bc

ชายาของข้าได้โปรดหวนคืน

book_age18+
166
FOLLOW
1K
READ
badboy
kickass heroine
drama
mythology
another world
like
intro-logo
Blurb

เป็นพระชายาเอกเหน็ดเหนื่อยและถูกสวามีชิงชังมาสามปีไม่พอยังถูกชายารองใส่ร้ายอี้เหนียงป้ายสีไหนจะยังมีมารดาของสวามีคอยข่มเห่งประเสริฐแท้ พอกันที! 3ปีมันนานเกินไปแล้ว หลีฮัวคนนี้จะไม่ทน สามีที่ดีย่อมต้องเป็นสามีใหม่ เพราะคนเก่ามันก็สันดานเดิมใครคิดจะหวนคืนไปกลืนน้ำลายที่ตนเองคายทิ้งลงพื้นดินก็ช่างแต่หนึ่งในสตรีโง่เขลาเหล่านั้นไม่มีนามหลินหลีฮัวรวมอยู่ด้วยแน่นอน!!!

chap-preview
Free preview
บทนำ
บทนำ# อวี้เอ๋อร์คือผู้ใด? ภายในห้องหอหรูหราบัดนี้มีสตรีสวมชุดเจ้าสาวเต็มพิธีการกำลังนั่งทอดสายตามองตรงไปบนโต๊ะอาหารมงคลกลางห้องสำหรับคู่บ่าวสาว ที่ยังไม่มีผู้ใดแตะต้องมันเลยแม้เพียงครึ่งคำสลับกับมองไปที่บานประตูห้องหอที่ถูกปิดไปเมื่อครู่ด้วยฝีมือของผู้เป็นเจ้าบ่าวหลังจากที่เขากล่าวกับนางด้วยประโยคที่ว่า… 'ฐานะพระชายาเอกขององค์ชายหกนี้เจ้าก็ได้ไปแล้ว เช่นนั้นราตรีนี้เจ้าก็เข้าหอกับฐานะพระชายาเอกและหนังสือสมรสไปก็แล้วกันส่วนเปิ่นหวางจื่อ[ตัวข้าองค์ชายผู้หนึ่ง]จะไปปลอบใจอวี้เอ๋อร์!' แล้วเขาก็เดินจากไปโดยปล่อยให้เจ้าสาวเช่นนางนั่งเป็นบื้อเป็นใบ้อยู่บนเตียงแม้นแต่ผ้าคลุมหน้าคนผู้นั้นก็ไม่คิดแม้แต่จะมีน้ำใจมาปลดมันออกให้นางแม้แต่น้อย กว่าที่หลินหลีฮัวนั้นจะตั้งสติได้เสียงฝีเท้าของผู้เป็นเจ้าบ่าวหรือพระสวามี นั้นก็จางหายไปกับความมืดได้ครู่ใหญ่เสียแล้ว ปลอบใจอวี้เอ๋อร์อย่างนั้นหรือ? แล้วอวี้เอ๋อร์คือผู้ใดกันเล่า? ผู้เป็นเจ้าสาวยังคงมึนงงและสงสัยมิคลายแต่สงสัยเพียงใดนางก็คงยากจะได้คำตอบในราตรีนี้เนื่องจากผู้ที่รู้คำตอบจากไปแล้วนั่นเอง "พระชายาหกเพคะ เกิดอันใดขึ้นเพคะแล้วองค์ชายหกเขาเอ่อ…ไปที่ใดแล้วเพคะ " ปิงจี สาวใช้ที่ติดตามมาจากจวนเจิ้งกั๋งกง หลินเว่ยซู ยังเมืองติ้งโจวที่ห่างจากมหานครจิ้งอานเมืองหลวงของอาณาจักรเทียนสุ่ยแห่งนี้ถึงหนึ่งพันลี้เองก็เพิ่งได้สตินางจึงรีบวิ่งเข้ามาดูผู้เป็นนายของตนเองทันที "เกิดอันใดขึ้นเพคะพระชายาหก" ถงอี สาวใช้อีกคนก็วิ่งเข้ามาอีกคน เพราะการแต่งเข้าราชวงศ์ตามธรรมเนียมของชาวเทียนสุ่ยนี้เจ้าสาวจะต้องมีสาวใช้ติดตามมาจากสกุลเดิมไม่น้อยกว่าสองคนหลินหลีฮัวที่เป็นถึงบุตรสาวคนโตหรือก็คือคุณหนูใหญ่หลินในจวนเจิ้งกั๋วกงเองก็มิได้อยู่ในข้อยกเว้นดังกล่าว "ข้า…ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน" หลินหลีฮัวไฉนเลยจะตอบสองสาวใช้ของตนเองได้ เพราะนางเองก็ไม่ทราบเช่นกัน เนื่องจากเมื่อครึ่งปีก่อนนางอายุครบสิบห้าหนาวก็มีราชโองการจากฮ่องเต้เฉิงตี้ พระนามว่า จ้าวหลิวหย่ง ให้นางเดินทางจากเมืองติ้งโจเขตเป่ยฉีเพื่อจะมาแต่งให้กับองค์ชายหกโอรสที่เกิดจากถังซูเฟยนามว่า ถังเหม่ยเซียง ซึ่งหลังจากรับราชโองการดังกล่าวอีกสามเดือนนางก็เดินทางมาถึงมหานครจิ้งอานและนับจากมาถึงเป็นเวลาอีกสามเดือนก่อนพิธีสมรสนางก็อยู่แค่ภายในวังหลังศึกษากฎระเบียบและธรรมเนียมปฏิบัติของสตรีที่กำลังจะแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ราชวงศ์อย่างหนัก หน้าตาขององค์ชายหก จ้าวหลิวเย่ เป็นเช่นไรยังไม่เคยเห็น นอกจากรู้ว่าเขาอายุสิบเก้าหนาวและมีพี่ชายน้องชายรวมไปถึงพี่สาวกับน้องสาวต่างมารดาทั้งหมดสิบหกคนแล้วนางยอมรับอย่างไม่อายเลยว่านางไม่รู้อันใดเกี่ยวกับเขาอีกเลย ดังนั้น อวี้เอ๋อร์ คือผู้ใดแล้วเหตุใดสวามีของนางจึงต้องไปปลอบขวัญกันในราตรีเข้าหอเช่นนี้หลินหลีฮัวไม่รู้จริง ๆ "แล้วเช่นนี้พวกเราต้องทำอย่างไรต่อไปดีเพคะพระชายาหก" แน่นอนว่าปิงจีกับถงอีที่ติดตามมาจากติ้งโจวย่อมต้องถูกฝึกฝนและเคี่ยวกรำเรื่องกฎระเบียบและธรรมเนียมปฏิบัติไม่ต่างจากผู้เป็นนายเช่นคุณหนูใหญ่หลินดังนั้นต่อให้ตอนนี้อยู่กันเพียงลำพังทั้งสองก็ยังเรียก พระชายาหก อย่างเคร่งครัดไม่มีหลุด คุณหนูใหญ่หลิน แม้เพียงครึ่งคำ "ข้าหิวมากกินข้าวก่อนก็แล้วกัน" ถึงจะตกใจที่ตนเองถูกสวามีทอดทิ้งกันไปในราตรีเข้าหอแต่เพราะนิสัยของเด็กสาวเช่นหลินหลีฮัวนั้นไม่ใช่คนคิดมากหากไม่จำเป็น ถูกทอดทิ้งแล้วอย่างไรถูกทอดทิ้งก็ยังต้องกินข้าว ต้องอาบน้ำและนอนหลับพักผ่อนมิใช่หรือ? จึงจะมีกำลังต่อสู้ทุกปัญหาในยามเช้ามาเยือนดังนั้นเมื่อสติคืนมาครบถ้วนนางจึงคิดถึงเรื่องกินให้อิ่มท้องก่อนเป็นอันดับแรก ...ถูกทอดทิ้งก็ช่างท้องนางต้องอิ่ม!... และพอหลินหลีฮัวคิดได้ดังนั้นร่างบอบบางในอาภรณ์เจ้าสาวครบเครื่องเต็มยศ ขยับปลดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออกด้วยตนเองพับมันอย่างเรียบร้อยแล้วนำไปวางลงที่โต๊ะข้างหัวเตียง จากนั้นเรือนร่างอรชรจึงลุกขึ้นจากเตียง แต่ด้วยชุดมันรุ่มร่ามเกินไปหลินหลีฮัวจึงต้องยกมือเรียวสองข้างไปจับยกชายกระโปรงที่ยาวกรอมเท้าขึ้นเพื่อความสะดวกในการเดินไปยังโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารมากมายยั่วน้ำลายทันที สวามีไม่อยู่ก็ดี จะได้ไม่มีผู้ใดแย่งชิงของอร่อยกับนาง "พวกเจ้ากินข้าวกันแล้วหรือยัง" ก่อนจะจับตะเกียบหลีฮัวยังอดจะหันไปถามสองสาวใช้เสียมิได้ ถึงจะถูกอบรมเคร่งครัดเพียงใดแต่จิ้งอานนี้นางก็เหลือเพียงสองสาวใช้ ปิงจีกับถงอีที่เปรียบดังพี่น้อง หากไม่มีสองคนนี้ติดตามมาจากบ้านเกิดหลินหลีฮัวคงโดดเดี่ยวเดียวดายเพียงลำพังแล้วจริง ๆ “เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ” ปิงจีที่หนาวอายุมากกว่าถงอีและหลินหลีฮัวอยู่สองหนาวตอบผู้เป็นนายไปตามตรงเพราะระหว่างงานเลี้ยงพวกนางถูกเนี่ยกงกง พ่อบ้านใหญ่ในจวนองค์ชายหกเรียกไปกินตั้งแต่หัวค่ำแล้ว "เช่นนั้นเจ้าไปให้คนเตรียมน้ำให้ข้าอาบสักหน่อยปิงจีเหนียวตัวไปหมด" เหนื่อยมาตั้งแต่ยามจื่อของคืนก่อนกว่าจะถูกส่งตัวเข้าหอหลีฮัวก็อยากแช่น้ำอุ่นคลายเหนื่อยล้าสักครึ่งชั่วยาม "เพคะพระชายาหก" ปิงจีรับคำแล้วจากไป "ส่วนถงอีเจ้าไปจัดเตียงให้ข้าหน่อยมีแต่ของมงคลนอนทับคงเจ็บแย่ขืนนอนทั้งอย่างนั้นข้าคงหลับไม่ลงเป็นแน่" เห็นของมงคลบนเตียงแล้วหลินหลีฮัวคิดว่าหากนอนเช่นนั้นตนเองคงยากจะหลับสบายเป็นแน่ "ได้เพคะ" มีปัญหาก็จัดการไปตามนั้นนี่คือความคิดค่อนข้างเรียบง่ายของหลินหลีฮัว นางก็เป็นสตรีเช่นนี้ ไม่ชอบมีปัญหากับผู้ใดแต่ใครก็อย่าได้คิดมารังแกนางก่อนจนเกินไปก็แล้วกันเพราะหากลงมือก่อนนางย่อมต้องโต้ตอบคืนเช่นกันแต่จะเป็นรูปแบบใดนั้นก็ต้องเป็นไปตามสถานการณ์ เมื่อกินจนอิ่มแล้วก็พอดีกับที่ปิงจีเตรียมน้ำอาบเรียบร้อยร่างอรชรจึงเดินตรงไปยังหลังฉากกั้นที่แบ่งเอาไว้จากห้องนอนใหญ่เป็นสำหรับที่แต่งกายซึ่งแบ่งแยกออกจากห้องนอนอย่างชัดเจนเช่นปกติของเรือนของผู้ร่ำรวยทั่วไปและตำหนักองค์ชายหกจะด้อยค่าราวกับเรือนชาวบ้านทั่วไปได้อย่างไร แล้วในที่สุดกายบอบบางของเจ้าสาวก็เข้ามาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าโต๊ะเครื่องประทินโฉมที่มีกระจกทองเหลืองเงาแวววาวที่บัดนี้มันกำลังสะท้อนภาพของสตรีนางหนึ่งซึ่งงดงามอยู่ในชุดเจ้าสาวซึ่งดูงดงามสมฐานะสะใภ้ผู้หนึ่งของราชวงศ์ แววตาของคนที่อยู่ในคันฉ่องกลับมิได้ใสกระจ่างเช่นที่นางเสแสร้งต่อหน้าสาวใช้ทั้งสองเมื่อครู่ เพราะต่อให้นางคิดดี ทว่าสำหรับเด็กสาวอายุเพิ่งครบสิบห้าหนาวจากบ้านมาไกลไม่พอหลังแต่งงานยังถูกสามีหมางเมินนับตั้งแต่คืนแรกที่เข้าหอใครเลยจะไม่รู้สึกเศร้าเสียใจ ในส่วนลึกของใจหลินหลีฮัวนั้นย่อมเต็มไปด้วยคำถามว่าตนเองผิดอันใด? ก็สตรีนางใดบ้างที่จะยอมรับได้โดยง่ายว่าในราตรีเข้าหอที่มันสมควรจะชื่นมื่นดังคู่บ่าวสาวทั่วไป แต่คิดไปคิดมานางกับองค์ชายหกนั้นก็หาได้เป็นคู่สามีภรรยาทั่วไปนี่นาอีกฝ่ายเป็นถึงองค์ชายเป็นบุตรชายของฮ่องเต้ ส่วนนางนั้นก็เป็นเพียงหลานสาวห่าง ๆ ของถานไทเฮาเพราะมารดาของนางคือญาติผู้น้องของถานไทเฮาที่จากไปหลายหนาวแล้วอำนาจไม่มีความโปรดปรานในวังหลวงย่อมไม่หลงเหลือ ที่ฮ่องเต้มีพระราชโองการเรียกนางมาแต่งเป็นพระชายาหกก็ไม่ใช่ว่าหลินหลีฮัวจะไม่ทราบว่าเป็นความต้องการของซ่งฮองเฮาเสียมากกว่าที่อยากให้องค์ชายหกนั้นได้แต่งกับบุตรสาวของเจิ้งกั๋วกงที่ไม่มีอำนาจหรือกำลังคนและพรรคพวกในเมืองหลวงอีกแล้ว เพราะถึงนางจะนับเป็นหลานสาวของถานไทเฮาแต่ก็ห่างแสนห่างไม่พอถานไทเฮายังจากไปหลายหนาวแล้ว เช่นนี้ไม่นับว่าตัดทอนอำนาจของ จ้าวหลิวเย่ ได้อย่างไร ดังนั้นเขาไม่พึงใจนางจนทอดทิ้งไปจะแปลกอันใด พอคิดได้เช่นนี้หลินหลีฮัวก็พลันถอนหายใจทิ้งออกมาเฮือกใหญ่แล้วจึงเริ่มลงมือปลดชุดเจ้าสาวที่ราคาแสนแพงระยับที่เกิดและตายอีกสักหมื่นชาตินางเองก็ไม่แน่ใจนักว่าตนเองจะมีปัญญาได้ตัดมาสวมเองหรือไม่ แต่นี่เป็นเพราะซ่งฮองเฮาจัดหามาให้ทั้งหมด ดังนั้นหญิงสาวจึงค่อย ๆ ปลดมันออกจากกายด้วยความระมัดระวังเพราะกลัวเนื้อผ้าไหมอย่างดีจะฉีกขาดเพราะด้วยฐานะเช่นตนเองคงได้ไร้ปัญญาจะซ่อมแซมมันด้วยตนเองได้เป็นแน่ยิ่งราตรีแรกสวามีแสดงออกชัดเจนเช่นนี้หลินหลีฮัวยิ่งต้องระวังตนเองไม่ให้เผลอทำสิ่งผิดจนถูกซ่งฮองเฮาตำหนิเอาได้ พอปลดจนเสร็จเรียบร้อยนางก็จัดการให้สาวใช้ข้างกายนำมันไปสวมยังไม้สำหรับแขวนอาภรณ์นางเดินตามไปตรวจสอบแล้วตรวจสอบอีกว่ามีร่องรอยเสียหายหรือไม่พอไม่พบนางจึงค่อยโล่งใจไปหนึ่งยก จากนั้นที่ต้องปลดต่อไปย่อมเป็นเครื่องประดับบนศีรษะ ปิงจีกับถงอีรีบเข้ามาช่วยผู้เป็นนายหญิงของตนเองเช่นเดิมหลินหลีฮัวจึงรีบปรับสีหน้าให้ยิ้มแย้มเช่นเดิม ท่านแม่ของนางเพียรสั่งสอนอยู่เสมอว่าผู้เป็นนายคนจะอ่อนแอให้บ่าวไพร่เห็นมิได้ ไม่สมควร ท่านแม่ของนางเป็นฮูหยินเอก เป็นเจิ้งกั๋งกงฟู่เหรินที่เข้มแข็งนัก ส่วนบิดาของนางนั้นนับว่าเป็นบุรุษเสเพลไม่เอาไหนนับตั้งแต่หลินหลีฮัวจำความได้ ถึงจะสืบทอดตำแหน่งเจิ้งกั๋วกงจากท่านปู่ทวดและท่านปู่ ทว่าพอถึงยุคของบิดาของนางกลับกลายเป็นเจิ้งกั๋วกงแค่ตำแหน่ง ทว่ากลับไม่มีอำนาจไม่มีผลงาน ในจวนเจิ้งกั๋วกงเต็มไปด้วยอี้เหนียงถึงสิบเก้าคน แล้วยังมีบรรดาบุตรชายและบุตรสาวเกือบยี่สิบหกคน แต่บุตรที่เกิดจากเจิ้งกั๋วกงฟู่เหรินมีเพียงสองคนคือนางกับน้องชายที่หนาวนี้ หลินเว่ยเซียว เพิ่งอายุเต็มเจ็ดหนาวเท่านั้น งานหลวงเจิ้งกั๋วกงหลินแทบไม่ค่อยได้ทำงานราชหรือก็คือการค้าของสกุลหลินเขากลับยิ่งไม่แตะต้องหลายหนาวมานี้จึงล้วนเป็นมารดาของนางจัดการ บิดาของนางนอกจากดื่มสุรา เที่ยวหอนางโลมกับเล่นการพนัน เจิ้งกั๋วกงเว่ยซูก็ไม่ทำสิ่งอื่นอีกแล้ว ดังนั้นบุตรสาวคนโตเช่นนางก็ได้รับความอดทนและแข็งแกร่งมาจากมารดาเต็มสิบส่วน ราตรีเข้าหอจบลงที่หลินหลีฮัวเข้านอนและหลับสบายบนเตียงเพียงผู้เดียว ส่วนปิงจีถงอีนั้นเนี่ยกงกงจัดให้ไปนอนที่ห้องของนางกำนัลคนสนิทของพระชายาหกที่ปีกด้านซ้ายของเรือนหรูอวี้แห่งนี้ จบหนึ่งวันอันแสนเหน็ดเหนื่อยลงด้วยดียิ่ง…

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
7.9K
bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
1K
bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
6.1K
bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
13.2K
bc

พะยอมอธิษฐาน

read
1.8K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K
bc

ป๊ะป๋าผมเป็นมาเฟีย

read
1.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook