธอว่าอะไรนะ!" นัทขมวดคิ้วเข้าหากัน   "บัวเขารู้แล้วว่านายแอบชอบ แต่บัวบอกว่านายเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น"   "จริงเหรอ"   "ก็จริงน่ะสิ ฉันจะโกหกนายทำไม"   "ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เธอนั้นแหละที่จะต้องยิ่งช่วยฉัน ถ้ายังเห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่"   "ฉันว่านายใช้ความสามารถของตัวเองจะดีกว่านะ ฉันช่วยอะไรนายไม่ได้หรอก"   "ทำไมจะช่วยไม่ได้ นอกเสียจากเธอไม่อยากจะช่วย" นัทจ้องใบหน้าเนียน   "ฉันว่าเราสามคนเป็นเพื่อนกันแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว นายอย่าเปลี่ยนความสัมพันธ์เลยนะ"   "ฉันว่าให้บัวกับฉันเป็นคนตัดสินใจดีกว่านะ ว่าเราสองคนจะเป็นอะไรกัน "   "นายเกลียดขี้หน้าฉันนักไม่ใช่เหรอ แล้วจะมาขอความช่วยเหลือจากฉันทำไม"   "ก็เธอชอบทำตัวขวางคลองเวลาที่ฉันอยู่กับบัวทำไมล่ะ"   "ฉันเนี่ยนะ ทำตัวขวางคลอง"   "ใช่ ถ้าไม่อยากจะช่วยก็ไม่เป็นไร แต่เวลาฉันอยู่กับบัว เธอก็อย่าอยู่ขวางหูขวางตาก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นฉันเอาเรื่องเธอแน่ปาย"   "คุยอะไรกันอยู่เหรอ"บัวตองเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่ที่กำลังคุยกันอย่างเคร่งเครียด   "เปล่า รีบเข้าไปเรียนกันเถอะ" นัทรีบเดินเข้าจับจูงมือบัวตองเดินผ่านหน้าปายออกไป   ปายเห็นอย่างนั้นก็เดินตามหลังคนทั้งคู่ไปห่างๆ ด้วยที่สายตาจ้องมองมือหนาของชายหนุ่มจับจูงมือบัวเดินไปข้างหน้าด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว   "นัทปล่อยมือเราได้แล้ว" บัวตองชักมือออกจากมือหนาด้วยความไม่พอใจ   "ทำไมล่ะ บัวรังเกียจเราเหรอ"   "เปล่า แต่เราว่ามันไม่เหมาะ เราเป็นเพื่อนกันไม่ควรทำอะไรที่มันประเจิดประเจ้อเกินไป"   "เป็นเพื่อนกัน จะจับมือกันก็ไม่เห็นเป็นไรนี่"   "แต่เราไม่ชอบ ปายเรารีบเข้าไปเรียนกันเถอะ" บัวตองคว้าแขนปายเดินเข้าไปในห้องทันที   นัทเดินถอนหายใจเดินตามสองสาวเข้าไปในห้องเรียนต้อยๆ เขาต้องพยายามให้มากกว่านี้เพื่อให้บัวตองหันมาสนใจและตกลงยอมเป็นแฟนเขาให้ไดั นัทมุ่งมั่นอยู่ในใจ   ณ บ้านไกรณรงค์หลังจากที่บัวตองทานมื้อเย็นเสร็จ เธอก็หอบโน๊ตบุคและหนังสือเข้าไปในห้องทำงานของวิน เพราะมีเนื้อหาบางอย่างที่เธอยังไม่เข้าใจ วินที่กำลังนั่งทำงานอยู่ก่อนแล้วเห็นอย่างนั้นก็ยกยิ้มมุมปากด้วยความเอ็นดู   "มีเรื่องให้ช่วยอีกแล้วใช่ไหม"   "ค่ะ"บัวตองยิ้มรับ   "เข้ามานั่งใกล้ๆ นี่มา"   "ค่ะ" เดินถือโน๊ตบุคไปนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ ชายหนุ่มทันที   "วันนี้น้ำพริกปลาทูรสชาติยังอร่อยเหมือนเดิมเลยนะ "   "จริงเหรอคะ ดีใจจังเลย"   "ทำไมคิดว่าฉันจะบอกว่าไม่อร่อยเหรอ"   "ก็ตอนที่พี่ทานเมื่อกี้ ไม่เห็นบอกว่าอร่อยสักคำเลยนี่ค่ะ"   "ทำไมน้อยใจ ฉันเหรอ" วินหันมาจ้องใบหน้าเนียนที่กำลังทำตาใสชื่อมองหน้าเขาอยู่พอดี   "เปล่าค่ะ " ก้มหน้าลงหลบสายตาชายหนุ่ม   "โธ่เอ๋ย เด็กน้อย ฉันก็บอกไปแล้วไงว่ามันอร่อยมาก พอใจหรือยัง" ใช้มือหนาลูบศีรษะบางไปมาเบาๆ ด้วยความเอ็นดูในความใสชื่อของเธอ   "ขอบคุณค่ะ" เงยหน้าขึ้นส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม   "อย่าไปยิ้มแบบนี้ให้ใครล่ะ" วินเอ่ยเตือนเด็กสาวด้วยหัวใจที่เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ   "ทำไมคะ บัวยิ้มไม่สวยเหรอคะ" บัวตองเริ่มขาดความมั่นใจในตนเอง   "ช่างเถอะ เธอไม่ต้องไปใส่ใจหรอก"   "พี่พูดอะไร บัวไม่เข้าใจเลยค่ะ"   "ฉันบอกว่าไม่ต้องสนใจ เธอก็อย่าถามมากน๊า"   "ทำอะไรกันอยู่ลูก สองคนพี่น้อง" เนตรนภาหญิงสูงวัยเปิดประตูเดินเข้ามาหาคนทั้งคู่ด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้า   "ผมกำลังจะอธิบายเนื้อหาที่บัวจะนำเสนอทำเป็นรายงานให้บัวฟังอยู่น่ะครับ"   "จ้ะ แม่เห็นลูกสองคนรักและช่วยเหลือกันแบบนี้แล้ว แม่ค่อยชื่นใจหน่อย"   "ครับ"   "งั้นแม่ไม่กวนละ ขอตัวไปสวดมนต์ในห้องพระก่อนนะลูก" เนตรนภาส่งยิ้มให้ลูกชายและบัวตอง   "ค่ะ คุณแม่" บัวตองส่งยิ้มตอบกลับเนตรนภา   "ฉันว่าเธอรีบทำความเข้าใจเร็วๆ เถอะ งานฉันค้างอยู่อีกเยอะเลย"   "ค่ะ" หันไปสนใจในสิ่งที่ชายหนุ่มจะอธิบายให้ฟังทันที   หลายวันต่อมา   บัวตองกำลังนั่งดูหนังอยู่ในโรงหนังด้วยความตื่นเต้นสนุกแปลกใหม่ไปกับปายและนัทอย่างมีความสุขเพราะเป็นครั้งแรกของเธอที่ได้ดูหนังในโรงหลังเลิกเรียน โดยเธอไม่ลืมที่จะโทรบอกกล่าวให้เนตรนภากับวินทราบเรื่องว่าเธอจะกลับบ้านช้ากว่าทุกวันแต่ไม่ได้บอกเวลาที่แน่นอน ซึ่งคนทั้งคู่ก็อนุญาตตามที่เธอขออย่างใจดี   "เป็นไง สนุกไหมบัว" ปายเอ่ยถามขึ้นทันทีที่พากันเดินออกมานอกโรงหนัง   "สนุกมากเลย แล้วก็เย็นฉ่ำมาก" บัวตองยิ้มกว้างมีความสุข   "เย็นฉ่ำนี่ เธอหมายถึงแอร์ใช่ไหม" ปายถามเพื่อความแน่ใจ   "อืม ใช่แล้ว"บัวตองพยักหน้ารับ   "ไว้ฉันจะพามาอีกนะ" นัทเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม เขาดีใจที่ทำให้หญิงสาวชื่นชอบ   "จริงเหรอ พูดแล้วนะ" บัวตองถามด้วยความดีใจ   "จริงสิ บัวอยากจะมาอีกเมื่อไหร่ก็บอกเราได้ตลอดเลยนะ"   "อืม ไว้เดี๋ยวเราจะบอก"   "แต่คราวหน้าต้องดูหนังผีนะ ไม่ใช่หนังบู๊แอคชั่นอย่างเมื่อกี้" นัทเอ่ยอย่างอารมณ์ดี   "หนังผีเราไม่ดูหรอกน่ากลัวจะตาย ใช่ไหมปาย"   "ตามใจเธอสิ แต่คราวหน้าฉันไม่มาด้วยแล้วนะ " ปายพูดเพราะโดนสายตานัทข่มขู่   "เธอต้องมาสิ ดูกันหลายคนสนุกจะตายใช่ไหมนัท" บัวตองหันไปถามความเห็นชายหนุ่ม   "ไม่รู้สิ แต่อย่าไปบังคับใครให้มาด้วยเลย ถ้าเขาไม่อยากมาน่ะ"   "เชอะ! อย่างกับฉันอยากจะมากลับนายนักหนาอย่างนั้นแหละ" ปายคิดในใจถ้าบัวตองไม่คะยั้นคะยอให้เธอมาด้วยเธอก็ไม่คิดที่จะมาหรอก   "ทำไม! อยากจะด่าฉันก็ด่าออกมาเลย ไม่ต้องเก็บมันไว้ในใจหรอก" นัทยิ้มยั่วกวนประสาทปาย   "ไอ้บ้า!" ปายเริ่มจะหมดความอดทนจึงหลุดปากต่อว่าชายหนุ่มออกมาด้วยความโมโห   "นัทเอาอีกแล้วนะ ทำไมนิสัยเสียแบบนี้ ทำไมชอบยั่วกวนประสาทปายจัง เราสามคนเป็นเพื่อนกันนะ อย่าทะเลาะกันเองสิ" บัวตองหันไปปรามนัททันควันด้วยความไม่ชอบใจ   "เราก็แค่แหย่เล่นสนุกๆ เอง บัวอย่าโกรธเราเลยนะ"   "เอาอย่างนี้ดีกว่า นัทขอโทษปายก่อนสิ"   "อะไรนะบัว ไม่มีทางหรอก" นัทส่ายหน้า   "ก็นัทเป็นคนผิด ถ้าไม่ขอโทษปาย งั้นเราก็ไม่ต้องไปทานข้าวกันแล้วล่ะ"   "เร็วๆ สิ ฉันพร้อมแล้ว" ปายกอดอกเชิดหน้าขึ้นด้วยความสะใจยิ้มกริ่ม   "ไม่!" นัทยืนยันเสียงแข็ง   "งั้นเรากลับกันเถอะปาย ไปทานก๋วยเตี๋ยวข้างทางแทนชาบูอร่อยๆ ก็ได้น้อ" บัวตองรีบจับจูงมือปายเดินผ่านหน้านัทไปทันที   "ก็ได้ เรายอมแล้ว" นัทรีบตะโกนตามหลังบัวตอง   "ก็เร็วๆ สิ ฉันหิวแล้ว" ปายเอ่ยอย่างเป็นต่อ   "ขอโทษ!" นัทกระแทกเสียงด้วยความไม่เต็มใจ   "ได้ไหมบัว น้ำเสียงแบบนี้" ปายถามบัวตองเพื่อยั่วกวนประสาทชายหนุ่มกลับ ที่ยืนฟืดฟัดโกรธเธออยู่   "พอได้แล้วน๊า เธอก็ใช่ย่อยเหมือนกันนะปาย พอกันทั้งคู่เลย" บัวตองต่อว่าเพื่อนไม่จริงจังมากนัก   "ถ้าพอใจแล้ว ไปกินชาบูอร่อยๆ กันเถอะ" นัทเดินเข้าไปคว้าจับจูงแขนบัวตองเดินไปข้างหน้าทันที   "ปายรีบตามมาสิ" บัวตองหันไปเรียกปายที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม   "อืม" ปายพยักหน้าแล้วเดินตามหลังไปเงียบ ๆ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ดูจะขัดหูขัดตานัทไปเสียทุกอย่างเลย เธอไม่น่าใจอ่อนตามบัวตองมาด้วยเลย ทั้งๆที่ก็รู้ว่านัทไม่ชอบให้เธอเข้ามายุ่งวุ่นวายด้วย ในะหว่างที่เขากำลังเดินหน้าจีบบัวอยู่ ปายได้แต่ถอนหายใจแรงๆ เท่านั้น   หลังทานชาบูอิ่มท้องแล้วบัวตองกับปายก็พากันตรงไปยังร้านขายหนังสือต่อ ระหว่างที่ทั้งสองสาวกำลังให้ความสนใจหนังสือในร้านอย่างใจจดใจจ่อ นัทก็ปลีกตัวออกไปจากร้านเพื่อไปทำธุระสำคัญที่เขาตั้งใจทำในวันนี้มากที่สุด   ไม่นานนัทก็เดินมาหยุดตรงหน้าร้านขายหนังสือพร้อมกับถือช่อดอกกุหลาบสีชมพูช่อใหญ่ที่สั่งทำพิเศษไว้ในมือ ระหว่างที่นัทกำลังยืนรวบรวมความกล้าอยู่ บัวตองกับปายก็เดินออกมาตรงหน้าร้านพอดี ทันทีที่บัวกับปายเห็นนัทยืนถือช่อดอกไม้อยู่ตรงหหน้าทั้งสองคนจึงหันมามองหน้ากันด้วยแปลกใจสงสัย   "ไม่ต้องแปลกใจหรอก รับไปสิเราให้" นัทยื่นช่อดอกไม้ในมือไปตรงหน้าบัวพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ   "นัททำอะไร รีบไปส่งเรากลับบ้านเถอะ" บัวตองเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นกังวลใจเพราะเลยเวลากลับบ้านมามากแล้ว   "นั้นสิ ฉันว่ารีบไปส่งบัวให้ถึงบ้านก่อนเถอะ" ปายเอ่ยเสริมขึ้น   "เธอไม่ต้องมายุ่งน๊า" นัทเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์   "เอาอีกแล้วนะนัท" บัวตองส่ายหน้าให้ชายหนุ่มที่เอาแต่ใช้อารมณ์กับปายตลอดเวลา   "รับไปสิ เราให้" นัทยื่นช่อดอกไม้ไปตรงหน้าบัวตองพร้อมกับส่งยิ้มให้อีกครั้ง   "อะไรกันนัท เราไม่ตลกด้วยนะ" บัวตองทำหน้างงงวย   "ใครว่าตลกล่ะ รับไปเถอะนะ เราตั้งใจสั่งทำให้บัวเป็นพิเศษเลยนะ"   "แล้วนัทจะเอามาให้เราทำไม"   "ก็เพราะเราอยากจะให้ไง รับไปเถอะนะ เราขอร้อง"   "ก็ได้ เราจะรับไว้ จะได้รีบกลับกันสักที" บัวตองจำใจรับดอกไม่มาถือไว้ เธอรู้ดีว่านัทกำลังเอาใจเธออยู่ แต่ถึงชายหนุ่มจะพยายามแค่ไหนมันก็เปล่าประโยชน์เพราะเธอจะมุ่งแต่เรื่องเรียนเท่านั้น ส่วนเรื่องชู้สาวกับใครไม่เคยมีอยู่ในหัวของเธอเลย ถึงเธอจะอายุยี่สิบแล้วก็ตามที   ไม่นานรถเก๋งคันหรูของนัทก็มาจอดอยู่ตรงหน้าบ้านไกรณรงค์ บัวตองจึงรีบเปิดประตูลงจากรถเดินตรงเข้าไปในบ้านพร้อมกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่ ส่วนนัทก็ขับรถแล่นไปส่งปายที่บ้านต่อระหว่างทางภายในรถก็มีแต่ความเงียบเข้ามาปกคลุม ไม่เหมือนก่อนหน้านั้นที่มีบัวตองอยู่ด้วย ปายที่นั่งอยู่ตรงเบาะด้านหลังคนขับแอบหันไปมองชายหนุ่มด้านหน้าอยู่เป็นระยะด้วยความขุ่นเคืองในใจ เพราะนัทไม่เคยเห็นเธออยู่ในสายตาของเขาเลย   "คราวหน้าคราวหลังถ้าฉันกับบัวจะไปไหนด้วยกันอีก เธอไม่ต้องเสนอหน้าตามมาด้วยอีกนะ น่ารำคาญชะมัด" นัทเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ   "เออ ฉันก็ไม่ได้อยากจะมานักหรอก ถ้าบัวเขาไม่ชวนฉันมาด้วย"   "ดี ทำให้ได้อย่างที่ปากพูดด้วยก็แล้วกัน"   สิ้นสุดคำพูดของนัทปายก็ไม่คิดที่จะตอบโต้ใดๆ ถึงเธอตอบโต้ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ภายในรถกลับมาเงียบสงบอีกครั้งจนรถแล่นไปจอดตรงหน้าบ้านของเธอ ปายจึงเปิดประตูลงจากรถไปเงียบๆ แล้วเดินหายเข้าไปในบ้าน ส่วนนัทที่นั่งเงียบมาตลอดทางหันไปมองหลังปายแวบหนึ่งแล้วแล่นรถออกไปทันที   ทันทีที่บัวตองเดินเข้าไปในบ้านเธอก็รีบตรงเข้าไปยังห้องนอนของตนเองทันที สักพักเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น เธอจึงรีบเดินไปเปิดพอเห็นว่าเป็นวินเธอก็แอบตกใจเล็กน้อย   "ไปดูหนังมาสนุกไหม" ถามพลางแทรกตัวผ่านประตูเข้าไปในห้อง   "ก็สนุกดีค่ะ"   "แต่ฉันว่ามันดูจะเกินเวลาไปหน่อยนะ" วินกวาดสายตามองไปที่เตียงตาก็สะดุดเข้ากับดอกไม้ช่อใหญ่ที่วางอยู่บนเตียง   "บัวขอโทษค่ะ ที่กลับมืดค่ำไปหน่อย"   "ดอกไม้นั่นใครให้มา!" วินตวาดเสียงดัง   "เพื่อนค่ะ" บัวตองตอบออกไปด้วยความตกใจกลัว   "หึ เพื่อนที่ไหนเขาให้ดอกไม้ช่อใหญ่ขนาดนี้กัน เธอไปไหนมากันแน่!" วินถามเสียงเข้ม   "บัวไม่ได้ไปเถลไถลที่ไหนเลยนะคะ อย่างที่บอกค่ะว่าบัวไปดูหนังกับทานข้าวกับเพื่อน แต่เพลินไปหน่อยก็เลยกลับช้าค่ะ " บัวตองบอกความจริงออกไปตรงๆ   "รับดอกไม้เขามาขนาดนี้ ตกลงเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหม" วินมองบัวตองตาขวางด้วยความไม่พอใจ   "เปล่านะคะ บัวกับนัทเราไม่เป็นแฟนกันค่ะ ถ้าพี่ไม่เชื่อไปถามปายได้เลยค่ะ" บัวตองรีบปฏิเสธทันควัน   "ฉันว่าเธอไม่ควรที่จะคิดมีแฟนในเวลานี้นะ เพิ่งจะเรียนปีหนึ่งเอง อย่าลืมว่าแม่ฉันตั้งความหวังกับเธอไว้มาก อย่าทำให้แม่ฉันผิดหวังเด็ดขาดเข้าใจไหม"   "ค่ะ บัวจะตั้งใจเรียนจนจบไม่ทำให้แม่กับพี่ผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ บัวสัญญา"   "เธอจะไปเที่ยวกับเพื่อนฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ แต่อย่าทำตัวเหลวไหลก็แล้วกัน" วินเอ่ยเสียงเข้มดุใส่บัวตอง   "ค่ะ" รับคำพร้อมกับก้มหน้าไม่กล้าสบตาชายหนุ่ม   "เงยหน้าขึ้นมา มองหน้าฉัน" เอ่ยเสียงอ่อนลง   "_______" บัวตองนิ่งเงียบไม่ยอมทำตามที่ชายหนุ่มต้องการ   "ฉันบอกให้เงยหน้าขึ้นมา" วินเดินเข้าไปประชิดร่างบางพร้อมกับใช่มือหนาจับเชยคางเรียวให้แหงนหน้าขึ้นมาสบตากับเขา   บัวตองแหงนหน้าขึ้นสบตากับชายหนุ่มอย่างว่าง่ายด้วยความหวาดหวั่น สายตาคมกริบจ้องมองใบหน้าเนียนดวงตาใสชื่อตรงหน้าด้วยความเผลอไผลค่อยๆ ขยับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ริมฝีปากบางจนใกล้กันแค่ลมหายใจ บัวตองเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรเธอจึงรีบขยับถอยหลังออกห่างจากชายหนุ่มทันที แต่ด้วยความรีบร้อนทำให้เธอชวนเซจะล้ม ร่างหนาจึงรีบคว้าโอบเอวบางเข้าหาตัวเองทันที   "ระวังหน่อยสิ เดี๋ยวก็ล้มลงหรอก" พูดพลางโอบเอวบางแนบกายไม่ยอมปล่อย   "พี่ปล่อยบัวเถอะค่ะ" ขยับตัวจะออกจากวงแขนแกร่งที่กอดรัดเธอไมายอมปล่อย   "ทำไมเธอกลัวฉันเหรอ"   "เปล่าค่ะ แต่เราเป็นพี่น้องกัน ไม่ควรที่จะใกล้ชิดกันขนาดนี้นะคะ"   "หึ เธอพูดอย่างกับเราสองคนคลานตามกันมาอย่างนั้นแหละ ช่างเถอะ ฉันไม่กวนเธอแล้วก็ได้" ยอมปล่อยร่างบางเป็นอิสระพร้อมกับพยายามหักห้ามใจตนเอง นึกถึงหน้าหญิงคนที่เขารักมากที่สุดและจะไม่มีทางทำให้เธอเสียใจอย่างเด็ดขาด   "บัวขอโทษอีกครั้งนะคะ ที่ไม่รีบกลับบ้าน"   "อย่าให้มีอีกก็แล้วกัน"   "ค่ะ"รับคำหนักแน่น   บัวตองยืนมองชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายเดินออกไปจากห้องจนลับสายตาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำร้อนผ่าวไม่เป็นตัวของตัวเอง ยิ่งนึกถึงสายตาคมที่มองจ้องเธออย่างมีความหมายอะไรบางอย่างแฝงอยู่ ก็ยิ่งทำให้หัวใจเธอหวั่นไหว ไหนจะอกกว้างที่เธอเพิ่งจะได้แนบชิดยิ่งทำให้หัวใจเต้นแรงไท่เป็นจังหวะ เธอได้แต่หยุดความคิดไว้เพียงแค่นั้นแล้วสลัดมันทิ้งไป    
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD