หลายวันต่อมา
ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งเนตรนภากำลังพาบัวตองเข้าไปยังร้านขายเสื้อผ้าร้านหนึ่ง พอเข้าไปถึงเด็กสาวก็กวาดสายตามองไปรอบๆ ร้านด้วยความตื่นตาตื่นใจกับเสื้อผ้าหลากสีสันที่เรียงรายกันอยู่ตรงหน้า เนตรนภาเห็นอย่างนั้นก็อดที่จะยิ้มออกมาให้กับท่าทางของเด็กสาว
"เลือกได้ตามใจเลยนะลูก"
"น่าจะแพงมากนะคะ ไม่เหมาะกับบัวหรอกค่ะ"
"เหมาะสิจ๊ะ ไม่ต้องเกรงใจแม่หรอกลูก อยากจะได้ชุดไหนก็เลือกได้เลย เดี๋ยวแม่จะพาไปดูกระเป๋าและรองเท้าต่อ"
"แต่ว่าหนู..."
"ถ้าไม่ยอมเลือกเอง แม่จะให้พนักงานจัดการให้เองนะ"
"ก็ได้ค่ะ" รีบเดินไปเลือกทันที
บัวตองเลือกหยิบเสื้อกับกางเกงอย่างละตัวไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเนตรนภาด้วยความเกรงใจ ยิ่งเธอเห็นราคาที่แพงกว่าราคาเสื้อผ้าในตลาดนัดหลายเท่าก็ยิ่งไม่อยากแม้แต่จะจับต้องด้วยซ้ำ
"บัวเลือกได้แล้วค่ะ คุณแม่"
"อะไรกันหยิบมาแค่สองตัวเอง"
"แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ"
"แต่แม่ว่าไม่นะ "
เนตรนภามองเด็กสาวด้วยรอยยิ้มเอ็นดูในความใสชื่อของเธอ จากนั้นก็เดินไปเลือกเสื้อผ้าให้เด็กสาวด้วยตนเอง บัวตองเห็นอย่างนั้นก็ได้แต่ยืนมองเท่านั้น เนตรนภาเลือกชุดหลากหลายชุดจนล้นมือพนักงานในร้านจึงช่วยกันจัดพับใส่ถุงได้ประมาณสามสี่ใบจากนั้นเนตรนภาก็พาบัวตองไปต่ออีกสองสามร้านแล้วพาเธอกลับบ้าน
บัวตองนั่งมองเสื้อผ้าข้าวของกระเป๋ารองเท้าที่เนตรนภาซื้อให้เธออยู่ในห้องนอนด้วยความตื้นตันดีใจ โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ยี่ห้อดัง เธอไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยว่าจะมีโอกาสได้สัมผัสหรือใช้สิ่งของราคาแพงๆ พวกนี้ ร่างบางหยิบจับข้าวของตรงหน้าขึ้นมาสัมผัสเชยชมด้วยรอยยิ้มกว้างมีความสุข
ณ บริษัทชาไทยจำกัด ภายในห้องทำงานประธานบริษัทวินกำลังก้มหน้าเซ็นเอกสารบนโต๊ะทำงานอยู่ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นพร้อมกับนพพลชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หน้าตาดีหัวหน้าฝ่ายการตลาดเดินตรงเข้ามาไปนั่งลงตรงหน้าวินด้วยความคุ้นเคยเป็นกันเอง
"ว่าไงวะ ไอ้นพ" วินเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนสนิท
"คืนนี้ไปดื่มกันสักหน่อยไหมวะ"นพยักคิ้วให้เพื่อน
"ทำไม แกอกหักเหรอถึงได้มาชวนฉันดื่ม"
"เปล่า ฉันแค่อยากจะมีเพื่อนดื่มสักหน่อย"
"ก็ได้ ฉันจะไปกับแก"
"ว่าแต่เด็กที่แม่แกรับมาเลี้ยงเป็นยังไงบ้างวะ"
"ก็ดี ฉันพึ่งจะไปจัดการเรื่องเรียนต่อให้เมื่อวันก่อนนี้เอง" พูดพลางนึกถึงใบหน้าหวานใสของบัวตอง
"แม่แกคงจะเหงาสินะ ถึงอยากจะมีลูกสาวสักคน"
"อืม ก็อย่างที่ฉันเคยบอกนั้นแหละ ในเมื่อมันเป็นความสุขของท่าน ฉันก็ไม่อยากจะขัดอะไร"
"แล้วแกกับษาล่ะ เป็นไงบ้าง"
"ไม่ค่อยได้เจอกันเลยวะ สงสัยหมู่นี้เขาจะงานยุ่ง"
"แกคิดอย่างนั้นเหรอ"
"อืม ทำไมวะ" วินชะงักไปชั่วครู่
"เปล่า ฉันไปทำงานก่อนนะ" นพพลยกยิ้มมุมปากแล้วเดินออกไป
"อืม ไว้เจอกัน"
ช่วงเย็นภายในผับแห่งหนึ่งวินกับนพกำลังนั่งดื่มกันไปเพลินๆ พร้อมกับคุยเรื่องงานในบริษัทไปด้วย จนมาถึงเรื่องของนพพลที่วินอดที่จะถามเรื่องส่วนตัวของเพื่อนไม่ได้เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาเขายังไม่เคยเห็นนพพลควงผู้หญิงคนไหนหรือมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลยสักครั้ง
"ว่าแต่แกเถอะ เมื่อไหร่จะมีแฟนสักทีวะ"
"ก็อยากจะมีอยู่นะ แต่มันเป็นไปไม่ได้วะ"
"ทำไม อย่าบอกนะว่าแกแอบรักคนมีเจ้าของ"
"ก็ไม่เชิงหรอก " นพพลหลบสายตาวิน
"ยังไงวะ แกมีเรื่องอะไรไม่สบายใจก็บอกฉันได้นะโว้ย" วินตบไหล่นพพล
"เปล่าไม่มีอะไร" นพพลกระดกแก้วเหล้าลงคอรวดเดียวจนหมด
"มีเรื่องอะไรก็บอกฉันได้ตลอดเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ"
"อืม" นพพลพยักหน้ารับ
เวลาล่วงเลยไปจนถึงเที่ยงคืนทั้งสองคนจึงพากันเดินออกมาตรงลานจอดรถ ระหว่างที่กำลังไปที่รถโทรศัพท์มือถือของนพพลก็สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกง ชายหนุ่มจึงหยิบขึ้นมาดูพอเห็นว่าเป็นชื่อษานพพลก็รีบกดปิดทันที
"ใครโทรมาหรือเปล่าวะ ทำไมแกไม่รับสาย" วินที่เดินตามหลังมาเอ่ยถามขึ้น
"ใครไม่รู้โทรมาเบอร์ไม่คุ้นเลย ฉันก็เลยตัดสายทิ้ง"
"งั้นเหรอ ขับรถกลับดีๆ ล่ะ ฉันไปก่อนนะ"
"เออ แกก็เหมือนกันกลับดีๆ " นพพลโบกมือให้วินด้วยใบหน้าเคร่งเครียด จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออกหาษาทันที
หนึ่งเดือนต่อมา
ภายในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งบัวตองในชุดนักศึกษาปีหนึ่งกำลังนั่งทานมื้อกลางวันร่วมโต๊ะกับเพื่อนร่วมคณะอีกสองคนในร้านอาหารของมหาลัย ตั้งแต่ที่เธอก้าวเข้ามาอยู่ในรั้วมหาลัยแห่งนี้ก็มีเพื่อนทั้งสองคนนี้แหละที่เข้ามาทักทายเธอในตอนที่เธอยังไม่มีเพื่อนแม้แต่คนเดียว ตั้งแต่นั้นมาทั้งสามคนจึงเป็นเพื่อนสนิทกัน
"บัววันนี้พี่วินมารับไหม" ปายเพื่อนสาวเอ่ยถามขึ้น
"ไม่รู้สิ หมู่นี้พี่เขาเหมือนจะยุ่งๆ กับงานอยู่"
"งั้นเหรอ ได้กลับเองอีกตามเคยล่ะสิ"
"อืม ฉันชินแล้วล่ะ" บัวตองยิ้มรับทุกครั้งที่วินไม่ว่างเธอก็จะขึ้นรถเมล์กลับเองจนชินไปแล้ว
"ให้ฉันไปส่งไหมบัว" นัทเพื่อนชายเอ่ยยิ้มๆ
"ไม่เป็นไรฉันกลับเองได้ ขอบใจมากนะนัท"
"นั้นสิ ฉันว่าเธอให้นัทไปส่งเถอะ" ปายเอ่ยเสริมขึ้น
"ถ้าพี่วินเขาไม่มารับ ค่อยว่ากันอีกทีนะ"
"ก็ได้" นัทนั่งคอตก
"ได้เวลาเข้าเรียนแล้ว เรารีบไปกันเถอะ" ปายยกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาตรงข้อมือ
"น้องบัวครับ พี่ซื้อขนมมาฝากครับ"หนุ่มรุ่นพี่ร่วมคณะหิ้วถุงขนมมายื่นให้เธอ
"คนเมื่อกี้เพิ่งจะไปเอง ตอนนี้มาอีกคนแล้วเหรอ" ปายกระซิบข้างหูบัวตอง
"รับไปเถอะนะครับ ไม่งั้นเสียน้ำใจพี่แย่เลย"
"ผมว่าไม่ได้หรอกครับ เราจะต้องรีบไปเรียนกันแล้ว" นัทเอ่ยขึ้นด้วยความไม่พอใจ
"อย่ามาเสือกน๊า ไอ้หน้าอ่อน" รุ่นพี่จ้องหน้านัทอย่างเอาเรื่อง
"ก็ได้ค่ะ บัวจะรับไว้" บัวตองรีบเดินเข้าไปหยิบถุงในมือชายหนุ่มรุ่นพี่มาถือเอาไว้ทันที เพราะกลัวเรื่องจะบานปลายไปกันใหญ่
"ขอบคุณครับ ไว้พี่จะซื้อมาฝากใหม่นะ หรือว่าน้องบัวอยากจะทานอะไรเป็นพิเศษก็บอกพี่ได้เลยนะครับ พี่จะได้ซื้อมาฝาก"
"ขอบคุณนะคะ แต่บัวว่าไม่ต้องดีกว่าค่ะ บัวเกรงใจ"
"ไม่ต้องเกรงใจพี่หรอก สำหรับบัวแล้วพี่เต็มใจเสมอ"
"เอ่อ ถึงเวลาเรียนแล้ว บัวขอตัวก่อนนะจ้ะ"
"ครับ อย่าลืมคิดถึงพี่ด้วยนะ" ชายหนุ่มรุ่นพี่โบกมือให้หญิงสาวรุ่นน้องพร้อมกับยิ้มกว้าง
ทั้งสามคนพากันไปเข้าไปในห้องเรียน ระหว่างที่อาจารย์กำลังสอนอยู่ นัทก็คอยแอบมองใบหน้าหวานของบัวตองอยู่ตลอดเวลา ด้วยความเผลอไผลชายหนุ่มแอบหวังลึกๆ ว่าหญิงสาวจะมีใจให้ตนเองบ้างและวันใดที่เขาสารภาพความในใจเธอจะยอมตกลงปลงใจเป็นแฟนกับเขา
การกระทำของชายหนุ่มต่างก็ตกอยู่ในสายตาของปายอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน เธอพอจะดูออกว่าชายหนุ่มวัยเดียวกันกำลังมีใจให้กับเพื่อนสาวคนสนิทอยู่ แต่ดูเหมือนจะเป็นชายหนุ่มแค่ฝ่ายเดียวที่คิดเกินเลยเกินกว่าเพื่อน แต่ทำไมกันนะเธอถึงได้รู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่นักที่ชายหนุ่มมองเพื่อนของเธอแบบนั้นเลย
ช่วงเย็นทั้งสามคนพากันมานั่งเล่นตรงม้าหินอ่อนด้านหน้ามหาลัยก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน ปายกับนัทนั่งเป็นเพื่อนบัวตองระหว่างที่รอวินมารับ ซึ่งชายหนุ่มโทรมาบอกบัวตองก่อนหน้านั้น บัวตองดีใจที่เธอได้มีโอกาสได้เรียนและมีเพื่อนที่ดีซึ่งเป็นสิ่งที่เธอเคยวาดฝันเอาไว้และในที่สุดความฝันนั้นก็เป็นจริง เธอต้องขอบคุณโชคซะตาที่ทำให้เธอได้เจอกับเนตรนภาในวันนั้น เธอสัญญากับตัวเองตั้งแต่ที่ก้าวขาเข้ามาอยู่ในบ้านไกรณรงค์เอาไว้ว่าเธอจะทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณของท่านทุกอย่างตามที่ท่านต้องการ
รอสักพักวินก็แล่นรถมาจอดตรงหน้ามหาลัยบัวตองจึงรีบเดินตรงไปที่รถทันที โดยไม่ลืมที่จะโบกมือลาเพื่อนๆ พอบัวตองขึ้นรถไปปายกับนัทก็ต่างแยกย้ายกันกลับคนละทาง บัวตองขึ้นไปนั่งบนรถก็เจอวินกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มมีความสุข แต่เธอไม่ลืมที่จะพนมมือไหว้ชายหนุ่มเหมือนเช่นเคย สักพักชายหนุ่มก็วางสายไปแล้วหันมาทางเธอ
"วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับขับแล่นรถไปข้างหน้า
"ก็ดีค่ะ"
"มีอะไรขาดเหลือก็บอกฉันได้ตลอดนะ"
"ขอบคุณค่ะ"
"แล้วตอนนี้มีเพื่อนกี่คนแล้วล่ะ"
"สองคนค่ะ" บัวตองยิ้มมุมปาก
"ดีแล้วล่ะมีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน"
"ค่ะ"
"แล้วมีใครมาจีบเธอบ้างไหม" วินถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"เอ่อ บัวไม่รู้ค่ะว่าจีบหรือเปล่า แต่รุ่นพี่ชอบซื้อขนมมาฝากและชอบมาชวนคุยตั้งหลายคนเลยค่ะ" บัวตองตอบไปตามความจริงด้วยความใสชื่อ
"หึ นั้นแหละเขาเรียกว่าจีบ เธอนี่มันชื่อจริงๆ เลยนะ ถึงว่าแม่ฉันถึงได้รักได้ชอบเธอมากขนาดนี้" วินหัวเราะขบขัน
"ก็บัวไม่เคยมีใครมาจีบนี่ค่ะ"
"ช่างเถอะ แต่ถ้าจะให้ดี เธอไม่ต้องรีบมีแฟนหรอกนะ เดี๋ยวจะเสียการเรียนเสียเปล่าๆ เธอก็รู้ว่าคุณแม่หวังในตัวเธอมาก"
"ค่ะ บัวจะตั้งใจเรียนให้จบ" หญิงสาวรับคำด้วยความหนักแน่น
"อืม อย่าทำให้แม่ฉันผิดหวังก็แล้วกัน"
"ค่ะ"
ใช้เวลาไม่นานรถก็แล่นเข้าไปตรงโรงรถจอดภายในบ้านไกรณรงค์ พอทั้งคู่เข้าไปข้างในบ้านต่างก็แยกย้ายกันไปทำธุระของตัวเองทันที โดยบัวตองเลือกที่จะเข้าไปช่วยแม่บ้านที่กำลังทำมื้อเย็นอยู่ในครัว เธอจึงถือโอกาสแสดงฝีมือด้วยการทำน้ำพริกปลาทูโดยมีผักสดและผักลวกเป็นของแกล้มข้างเคียง ซึ่งเธอก็ได้รับคำชมจากป้าณีกับป้าศรีไม่ขาดปากว่าอร่อยนักหนา บัวตองจึงรับคำชมด้วยรอยยิ้มอันสดใสและคำขอบคุณเป็นการตอบแทน
หลังจากที่เธอออกมาจากห้องครัวก็ตรงขึ้นไปยังห้องของตนเองเพื่อจัดการทำธุระส่วนตัว จากนั้นก็ลงมาข้างล่างเพื่อทานมื้อเย็นด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเหมือนเช่นทุกวัน ทันทีที่เนตรนภากับวินตักน้ำพริกปลาทูทานก็แอบแปลกใจเล็กน้อยเพราะเป็นรสชาติที่ไม่คุ้นเคยและไม่เคยทานที่ไหนมาก่อนเลย
"ณี ศรี ทำไมวันนี้น้ำพริกปลาทูรสชาติไม่เหมือนทุกครั้งเลยล่ะจ๊ะ" เนตรนภาหันไปเอ่ยถามแม่บ้านทั้งสองคน
"อ๋อ พอดีเราสองคนไม่ได้ทำค่ะวันนี้" ณีเอ่ยยิ้มๆ
"แล้วใครทำเหรอครับ อร่อยถูกปากผมมากเลย" วินพูดพลางหยิบผักลวกจิ้มลงไปในถ้วยน้ำพริกแล้วเอาเข้าปาก
"นั้นสิจ๊ะ" เนตรนภาสงสัย
"เอ่อ คือบัวเป็นคนทำเองค่ะ" ส่งยิ้มให้เนตรรภากับวิน
"หนูเองเหรอ อร่อยมากเลยลูก" เนตรนภาเอ่ยชื่นชมบัวตอง
"ขอบคุณค่ะ" บัวตองยิ้มรับ
"ไม่น่าเชื่อเลย ว่าเธอจะทำอาหารอร่อยแบบนี้" วินเอ่ยขึ้น
"ปกติถ้าบัวอยู่ที่บ้าน บัวจะเป็นคนทำกับข้าวให้ตากับยายอยู่แล้วค่ะ ไว้บัวจะทำเมนูอื่นให้คุณแม่กับพี่ทานอีกเรื่อยๆ นะคะ"
"อืม ก็ตามใจสิ" วินพยักหน้ารับหันไปสนใจอาหารตรงหน้าต่อ
"จ้ะ แม่จะรอทานนะ" เนตรนภายิ้มให้บัวตองด้วยความเอ็นดู
"ค่ะ"
ทั้งสามคนต่างก็ทานมื้อเย็นร่วมกันไปด้วยความเอร็ดอร่อย โดยเฉพาะวินที่ดูจะชอบน้ำพริกปลาทูฝีมือบัวตองเป็นพิเศษ ทั้งจิ้มทั้งตักใส่จานของตนเองไม่ยอมหยุดจนน้ำพริกในถ้วยพร่องลงเกือบจะหมดถ้วยด้วยฝีมือของชายหนุ่มเพียงคนเดียว เนตรนภาจึงหันไปมองหน้าบัวตองด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม เนตรนภาดีใจที่ลูกชายชอบในรสมือของเด็กสาวทั้งๆ ที่เป็นอาหารที่แสนจะธรรมดาพื้นๆ
หลังทานมื้อเย็นเสร็จบัวตองก็กลับขึ้นห้องไปทำรายงานต่อด้วยความตื้นตันในใจที่วันนี้เธอทำให้วินชื่นชมในตัวเธอได้ถึงไม่คำอะไรออกมาจากปากของชายหนุ่ม แต่ดูจากที่ชายหนุ่มทานน้ำพริกฝีมือเธอแล้วมันก็แสดงให้เห็นว่าชายหนุ่มชื่นชอบเป็นอย่างมาก จากที่เคยเอาแต่ตีหน้าเคร่งขรึมใส่เธออยู่ตลอดที่ผ่านมา
ส่วนวินก็ตรงเข้าไปยังห้องทำงานเพื่อทำงานและทำสิ่งที่ต้องทำทุกวันก็คือโทรหาหญิงสาวคนที่เขารักมากที่สุดก็คือษา ที่ช่วงนี้เขาไม่ได้เจอเธอเพราะเธอต้องทำงานที่บริษัทคุณพ่อของเธอ อีกทั้งเธอยังต้องบินไปต่างประเทศอยู่บ่อยๆ แต่ถึงเธอจะไม่ค่อยมีเวลาให้เขาแต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดที่จะระแวงสงสัยในตัวเธอเลยสักครั้ง เพราะเธอกับเขาต่างก็มีพันธะต่อกันและสัญญาระหว่างสองครอบครัว