หลายวันผ่านมามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายอย่างในรั้วบ้านของเจ้าสัวเกียง ทั้งเรื่องที่ลูกชายคนโตต้องย้ายไปรับราชการที่ปักษ์ใต้ และอีกหลายเรื่องที่เกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่วัน
ทว่าชีวิตของคุณหนูทับทิมนั้นยังคงสุขสงบเช่นก่อนเก่า
กิจวัตรของเธอยังคงเหมือนเดิมแทบทุกประการ ทั้งเรื่องการทำงานบ้านงานเรือน การครัวคุมบ่าวหุงหาอาหาร การเล่าเรียนเขียนอ่าน กระทั่งเรื่องที่ให้คนอื่นรู้ไม่ได้ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยเลยแม้สักอย่าง
สิ่งที่ไม่เหมือนก็เห็นจะมีแค่ช่วงนี้ที่เธอออกไปพบปะเพื่อนฝูงบ่อยขึ้นจนแทบจะเรียกได้ว่าวันเว้นวัน
ต่างจากเมื่อก่อนที่จะได้สัปดาห์ละเพียงสองวันเท่านั้น เนื่องจากตอนนี้ไม่มีพี่สะใภ้คนโตคอยสอดหูสอดตาจับผิดแล้ว การจะไปนอกบ้านไปไหนมาไหนจึงไม่มีใครคอยมายุ่งวุ่นวาย
แม้ว่าตอนนี้นางเยื้อนบ่าวคนสนิทที่อยู่ด้วยกันมานานจะต้องกลับบ้านเกิดไปแล้ว แต่เธอยังได้บ่าวคนใหม่ซึ่งเพิ่งย้ายจากพระนครตามยายแม้ๆ มาเป็นเพื่อนคู่ใจได้อย่างทันท่วงที
นางรุ้งนั้นรู้ใจเธอไปหมดเสียทุกอย่าง อีกทั้งยังมีความรู้สามารถช่วยเหลือเธอได้ในหลายๆ เรื่อง นอกจากนั้นก็ยังเขียนได้อ่านออก อีกทั้งฉลาดและขยันขันแข็งทำทุกอย่างได้ดั่งใจคุณหนูทับทิมไปเสียหมด
ความรู้ที่มันมีนั้นสามารถกล่าวได้ว่าเหมาะนักที่จะมีเจ้านายเป็นผู้หญิง เพราะมันดูแลเธอได้หมดทุกเรื่องจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องทางใจหรือทางกาย
ดังเช่นในตอนนี้ที่มันช่วยหาสมุนไพรมาต้มให้เธออบส่วนสงวน หายาโบราณและสมุนไพรสำหรับผู้หญิงต่างๆ นานามาบำรุงให้กายสาวสวยสะพรั่ง ส่วนนั้นมีกลิ่นหอม อีกทั้งคับแน่นตอดรัดไม่ต่างจากสาวบริสุทธิ์
“มันช่วยได้จริงหรือรุ้ง ฉันเคยลองกินยาต้มว่านชักมดลูก ไปลองนอนกับผู้ชายดูแล้วมันตีบแคบลงก็จริง แต่ก็ยังไม่แคบเหมือนตอนเปิดบริสุทธิ์” คุณหนูทับทิมในชุดกระโจมอกด้วยผ้านุ่งสีทึมว่าด้วยน้ำเสียงที่ยังคงกังวลอยู่มาก
เดิมทีเธอนั้นก็ดูแลตัวเองมากอยู่ ความรู้ที่ได้มาจากการอ่านและการแนะนำของเพื่อนสาวรุ่นพี่เธอเอามาใช้กับตัวเองหลายอย่าง แต่อะไรๆ ก็ยังไม่เป็นอย่างที่ต้องการสักที
ตอนนี้เธอเองก็ถึงวัยออกเรือนแล้ว อีกไม่นานก็คงต้องได้ใช้ส่วนโคกสงวนที่ไม่เคยสงวนนี้กับสามีแต่ง ลูกชายคนใหญ่คนโตสักคนในเมืองนี้
คุณพ่อคุณแม่ของเธอเองก็เปรยอยู่หลายครั้งว่าอยากให้ลูกสาวออกเรือนเสียที แต่คุณหนูทับทิมก็ยังร้องขอท่านว่าเธอยังไม่พร้อม อยากรอก่อนอีกสักปีเพราะหากแต่งงานเธอคงไม่ได้ทำสิ่งที่อยากทำ
