วันต่อมา
ก๊อกๆๆ บัวตองยืนเคาะประตูหน้าห้องวินแต่เช้า เพื่อปลุกให้ชายหนุ่มตื่นไปส่งเธอไปเยี่ยมตากับยายตามที่ได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่เมื่อวาน
"พี่วินค่ะ! "เสียงหวานเรียกเสียงดัง
"มาแล้ว" วินพูดพลางเปิดประตูห้องออก ทันทีที่ชายหนุ่มเห็นบัวตองก็นิ่งชะงักไปชั่วครู่เหมือนตกอยู่ในภวังค์ เพราะวันนี้เธอแต่งตัวด้วยเดรสสั้นสีขาวแขนกุดถักเปียสองข้าง และแต่งหน้าอ่อนๆ ยิ่งเพิ่มความสดใสให้กับเธอมากยิ่งขึ้น ด้วยเฉพาะริมฝีปากที่อมชมพูระเรื่อน่าจูบนั้น
"พี่ตื่นแล้วเหรอคะ"
"เพิ่งจะตื่นน่ะ เธอไปรอฉันข้างล่างไป"
"พี่จะอาบน้ำเหรอคะ"
"อืม อย่าถามมากน่า! เดี๋ยวก็ไม่พาไปหรอก"
"ค่ะ บัวจะไปรอข้างล่าง" เดินคอตกลงไปข้างล่างทันที เธออดที่จะน้อยใจไม่ได้ที่ชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าพี่ชายอยู่ๆก็ดุเธอ ทั้งๆ ที่เธอถามเขาแค่เล็กน้อย
บัวตองรอวินพร้อมกับทานมื้อเช้าไปด้วย สักพักวินก็ลงมานั่งลงข้างๆ เธอพร้อมกับดื่มกาแฟไปด้วย ร่างบางนั่งทานข้าวต้มไปเงียบๆ โดยไม่กล้าหันไปมองหน้าชายหนุ่ม จนวินอดที่จะแปลกใจกับท่าทางของเธอไม่ได้ จึงยื่นมือไปเชยคางเรียวเล็กเงยขึ้นสบตากับเขาช้าๆ
"เป็นอะไร"
"เปล่าค่ะ "รีบหันหน้าหนีไปอีกทาง
"ปากเธอเลอะข้าวต้ม มาฉันเช็ดให้" มือหนาหยิบกระดาษทิชชูที่วางข้างเช็ดปากให้บัวตองอย่างอ่อนโยน
"ทำอะไรกันจ๊ะ สองพี่น้อง" เนตรนภาเดินเข้ามาด้วยความแปลกใจที่เห็นลูกชายตื่นเช้ากว่าปกติ
"พอดีมีเด็กขี้งอนครับ"วินรีบชักมืออกจากริมฝีปากบัวตองทันที
"บัวเปล่านะคะ" บัวตองรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
"อะไรกันสองคนนี่"
"ไม่มีอะไรครับ อิ่มแล้วใช่ไหมไปกันเถอะ" วินจับจูงมือบัวตองลุกขึ้นยืน
"จะรีบไปไหนกันลูก"
"จะพาบัวไปเยี่ยมตากับยายครับ"
"ดีเลยลูกพาน้องไปเลย แม่ฝากความคิดถึงไปด้วยก็แล้วกัน บัวอยากจะซื้ออะไรไปฝากก็เต็มที่เลยนะลูก ให้พี่เขาจ่ายให้นะ"
"ค่ะ"
"ผมไปก่อนนะครับแม่"
"จ้ะ ไปเถอะ"
เนตรนภาได้แต่มองตามหลังทั้งสองคนพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง เธอดีใจที่ทั้งสองคนเริ่มที่จะสนิทสนมกันมากขึ้น และเธอหวังว่าวินจะรักและเอ็นดูบัวตองเหมือนน้องสาวจริงๆ
วินขับรถพร้อมกับแวะซื้อของไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็ถึงบ้านไม้ชั้นเดียวที่ตั้งอยู่นอกเมืองไม่ไกลออกมามากนัก พอรถจอดสนิทบัวตองก็รีบลงจากรถพร้อมกับหิ้วถือข้าวของต่างๆ เข้าไปในบ้าน โดยที่วินถือส่วนที่เหลือเดินตามหลังไปติดๆ
"ตาจ๋า ยายจ๋าบัวมาแล้วจ้ะ" บัวตองพูดพลางวางข้าวของลงกลางบ้านตรงหน้าตากับยายที่กำลังช่วยกันสานตะกร้าไม้ไผ่อยู่
"เอาอะไรมาเยอะแยะเลยลูก" ยายใจเอ่ยถามขึ้น
"นั้นสิ อยู่กันสองคนจะใช้หมดเหรอ" ตาแสงเอ่ยเสริมขึ้น
"หลายอย่างเลยจ้ะ พี่วินก็มาด้วยนะจ้ะ"
"อ้าว! เข้ามานั่งก่อนสิคุณ" ยายใจหันไปทางวินที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูบ้าน
"สวัสดีครับ" วินวางของลงพร้อมกับพนมมือไหว้ผู้สูงสัยทั้งสองคนอย่างนอบน้อม
"ไหว้พระเถอะคุณ มานั่งคุยกันหน่อยสิมา" ตาแสงเอ่ยขึ้น
"ตากับยายสบายดีนะครับ" วินนั่งลงบนเสื่อกลางบ้านทันที
"สบายดีจ๊ะ" ยายใจเอ่ยยิ้มๆ
ระหว่างที่วินกับยายใจตาแสงกำลังคุยกันอยู่ บัวก็เข้าไปในครัวพร้อมกับยกน้ำดื่มออกมาวางลงตรงหน้าชายหนุ่ม แล้วนั่งลงร่วมวงสนทนาด้วย
"ว่าแต่บัวไปอยู่บ้านคุณ ไม่ดื้อไม่ซนใช่ไหม" ยายใจเอ่ยถามขึ้น
"ครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดี"
"ตั้งใจเรียนนะบัว อย่าทำให้คุณเขาผิดหวังล่ะ"
"ค่ะยาย บัวจะตั้งใจเรียนไม่ดื้อไม่ซนเลยจ๊ะ"
"ต้องรบกวนคุณดูแลหน่อยนะคะ ยิ่งโตเป็นสาวขึ้นทุกวัน ยายก็อดเป็นห่วงไม่ได้เลยค่ะ"
"ครับ คุณแม่ฝากความคิดถึงมาให้ตากับยายด้วยนะครับ รวมถึงของที่ซื้อมาฝากด้วย"
"ขอบใจจ๊ะ เป็นบุญของบัวมันแล้วล่ะที่ได้เจอคุณกับแม่" ยายใจเอ่ยทั้งน้ำตาคลอเบ้า
"ยายจ๋า บัวคิดถึงยายนะจ๊ะ" บัวคลานเข่าเข้าไปสวมกอดยายในด้วยความรักใคร่
"ยายก็คิดถึงหนู เป็นเด็กดีนะลูก เข้าใจไหม"
"ค่ะ ยาย"
"บุญรักษานะลูก อยู่กับคุณเขาก็ช่วยแบ่งเบาภาระในบ้านด้วยนะลูก" ตาแสงลูบศรีษะบัวตองไปมา
"จ้ะตา บัวจะจำทุกคำสอนของตากับยายไว้ให้ขึ้นใจเลยจ้ะ"
วินนั่งมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกเพราะมีหลากหลายความรู้สึกผสมปนเปกันอยู่ เด็กสาวบอบบางคนหนึ่งที่กำพร้าพ่อกับแม่ กำลังนั่งกอดตากับยายที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กๆ ด้วยความรักความผูกพันที่ทำยังไงก็ตัดกันไม่ขาด และยิ่งได้เห็นภาพความอบอุ่นระหว่างตายายและหลานสาวแบบนี้ ทำให้เขายิ่งรู้สึกเอ็นดูบัวตองมากยิ่งขึ้นและคาดหวังที่จะทำให้ชีวิตของเธอดีขึ้นตามที่มารดาของเขาตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก
"ตากับยายทานข้าวกันหรือยังจ้ะ"
"ทานแล้วลูก" ยายใจเอ่ยยิ้มๆ
"งั้นก่อนจะกลับ บัวขอทำงานบ้านให้ตากับยายก่อนนะจ้ะ"
"ไม่ต้องหรอกลูก เดี๋ยวคุณเขาจะรอนาน"
"ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้"
"งั้นพี่วิน นั่งคุยกับตายายไปก่อนนะคะ เดี๋ยวบัวมาค่ะ" พูดจบบัวตองก็ตรงไปข้างหลังบ้านทันที
หลังจากที่บัวตองจัดการงานในครัวเสร็จเธอก็ยกตะกร้าเสื้อผ้าตากับยายไปซักตรงก๊อกน้ำหลังบ้านต่อ ทุกการกระทำของเธอล้วนแต่อยู่ในสายตาของวินที่แอบมองอยู่ห่างๆ ทั้งหมด ชายหนุ่มมองบัวตองด้วยสายตาที่อ่อนโยนและชื่นชม เขารู้ว่าเด็กสาวรักตากับยายมาก เธอจึงแสดงออกด้วยการแบ่งเบาภาระของพวกท่านเท่าที่ตนเองจะทำได้ให้ดีที่สุด
บัวตองยังคงไม่หยุดแค่นั้นพอตากผ้าเสร็จเธอตรงเข้าไปในบ้าน จัดการจัดเรียงของที่เธอซื้อมาจากห้างไว้ในตู้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย อีกทั้งยังกวาดถูบ้านจนสะอาดเอี่ยม จากนัั้นเธอก็ตรงเข้าไปหาวินที่นั่งรออยู่ตรงม้านั่งใต้ต้นไม้หน้าบ้าน
"พี่วินค่ะ"
"เสร็จแล้วเหรอ"
"ค่ะ"
"อยากจะไปไหนต่อไหม"
"ไม่ค่ะ" บัวตองส่ายหน้าเบาๆ
"งั้นก็กลับกันเถอะ"
"อยู่ต่ออีกสักหน่อยได้ไหมคะ" บัวตองเอ่ยเสียงสั่นเครือ
"ทำไมล่ะ"
"บัวคิดถึงตากับยายอยากจะอยู่นานๆ" พูดพลางปล่อยโฮร้องไห้สะอึกสะอื้น
วินเห็นอย่างนั้นก็ตกใจนิ่งชะงักไปชั่วครู่ แล้วค่อยๆ เดินเข้าไปรวบร่างบางเข้ามากอดปลอบแนบกายอย่างอ่อนโยน
"คิดถึงตากับยายมากเลยเหรอ" เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับลูบศีรษะเธอไปมา
"ค่ะ คิดถึงมากเลย" พูดปนสะอื้น
"งั้นก็อยู่ต่ออีกสักหน่อยก็ได้ "
"อยู่ถึงเที่ยงได้ไหมคะ บัวอยากทำกับข้าวให้ตากับยายทาน"
"ได้สิ ตามใจเธอเลย"
"ขอบคุณนะคะ" บัวผละออกจากร่างหนาช้าๆ
"ถ้าเกิดว่าวันไหน เธออยากจะมาเยี่ยมตากับยายอีก บอกฉันได้ตลอดเลยนะ ฉันจะพามาเอง" ยื่นมือหนาเช็ดคราบน้ำตาที่แก้มเนียนเบาๆ
"ค่ะ" รับคำพร้อมกับจ้องมองใบหน้าสากด้วยความอุ่นใจ
เวลาล่วงเลยไปจนถึงเที่ยงวันวินนั่งร่วมรอบวงทานข้าวฝีมือบัวตองกับตายายของเธออย่างเอร็ดอร่อยถึงแม้จะเป็นแค่อาหารพื้นๆ แต่รสชาติกลับถูกปากเขาเป็นอย่างมาก อีกทั้งบรรยากาศระหว่างคนในครอบครัวและรอยยิ้มของบัวตองยิ่งทำให้เขาเจริญอาหารมากยิ่งขึ้น
บัวตองแอบลอบมองชายหนุ่มข้างกาย ที่ได้ชื่อว่าพี่ชายพร้อมกับนึกถึงภาพและไออุ่นจากกายแกร่งที่กอดปลอบเธอก่อนหน้านั้นด้วยรอยยิ้มและหัวใจที่พองโต ทำไมกันนะเธอถึงรู้สึกดีแบบนี้บัวตองถามตนเองในใจ
ระหว่างทางกลับบ้านบัวตองไม่ลืมที่จะเอ่ยชอบคุณวินที่ยอมสละเวลาพาเธอมาเยี่ยมตากับยาย และอยู่ต่ออีกตามที่เธอต้องการ ซึ่งชายหนุ่มก็ยิ้มรับด้วยความเต็มใจพร้อมกับชวนเธอคุย
"เธอไม่ต้องขอบคุณอะไรฉันมากหรอก แม่ฉันต่างหากล่ะที่เป็นต้นคิดอุปถัมภ์เธอตั้งแต่แรก"
"ค่ะ"
"ต่อไปนี้มีปัญหาเรื่องเรียนหรือเรื่องอะไร ก็ให้บอกฉันนะ "
"ค่ะ บัวดีใจยังเลย ที่พี่เอ็นดูบัวเหมือนคุณแม่แล้ว" บัวตองยิ้มกว้าง
"ถ้าเธอเป็นเด็กดี ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะไม่เอ็นดูเธอนี่ จริงไหม"
"ใช่ค่ะ" บัวตองยิ้มรับ
"ฉันไม่รู้นะ ว่าฉันจะมีเวลาให้เธอแบบนี้ ไปอีกนานแค่ไหน"
"อ้าว! ทำไมคะ"
"ก็ถ้าฉันแต่งงานกับษา ฉันคงจะไม่มีเวลาให้เธออย่างนี้บ่อยๆ แล้วล่ะ"
"จริงด้วยค่ะ ถึงตอนนั้นพี่คงจะลืมบัวไปแล้ว" บัวตองเอ่ยเสียงแผ่วเบา
"ถึงยังไงเธอก็อยู่ในฐานะน้องสาวของฉัน ฉันก็ต้องหาเวลาให้อยู่แล้ว อย่าเพิ่งน้อยใจนะ" วินยื่นมือไปลูบศรีษะบัวตองเบาๆ ด้วยความเอ็นดู
"ค่ะ บัวเข้าใจ"พยักหน้ารับ
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
ณ มหาวิทยาลัยระหว่างที่บัวตองกับปายและนัทกำลังทำงานกลุ่มอยู่ในห้องเรียน ฟลุ๊คชายหนุ่มรุ่นพี่ก็เดินตรงเข้ามา พร้อมกับหิ้วถุงขนมไว้ในมือ
"น้องปายครับ พี่ขอรบกวนหน่อยได้ไหมครับ"
"ค่ะ" ปายเงยหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่มด้วยความแปลกใจ
"พี่ซื้อขนมมาฝากครับ"
"เอ่อ ปายเกรงใจค่ะ พี่ไม่เห็นต้องลำบากซื้อมาให้เลย"
"พี่ไม่ลำบากอะไรเลย รับไปเถอะนะครับ อย่าให้เสียน้ำใจของพี่เลยนะ"
"ก็ได้ค่ะ " ปายยื่นมือไปรับถุงขนมมาถือไว้ในมือ
"แล้วเย็นนี้น้องปายว่างไหม พี่จะชวนไปทานข้าวเป็นเพื่อนพี่สักหน่อย"
ปายได้ยินอย่างนั้นก็หันไปมองบัวตองกับนัทที่กำลังนั่งเบียดกันจ้องมองหน้าจอโน๊ตบุคอยู่ด้วยความสนิทสนม อีกทั้งตาก็เหลือบไปเห็นมือของนัทยื่นไปจับกุมมือบางที่กำลังเลื่อนเม้าส์ไปมาพอดี จากที่กำลังตัดสินใจลำบากว่าจะปฏิเสธไปยังไง แต่เธอกลับตัดสินใจได้ทันที
"ค่ะ ปายจะไปทานข้าวกับพี่เย็นนี้"
"ครับ ไว้เจอกันเย็นนี้นะ" ฟลุ๊คยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่หญิงสาวที่เขาหมายปองเริ่มจะเปิดใจแล้ว
ทันทีที่บัวตองกับนัทได้ยินคำตอบรับจากปากปายที่จะไปทานข้าวกับชายหนุ่มรุ่นพี่ ทั้งสองคนก็หันมามองปายเป็นตาเดียวกันด้วยความแปลกใจปนสงสัยที่เพื่อนรับปากจะไปทานข้าวกับชายหนุ่มรุ่นพี่ง่ายๆ
"ปายเธอจะไปจริงๆ เหรอ" บัวตองถามขึ้น
"อืม" ปายพยักหน้ารับ
"เธอคิดดีแล้วเหรอ" นัทถามขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล
"อืม ฉันคิดดีแล้ว"
"นัทมีอะไรหรือเปล่า" บัวตองหันไปถามนัทที่เหมือนมีอะไรในใจ
"เปล่า ฉันก็แค่ได้ยินประวัติพี่เขาไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่"
"หมายความว่ายังไง" ปายถามด้วยความข้องใจ
"นั้นสิ ไปรู้อะไรมา เล่ามาให้หมดเลยนะนัท" บัวตองเขย่าแขนชายหนุ่ม
"ก็ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก แค่ได้ยินว่าเจ้าชู้เท่านั้นเอง"
"จริงๆ เหรอ แต่ดูพี่เขาก็เจ้าเสน่ห์อยู่เหมือนกันนะ" บัวตองหันไปมองปาย
"เรื่องแค่นี้เอง ก็ไม่ได้เรื่องใหญ่อะไรนี่" ปายส่งยิ้มให้บัวตอง
"เธอรู้แบบนี้แล้ว ยังจะไปอีกเหรอ" บัวตองถามด้วยความเป็นห่วง
"ก็ไม่เห็นเสียหายอะไรนี่" ปายยักไหล่
"งั้นก็แล้วแต่เธอแล้วกัน" บัวตองพูดพลางหันไปมองหน้านัท
"ฉันพึ่งรู้นะ ว่าเธอชอบผู้ชายแบบนั้น" นัทจ้องหน้าปาย
"ใช่ฉันชอบ ไม่ได้ชอบธรรมดานะ ชอบมากด้วย"
"หึ อย่ามาร้องไห้ขี้มูกโป่งทีหลังก็แล้วกัน" นัทยกยิ้มมุมปาก
"มันเรื่องของฉัน" ปายเชิดหน้าขึ้น
"ตามใจ" นัทพูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปทันที
คล้อยหลังนัทเดินออกไปปายก็มีสีหน้าเศร้าลงทันที บัวตองเห็นอย่างนั้นก็พอจะเดาว่าอะไรเป็นอะไรขึ้นมาทันที โดยเฉพาะสายตาที่ปายมองตามหลังนัทที่เดินออกไปจนสุดลับตานั้น ถ้าเธอเดาอะไรไม่ผิดเพื่อนของเธอกำลังคิดอะไรกับเพื่อนชายอยู่แน่ๆ
"ปายเธอเคยแอบชอบใครไหม" บัวตองเปิดประเด็นขึ้น
"อืม เคยสิ" ปายยอมรับตรงๆ
"ใครเหรอ"
"ชอบไปก็แค่นั้นแหละ เขารักคนอื่นไปแล้ว"
"จริงเหรอแย่จัง แล้วเธอคิดจะบอกเขาไหม"
"ไม่อะ มันไม่มีประโยชน์หรอก เขาเกลียดขี้หน้าฉันจะตาย อีกอย่างเขาไม่มีทางเปลี่ยนใจจากคนที่เขารักหรอก " ปายทำหน้าบึ้งตึง
"เฮ้อ! ฉันอยากจะรู้จริงๆ ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ใช่นัทหรือเปล่านะ" บัวตองพูดติดตลก
"จะบ้าเหรอ! ฉันไม่มีทางชอบผู้ชายปากเสียแบบนั้นหรอก ให้ตายเถอะ!" ปายรีบปฏิเสธทันควัน
"ให้มันจริงเถอะ ฉันจะคอยดู ให้ฉันช่วยไหม" บัวตองเสนอตัว
"หยุดคิดไปเลยนะบัว อีกไม่นานฉันคงจะตัดใจได้เองแหละ"
"ฉันเชื่อนะ ว่าอีกไม่นานผู้ชายคนนั้นจะเห็นเธออยู่ในสายตาบ้าง เพราะฉันรู้ดีว่าการแอบรักใครสักคนโดยที่รู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้มันเป็นรู้สึกยังไง" บัวตองพูดพลางนึกถึงใบหน้าคมของวินที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายลอยขึ้นมา
"เธอพูดอย่างกับว่าเธอกำลังแอบรักใครอยู่นั้นแหละ ใครเหรอ" ปายเอียงหน้าถามด้วยความสงสัย
"เปล่าไม่มีอะไร ฉันก็พูดไปเรื่อยเปื่อยนั้นแหละ ทำงานกันต่อเถอะ" บัวตองรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
"ก็ได้ ฉันจะไม่ถามเรื่องเธออีก เธอก็อย่ามาถามเรื่องของฉันอีกก็แล้วกัน" ปายทำหน้างอ
"เรื่องของฉันมันไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก ฉันสนใจเรื่องของเธอมากกว่านะปาย" บัวตองยังคงอยากรู้ความจริงจากปากเพื่อน
"เธอย่ามากวนสมาธิของฉันน่า ฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะใส่ชุดอะไรไปทานข้าวกับพี่ฟลุ๊คดี"
"ฉันคงจะห้ามเธอไม่ได้แล้วสินะ" บัวตองถอนหายใจเบาๆ
"ฉันตัดสินใจแล้ว เธอไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก แค่ไปทานข้าวเอง"
"อืม มันก็จริงของเธอ พี่เขาอาจจะหยุดที่เธอเป็นคนสุดท้ายก็ได้จริงไหม" บัวตองพยักหน้าเห็นด้วย
"อืม ขอบใจนะ" ปายส่งยิ้มให้บัวตองเพื่อกลบเกลื่อนความว้าวุ่นที่อยู่ภายในใจ
ช่วงเย็นฟลุ๊คขับรถสปอร์ตคันหรูไปรับปายถึงที่บ้านและตรงไปยังร้านอาหารชื่อดังใจกลางเมืองร้านหนึ่ง บรรยากาศในการรับประทานอาหารของทั้งสองคนผ่านไปด้วยดี หลังทานเสร็จฟลุ๊คก็เซอร์ไพรส์เธอด้วยช่อดอกกุหลาบช่อใหญ่ ซึ่งเธอก็รับไว้ความยินดี
ทั้งสองคนใช้เวลาอยู่ในร้านอาหารอยู่นานพอสมควร จากนั้นก็พากันออกจากร้านตรงไปยังรถคันหรู จากนั้นชายหนุ่มก็พาปายไปยังผับแห่งหนึ่ง ซึ่งฟลุ๊คบอกกับเธอว่าเขาขอแวะมาหาเพื่อนและไม่ลืมชวนเธอเข้าไปข้างในด้วย เธอจึงเดินตามชายหนุ่มเข้าไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเพราะเธอไม่เคยมาในสถานที่แบบนี้เลย
ฟลุ๊คพาปายไปนั่งลงตรงโต๊ะที่ยังว่างอยู่พร้อมกับสั่งเครื่องดื่มให้เธอพร้อมสรรพ และเขาก็ผละออกไปหาเพื่อนอีกโต๊ะหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ ทิ้งให้ปายนั่งอยู่คนเดียว ด้วยบรรยากาศที่คึกครื้นกึกก้องไปด้วยเสียงเพลงและผู้คนมากมายทำให้เธอเริ่มจะหวาดระแวงผู้คนที่อยู่รอบๆ กาย โดยเฉพาะสายตาจากผู้ชายแปลกหน้าที่มองโลมเลียเธออย่าโจ่งแจ้ง
"ว่าไงสาวน้อย มาคนเดียวเหรอครับ" ชายแปลกหน้าเดินเข้าไปหาเธอที่โต๊ะ
"มากับพี่ชายค่ะ" ปายเอ่ยขึ้นด้วยความหวาดหวั่น
"งั้นเหรอ คืนนี้สนใจจะไปต่อกับพี่ไหมครับ"
"ไม่ค่ะ"
"ทำไม อย่ามาเล่นตัวหน่อยเลยน่า"
"น้องเขามากับผม มีอะไรหรือเปล่าครับ" ฟลุ๊คเดินตรงมาที่โต๊ะพอดี
"เปล่า" ชายแปลกหน้ายักไหล่แล้วเดินออกไปทันที
"น้องปายไม่เป็นไรนะ" ฟลุ๊คเอ่ยถามขึ้น
"ค่ะ ปายไม่เป็นไร แต่จะให้ดีพี่รีบพาปายออกไปจากที่นี่จะดีกว่านะคะ"
"ครับ งั้นเราไปกันเถอะ" ฟลุ๊คยื่นมือไปจับจูงมือปายเดินฝ่าผู้คนที่กำลังเต้นกันอย่างสนุกสนานออกไปทันที
ฟลุ๊คจับจูงมือปายออกมายังลานจอดรถระหว่างนั้นก็มีผู้หญิงรุ่นน้องปีสามในมหาลัยเดินตรงหาไปหาคนทั้งคู่ด้วยสีหน้าไม่พอใจและเอาเรื่อง
"ฟลุ๊ค!" หญิงสาวเอ่ยเรียกขึ้น
"ออย!" ฟลุ๊คหันไปตามเสียงด้วยความตกใจ
"พี่ทำแบบนี้กับออยได้ยังไง!" ออยตวาดเสียงดังจ้องหน้าปายเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
"พี่ทำอะไร "
"ก็สิ่งที่พี่กำลังทำอยู่นี่ไงล่ะ"
"ออยไม่มีสิทธิ์มาหึงหวงพี่นะ"
"ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ เมื่อคืนพีี่ยังนอนกับออยอยู่เลย" ออยยิ้มเย้ยปายด้วยความสะใจ
"อย่ามาพูดอะไร มั่วซั่วแถวนี้นะ ปายเราไปกันเถอะ" ฟลุ๊คจับจูงแขนปายเดินออกไป
"หยุดนะ! ฉันไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก" ออยรีบคว้ากระชากแขนปายให้หยุดเดินตามชายหนุ่ม
"โอ๊ย!" ปายร้องออกมาด้วยความเจ็บตึงตรงแขนที่ถูกดึงกระชาก
"ออยจะทำอะไร ปล่อยปายเดี๋ยวนี้นะ!" ฟลุ๊ครีบผลักออกจากปายแรงๆ
"ทำไม แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยนะ"
"พี่ว่าออยกลับไปเถอะ เราไม่ได้เป็นอะไร อย่ามายุ่งกับพี่อีก"
"พี่จะคบกับยัยนี่จริงๆ เหรอ" ออยจ้องหน้าปายเขม่น
"ใช่ พี่จะคบกับปาย รู้แล้วก็รีบไปซะ!"
"ไม่! ฉันอยากจะรู้เหมือนว่าผู้หญิงหน้าด้านแย่งของคนอื่น มันจะหน้าหนาขนาดไหน" ออยพูดพลางเดินปรี่เข้าไปหาปายพร้อมกับเงื้อมฝ่ามือขึ้นหมายจะฟาดหน้าปาย
"โอ๊ย!" ออยถูกกระชากแขนแรงๆ ออกห่างจากปายด้วยความรวดเร็วจากฝีมือของผู้มาใหม่
"นัท!" ปายอุทานขึ้นแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตนเอง
"ไอ้บ้า! แกเป็นใครมายุ่งอะไรด้วย!" ออยแว้ดใส่นัททันทีเพราะเป็นตัวขัดขวางสิ่งที่เธอกำลังจะทำ
"จะกลับด้วยกันไหม" นัทหันไปถามปายโดยไม่สนใจใครทั้งนั้น
"กลับสิ ฉันจะกลับกับนาย" ปายเดินเข้าไปหานัททันที
"น้องปาย อย่าพึ่งกลับสิ เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง" ฟลุ๊คยังคงไม่ยอมลดละความพยายาม
"ไม่ดีกว่าค่ะ พี่อย่ามายุ่งปายอีกนะคะ ปายไม่อยากมีปัญหา"
"แต่ว่าพี่"
"หยุดเลยนะ! พี่นั้นแหละที่ต้องไปส่งฉัน"ออยเอ่ยขึ้น
"ไปกันเถอะ ฉันอยากกลับแล้ว" ปายพูดพลางเดินนำหน้านัทออกไป
ภายในรถคันหรูระหว่างทางกลับบ้านปกคลุมไปด้วยความเงียบ เพราะตั้งแต่ที่นัทกับปายขึ้นมานั่งบนรถ ทั้งคู่ยังคงเงียบไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาเลย จนทำให้บรรยากาศชวนน่าอึดอัด ปายจึงเป็นฝ่ายพูดทำลายความเงียบขึ้นมา
"ขอบคุณนะ ที่นายช่วยฉันไว้ ไม่อย่างนั้นฉันคงจะโดนตบไปแล้ว"
"อืม" นัทพยักหน้ารับ
"ว่าแต่นายไปทำอะไรแถวนั้นเหรอ"
"มันเรื่องของฉันเธอไม่ต้องอยากรู้หรอก"
"ฉันต้องขอบคุณนายมากๆ เลยนะ ถ้าไม่ได้นายฉันคงจะแย่แน่ๆ เลย"
"อืม ก็เธอเป็นเพื่อน ถ้าฉันไม่ช่วยเดี๋ยวจะหาว่าแล้งน้ำใจอีก ทีหลังจะคบใครก็ดูดีๆ ก็แล้วกัน"
"ฉันคงจะเป็นได้แค่เพื่อนสินะ" ปายเอ่ยเสียงแผ่วเบา
"เธอว่าอะไรนะ" นัทขมวดคิ้วเข้าหากัน
"เปล่า ฉันรู้แล้วนะ ว่านายขอบัวเป็นแฟนแล้ว" ปายรีบเปลี่ยนคุย
"ทำไมเธอจะเยาะเย้ยฉันเหรอ" นัทเริ่มจะมีอารมณ์
"เปล่านะ! ฉันรู้ว่าถึงยังไงนายก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจไปจากบัวหรอก"
"รู้แล้วก็ดี "
"ฉันขออะไรนายอย่างหนึ่งได้ไหม"
"อะไร"
"นายจะเป็นเพื่อนที่ดีกับฉัน จนกว่าเราจะเรียนจบได้ไหม" ปายจ้องใบหน้านัทไม่วางตา
"เพื่อนที่ดี หมายความว่ายังไง"
"ก็หมายความว่านายจะเลิกหาเรื่องฉัน คุยกันดีๆ อะไรแบบนี้นายว่าดีไหม ฉันไม่อยากจะทะเลาะกับนายแล้วล่ะ ฉันเหนื่อย"
"ได้สิ ฉันจะพยายามก็แล้วกัน"
"ขอบใจนะ" ปายยิ้มกว้างด้วยความดีใจ
นัทหันไปมองปายพร้อมกับยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ให้กับท่าทางดีใจของปาย เขาไม่รู้หรอกว่าเธอจะดีใจอะไรนักหนาที่เขายอมรับปากทำตามที่เธอขอ แต่ที่แน่ๆ เขาจะไม่บอกให้เธอรู้หรอกว่าเขาแอบตามดูเธอตั้งแต่ออกมาจากบ้านจนถึงที่ผับแล้วด้วยความเป็นห่วง และมันก็เกิดเรื่องขึ้นจริงๆ โชคดีที่เขาคว้ามือผู้หญิงคนนั้นไว้ทันไม่อย่างนั้นป่านนี้เธอคงจะยับเยินไปแล้ว