7

1645 Words
             บ่ายแล้วที่รุ่งอรุณเดินเตร่ไปมาในบริเวณรีสอร์ทอย่างไม่รู้จะไปไหนดี นึกถึงเมื่อเช้าที่ตื่นขึ้นมาแล้วสบตากับพยัคฆ์ แม้จะนอนคนละที่กันแต่มันก็ให้ความรู้สึกที่แปลกๆ แล้วหัวใจของเธอก็กระตุกเต้นผิดจังหวะไปเลย ถ้าได้กลับเมื่อไรเธอคงต้องหาเวลาไปตรวจคลื่นหัวใจดูบ้าง หรือเพราะว่าเธอไม่เคยนอนร่วมห้องกับผู้ชายคนใดมาก่อนถึงทำให้มีอาการประหลาดเหล่านั้น รุ่งอรุณสะบัดหัวไปมาให้ความคิดฟุ้งซ่านนั้นหายไปเสียที เมื่อเดินเข้ามาถึงส่วนที่เป็นพื้นที่ต้อนรับของสปาก็เจอเข้ากับมะเดี่ยวที่กำลังปีนบันไดอยู่ เลยเงยหน้า ถามด้วยรอยยิ้มตามอัธยาศัย “ทำไรเดี่ยว” “อ้าวพี่รุ้งมาซะเงียบ ตกใจหมด ผมขึ้นมาดูกล้องครับ เห็นว่ามันเสียนายเลยให้มาดูว่ามันเป็นอะไรน่ะครับ” “โห นี่เรามีหน้าที่อะไรบ้างเนี่ย ทำได้ทุกอย่างเลยเหรอ” “ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับพี่รุ้ง” มะเดี่ยวตอบปนหัวเราะแหะๆอย่างเขินๆ “แล้วไง ท่าที่พี่บอกได้ทำมั่งป่าว” “ทำครับ ดูนี่พี่รุ้ง” มะเดี่ยวเบ่งกล้ามโช แล้วถาม “สวยไหมครับ พี่รุ้งนี่เก่งจริงๆเลยนะครับ รู้ด้วยว่าอยากให้มัดกล้ามเนื้อไหนสวยก็ต้องออกกำลังกายท่าไหน คนเรียนสายหมอนี่คงเก่งทุกคนนะครับเนี่ย” มะเดี่ยวหันมาวุ่นวายกับกล้องต่อ แต่ปากยังชวนคุย รุ่งอรุณอดขำไม่ได้กับเด็กหนุ่มที่พูดจาเกินจริง เพิ่งจะได้ท่าไปวันก่อนกล้ามจะงอกออกมารวดเร็วแบบถั่วงอกได้อย่างไร มันไม่ไวขนาดนั้นสักหน่อย แต่ก็ยิ้มแก้มปริกับคำชมของเด็กหนุ่ม มะเดี่ยวคุยต่อว่า “จะว่าไป นายก็เรียนจบหมอมาเหมือนกันนะครับพี่รุ้ง” แต่แล้วเธอก็หุบยิ้มฉับ ถามหน้าเหวอหน่อยๆ“นายไหน” “ก็คุณยักไงครับ” “ตลกแล้ว” นายยักนั่นน่ะนะเรียนหมอ “จริงครับ นายจบหมอจริงๆแต่ไม่ได้ไปเป็นหมอ นายว่านายใจไม่ถึงพอ เลยออกมาเลี้ยงควายดีกว่า” แล้วรุ่งอรุณก็นึกไปถึงวันที่ตอกหน้าเขาว่าเธอจะต้องมีแฟนเป็นหมอเท่านั้นแล้วนึกกระดากขึ้นมาทันที แย่แล้วตานั่นคงนึกหัวเราะเธออยู่แน่ๆเลย ป่านนี้แล้วเธอจะไปบอกเขาใหม่ดีไหมว่าเธอแค่พูดเล่น หรือพูดประชด ไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆตอนที่พูดน่ะ จะว่าเธอกลับก็ได้ที่เป็นคนพูดไม่คิด เธอยอม ขออย่าให้เขาคิดเป็นจริงเป็นจังก็แล้วกันกับคำพูดของเธอ “ว่าแต่พี่รุ้งมีอะไรจะใช้เดี่ยวเหรอครับ” รุ่งอรุณเงียบไปแล้วมองไปยังกล้องวงจรปิดที่เด็กหนุ่มจับอยู่ก่อนจะนึกขึ้นได้ “เออ กล้องนี่ที่บ้านติดไหมเดี่ยว” “มีครับ” รุ่งอรุณตาวาวขึ้นมาทันที เธอกำลังหงุดหงิดในใจที่ไม่รู้ว่าใครพาเธอไปนอนห้องพยัคฆ์ “งั้นเดี่ยวดูย้อนหลังวันงานให้พี่หน่อยสิ” มะเดี่ยวหน้าหดเหลือไม่ถึงสองนิ้วก่อนตอบ “ผมไม่แน่ใจว่าจะได้ไหมนะครับ” “อ้าว ทำไมล่ะ” “นายสั่งไว้ ว่าห้ามใครวุ่นวายกับกล้องวงจรปิดนี่ครับ” งั้นนายยักก็... เขาทำงั้นเหรอ เอาไงดี เธอจะถามเขาตรงๆดีไหม “แต่ถ้าพี่รุ้งอยากดูจริงๆเดี๋ยวเดี่ยวแอบพาไปก็ได้ครับ” แล้วมะเดี่ยวก็พาเธอเข้าไปยังห้องที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูลภาพกล้องวงจรปิดจนได้ แต่ก็ต้องหัวเสียออกมาเมื่อพบว่าช่วงเวลานั้นกล้องวงจรปิดหน้าห้องพักของเขาเสียเช่นกัน ทำไมมันต้องเสียวันที่เกิดเรื่องด้วยนะ มะเดี่ยวแอบกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่แล้วหน้าเบ้หน่อยๆ บ่นอยู่ในใจว่านายนะนาย เล่นอะไรก็ไม่รู้ ก่อนแยกย้ายกันไป มะเดี่ยวถามด้วยหน้าแหยๆว่า “พี่รุ้งพักที่ห้องเล็กในเรือนเล็กเหรอครับ” “ห้องไหนคือห้องเล็กในเรือนเล็ก” “ก็ห้องข้างห้องนายไงครับ” “ทำไมเหรอ มีอะไร” “เรือนนั้นทั้งเรือนนายทำไว้เป็นเรือนหอนี่ครับ” “อ้อ เหรอ” รุ่งอรุณเบะปากรับอย่างหมั่นไส้ ถึงว่าดูเขาเป็นเดือดเป็นร้อนทีเดียวที่เธอไปนอนนั่น แล้วห้องที่เธอพักมันเรียกว่าห้องเล็กด้วยหรืออย่างไร แล้วมะเดี่ยวก็ตอบกลับมาว่า “ส่วนห้องเล็กนั่น นายทำไว้ให้ลูกครับ” ถึงว่า หวงนักหวงหนาสมน้ำหน้าขอให้มีลูกแบบเธอก็แล้วกันนะนายยัก   พีรพรรณลงจากรถและมีอุ๋ยชี้มือบอกพิกัดโจทก์ที่อยู่ในโรงจอดรถ ที่ตนเองได้โทรรายงานตั้งแต่วันก่อนถึงเรื่องฉาวระหว่างพยัคฆ์และรุ่งอรุณ ที่บังเอิญไปแอบได้ยินคุณมาลาไพรเรียกคุยในห้องมา และวันนี้ก็สบโอกาสเหมาะเนื่องจากคุณมาลาไพรไม่อยู่ ด้วยว่าออกไปเยี่ยม เพื่อนสนิทของท่านที่เส้นเลือดในสมองตีบนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลประจำจังหวัด   รุ่งอรุณที่กำลังก้มๆเงยๆกับรถที่ไม่ได้ใช้งานมาเป็นอาทิตย์ในโรงจอด หัวสมองยังจดจำคำแนะนำของคนไข้รายหนึ่งที่เป็นนายช่างใหญ่ได้เป็นอย่างดีว่า หากจอดรถทิ้งไว้นานๆอย่างน้อยต้องหมั่นมาติดเครื่องสตาร์ทรถเอาไว้ให้กระแสไฟฟ้าในวงจรมันทำงานบ้างอะไรบ้าง น้ำก็หมั่นมาตรวจมาดูอย่าให้แห้งเวลาจะใช้งาน คนไข้แต่ละคนของเธอก็น่ารักน่าหยิกกันทั้งนั้น แต่แล้วเสียงที่ทักแทรกเข้ามาในความเงียบตอนนี้นี่สิมันน่า...นัก “นี่ยัยล่ำ เธอแอบเข้าไปปล้ำยักใช่ไหม” รุ่งอรุณชะงักแล้วหันหน้ามามองคนพูดที่เป็นใครไปไม่ได้นอกจากพีรพรรณ ที่ยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดจนเป็นปม นี่คง เป็นเดือดเป็นร้อนเรื่องที่เธอจะมาเป็นเมียของนายยัก อ้อ ไม่ใช่จะ ตอนนี้เธอเป็นไปแล้ว อย่างนั้นสินะ เลยเลิกคิ้วหน่อยๆ นึกในใจว่ายัยพีพีเห็นเธอเป็นตัวอะไร ที่หื่นและถึกจนถึงขนาดจะเข้าไปปล้ำผู้ชายแบบพยัคฆ์ได้ถึงในห้องโดยที่อีกฝ่ายไม่ขัดขืน เลยย้อนถามกวนๆกลับไป “แล้วจะทำไม” พีรพรรณชี้หน้าบริภาษเธอแววตาดุดันเลยทีเดียว“อย่าคิดว่าวิธีนี้จะจับยักได้นะ” เธอเลยย้อนคืนบ้าง “เพราะเธอก็เคยใช้วิธีนี้เหมือนกันใช่ไหม” และไม่ทันได้ระวังตัว พีรพรรณปาดเข้ามาฟาดมือใส่แก้มป่องๆ จนรุ่งอรุณหน้าชา ถึงกับเงื้อหมัดกำแน่นขึ้นทันทีทันใดเช่นกัน และกำลังจะเอาคืนพีรพรรณ แต่เสียงเข้มๆก็ดังห้ามขึ้นอย่างทันทีทันใดเช่นกัน   “อย่านะรุ่งอรุณ” พร้อมกับพยัคฆ์ที่เดินมาคว้าแขนพีรพรรณให้ออกจากการประจันหน้ากัน รุ่งอรุณหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก หน้าของเธอออกร้อนผ่าวๆไปทั่ว มันควรจะร้อนที่แก้มที่ถูกตบ แต่นี่มันร้อนไปหมดทั้งใบหน้า และมันไม่ใช่เพราะฝ่ามือของยัยพีพีแต่เพราะคำพูดห้ามปรามจากปากของพยัคฆ์ ซ้ำร้ายหัวใจของเธอก็เอาแต่กระหน่ำเต้นไม่หยุด ปากสั่นมือสั่นจนควบคุมไม่อยู่ บอกตัวเองว่างานนี้เธอไม่แค่เกลียดยัยพีพีคนเดียว แต่นายยักก็ด้วยที่บอกได้เลย ว่าตอนนี้เธอเกลียดเขา เกลียด เกลียด เกลียด คอยดูทีของเธอบ้างเถอะ แล้วอย่างนี้มาใช้ให้เธอแกล้งเป็นเมียทำไมกัน ทุเรศที่สุด พยัคฆ์พาแฟนของเขาออกไปจากตรงนั้นทันที สายตาที่มองตอบเธอเรียบนิ่งจนรุ่งอรุณไม่อยากรู้ความคิดของเขา เธอสะบัดหน้าหนีไม่อยากมองคนทั้งสองที่พากันขึ้นรถแล้วขับออกไป เชิญเลยพากันไปปลอบไปโอ๋กันให้พอ   หลังจากที่พยัคฆ์พาพีรพรรณขึ้นรถแล้วขับออกไปไม่กี่ชั่วโมง ก็กลับมา ไล่หลังจากคุณมาลาไพรไม่กี่นาที หญิงสูงวัยรอท่าอยู่แล้ว จึงเรียกอีกฝ่ายให้หยุดคุยเมื่อพยัคฆ์ทำท่าจะเดินผ่านท่านไป “คุณยักคะ น้ามีเรื่องจะคุยด้วย”ท่านเงียบไปครู่ แล้วออกตัวแทนรุ่งอรุณ “ไม่ต้องไปว่ายัยรุ้งนะ น้ารู้จากเด็กในบ้านเรื่องของแม่พีพี น้าว่าแม่นั่นออกจะเกินไป ที่มาลงไม้ลงมือกับยัยรุ้ง ถ้าคุณยักไม่ทำอะไร น้าจะ…” “ผมจัดการไปแล้วครับ”พยัคฆ์พูดแซงขึ้นมาอย่างไม่ให้ความสำคัญใดๆ คุณมาลาไพรเงียบไปอีกครั้ง ก่อนจะมองหน้าลูกเลี้ยงแล้วตัดสินใจพูดในสิ่งที่ท่านเป็นกังวล                     “น้าไม่รู้นะคะว่าคุณยักกำลังจะทำอะไร ถ้าไม่ชอบยัยพีพีก็บอกไปตรงๆ อย่าเล่นแง่ อย่าดึงยัยรุ้งมาวุ่นวายด้วยเลยค่ะ” พยัคฆ์แค่นยิ้มก่อนจะย้อนคืนให้บ้าง“ใครกันครับ ที่ดึงรุ่งอรุณมายุ่ง แล้วเรื่องนี้ผมก็ไม่ได้เล่นแง่กับพีพี คุณน้าน่าจะรู้ดี ว่าผมทำไปเพราะเล่นกับใคร”            พยัคฆ์พูดจบเดินออกไปทิ้งให้แม่เลี้ยงมองตามด้วยสายตาหนักใจ นี่ความหวังดีของท่านที่หยิบยื่นให้พยัคฆ์กำลังเป็นมีดย้อนมาทิ่มแทงท่านคืนแล้วอย่างนั้นหรือ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD