มาถึงบ้านของคุณไฟฉันก็เตรียมมานั่งดูการทำพิธีและฟังคำอธิบายจากคุณยิว พิธีอาบน้ำมนต์เริ่มขึ้นที่ลานกลางแจ้ง วันนี้น้ำที่ไหลลงมายังคงเป็นสีดำอยู่เลย
“เขาจะหายแน่ใช่ไหมคะ” ฉันหันไปถามคุณยิวที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ตอนนี้ยังครับ คนทำของใส่กะเอาถึงตายเลย พวกผีหรือของที่เข้าร่างมันต้องทำตามคำสั่งครับ ถ้าผู้หญิงคนนี้ตายพวกมันก็จะได้ปลดปล่อยแต่ก็ไม่ได้ไปเกิดหรอกครับ บาปกรรมมันก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้คุณไฟก็ทำได้แค่นี้ถ้ามากกว่านี้มันอันตรายเกินไป”
“ทำไมคะ”
“ของอาจจะย้อนกลับมาหาคุณไฟได้ อันตรายมากคุณไฟไม่ใช่หมอผี ไม่ใช่ร่างทรงแต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่ที่ไม่ทำเพราะคุณไฟจะมีเหตุและผลของตัวเอง บางเคสมาช้าไปแค่คุณไฟดูก็รู้ชะตากรรมแล้วครับ”
“เคยมีแบบช่วยไม่ได้ไหมคะ”
“มีนะครับ ก่อนทำพิธีคุณไฟจะพูดเสมอว่าสิ่งที่เป็นมันเป็นผลของการกระทำ เวรกรรม หนักเบาก็อยู่ที่เวรกรรมถ้าเคสไหนเต็มที่แล้วก็จะคุยกับญาติเป็นการส่วนตัว แต่คุณไฟไม่รับทำของจะแก้อย่างเดียว”
“แล้วเคยทำไมคะ”
“เคยสิครับ ก่อนจะมีชื่อเสียงคุณไฟก็นักเลงเหมือนกัน สมัยนั้นยังร้อนวิชาแต่พอคุณตาเสียคุณไฟก็สัญญาไว้ว่าจะช่วยแก้เท่านั้น จนคุณไฟมีชื่อเสียงตอนแก้ของให้นักการเมือนในงานประกวดผลไม้เมื่อหลายปีก่อน เหมือนพลิกชีวิตของคุณไฟเลย”
ฉันมองการทำพิธีเมื่อเสร็จแล้วคุณไฟก็ให้เปลี่ยนชุดเพื่อขึ้นไปทำพิธีด้านบนต่อ ฉันเลยหยิบบทละครมาอ่านค่าเวลา
[ทำไมคุณพระทำกับน้องเยี่ยงนี้!!]
[ทอไหมเจ้ากลับไปเถอะแล้วอย่ามาที่นี่อีก!!]
[ใยคุณพระถึงได้ทอดทิ้งน้องฮืออ]
“คุณหนูแพร!”
“คะ!” เสียงของคุณไฟทำให้ฉันสะดุ้ง น้ำตาไหลได้ไงกันฉันรีบเช็ดน้ำตาก่อนจะยิ้มให้คุณไฟ
“ร้องไห้ทำไมครับ”
“เปล่าค่ะ สงสัยอินกับบทไปหน่อย”
“วันนี้ยิวคงตอบคำถามไปเยอะแล้ว อ่านบทไปถึงไหนแล้วครับ”
“เหตุใดคุณพระถึงได้ทอดทิ้งทอไหมคะ”
“มนต์เสน่ห์ไงครับ”
“ใครเป็นคนทำกันแน่คะ ทำไมคุณพระถึงมีเมียหลายคนสงสารทอไหมนะ ต้องทนนอนฟังเสียงการร่วมรักของคนที่ตนรัก”
“ทุกอย่างมันมีเหตุและผลครับ”
“ตอนจบของเรื่องทอไหมรู้ไหมคะว่าคุณพระโดนของ”
คุณไฟได้แต่ยิ้มก่อนจะยื่นดอกไม้ที่เด็ดมาให้แพรไหม เพียงแค่เธอได้สัมผัสภาพในหัวมันก็วาร์ปเข้ามา ภาพของการทะเลาะกัน ตบตีกัน แต่พอคุณไฟเรียกแพรไหมก็ได้สติคืนมา
“ขอโทษค่ะช่วงนี้หนูแพรรู้สึกแปลกๆ น่าจะอินกับบทมากไปเลยหลอนไปหมด”
“บอกผมได้ไหมว่าคุณหนูแพรเป็นอะไร”
“คือหนูแพรได้ยินเสียง บางทีก็เห็นภาพ แต่มันเป็นภาพรางๆ เกี่ยวกับคุณพระและทอไหม ทุกครั้งทีเห็นหรือได้ยินหนูแพรจะเหนื่อย เหนื่อยมากๆเหมือนตอนนี้เลยค่ะ”
“งั้นก็อย่าไปคิดครับ ทำใจให้สบายผมให้คนทำน้ำใบเตยมาให้รอหน่อยนะครับ”
ไม่นานน้ำใบเตยก็ถูกแม่บ้านนำมาเสิร์ฟเพียงแค่เธอดื่มก็รู้สึกดีขึ้น จึงมีแรงคุยเกี่ยวกับบทละครกับคุณไฟต่อ
//ไฟ//
ทุกตัวละครมันมีชีวิตจริง ความริษยามันมีมานานแล้วผมไม่สามารถเล่าทุกอย่างได้เพราะมันจะทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายเหมือนที่หลวงตาบอก แต่ผมสามารถช่วยเธอได้ ช่วยเธอแก้ปัญหาและถ่ายทอดตัวละครทอไหมออกมาให้สมบูรณ์ที่สุด
“ถ้าคุณอยู่คนเดียวแล้วไม่สบายใจจะมาค้างที่นี่ก็ได้นะครับ ผมยินดี”
“ไม่เป็นไรคะ ฉันเกรงใจอีกอย่างพี่จีจี้ให้ของดีจากคุณไปด้วยคงไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
“เชื่อเรื่องแบบนี้แล้วเหรอ” ผมมองหน้าเธอพร้อมกับรอยยิ้ม
“ก็คงแบบนั้นมั้งคะ ฉันมาอยู่กับคุณก็เห็นอะไรแปลกๆเยอะเลย อย่างผู้หญิงคนนั้นเธอจะมีโอกาสหายไหมคะ”
“มีครับ แต่เขาต้องมาอาบน้ำมนต์และทำพิธีถอนของออก มันออกทีละนิดเธอทรมานมากนะครับเวลารู้สึกแต่ควบคุมตัวเองไม่ได้ นี่ก็เย็นแล้วเดี๋ยวผมไปส่งคุณดีกว่า ผมต้องไปทำธุระด้วย”
“ค่ะ รบกวนด้วยนะคะเดี๋ยวฉันไปเอากระเป๋าก่อน”
ผมมองตามหลังคุณหนูแพรก็ได้แต่ยิ้ม ในที่สุดเธอก็กลับมาหาผมแล้ว ไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติก็ขอให้เราได้เกิดมาคู่กัน
“ทอไหม พี่คิดถึงเจ้าเหลือเกิน”
คอนโด
ฉันเดินกลับมาที่ห้องก็ทิ้งตัวลงนอนในสมองก็นึกถึงแต่เรื่องคุณพระกับทอไหม ตามบทที่อ่านมาคุณพระกลายเป็นคนรุ่มหลงในกาม เสพสมทาสในเรือนจนคุณทอไหมช้ำใจจนต้องพึ่งสิ่งอัปมงคลเพื่อต้องการให้คุณพระกลับมา
“ผู้หญิงสมัยนั้นน่ากลัวจัง แค่ผู้ชายคนเดียวต้องทำกันขนาดนี้เลยเหรอ”
วันต่อมา
วันนี้ผู้จัดการคนสวยอย่างจีจี้ที่กลับมาจากต่างจังหวัดก็มุ่งหน้ามารับแพรไหมไปถ่ายงานช่วงเช้าก่อนจะตรงไปบ้านของคุณไฟทันที แพรไหมดูไม่เกร็งแล้ว เธอดูเข้ากับทุกคนที่นี่ได้ แม้แต่คุณไฟเธอก็ไม่ได้จิกกัดเหมือนครั้งแรกที่เจอ
“หนูแพรลองซ้อมบททอไหมให้พี่ดูหน่อยได้ไหม”
คำขอของจีจี้ทำให้คุณไฟละสายตาจากหนังสือแล้วหันมามองแพรไหมที่กำลังทำสมาธิอยู่