ที่จริงแล้วใช่จะเป็นเพราะว่าเธอไม่อยากแต่งงานอย่างเดียวหรอก แต่เธอยังหาทางให้ตัวเองพร้อมแต่งงานโดยไม่ทำให้พ่อแม่เสียหน้าไม่ได้ต่างหาก
นางรุ้งได้ฟังดังนั้นก็พลันยิ้มกริ่ม ขยับเข้ามาหาเจ้านายของตัวเองพลางกระซิบเสียงค่อย
“ได้ผลสิเจ้าคะคุณหนู บ่าวเคยต้มให้เจ้านายที่พระนครดื่มและอบเต่าอย่างคุณหนู ขนาดคุณเธอเป็นเมียน้อยที่ผัวรักที่สุด ซ้ำยังมานอนด้วยเกือบทุกค่ำคืนยังได้ผลเลยเจ้าค่ะ”
“จริงหรือ” และเมื่อเห็นว่าคุณหนูทับทิมตาโตเอามือทาบอกถามกลับมาเช่นนั้น นางรุ้งก็พลันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มันมองไปรอบๆ จนแน่ใจแล้วว่าไม่มีผู้ใดอยู่แถวนี้ ก่อนจะหันมากระซิบอีกรอบ
“จริงสิเจ้าคะ เธอมาเล่าให้บ่าวฟังว่าท่านขุนผัวของเธอนั้นยังหนุ่มยังแน่น ทั้งแรงมากอย่างกับโคถึก ทั้งใหญ่ยาว ทำทีรูร่องกลวงโบ๋ขาถ่างไปหมด พอกินเข้าไปรูก็กลับไปคับแคบเหมือนสาวๆ จนผัวรักผัวหลงไปไหนไม่รอด”
เนื้อความที่นางรุ้งบอกเล่านั้นเล่นเอาคุณหนูทับทิมถึงกับสำลักอากาศ มือที่ทาบอกถึงกับต้องละไปหยิบพัดที่วางอยู่บนโต๊ะตัวเตี้ยมาพัดที่ใบหน้าร้อนผ่าว
“ตายจริง คงใหญ่เหมือนพวกฝรั่งล่ะซี”
“คุณหนู เคยเห็นของพวกฝรั่งด้วยหรือเจ้าคะ” นางรุ้งถามเสียงเบาทว่าไม่ได้แสดงความแปลกใจออกมา จะมีก็เพียงความตื่นเต้นเสียมากกว่า
ทั้งมันทั้งคุณหนูเจ้านายคนใหม่ที่เพิ่งมาอยู่ด้วยราวสองเดือนนี้มีความชอบเหมือนกันอย่างกับพรหมลิขิต บทสนทนายามอยู่ด้วยกันสองคนจึงเป็นเรื่องอย่างว่า อีกทั้งยังเป็นเรื่องการดูแลตัวเองเสียเป็นส่วนใหญ่
“ฉันไม่เคยได้นอนกับคนสยามหรอกรุ้ง ต้องหาคนที่จะไม่พลาดต้องมารู้จักกันทีหลัง ขนาดพวกนักเรียนนอกยังทำไม่ได้เลยเพราะพวกนี้มักเป็นลูกคนใหญ่คนโต ไม่รู้ว่าจะได้ดองกันวันข้างหน้าหรือไม่”
คนเป็นเจ้านายตอบเสียงเบาไม่ต่างกัน คุยเรื่องแบบนี้ทีไรสายตาของเธอก็พลันระวังระไวไปทั่ว แม้เรื่องจริงจะมีบ่าวอย่างนางรุ้งคอยช่วยระวังอยู่แล้ว
คุณหนูทับทิมนั้นแม้ภายนอกเธอจะดูเรียบร้อยน่ารัก กิริยามารยาทงดงามหาตัวจับได้ยาก แต่แท้จริงแล้วเนื้อในเธอชื่นชอบเรื่องอย่างว่ามากมาตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อสาว
ตั้งแต่ได้ลิ้มลองรสกามาจากสหายต่างแดนของเพื่อนสาวรุ่นพี่ที่ไปเรียนภาษาอังกฤษของแหม่มซาร่าห์ด้วยกัน เธอก็ติดอกติดใจจนไม่อาจขาดเรื่องแบบนั้นได้ ราวกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้ว
แต่น่าเศร้าที่ความชอบของเธอนั้นเป็นเรื่องผิดบาปมากในความคิดของคนในสังคม เมื่อรู้ตัวแบบนั้นเธอจึงได้ตั้งใจเรียนการบ้านการเรือน ทั้งยังรักษากิริยามารยาทให้งดงามเพื่อใช้มันบดบังเรื่องนี้เอาไว้เบื้องหลัง
จะมีก็เพียงแค่บ่าวที่ซื่อสัตย์อย่างนางเยื้อนที่โตมาด้วยกันเท่านั้นที่รู้ว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นอย่างไร
“ก็จริงอย่างที่คุณหนูว่าเจ้าค่ะ รอบคอบเอาไว้เป็นดีที่สุด” นางรุ้งว่าอย่างเห็นด้วย ในใจนั้นชื่นชมในความคิดความอ่านของเจ้านายสาวอยู่มาก
ส่วนตัวมันนั้นก็ชอบเรื่องใต้สะดือไม่ต่างจากคุณหนูทับทิมเลย แต่เพราะเป็นเพียงขี้ข้าจึงมีอิสระมากกว่า จะไปอ้าขาให้ใครเอาก็ไม่มีใครมาคอยเพ่งเล็ง แตกต่างจากคุณหนูที่ต้องสงบเสงี่ยมเป็นนกน้อยในกรงทอง
ทว่าแม้จะชาติตระกูลต่ำแต่นางรุ้งนั้นค่อนข้างมีวาสนา ตั้งแต่เริ่มรู้ความก็ได้มาเป็นเพื่อนเล่นกับเจ้านายผู้หญิงวัยไล่เลี่ย เพราะฉลาดพูดจาจึงได้รับความเมตตาให้เรียนหนังสือหนังหาเป็นเพื่อนเจ้านายไปด้วย
เพราะได้คลุกคลีกับพวกลูกท่านหลานเธอมานานจึงได้รู้ดีว่าคุณหนูทับทิมนั้นต้องเจอกับอะไรอยู่บ้าง การเป็นผู้หญิงที่ชอบเรื่องอย่างว่าในยุคนี้ ต่อให้เรื่องอื่นดีพร้อมแค่ไหนก็ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงดอกทองอยู่วันยังค่ำ
“แล้วเป็นอย่างไรบ้างหรือเจ้าคะคุณหนู รสชาติของพวกฝรั่ง” ทว่าเมื่อคิดมาถึงตรงนี้นางรุ้งก็พลันอยากรู้ขึ้นมา ตัวมันนั้นเคยเอาแต่กับพวกบ่าวคนสยาม ไม่เคยได้ลองของพวกฝรั่งดั้งสูงเป็นตะขอเลยสักที
คุณหนูได้ยินอย่างนั้นก็พลันระบายยิ้ม นึกถูกใจที่นางรุ้งนั้นพูดคุยหยาบโลนถูกคอยิ่งกว่านางเยื้อนบ่าวคนเก่า อีกทั้งความชอบยังตรงกันอีก
“พวกฝรั่งมักจะชอบให้ผู้หญิงเป็นอีตัวบนเตียง ลีลาเผ็ดร้อนแต่ก็ใส่ใจผู้หญิงอยู่มาก ทำแต่ละทีฉันสุขสมไปไม่รู้กี่รอบเลยเชียวล่ะ”
คุณหนูโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้บ่าวคนสนิทก่อนจะเริ่มเล่าเสียงเบา พาลทำให้นางรุ้งถึงกับเบิกตากว้างหันมองสบตาอย่างตื่นเต้น
“จริงหรือเจ้าคะ”
“ใช่ แล้วพวกฝรั่งก็จะไม่ค่อยถือเรื่องหัวเรื่องเท้า เลียได้หมดทุกที่ ซ้ำยังชอบให้ทำท่าแปลกๆ แบบโลดโผนด้วย แล้วตรงนั้นของพวกฝรั่งน่ะบางคนก็ขาวผ่องบางคนสีชมพูก็มี ดุ้นใหญ่ยาวปานแขนเด็ก กระแทกเข้ามาทีจุกแน่นแทบร้องไม่ออกเลยเชียวล่ะ”
“คุณพระ ใหญ่ตามตัวอย่างนั้นใช่ไหมเจ้าคะ”
“บางคนใหญ่กว่าตัวก็มี แต่ฉันเคยได้ยินพวกเพื่อนรุ่นพี่ที่เคยร่วมเตียงกับคนสยามด้วยกัน เขาบอกว่าผู้ชายสยามจะไม่โลดโผนเท่า บางคนชอบเป็นฝ่ายนำอย่างเดียว แต่เรื่องความมันต้องแล้วแต่คน เรื่องนี้จริงหรือ”
“ผู้ชายสยามที่ทำเก่งๆ มากตัญหาก็มีเจ้าค่ะ อาจไม่โลดโผนนักแต่ก็ทำให้เสร็จหลายรอบได้เหมือนกัน”
“จริงหรือ”
“เจ้าค่ะ แต่แหม ฟังคุณหนูเล่าแล้วบ่าวอยากลองบ้างเสียจริง” นางรุ้งได้ฟังจากปากเจ้านายก็พลันรู้สึกกำหนัด ติ่งสวาทเต้นระริกยามที่จินตนาการถึงท่อนเอ็นใหญ่ๆ แบบคุณหนูทับทิมว่าขึ้นมา
“เอาไว้ฉันจะพาไปลอง รับรองว่ารุ้งจะต้องติดใจมาขอบคุณฉันแทบไม่ทันเลย”
“คุณหนูพูดจริงๆ นะเจ้าคะ”
“จริงซี ฉันไม่พูดเล่นเรื่องแบบนี้หรอกนะ แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ มาคุยเรื่องยาสมุนไพรของรุ้งก่อน ต้องทำนานเท่าไหร่หรือถึงจะเหมือนสาวบริสุทธิ์” ให้คำมั่นสัญญาไปแล้วคุณหนูทับทิมก็พลันนึกขึ้นมาได้จึงเอ่ยถามต่อ
“อันที่จริงสักสามสี่วันก็ได้แล้วเจ้าค่ะ เจ้านายเก่าของบ่าวเขาทั้งดื่มทั้งอบตอนเช้า ตกกลางคืนไปนอนกับผัวก็ยังบอกว่าได้ผลดี ผัวแทงเข้ามาทีจุกแน่นทั้งเจ็บทั้งเสียว”
“ตายแล้ว ดีขนาดนั้นเลยเชียวหรือ”
“ขนาดนั้นเลยเจ้าค่ะ แต่หากคุณหนูอยากให้เหมือนเด็กสาวแรกแย้มไม่เคยต้องมือชายเลย ต้องลองทั้งดื่มทั้งอบเต่าอบร่ำและงดเว้นเรื่องแบบนั้นไปสักสองเดือน ถ้างดได้นานกว่านั้นก็จะแนบเนียนมากขึ้น”
“เรื่องนั้นฉันก็คิดเหมือนกัน แต่คิดว่าคงมีปัญหาอะไรเพราะคุณพ่อคุณแม่คงบอกล่วงหน้าหลายเดือนฉันคงพอมีเวลาเตรียมตัว ว่าแต่ฉันรู้มาจากรุ่นพี่ว่าเลือดพรหมจรรย์ที่มันไหลตอนเปิดบริสุทธิ์ก็ทำของปลอมเอาได้จริงหรือ”
คุณหนูเอ่ยถามอย่างสงสัย นางรุ้งได้ยินอย่างนั้นก็พลันพยักหน้าตามประสบการณ์แล้วแม้มันจะไม่เคยช่วยเจ้านายผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานคนไหนในเชิงนี้ แต่ก็พอจะมโนภาพออกอยู่ว่าต้องทำอย่างไร
“เท่าที่รู้มาทำได้เจ้าค่ะ แพทย์แผนจีนโบราญมีบัญญัติเอาไว้ว่าเอาเลือดจากหงอนไก่ใส่ถุงลมปลาตัวเล็กๆ แล้วเย็บปิด เสร็จแล้วก็สอดเข้าไปข้างใน พอผู้ชายใส่ดุ้นเข้าไปถ้าทั้งคับแคบทั้งมีเลือดก็จะไม่ต่างจากสาวบริสุทธิ์เลยเจ้าค่ะ”
“กับอีกเรื่องที่เคยได้ยินจากหมอจีนมา คือการขมิบส่วนนั้นเจ้าค่ะ ท่านว่ามันจะทำให้เนื้อข้างในแข็งแรงตอดรัดได้แน่นขึ้น”
“หล่อนเก่งจริงๆ เลยรุ้ง ฉันดีใจที่ได้หล่อนมาอยู่ด้วยกันมาก” คุณหนูทับทิมเอ่ยอย่างถูกใจ นางรุ้งนั้นไม่เพียงรู้จักพูดจา แต่ความรู้รอบตัวยังมีมากมายอีกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อเธอ
มือขาวลูบต้นแขนของนางบ่าวคนสนิทเบาๆ ก่อนจะหันไปคว้าถุงเงินประจำตัวหยิบเหรียญให้ไปสองเหรียญเป็นของตอบแทน นางรุ้งเห็นอย่างนั้นก็รีบยื่นมือมารับค้อมหัวอย่างนอบน้อม
“ขอบพระคุณเจ้าค่ะ”
“อย่าหาว่าฉันซื้อคนด้วยเงินตราเลยนะรุ้ง ฉันเพียงอยากให้คนของฉันไม่ต้องอยู่อย่างลำบาก เรามีความชอบเหมือนกัน ฉันอยากให้รุ้งอยู่กับฉันไปนานๆ”
คุณหนูทับทิมว่าด้วยน้ำเสียงใจดี มือขาววางบนไหล่ของนางรุ้งขณะที่ดวงตาสวยมองอย่างเมตตา
“บ่าวเองก็อยากอยู่กับคุณหนูไปนานๆ เจ้าค่ะ” นางรุ้งว่า มือหยาบสากตามประสาขี้ข้าของมันกุมมือของคุณหนูเบาๆ ก่อนจะจับจูงให้ไปวางบนศีรษะอย่างเจียมตน
ในใจมีเพียงความซาบซึ้งและรู้สึกโชคดี ที่ได้เจอเจ้านายที่ดีกับบ่าวต่ำศักดิ์อย่างมันถึงเพียงนี้ ตัวมันเองต่อให้จะเป็นเช่นไรแต่ก็ไม่ใช่คนมักใหญ่ใฝ่สูง คิดอะไรเกิดตัวเกินเหตุไป
สำหรับเด็กกำพร้า เหลือยายสูงอายุเป็นที่ยึดเหนี่ยวเพียงคนเดียว การมีเจ้านายนิสัยดีอย่างคุณหนูทับทิมเป็นร่มเงาให้ ได้อยู่สุขกายสบายใจไม่ต้องกลัวอดตายไปตลอดก็นับว่าบุญหล่นทับแล้ว
“หากขาดเหลือเรื่องไหนก็มาปรึกษาฉันได้ฉันจะหาทางช่วย ขอเพียงซื่อสัตย์กับฉันก็พอ” คุณหนูเอ่ยขึ้นยิ้มๆ มองท่าทีเจียมตนของบ่าวคนสนิทก็พลันชุ่มชื่นหัวใจขึ้นมา
ถึงอย่างนั้นตัวเธอเองก็ไม่ได้โง่พอที่จะเชื่อใจคนอื่นไปเสียทุกอย่าง ต่อให้ปากบอกว่าไม่ได้ใช้เงินซื้อคนแต่เรื่องจริงแล้วเธอก็ทำแบบนั้น เธอรู้ว่าคนอย่างนางรุ้งนั้นฉลาด หากอยู่ด้วยกันแล้วไม่ได้อะไรเลยคงไม่ได้อยู่ด้วยกันนาน
ความลับของเธอนางบ่าวนี่ก็รู้ไปมากแล้ว ความรู้ของนางรุ้งเองก็ใช้งานได้ อีกทั้งยังเป็นมือเป็นเท้าให้ได้ไม่มีที่สิ้นสุด
“บ่าวจะซื่อสัตย์กับคุณหนูเพียงคนเดียว สาบานด้วยชีวิตของอีรุ้งเลยเจ้าค่ะ”
“ดีมาก”
จำนวนเงินทำให้ไปก็ใช่ว่าจะมากอะไร หากเทียบกับประโยชน์ที่จะได้ เงินเพียงแค่นั้นเธอจ่ายแลกกับบริวารผู้ซื่อสัตย์ได้อยู่แล้ว เอาไว้วันใดที่นางรุ้งเกิดทำให้เธอต้องใช้ทางหนีทีไล่ที่เตรียมเอาไว้ ค่อยจัดการก็ยังทัน
คนอย่างคุณหนูทับทิม อุตส่าห์ลงทุนเป็นผู้หญิงเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ อีกทั้งยอมเรียนการบ้านการเรือนมานานแสนนาน ทั้งที่ความจริงแล้วอยากเรียนวิชาการเหมือนผู้ชายเสียด้วยซ้ำ
เธอไม่มีทางยอมโดนเจ้าบ่าวเอามาประจานว่าผ่านมือชายมาแล้วหรอก ไม่อย่างนั้นเจ้าสัวเกียงผู้เป็นพ่อ กับคุณหญิงแม่ที่เลี้ยงดูเธอมาคงอับอายไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“อบเท่านี้น่าจะพอแล้ว ขึ้นเรือนก่อนเถอะเจ้าค่ะคุณหนู เดี๋ยวบ่าวจะได้เตรียมยาสมุนไพรให้คุณหนูดื่มด้วย”
“ไปสิ เสร็จเรื่องแล้วไปเตรียมดอกไม้จากเรือนใหญ่ให้ฉันที ไหนๆ วันนี้ก็อยู่บ้านแล้ว ฉันจะร้อยมาลัยให้คุณแม่กับพี่นวลถวายพระวันพรุ่งนี้”
“ได้เจ้าค่ะคุณหนู”