EPISODE 03

1360 Words
“งานการกุศลที่จะจัดขึ้นในอาทิตย์หน้าบอสไม่ได้ลืมใช่ไหมคะ” เลขาสาวในบริษัทอสังหาริมทรัพย์เอ่ยถามผม “ผมจำได้ครับ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม “ค่ะ แล้วงานเปิดตัวคอนโดใหม่ที่กำลังจะสร้างเสร็จ ดิฉันส่งข้อมูลนางแบบดารามาให้บอสเลือก ไม่ทราบว่าบอสเลือกเล็งไว้แล้วหรือยังคะ ดิฉันจะได้ให้ฝ่าย…” “ผมยังไม่ได้ดูเลยครับ คุณช่วยเลือกแทนผมทีนะครับ ถ้าคุณคิดว่าคนไหนเหมาะสมที่จะเป็นพรีเซ็นเตอร์ของคอนโด คุณก็ส่งข้อมูลเข้ามาไว้ในเมลให้ผมเลย เดี๋ยวผมจะเลือกอีกที” ผมตัดบทง่าย ๆ เพราะจะให้ผมนั่งเลือกคงไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงแม้บอร์ดจะพากันเลือกเฟ้นออกมาแล้วก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้ลงมติว่าจะเอาคนนี้นะ ยังไงซะสุดท้ายก็ต้องเป็นผมที่ต้องตัดสินใจ “รับทราบค่ะ” เลขาสาวยิ้มรับ “ครับ ผมขอกาแฟด้วยนะ” ผมสั่งแล้วนั่งดูงานในจอคอมพิวเตอร์ต่อ ผมก็ไม่ได้หลงตัวเองหรอกนะ แต่ผมมั่นใจว่าผมหล่อ และสาว ๆ คลั่งไคล้ผมเยอะ หนึ่งในนั้นคือเลขาของผม แต่ผมเป็นพวกไม่นิยมกินคนใกล้ตัว เพราะมันจะเสียระบบงาน เนื่องจากนิสัยส่วนตัวของผมแล้ว มักจะปากหวานเมื่อยามอยากได้ แต่เมื่อได้แล้วปากผมจะหมาทันที ฉะนั้นผมจึงตั้งกฎกับตัวเองว่า ‘ต่อให้สวยแค่ไหน ถ้าเป็นคนในระบบงาน ผมจะไม่เคี้ยวเด็ดขาด’ ผมเคลียร์งานที่บริษัทเสร็จก็ตรงดิ่งกลับบ้าน ซึ่งนี่ก็เย็นมากแล้ว ป่านนี้ที่บ้านผมคงกำลังวุ่นกัน “ป๊าเสือ” เสียงของเด็กตัวน้อยลากเสียงเรียกผมยาวเหยียด พร้อมกับร่างเล็กวิ่งเข้ามากอดผมที่เดินเข้าบ้านมา “ว่าไงครับ วิ่งหน้าตั้งมาแบบนี้โดนอาเนมดุมาใช่ไหม” ผมลูบที่หัวเด็กน้อยตรงหน้า นิสัยขี้อ้อนคงจะเหมือนแม่ของเขา “อาเนมอารมณ์ไม่ค่อยดีฮะ น้องทิวก็แค่วิ่งชนพี่ผู้หญิงสองคนที่ห้าง” เด็กน้อยรีบเล่าเรื่องราว “อ้าว น้องทิวขอโทษพี่เขาไหมลูก” “ขอโทษฮะ แต่อาเนมทะเลาะกับพี่ผู้หญิงอีกคนที่สวย ๆ แล้วคราวนี้อาเนมก็บอกจะไม่พาน้องทิวไปอีก อาเนมบอกน้องทิวซน” “ก็ดื้อจริงไหมล่ะ อาบอกอะไรไม่เคยฟัง” เสียงที่สามดังแทรกฝ่าวงเข้ามา เป็นเสียงของบอดี้การ์ดคนสนิทของผม และเป็นเพื่อนรักของผมด้วย “มึงจะดุลูกกูทำไม เด็กมันก็ดื้อ มึงก็สอนไปแล้วยังไงทิวก็จำ มึงหงุดหงิดอะไร” ผมหันไปถามเพื่อนพลางอุ้มลูกชายขึ้นมา “กูไม่ได้หงุดหงิดน้องทิว กูหงุดหงิดผู้หญิงคนนั้น” ไอ้เพื่อนผมมันว่า “ผู้หญิงคนไหนทำให้มึงอารมณ์เสียได้ขนาดนี้วะ” ผมท้วงเมื่อสงสัยว่าใครมาทำให้เพื่อนที่นิ่งขรึมของผมมีปฏิกิริยาแบบนี้ได้ “ผู้หญิงโลกสวยไงมึง ช่างแม่งเถอะ แล้วงานเป็นไง” ไอ้เนมว่าตัดบท แต่ผมคิดว่ามันคงกำลังหัวเสียเอามาก ๆ “ก็ปกติ” “แล้วพรุ่งนี้ยังไง จะไปบ้านคุณท่านไหม” ไอ้เนมเอ่ยถามถึงป๊าผม พรุ่งนี้เป็นนัดทานข้าวครอบครัวตอนเย็น ซึ่งผมก็ไปอยู่บ่อยครั้ง ถ้าหากผมว่าง แต่ถ้าไม่ว่างผมก็จะโผล่หัวไปวันอื่น ตอนนี้ครอบครัวของผมกลายเป็นครอบครัวใหญ่กว่าเดิม ป๊าแต่งงานกับพี่ไลลา ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าพี่ไลลาเธอมีความสัมพันธ์กับป๊าจนตั้งท้องและแอบเลี้ยงลูกเอง พอป๊ารู้เข้าก็ขอเธอแต่งงาน ส่วนไอ้ฮอลล์กับเมียก็มีลูกคนที่สอง ส่วนไอ้ภพรายนั้นกลัวเมียและเห่อลูกเอามาก ๆ เกือบสองปีได้แล้วมั้งที่ป๊าเลิกธุรกิจสีดำ ซึ่งผมก็คิดว่าดีเหมือนกันที่เลิก ผมจะได้มีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น “น่าจะไม่ได้ไป เดี๋ยวกูโทรบอกป๊าเอง แล้วนี่มึงทำอะไรอยู่” ผมให้คำตอบและถามไถ่เพื่อน “ต่อเลโก้รถไฟกับลูกมึงไง” “นี่ซื้ออีกแล้วเหรอวะ แล้วไหนบ่นกูเวลากูซื้อ พอพาไปด้วยไหงซื้อให้เอง” “ตัวนี้รุ่นล่าสุด ผลิตออกมาจำนวนจำกัด ไม่ซื้อไม่ได้” ไอ้เนมสรรหาข้ออ้าง “ทีกูนี่บ่นตลอด” “ไม่บ่นสิครับป๊าเสือ น้องอยากได้เอง อาเนมสงสารก็เลยซื้อให้” ลูกชายของผมทำหน้าอ้อนเมื่อพูดจบ แล้วผมก็แพ้ทางเด็กคนนี้ตลอด เพียงเพราะเขาขาดคนที่ขึ้นชื่อว่า ‘แม่’ ผมชื่อ ‘ธัน ธนวัฒน์’ เป็นลูกบุญธรรมคนที่ 2 ของป๊าคงคา ป๊าชอบเรียกผมว่า ‘ไอ้เสือ’ เพราะว่าผมนั้นกะล่อน หยอดสาวเก่ง สาว ๆ ตกหลุมพรางที่ผมวางไว้บ่อยครั้ง ผมโสด ไม่ต้องการให้ใครมามีบทบาทในชีวิต เพราะคนอย่างผมไม่พร้อมจะดูแลใครทีละหลาย ๆ คน ผมชอบอิสระ และผมเคยทำผิดมหันต์กับป๊าผู้มีพระคุณ ความผิดของผมต่อให้ป๊าบอกให้อภัย แต่มันก็ยังติดอยู่ในใจของผม และเป็นตราบาปไปอีกนาน ส่วน ‘น้องทิว’ เขาคือลูกชายของผมเอง เรื่องนี้ผมปิดเงียบไม่ให้ใครรู้สักคน นอกจากไอ้เนมเพื่อนผม ป๊าและบรรดาพี่น้องของผมไม่มีใครรับรู้การมีชีวิตอยู่ของน้องทิว ลูกชายแท้ ๆ ของผม ลูกชายที่เกิดจากความผิดพลาด แต่ตอนนี้ผมพูดได้เต็มปากว่าผมรักน้องทิวมาก ๆ น้องทิวจะเรียกผมว่า ‘ป๊าเสือ’ เหมือนที่ป๊าคงคาชอบเรียกผมว่า ‘ไอ้เสือ’ น้องทิวคือลูกชายของผมที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเธอเป็นแค่คู่นอนของผมเท่านั้น ผมไม่ได้รักเธอ แต่เธอคงจะรักผมมั้ง เธอก็เลยปล่อยท้องด้วยการแอบเจาะถุงยาง เธอบอกผมว่าเธอท้อง ผมก็ตกใจและงุนงงบ้างเล็กน้อย แต่สุดท้ายผมก็ยืดอกรับผิดชอบ ผมไม่ใช่คนใจร้ายที่สามารถสั่งฆ่าเด็กบริสุทธิ์ แล้วยังเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของผมอีกต่างหาก ผมดูแลผู้หญิงคนนั้นในฐานะแม่ของลูก ผมดูแลเธออย่างดี กระทั่งเธอคลอดน้องทิว เธอยังไม่ทันได้กอดลูกด้วยซ้ำ เธอก็ดันจากไปซะก่อน เพราะเธอมีอาการตกเลือดมาก บวกกับโรคประจำตัวกำเริบ เธอก็เลยจากไปอย่างสงบ โดยที่ผมไม่เคยรู้เลยว่าเธอน่ะมีโรคประจำตัว ถามว่าผมเสียใจไหม จะเรียกว่าเสียใจคงจะไม่ได้ เพราะผมไม่ได้รู้สึกเศร้าใจเท่ากับตอนที่น้องชายฝาแฝดจากไป กับแม่น้องทิวคงเรียกว่าใจหายซะมากกว่า พองานศพแม่ของทิวผ่านพ้นไป ผมก็เฝ้าดูแลลูกชายที่เพิ่งลืมตาดูโลก และคนที่ช่วยผมได้ดีก็คือไอ้เนม ผมไม่คิดจ้างพยาบาลหรือพี่เลี้ยง เพราะผมไม่ชอบให้คนรู้เรื่องของผมมากเกินความจำเป็น และดีที่แม่ของน้องทิวไม่มีญาติที่ไหน ทำให้ปัญหาการแย่งเด็กไม่เกิดขึ้นกับผม ทุกวันนี้น้องทิวก็อายุ 5ขวบกว่า ผมสอนเขาให้เขารู้ว่าใครคือแม่ และบอกเขาว่าแม่ของเขาจากเขาไปแล้ว ซึ่งผมย้ำกับเขาด้วยว่าแม่รักเขามาก ชีวิตของผมทุกวันนี้ก็ถือว่าโอเคมาก มีลูกชายรออยู่บ้าน ทุกครั้งที่กลับมาเขาจะวิ่งมาต้อนรับผมเสมอ ต้องขอบคุณผู้หญิงที่ชื่อ ‘ศิญา’ ที่เธอได้มอบของขวัญชิ้นพิเศษให้ผม ถึงแม้ผมจะไม่ได้ตั้งใจให้น้องทิวเกิดมา แต่เมื่อเขาเกิดมาแล้ว เขาคือหัวใจของผม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD