บทที่3.ของขวัญจากพระเจ้า
3เดือนต่อมา...
“เมรี...หายไปไหนมาลูก พ่อรอทั้งคืน” ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในบ้าน เสียงบิดาตะโกนถาม ท่านเดินตรงมาหาเธอ
“พ่อ” หญิงสาวคราง น้ำตาไหลริน เธอไม่ใช่เมรีคนเดิมแล้ว มีบางอย่างเกิดขึ้นและไม่สามารถบอกใครได้
“กินอะไรมาหรือยังล่ะ?” ท่านถาม เสียงปนความห่วงใย
“ขอเมรีไปนอนก่อนนะพ่อ...เมื่อคืนเมรีนอนบ้านเพื่อน...ขอตัวค่ะ” หญิงสาวรีบตัดบท ก่อนที่บิดาจะมองเห็นความผิดปกติ
เก่งกาจมองตามบุตรสาวขึ้นไป ท่านถอนใจดังเฮือก เดินกลับไปนั่งที่เดิม และย้อนทบทวนความต้องการของตนเองเสียใหม่ หากต้องเลือกระหว่าง ‘ความสุขของตัวเอง’ กับ ‘ความสุขของลูก’ น้ำหนักความชั่งใจเทมาฝั่งของเมรี หากจำเป็นจริงๆ เขาคงต้องเลือกเมรี มากกว่าเพื่อนคู่คิดที่เข้าใจเขาในอนาคต
“เห้อ”
เมรีกำแท่งพลาสติกในมือแน่น น้ำตาเธอไหลรินเป็นทาง ความรู้สึกสับสนกำลังทำร้ายเธอ!!
หญิงสาววัย23ปีทรุดฮวบลงบนพื้นห้อง ขาของเธออ่อนแรงไม่มีเรี่ยวแรงเหลือพอให้พยุงตัวเอง น้ำตาไหลหยดเปียกปอนหลังมือ แต่...ไร้เสียงสะอื้น เป็นความรันทดรวดร้าวที่ไม่สามารถเปิดปากบอกใครได้ จากนี้ไป...เธอควรทำเช่นไรกับอนาคตตัวเอง...
เป็นคำถามที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้คำตอบ...อนาคตที่เคยวาดหวังไว้พังคลื่น!!
“เกิดอะไรขึ้น หนูร้องไห้ทำไมลูก!!?”
เก่งกาจถลาเข้ามาประคองบุตรสาว ถุงขนมหล่นอยู่ที่หน้าประตู เมื่อท่านถือขนมเหล่านั้นมาให้บุตรสาวที่เก็บเนื้อเก็บตัว นับตั้งแต่วันที่ทะเลาะกันขั้นร้ายแรง
“พ่อจ๋า...เมรี” หญิงสาวผวากอดบั้นเอวบิดา เธอเกลือกกลิ้งหน้ากับแผ่นอกของท่าน น้ำตาเปียกเป็นหย่อมๆ กับตัวเสื้อของบิดา
“เกิดอะไรขึ้นกับหนู...เมรี?” เก่งกาจใจหายแวบ บุตรสาวสุดเข้มแข็งของท่านมีอาการผิดปกติ เธอไม่เคยฟูมฟายมากมายขนาดนี้ ครั้งสุดท้ายที่เขาเคยเห็นเมรีร่ำไห้ คือตอนที่ภรรยาของเขาเสียชีวิต หลังจากนั้นแทบไม่เคยเห็นน้ำตาของเมรี ครั้งนี้มันต้องมีเรื่องอะไรร้ายแรงมากๆ ไม่อย่างนั้น คนใจแข็งอย่างเมรี จะไม่มีวันเสียน้ำตาเป็นเด็ดขาด
“พ่อจ๋า” หญิงสาวกระซิบ เธอขบริมฝีปากล่างจนลิ่มเลือดทะลัก รสคาวๆ ของเลือดที่ไหลลงสู่ลำคอ ยังไม่เท่าความเจ็บปวดในใจ “เมรีทำตัวเลว เมรีกำลังทำให้พ่อขายหน้า” เสียงกระซิบบอกทำเอาหัวใจของชายสูงวัยอ่อนยวบ เขากอดกระชับเรือนกายของบุตรสาวแน่นขึ้น
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...เมรียังเป็นลูกสาวที่น่ารักของพ่อ เหมือนเดิม...” เก่งกาจดันตัวเมรีออกห่าง ท่านมองสบนัยน์พราวฉ่ำ ด้วยความรู้สึกห่วงใยทั้งหมดที่มี ไม่ว่าเมรีจะเป็นอย่างไร เธอก็ยังคงเป็นบุตรสาวที่เขา ‘รัก’ ที่สุด
“พ่อจ๋า ฮือๆ” หญิงสาวร่ำไห้ประหนึ่งจะขาดใจ เธอยื่นแท่งพลาสติกในมือให้ท่านแทนคำบอกกล่าว
เรียวคิ้วเข้มขมวดแน่น รับอะไรบางอย่างมาจากมือบุตรสาว แบบงงๆ
เก่งกาจลดสายตาลงมอง เขาปล่อยมือจากเรียวแขนสร้าง ยกขึ้นขยับกรอบแว่น เมื่อรู้สึกตระหนกจนมือสั่น กับสิ่งที่มองเห็น “ใคร?” เสียงถามสั่นปร่า หัวใจเหมือนถูกมือยักษ์บีบจนเจ็บแปลบ
เมรีไม่ได้ตอบ เธอส่ายหน้าจนพวงผมสะบัด
และนั่นยิ่งทำให้เก่งกาจไม่เข้าใจ บุตรสาวท่านไม่ใช่คนเหลวไหล เมรีไม่มีพฤติกรรมเช่นนั้น เธออยู่ในกรอบและประพฤติตัวดีมาตลอดจนกระทั่งสำเร็จการศึกษา เมรีอยู่ในสายตาท่าน บุตรสาวของท่านไม่เคยมีเพื่อนชาย ไม่ว่าต่อหน้า หรือลับหลัง...
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ!!
“หมายความว่าไงลูก พ่อไม่เข้าใจ?” มือแข็งแรงปล่อยกรอบแว่น เขาเอื้อมจับเรียวแขนบุตรสาว บีบเบาๆ พร้อมกับรอคำตอบ
เมรีเงยหน้าขึ้นมองบิดา เธอเสียใจที่ทำให้ท่านผิดหวัง เหตุการณ์เลวร้ายนี่ เกิดขึ้นเพราะความหุนหันของตัวเอง เธอทำตัวเอง และไม่ขอโทษใคร?
“เมรี...ขอโทษค่ะ แต่เมรีไม่รู้จัก ‘เขา’ จริงๆ” หญิงสาวก้มหน้าลง เธอตอบตามจริง เสียงแผ่วเครือ
ผู้ชายที่เป็น ‘พ่อ’ ของลูก เธอจำได้แค่เค้าหน้า ชื่อเสียง เรียงนามอะไรก็ไม่รู้จัก เธอตื่นขึ้นมาบนเตียงกับเขา และรีบจากมาเพราะความตื่นตกใจ
เก่งกาจตระหนก เขากะพริบเปลือกตาถี่ๆ “มันเกิดขึ้นได้ยังไ หรือว่า...ตั้งแต่วันนั้น?” ชายสูงวัยถามเสียงสั่น!! มันเกิดขึ้นในวันที่ท่านกับบุตรสาว ทะเลาะกันครั้งใหญ่
“ค่ะ”
“โธ่!! ลูกพ่อ” น้ำตาลูกผู้ชายไหลริน บุตรสาวที่กำลังงดงาม กลับมีรอยราคีเสียแล้ว
“เราต้องกำจัด ‘มัน’ ” เสียงเหี้ยมเกรียมกล่าว ทางเดียวที่จะทำให้เมรีไม่อับอายผู้คนคือการ กำจัด สิ่งที่ไม่ต้องการออกไป!!
“ไม่ค่ะ” สาวละอ่อนส่ายหน้า ดวงตาเบิกโต สีหน้าซีดเผือด
“แต่... ‘เค้า’ จะทำให้หนูไม่มีอนาคตนะเมรี” เก่งกาจกล่อม มันอาจโหดร้ายไปสักหน่อยสำหรับ อีกหนึ่งชีวิต แต่ผลโดยรวมแล้วดีต่อทุกคน
“ไม่ค่ะ เมรีจะไม่ทำร้าย ‘เค้า’ เมื่อเขาคือ ลูก ของเมรี”
หญิงสาวยืนยัน ต่อให้โลกถล่มลงไปต่อหน้า เธอก็จะไม่มีวันทำร้าย ‘เค้า’ อย่างเด็ดขาด
“หนูจะกลายเป็นคนมีราคีในสายตาทุกคนนะลูก” ชายสูงวัยถอนใจดังเฮือก เขารู้ดีว่าสิ่งที่บุตรสาวพูดออกมานั้น เธอคงตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว
“เมรีไม่เป็นไรค่ะพ่อ เมรีทนไหว... พ่อบอกเมรีแล้วนี่คะ ไม่ว่ายังไง เมรีก็คือลูกสาวของพ่อ”
หญิงสาวกล่าวพร้อมหยาดน้ำตาที่ไหลริน ดวงตามีความหวัง เพราะหากคนตรงหน้าตัดสินใจคนละทางกับตนเอง...บ้านเมฆาไกร คงไม่มีคนที่ชื่อเมรี อีกต่อไป!!
“เอางั้นก็ได้ พ่อไม่แคร์คนอื่นอยู่แล้วล่ะ เมรีคือคนสำคัญของพ่อ คนอื่นก็แค่คนนอกเท่านั้น...”
เก่งกาจเอ่ย ไม่มีอะไรต้องกลัว เขาเลี้ยงเมรีมากับมือ มีหรือจะไม่รู้นิสัย ดังนั้นนี่คือความผิดพลาดที่เขามีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย เขาเป็นคนผลักดันให้เมรีพลาดเอง...
หญิงสาวซุกหน้ากับอกของบิดา มือเรียวบางที่กำแน่นแบออก ก่อนจะเคลื่อนที่ไปวางแนบเนินหน้าท้อง จุดที่มี สายใยบางๆ เสี้ยวหนึ่งของชีวิตเธอ กำลังเติบโตอยู่ตรงนั้น
“พ่อจะแต่งงานใหม่ก็ได้นะคะ เมรีไม่ห้าม ขอแค่ ‘เธอ’ รักพ่อของเมรีก็พอ”
หญิงสาวกล่าวเสียงอู้อี้ ในเวลานี้บิดาคงต้องมีเพื่อนคู่คิด และเท่าที่ดูโดยไม่มีอคติ คุณไพลินก็พอจะผ่านเกณฑ์
“ไม่ดีกว่า...พ่อไม่อยากยุ่งยาก” เก่งกาจตัดสินใจ แต่...
มันกลับไม่เป็นอย่างที่พวกเขาคิด เมื่อเมรีสงบลงเข้าสู่ภาวะปกติ สองพ่อ-ลูกจึงจูงมือกันลงมาจากชั้นบน
“หิวหรือยังลูก...พ่อจะได้หาอะไรให้กิน” มือแข็งแรงยกลูบศีรษะทุยได้รูปของบุตรสาว นับจากนี้ไป อีกไม่นานครอบครัวเมฆาไกรก็จะมีสมาชิกใหม่ เขาคงต้องเตรียมพร้อมอีกเยอะ แต่เก่งกาจรู้ เขาพร้อมสู้เสมอ เมื่อสมาชิกทุกคนคือคนสำคัญของเขา
กลิ่นหอมอ่อนๆ ของอาหารมื้อเย็น โชยออกมาจากส่วนครัว เก่งกาจขมวดคิ้ว เขาประคองให้บุตรสาวนั่ง รีบสืบเท้าเดินตามกลิ่นไป
หญิงวัยกลางคนยืนอยู่หน้าเตาไฟ หล่อนกำลังสาละวนกับงานตรงหน้า หน้ามันย่องเพราะอยู่หน้าเตาไฟร้อนๆ กลิ่นที่โชยออกมานั่น คืออาหารมื้อพิเศษที่หล่อนกำลังปรุงรสนั่นเอง
“คุณไพ!!”
หนุ่มวัยกลางคนพ่อหม้ายลูกติดครางเสียงอ่อน เขามองหล่อนด้วยแววตามีความหนักใจ
“คุณนั่นเอง...หิวหรือยังคะ ไพมาเตรียมมื้อเย็นไว้ให้ คุณจะได้ไม่ต้องเหนื่อย” บ้านเมฆาไกรไม่มีแม่บ้าน เก่งกาจกับเมรีแบ่งงานกันทำ เป็นครอบครัวเล็กๆ ที่อบอุ่นพอสมควร
“เอ่อ...” มันจุกจนตื้อ เก่งกาจไม่รู้จะบอกกับไพลินอย่างไร เธอจะได้ไม่ผิดหวังหรือเสียใจ
“คุณไม่ต้องพูดหรอกค่ะ ไพรู้...เป็นไพ ไพก็ต้องเลือกลูก ไพรอได้ค่ะ รอจนกว่าหนูเมรีจะยอมรับไพ”
มันเป็นความผูกพันที่เธอไม่สามารถตัดใจหันหลังให้คนในครอบครัวนี้ได้ ไพลินตั้งใจไว้ เธอจะอดทน และรอวันที่บุตรสาวของชายที่เธอคิดฝากผี ฝากไข้ยอมรับตนเองแบบสนิทใจ