ตอนที่ 5 หลั่งน้ำตา

1137 Words
พิชญาภามองตัวเองในกระจก ก่อนหน้าเคยคิดว่า บางทีอาจเอาตัวรอดจากเหตุการณ์นี้ได้ แต่ทุกอย่างไม่เป็นดั่งใจหวัง มือข้างหนึ่งยกปิดปากสะอื้นไห้ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ จะมองหน้าพ่อได้ยังไง ไม่รู้ควรทำอย่างไรดีแล้ว เปิดฝักบัวรินรดผิวกาย ร่องรอยมันยังอยู่ ความรู้สึกทางกายไม่จางหาย กัดฟันข่มทุกอย่างเอาไว้ เธอต้องหาทางหนีจากที่นี่ให้ได้ ออกจากห้องน้ำ ยังคงเห็นเขาเอนกายอยู่ ทว่าดวงตาคมคู่นั้น กลับจ้องมองมายังเธอ พิชญาภาเม้มริมฝีปาก แล้วหย่อนกายลงตรงโซฟา เมินมองทางอื่น อาการเจ็บร้าวทางกาย ยังไม่จางหาย เขาชันกายนั่ง ทอดสายตามองแผ่นหลัง จนถึงเรือนผมนุ่มยาวสยาย “ฉันจะให้แม่บ้านมาทำความสะอาดห้องนี้ เธอออกไปเดินเล่นข้างนอกได้แล้วล่ะ” เขาเปรยเสียงเรียบ ใบหน้าคนฟังแดงจัด ให้มาตอนนี้เนี่ยนะ สภาพที่นอนเป็นยังไงบ้างไม่รู้ “ฉันทำเองได้ แค่ทำความสะอาด คุณให้คนเอาเครื่องมือมาก็พอ” เขาหัวเราะในลำคอ “อายเหรอ?” คนฟังหน้าชา ไม่รู้ควรตอบเช่นไร มันน่าอับอายไม่ใช่หรือไง “น้องกับพี่ ต่างกันราวฟ้ากันดิน ฉันไม่เคยคาดคิดหรอกนะ ว่าเธอยังไม่เคย” เธอตวัดสายตามองไม่พอใจ “หยุดพูดเลยนะ!” เขาลุกยืนเต็มความสูง ในสภาพเปลือยเปล่า ตอนนี้ไม่ใช่กลางคืน ยิ่งเห็นตัวตนเด่นชัด เบือนหน้ามองทางอื่น ต่อให้เคยนอนด้วยกันมาแล้ว ก็ยังคงรู้สึกกระดากอยู่ดี เขาไม่ใช่คนรักเธอ ไม่แม้กระทั่งรู้จักกัน เป็นแค่เพียงคนแปลกหน้า “ฉันจะปล่อยตัวเธอ อีกห้าวันข้างหน้า” พิชญาภาสบตา “คุณพูดจริงเหรอ” “อยากแจ้งความจับฉันทำได้เลย เพราะฉันจะได้แจ้งความจับพี่ชายเธอ ประจานพี่ชายเธอเหมือนกัน!” “ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าพี่ฉันทำอะไรผิด คุณบอกฉันได้ไหม!” เขาหัวเราะในลำคอ แววตาหม่นเศร้า “ไม่ลองถามพี่ชายเธอดูล่ะ” “ถามไปพี่ก็ไม่ตอบหรอก เราสองคนไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น!” “แต่พี่เธอ ก็รักเธอมากไม่ใช่หรือไงกัน” เข้าใจผิดไปหรือเปล่า พี่นะเหรอรักเธอ ไม่เลยสักนิด ไอ้หมอนั่น มันเห็นว่าเธอเป็นเบี้ยล่างเสียมากกว่า แววตาคนฟังหม่นลงครู่หนึ่ง ทำเอาคนมองรู้สึกได้ “มันไม่ใช่แบบที่คุณคิดหรอกนะ” เธอตอบเสียงเบา “เธอต่างหาก ที่ไม่รู้อะไรเลย” อรัญกรณ์ตอบกลับเสียงทุ้ม สีหน้าคนฟังหม่นลง ระบายลมหายใจออกมา เธอกับพี่ไม่ค่อยลงรอยกับเท่าไหร่ ก็เพราะเรื่องผู้หญิง แฟนของพี่แต่ละคน ต้องอกหัก หรือไม่ก็ถูกพี่ชายทำร้ายร่างกาย เธอรู้เพียงแค่นี้ แต่เรื่องอื่นพี่ไม่เคยบอกเล่าเลย “แล้วแต่คุณจะคิดค่ะ ฉันคงทำให้คุณคิดว่าพี่รักฉันไม่ได้หรอก!” เขากระตุกยิ้มมุมปาก “ฉันเองก็ไม่คิดพูดอะไรมากไปกว่านี้แล้ว ถ้ายังไม่เดินออกไป รออยู่ที่นี่ ฉันจะออกไปด้วย” พิชญาภาชะงัก ตั้งใจว่าไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขามากนัก ถ้าหากออกไปจากที่นี่ได้ คงไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับใคร มันน่าอับอาย อีกอย่างชายคนนี้มีความลับของพี่ชาย ไม่ว่าเขาโกหกหรือไม่ ก็จำต้องระวังเอาไว้เสียก่อน ร่างบางหย่อนกายลงบนเตียง เห็นเขาสวมชุดคลุมเดินเข้าห้องน้ำ ได้ยินเสียงน้ำตกกระทบกระเบื้อง ไม่นานนักเขาก้าวออกมา ปลดผ้าออกจากกาย เผยให้เห็นเรือนร่างสมบูรณ์ของบุรุษเพศ เธอเบือนหน้าหนี ต่อให้เคยเห็นมาแล้วก็เถอะ กระนั้นยังขัดเขินอยู่ดี อรัญกรณ์เปิดตู้เสื้อผ้าเลือกเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นมาใส่ แล้วหันมามองอีกคนที่ยืนอยู่ “ไปกันเถอะ” เขาออกปากชวน แล้วเดินนำ ประตูห้องเปิดออก พิชญาภาเดินออกมา ในบ้านไม่ได้มีคนมากนัก แถมทุกคนยังไม่มีใครสนใจเธออีกด้วย อาจเพราะเขาคนนี้ ไม่ต้องการให้ลูกน้องมายุ่งเกี่ยว ออกมานอกบ้าน บรรยากาศเย็นสบาย มีทิวทัศน์ของภูเขา ไม่กี่เมตรตรงหน้าได้ยินเสียงน้ำไหล พอก้าวเข้าใกล้ เห็นน้ำตกใสสะอาดตรงหน้า ทำเอาอยากเล่นน้ำทีเดียว “สวยนะคะที่นี่” เธอบอก แล้วสบตาเจ้าของก่อนยิ้มกว้าง ภาพนั้นทำเอาอรัญกรณ์ชะงัก เบือนหนี ไม่อยากหวั่นไหว “ถ้าไม่สวยฉันคงไม่ซื้อหรอก” เธอหัวเราะในลำคอ “ถ้าเป็นฉัน ก็คงซื้อเหมือนกัน” เขาชะงัก “อยากได้ไหมล่ะ ผมแบ่งขายให้” คนฟังตาโต “คุณยังมีที่แบบนี้อีกเหรอคะ!” “ก็.... มีอยู่ ค่อนข้างเยอะเลยล่ะ” “ฉันอยากซื้อ!” พิชญาภาโพลงออก สีหน้ายินดี เขาอมยิ้ม ไม่คิดว่าคนที่ถูกลักพาตัวมา จะพูดคุยกับเขาเหมือนปกติ ผู้หญิงคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่นะ “ถามจริง ไม่กลัวผมเหรอ” คนถูกถามนิ่งงัน “กลัวหรือไม่กลัว ก็คงไม่มีผลอะไรแล้วล่ะ” สีหน้าของชายหนุ่มหม่นลง ไม่ได้อยากคุมขัง หรือทำร้ายจิตใจของเธอ แต่เพราะเขาเองก็จนใจ ถ้าไม่ทำเช่นนี้ หมอนั่นคงไม่มีวันสำนึกได้หรอก เขาสบตาคนตรงหน้า “อีกสองวัน ผมจะพาคุณไปพบใครบางคน” เธอเหลือบมอง “ใครเหรอคะ” “เอาไว้ไปถึง คุณจะรู้เอง กลับเข้าห้องเถอะ” คนตัวเล็กจำยอมเดินตามอย่างเงียบ ๆ ต่อให้หนี ก็ไม่รู้ต้องไปทางไหน รอบ ๆ มีแต่ป่า มันทำให้รู้สึกหวาดหวั่น ถ้าเกิดหลงป่า ค่ำมืดดึกดื่น ให้อยู่คนเดียว คงน่ากลัวพิลึก เธออยากหนีแต่รู้ว่าไม่มีทางรอดแน่ ถ้าผู้ชายคนนี้รักษาคำพูด ก็คงปล่อยตัวเธออย่างที่พูดเอาไว้ เปิดประตูเข้าห้อง พิชญาภาเหลือบมองอีกฝ่าย หวังว่าเขาคงไม่นอนค้างที่นี่ในคืนนี้ “ผมต้องไปทำธุระคืนนี้นอนคนเดียวได้ไหม” “ได้สิ คุณไปเถอะ!” เธอรีบตอบ แค่นี้มันก็มากเกินพอแล้ว เขากระตุกยิ้มมุมปาก “หรืออยากให้ผมนอนด้วย จะได้ไม่เหงา” “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันนอนคนเดียวได้!” “ถ้างั้นผมไปก่อนนะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD